ชางหลิงสีหน้าเปลี่ยนไป
“เธอพูดอีกทีสิ?” ชางหลิงรับไม่ได้กับคำพูดนี้ อะไรที่ว่าเสื้อผ้าหลุดลุ่ย เธออยากพูดอะไรกันแน่?
“ก็เหมือนกับที่เธอคิดนั่นแหละ” ชางฉิงยิ้ม “ทุกคนต่างก็โตๆกันแล้ว น่าจะรู้นะว่าเกิดอะไรขึ้น”
“บนตัวเธอมีบาดแผล เสื้อผ้ามีคราบเลือด พอกลับมาก็อาบน้ำในห้องห้องน้ำนานมาก ฉันได้ยินเสียงเธอร้องไห้หน้าประตู แต่ว่า พอพ่อรับเธอกลับมาบ้านแล้ว เธอก็ทำเหมือนไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นมาก่อน”
ชางหลิงรู้สึกเจ็บปวดจนพูดไม่ออก
“ตอนนี้พอมาคิดดูแล้ว และนับเวลาดู ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาก่อนที่ตระกูลชางจะรุ่งเรือง น้าชิงออกไปทำงานด้านนอกบ่อยๆ น่าจะได้คุยกับเพื่อนทางธุรกิจอยู่มาก……” ชางฉิงพูดต่อ
“เป็นไปไม่ได้” ชางฉิงพูดขึ้นเสียงเข้ม
แม่ของเธอ เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งหยิ่งผยอง ไม่มีทางขายร่างกายตัวเองแน่นอน
“ฉันไม่ได้บอกว่าเธอเต็มใจสักหน่อย” เห็นสีหน้าชางหลิงแล้ว ชางฉิงก็หัวเราะขึ้นมา “ท่าทางแม่ของเธอแบบนั้น เห็นได้ชัดว่าโดนขืนใจมากกว่า……”
ชางฉิงไม่ได้พูดต่อไป เธอหยุดลง
ชางหลิงตะลึง
เธอพยายามค้นหาความทรงจำในช่วงนั้น แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีสิ่งผิดปกติใดๆทั้งสิ้น
ต่อหน้าเธอแล้วแม่จะรักษาบุคลิกที่อ่อนโยนดีมากโดยตลอด ขนาดน้ำตายังไม่ไหลออกมาง่ายๆ จะให้เธอรู้เรื่องเมื่อก่อนที่เคยโดนทรมานแบบนี้ได้ยังไง?
เธอคิดมาโดยตลอดว่าแม่จากไปกะทันหัน ไม่มีท่าทีอะไร และหายออกไปจากชีวิตเธอทันที เธอยังคิดว่าเป็นเพราะชางหวนซูทรยศ แต่มาวันนี้ ถึงรู้ว่า เบื้องหลังอาจจะมีอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านี้
“ผ่านไปสิบสี่กว่าปีแล้ว เรื่องนี้ ทำไมเธอถึงพึ่งมาบอก?” ชางหลิงจ้องชางฉิง “ถ้าตอนนั้นเธอพูดออกมา ถ้าพวกเราเห็นอาการแปลกๆของของแม่ฉัน แม่ฉันอาจจะไม่ต้องตายก็ได้……”
ถ้าเหมือนการคาดเดาของชางฉิง งั้นตอนนั้นแม่คงอยู่ในความสิ้นหวังมากสินะ
เธอนำเอาความอัปยศไปพร้อมกับความตาย แล้วความเจ็บปวดแบบไหน ถึงทำให้เธอตัดสินใจฆ่าตัวตายกัน ยอมทิ้งลูกสาวแล้วไปตายเลยเหรอ?
