ห้องโถงใหญ่ของโรงแรมยังคงเหลืองอร่ามแวววาวเฉกเช่นเคย ผู้คนยังคงผ่านไปผ่านมา แต่ฝีเท้าของโหมวยู่กลับหนักหน่วงเป็นพิเศษ
ฉู่ฉือเดินตามอยู่ข้างๆ เขา และสัมผัสได้ถึงความกดอากาศต่ำของโหมวยู่ แต่เขาก็ไม่ได้ปริปากพูดอะไรสักคำ
โหมวยู่ยืนอยู่ที่ประตูห้อง และกำลังจะเปิดประตู แต่กลับพบว่าประตูถูกปิดไว้ไม่สนิท เขาจึงขมวดคิ้วขึ้น การแสดงออกบนใบหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ชางหลิงเหรอ?
“คุณชายรองครับ” ฉู่ฉือก็รู้สึกแปลกๆ หรือว่าจะเหมือนกับครั้งที่แล้วที่ชางหลิงได้ยินบทเรียนการสนทนาระหว่างเขากับโหมวยู่ในห้อง เขาก็รู้สึกอ่อนไหวขึ้นมาทันที
“ไม่เป็นไร นายลงไปก่อนก็ได้” โหมวยู่ปรับคอเสื้อให้ตรง
เขาหาเหตุผลนับไม่ถ้วนให้ชางหลิงอยู่ในใจ สิ่งที่เธอพูดในที่เกิดเหตุของการขอแต่งงานเมื่อกี้นี้ เขาจะไม่จริงจังกับมันก็ได้ ไม่ว่าเธอจะทำไปเพื่อเหตุผลอะไรก็ตาม เพียงแค่เธอเต็มใจมาก้มหัวให้เขา เขาก็จะให้อภัยเธอได้
“ครับ” ฉู่ฉือเหลือบมองที่ประตูอย่างกังวลไปแวบหนึ่ง แต่ด้วยคำสั่งของโหมวยู่แล้ว เขาก็ยังหันหลังและจากไปอย่างเชื่อฟัง
โหมวยู่ผลักเปิดประตูเบาๆ รองเท้าหนังของเขาตกลงบนพรมปูพื้นอย่างเงียบสงัด ในห้องก็ไม่ได้เปิดไฟไว้ แต่กลับมีแสงเทียนริบหรี่ มีของประดับตกแต่งที่โรแมนติกแขวนอยู่บนผนัง บนโต๊ะกาแฟ โดยบนเค้กวันเกิดที่งดงามและละเอียดอ่อนนั้นปักเทียนไข เลข “28” ไว้
ตาของโหมวยู่ก็อ่อนโยนขึ้นมาทันที
เขาคลายเนกไท พร้อมกับเดินไปตรงหน้าเค้กนั้น แล้วยกมุมปากขึ้น
เงาร่างที่สง่างามของหญิงสาว ค่อยๆ เดินออกมาจากห้อง และหยุดอยู่ข้างหลังโหมวยู่ ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนอย่างมาก “ฉันไม่เห็นคุณยิ้มให้ฉันแบบนี้มานานแล้วนะ”
ตัว โหมวยู่หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง
เขาหันหน้ากลับมา และสบตาเข้ากับสายตาที่รอคอยของโม่โม่
เธอสวมชุดราตรีที่งดงามและเซ็กซี่ ด้วยการแต่งหน้าที่งดงามและละเอียดอ่อนนั้น ทำให้เธอสวยงามมากจนหาที่เปรียบไม่ได้ แต่โหมวยู่กลับไม่เคยสนใจรูปร่างที่สวยงามของเธอเลย
“ทำไมถึงเป็นคุณ?” โหมวยู่ประหลาดใจ
หลังใจประหลาดใจ ในใจกลับมีจิตหดหู่ที่ไม่อาจควบคุมได้เกิดขึ้นมา
“ไม่ใช่ฉัน แล้วคุณคิดว่าเป็นใครล่ะ?” โม่โม่ส่งเสียงยิ้ม แล้วขยับเข้าไปใกล้เขา “ชางหลิงเหรอคะ?”
โหมวยู่ถูกเธอพูดจี้ใจ เขาก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
โม่โม่รู้สึกขำ “เรื่องเมื่อกี้ฉันก็พอรู้มาบ้าง ว่ากันว่า คุณได้เตรียมการขอแต่งงานอย่างตั้งใจเป็นพิเศษ แต่ชางหลิงกลับปฏิเสธคุณต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนั้น ไม่เพียงแต่ทำให้คุณตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอับอาย ยังตามโหมวฉี่ไปอีกด้วย?”
คำพูดของโม่โม่ ทำให้โหมวยู่ย้อนนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้นอีกครั้ง เขาแอบกำหมัดแน่น แต่กลับไม่ได้พูดอะไรมาก จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟา
“โหมวยู่ ฉันบอกคุณไปนานแล้วนะ ชางหลิงผู้หญิงคนนั้นไม่รู้ว่าอะไรดีไม่ดีหรอก มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะให้ความสำคัญกับความจริงใจของคุณ ยิ่งคุณทำดีต่อเธอมากเท่าไหร่ เธอจะยิ่งละทิ้งความหลงอย่างโงหัวไม่ขึ้นของคุณมากขึ้นเท่านั้น “โอ๋ๆ คุณไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ จากนั้นเธอก็ตามไปนั่งบนโซฟาอีกข้างหนึ่ง
“เรื่องขอผมคุณไม่ต้องมายุ่งหรอก” โหมวยู่หันหน้ากลับมา แล้วมองไปที่ทิวทัศน์กลางคืนนอกหน้าต่าง
นิ้วที่เรียวยาวของโม่โม่ค่อยๆ ผลักเค้กบนโต๊ะกาแฟไปตรงหน้าโหมวยู่ และรูม่านตาของเขาสะท้อนเงาของเปลวไฟที่โยกไปมา
“ถ้าเป็นไปได้ ใครจะไปยุ่งเรื่องคุณกับชางหลิงล่ะ?” โม่โม่ส่งเสียงฝืนยิ้ม และมองไปรอบๆ ห้อง และสุดท้าย ก็มองมาที่โหมวยู่ “ตอนที่คุณเตรียมเซอร์ไพรส์ให้ชางหลิงอย่างมีความสุขนั้น คุณรู้บ้างไหมว่า ