ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 158 เธอโง่หรือเปล่า

“คุณเป็นอะไรไป?” บนทางเดิน พนักงานทำความสะอาดที่อายุมากแล้วล้มกองอยู่บนพื้น ซูเสี่ยวเฉิงวางกล่องในมือลง และรีบเข้าไปช่วย
พนักงานทำความสะอาดเป็นชาวอิตาลี เธอนั่งอยู่บนพื้น จับแผลบนเข่าเอาไว้ ปากก็พึมพำพูดภาษาที่ซูเสี่ยวเฉิงไม่เข้าใจ
ซูเสี่ยวเฉิงไม่เข้าใจ “คุณบาดเจ็บเหรอ? เดี๋ยวฉันช่วยนะคะ” ซูเสี่ยวเฉิงพยุงตัวเธอขึ้นมา
“Plese ……” พนักงานทำความสะอาดไม่เข้าใจที่ซูเสี่ยวเฉิงพูด ก็จึงเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษ “Can you help me to rest? (ช่วยพยุงฉันไปพักผ่อนได้ไหมคะ?)”
ซูเสี่ยวเฉิงยังคงไม่เข้าใจ
เอาเธอมาลำบากกันชัดๆเลย เธอเป็นเด็กเรียนไม่เก่งขนานแท้เลยนะ ขนาดภาษาอังกฤษระดับสี่ยังไม่ผ่านเลย คำพูดพวกนี้ เขียนในกระดาษเธอก็ไม่รู้จักหรอก พอพูดออกมาจากปากคน ศัพท์ในหัวสมองเธอก็มีไม่มากขนาดนั้นด้วย
“ขอโทษด้วยนะ ฉันเป็นคนจีน” ซูเสี่ยวเฉิงอธิบาย เธอทำท่าจะลุกขึ้น แต่ว่า พนักงานทำความสะอาดกลับคว้าแขนเสื้อเธอเอาไว้ พลังเยอะจนเหมือนกลัวว่าเธอจะลุกเดินหนีไป
“คุณอย่ากังวลเลย ฉันไม่ไปไหนหรอก ตอนนี้ฉันไปตามคนมาช่วยนะ” ซูเสี่ยวเฉิงชักเสื้อตัวเองกลับมา อยากจะเอาตัวเองออกมา
“Plese……” พนักงานทำความสะอาดยังคงพูดไม่หยุด จับแขนเธอเอาไว้ตลอดไม่ยอมปล่อย
ซูเสี่ยวเฉิงสบตากับเธอ สายตาของหญิงชราขุ่นมัว ใบหน้าเหมือนทรมานมากเพราะการบาดเจ็บ แต่ว่า สถานการณ์แบบนี้ พลังมือของเธอกลับไม่ลดลงเลย ซูเสี่ยวเฉิงที่ยังเป็นคนวัยเยาว์ก็ยังชักแขนเสื้อตัวเองกลับมาได้เลย
แปลกจัง……
“คุณอดทนก่อนค่ะ เดี๋ยวไปเรียกคนมาช่วยนะคะ” ซูเสี่ยวเฉิงใช้แรงอยู่มากกว่าจะชักแขนเสื้อออกมาได้ เธอถือกล่องและรีบวิ่งออกไป “คุณอยู่ตรงนั้นก่อนนะคะ อย่าขยับ เดี๋ยวฉันจะรีบกลับมา”
หญิงชราล้มลงพื้นอีกครั้ง ร้องโอ๊ยอย่างเจ็บปวด ท่าทางที่เจ็บปวดนั้นทำเอาซูเสี่ยวเฉิงใจอ่อน เธอหยุดเดิน
เห็นเธอหยุดเดิน หญิงชราก็พูดขึ้นอีกครั้ง มือก็ทำท่าทำทาง ซูเสี่ยวเฉิงฟังไม่ออกจริงๆ เลยต้องวางตัวหล่อนลงอีกครั้ง ตัวเองก็ออกไปก่อน
มีเจ้าหน้าที่มากมายในงานที่ฟังภาษาจีนออก ซูเสี่ยวเฉิงคว้าตัวคนหนึ่งเอาไว้ได้ พูดเรื่องราวกับเขาให้ชัดเจน พวกเขาก็รีบวิ่งมาที่ทางเดินทันที
“อยู่ตรงนี้เลย เธอบาดเจ็บหนักมาก” ซูเสี่ยวเฉิงวิ่งมา กลับมาที่เดิมอีกครั้ง
แต่ว่าเดินมาถึงทางเลี้ยว หญิงชราคนนั้นกับรถเข็นของหล่อนก็หายไปแล้ว บนทางเดินว่างเปล่า ไม่มีคนอยู่เลย
“อยู่ไหนเหรอ?” เจ้าหน้าที่ก็สงสัย
“หื้ม?” ซูเสี่ยวเฉิงอึ้ง “ทำไมไม่อยู่แล้วล่ะ? เมื่อกี้ยังอยู่ตรงนี้เลยนะ”
คุณน้าเมื่อกี้ล้มไม่ใช่เหรอ? ยังบาดเจ็บด้วย ไม่น่าจะไปเร็วขนาดนี้นะ หรือว่ามีคนมาช่วยไปก่อนแล้ว?
ซูเสี่ยวเฉิงสับสน จากนั้นก็มีเสียงประกาศดังขึ้นมา เจ้าหน้าที่เร่งนางแบบขึ้นเวทีกันแล้ว
“เฮ้ย!” ซูเสี่ยวเฉิงก้มลงมองกล่องที่ตัวเองถือเอาไว้ ก็ถึงนึกได้ว่าตัวเองมาเอาเสื้อการแข่งขัน จึงรีบวิ่งไปทันที
เธอวิ่งไปทางหลังเวทีอย่างเร็ว เจ้าหน้าที่ที่ถูกเธอเรียกมาก็ยืนอยู่ที่เดิม มองหน้ากัน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
และพอทุกคนหายไปจากบนเดินแล้ว ประตูหนีไฟก็เปิดออกช้าๆ หญิงชราเดินออกมาอย่างไม่เจ็บปวดใดๆ เธอหรี่ตาลงมองดูซูเสี่ยวเฉิงออกไปด้วยสายตาที่ซ่อนความคิดเลวร้าย
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก้มหน้าลงและถอยกลับเข้าไปใหม่
พวกนางแบบเริ่มเข้าไปรอแล้ว ชางหลิงลนลาน เธอตามหาเจ้าหน้าที่ที่แออัดไปทั่ว ไม่เห็นซูเสี่ยวเฉิงมาสักที
“หลีซิน หาเจอหรือยัง?” ชางหลิงโทรถามหลีซิน
“ยังเลย” หลีซินตอบเธอ
ชางหลิงข่มความตื่นเต้นในใจไว้ไม่อยู่จริงๆ ซูเสี่ยวเฉิงพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ยิ่งอยู่ต่างประเทศอีก ขนาดโทรศัพท์ก็ยังไม่เอาไป ถ้าหลงทางจริงๆ หรือว่าเกิดอุบัติเหตุอะไร เธอจะตามหาที่ไหนล่ะ?
ชางหลิงถามไม่หยุด ถามทุกคนที่ผ่านมา ทุกคนก็ต่างส่ายหน้า ไม่มีใครเห็นผู้ช่วยเธอเลยสักคน
“เสี่ยวหลิงหลิง!” เสียงของซูเสี่ยวเฉิงดังขึ้นจากฝูงชนที่แออัด เธอชูมือขึ้นมา โบกให้ชางหลิง “ฉันอยู่ตรงนี้”
เห็นซูเสี่ยวเฉิงกลับมาได้อย่างปลอดภัย ชางหลิงก็รู้สึกโล่งอก
ซูเสี่ยวเฉิงเดินเข้ามาอย่างเร็ว รีบเอากล่องยื่นให้ป๋ายจื๋อ “ขอโทษด้วยนะๆ ฉันมาช้าไป”
ชางหลิงรับของมา รีบกลับไปที่ห้อง ให้ป๋ายจื๋อเปลี่ยนชุด
พอชางหลิงพาป๋ายจื๋อมาถึงเขตรอ การแข่งขันก็เริ่มต้นขึ้นแล้ว
“ทำไมถึงเป็นเธออีกแล้ว?” ทางผู้จัดพูดอย่างไม่พอใจ “ครั้งก่อนเป็นอุบัติเหตุ ครั้งนี้หรือว่าทำงานของผลงานเธอแล้วเหรอ?”
“ขอโทษด้วยจริงๆ” ชางหลิงรีบขอโทษ
“การแข่งขันครั้งนี้ เธอคิดว่ากำลังเล่นอยู่หรือไง! ทุกคนรอเธออยู่คนเดียว” ทางผู้จัดพูดอย่างอารมณ์เสีย “ถ้าครั้งหน้าสายอีก เธอก็ไม่ต้องมาแข่งขันแล้ว”
“ค่ะ ครั้งหน้าฉันจะระวังนะคะ” ชางหลิงยังคงนอบน้อมเสมอ เพราะยังไงครั้งนี้พวกเธอผิดจริงๆ ถ้าทำให้เขาเดือดร้อน ตัดสิทธิ์เธอขึ้นมาจริงๆจะทำยังไง
“ด่าอะไรกัน?” ซูเสี่ยวเฉิงเห็นท่าทีที่ทางผู้จัดพูดกับชางหลิง กำลังจะตอบโต้ แต่กลับรู้สึกได้ถึงสายตาเตือนของชางหลิง
ชางหลิงไอกระแอมเบาๆ ส่งป๋ายจื๋อเข้าไปที่เขตรอ และพาซูเสี่วเฉิงเดินไปทางที่นั่งดีไซเนอร์
“ทำไมต้องด่ากันด้วย……” ซูเสี่ยวเฉิงอดไม่ได้ที่จะบ่น
“เมื่อกี้เธอไปไหนมาเหรอ?” ชางหลิงหยุดก้าวเดินต่อ
“อ้อ ฉัน……” ซูเสี่ยวเฉิงอึ้ง “เมื่อกี้ฉันเห็นมีคุณน้าล้มอยู่บนพื้น ก็อยากจะเข้าไปช่วยสักหน่อย……”
“แล้วคนล่ะ?” ชางหลิงถามเธอ “ส่งไปโรงพยาบาลหรือยัง?”
“ไม่นะ……ฉันฟังที่หล่อนพูดไม่ออก ตอนที่เรียกคนไปช่วย หล่อนก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว” ซูเสี่ยวเฉิงตอบเธอตรงๆ
“เธอโง่หรือเปล่า?” เมื่อกี้ความรู้สึกร้อนรนที่ตามหาซูเสี่ยวเฉิงไม่เจอก็เปลี่ยนเป็นความโกรธแทน “คนเดินผ่านไปมามากมาย แต่กลับล้มลงตรงหน้าเธอ พื้นที่ที่คนเดินไปมา มีแต่เธอที่พยุงเธอขึ้นมาได้เหรอ? ถ้าเธอฟังที่หล่อนพูดออก หล่อนบอกว่าให้เธอส่งกลับบ้าน เธอก็จะไปส่งเหรอ?”
“ฉัน……ฉันจะเห็นคนตายต่อหน้าเลยก็ไม่ได้นี่” ซูเสี่ยวเฉิงพูดเสียงเบา
“คนตายต่อหน้า? แล้วคนล่ะ?” ชางหลิงถามเธอ
“เธอก็รู้ว่าเจสันไม่ยอมปล่อยเราไปง่ายๆ เธอเป็นผู้ช่วยฉัน ก็อยู่ในแผนการของเขาเหมือนกัน เธอทำอะไรก็คิดให้ละเอียดกว่านี้ไม่ได้เลยหรือไง? วันนี้มาสายไม่เป็นไร ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอจะให้ฉันทำยังไง?”
ซูเสี่ยวเฉิงก้มหน้าลง น้ำตาเอ้อล้นขอบตา
หลายปีมานี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นชางหลิงไม่เคยด่าเธอเลย แต่มาวันนี้……

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

Options

not work with dark mode
Reset