“ถ้าแม่เธอไม่ตาย แม่ฉันจะเข้าตระกูลชางได้ยังไง?” ชางฉิงไม่ได้อ้อมค้อม
ชางหลิงสายตาเฉียบคม
“ชางหลิง เธอไม่ต้องโทษฉันหรอก ถ้าตอนนั้นพวกเราเปลี่ยนจุดยืนดู เธอเป็นลูกเลี้ยงของพ่อ เธอจะเลือกยังไง” ชางฉิงสบตาเธอกลับ
“น้าชิงเลี้ยงฉันมาสองปี พูดได้เลยว่า น้าดีกับฉันมาก ของที่เธอมี น้าก็จะให้ฉันด้วย แต่ว่า……ก็เหมือนเธอที่ไม่เคยคิดว่าแม่ฉันเป็นแม่ตัวเอง ฉันก็ไม่เคยคิดว่าแม่เธอเป็นแม่ฉัน น้าเกรงใจกับฉันมาโดยตลอด ก็เหมือนว่าเป็นเด็กเพื่อนบ้านที่มาเป็นแขก ฉันดูพวกเธอครอบครัวพ่อแม่ลูกนั่งทานข้าวกัน เธอได้รับการสั่งสอนที่ดีกว่าฉัน ตอนที่พวกเธอใช้ภาษาอังกฤษสนทนากันได้อย่างคล่องแคล่ว ขณะที่ฉันแค่พูดก็ยังมีสำเนียงบ้านนอกติดมาด้วย และพ่อ ทุกครั้งเขาจะพูดกับฉันว่า เธอดูสิพี่สาวเธอเก่งแค่ไหน……”
“ฉันไม่พอใจ……ชางหลิง ตั้งแต่นั้นมา ฉันก็ตัดสินใจแล้วว่า ทั้งชีวิตนี้ ฉันจะต้องชนะเธอให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม ฉันจะต้องดีกว่าเธอ แม้ฉันจะอายุน้อย แต่ก็รู้สึกได้แล้วว่า ในบ้านหลังนี้ มีน้าชิงเป็นคนควบคุม อย่าว่าแต่พ่อเลย ขนาดปู่ย่ายังต้องคอยพึ่งพาน้าชิง ดังนั้น เรื่องแรกที่ฉันจะทำ นั่นก็คือทำให้น้าชิงที่ให้ทุกอย่างเธอหายไป ให้แม่ของฉันเข้ามาแทนที่ กลายเป็นคนคุมบ้านนี้แทน”
“เหอะ” ชางหลิงส่ายหน้า น้ำตาคลอเล็กน้อย “ตอนที่เธอมาตระกูลชาง ก็พึ่งอายุห้าขวบ เล็กขนาดนั้น ความคิดเธอก็น่ากลัวขนาดนั้นแล้วเหรอ?”
“นั่นเป็นเพราะเธอเกิดมาก็มีแม่คอยเลี้ยงดูเหมือนไข่ในหิน! เพราะเธอแย่งครอบครัวและพ่อที่ควรจะเป็นของฉัน!” ชางฉิงเสียงดังขึ้น “น้าชิงอยากให้ตัวตนกับเธอ อยากให้เธอรับรู้ถึงความรักจากพ่อแม่ เธอก็รู้ ถ้ามีตัวตนเป็นลูกเลี้ยง จะถูกคนอื่นดูถูกได้ กลายเป็นลูกนอกคอก และฉัน ฉันเป็นเด็กที่โตมากับตัวตนของลูกเลี้ยง ฉันถูกคนประณามว่าเป็นลูกนอกคอกมานานถึงห้าปี!”
ชางหลิงพูดไม่ออก
“ในตอนที่เธอเป็นเจ้าหญิงอยู่ในปราสาท แม่ฉันพาฉันหลบซ่อนไปทั่วทุกที่ กลัวว่าจะถูกแม่เธอจับได้ ทั้งที่เธอเป็นภรรยาเอกของพ่อ กลับต้องมากลายเป็นชู้แทน! เธอควรจะถูกรับเป็นสะใภ้ของตระกูลชาง แต่แม่ของเธอ ยึดตำแหน่งนั้นไป! ชางหลิง เธอบอกฉันหน่อยสิ ถ้าเป็นเธอ เธอจะทำยังไง? ในตอนที่เธอเห็นแม่ร้องไห้ทุกวัน ถูกบังคับให้แยกออกจากแม่ เธอจะทำยังไง?”
ชางฉิงดวงตาแดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้า ไม่ไหลออกมา
“ใช่ ฉันผิดเอง ผิดที่คิดจะเป็นศัตรูกับเธอมาเป็นความฝัน เพื่อเปลี่ยนความน้อยเนื้อต่ำใจของตัวเอง ฉันคิดหาทุกวิธีการเหยียบเธอไว้ใต้เท้า ดังนั้นถึงได้ผิดไปเรื่อยๆ แต่แม่ของฉัน แม่ฉันทำอะไรผิด?” ชางฉิงถาม “เธอลองคิดถ้าเป็นตัวเอง ในยุคสมัยแบบนั้น สภาพแวดล้อมแบบนั้น ผู้หญิงที่ได้หมั้นแล้ว เตรียมงานแต่งอย่างดีใจและรอว่าที่สามีออกไปทำงานและมาแต่งงานกับตัวเอง แต่อยู่มาวันหนึ่ง บอกกับเธอกะทันหันว่า ผู้ชายของเธอจะแต่งงานกับคนอื่น มีลูกแล้วด้วย……ชางหลิง ภาพแบบนี้เธอคุ้นเคยไหม? นี่เป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับเธอ แต่ก็เคยเกิดขึ้นกับแม่ฉันเหมือนกัน! ฉันก็แค่เอาสิ่งที่แม่ฉันเคยประสบพบเจอมาทั้งหมดคืนให้เธอเท่านั้น เธอยังเกลียดฉันได้เลย ทำไมแม่ฉันไม่ได้ ทำไมฉันถึงไม่ได้ล่ะ?”
ชางหลิงน้ำตาไหลอาบแก้ม เธอมองดูชางฉิงที่ร้องโอดครวญหลังกระจกนั้นอย่างปวดใจ เธอพูดไม่ออกเลย
“ชางหลิง……นี่น่าจะเป็นผลแห่งกรรม” ชางฉิงหัวเราะขึ้นมา “ทุกอย่างเป็นผลแห่งกรรม ฮ่าๆ”
“หมดเวลาแล้ว” ผู้คุมเดินมาข้างๆชางฉิง
“ชางหลิง” ชางฉิงถูกจับตัวขึ้นมา แต่ยังคงถือโทรศัพท์ไว้ไม่ยอมปล่อย
“ฉันมีใจอยากทำร้ายเธอ แต่ก็เคยคิดที่จะหยุด” ชางฉิงตะโกนในนั้น “ในตอนที่เห็นเธอจัดเตรียมงานแต่งอย่างดีใจ ฉันเคยคิดจะปล่อยเธอไป แต่วันจบการศึกษาของเธอ มีคนส่งข้อความหาฉันแล้วนัดฉันไปที่โรงแรม ฉันรออยู่นานมาก สุดท้ายก็รอหยูเฉินที่ดื่มเหล้าจนเมา”
ชางหลิงลุกขึ้น
“หมดเวลาแล้ว หยุดการสนทนาไว้ด้วย” ผู้คุมพูดเร่ง
“ดังนั้นเธอเข้าใจไหม? ทุกอย่างเป็นชะตากรรม ตั้งแต่คืนนั้นมา ระหว่างพวกเรา ก็ไม่มีทางคืนดีกันได้ จะเป็นศัตรูต่อกันเสมอ เดินตามรอยที่แม่ของพวกเราเคยเดิน……”
“ว่าไงนะ?” ชางหลิงตบกระจกอย่างร้อนรน “ไม่ใช่เธอที่ตั้งใจหลอกล่อหยูเฉินเหรอ? ไม่ใช่เธอที่ชักจูงหยูเฉินงั้นเหรอ?”
ชางฉิงถูกแย่งโทรศัพท์ออกไป ข้างหูมีเสียงตุ๊ดๆดังขึ้น ชางหลิงวางโทรศัพท์ลง เธอตบกระจกนั้นอย่างหมดเรี่ยวแรง
ชางฉิงยังคงพูดไม่หยุด แต่เสียงของเธอกลับถูกปิดกั้นเอาไว้ ชางหลิงจึงไม่ได้ยิน
ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 120 ทุกอย่างเป็นผลแห่งกรรม
Posted by ? Views, Released on September 26, 2021
, ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก
เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง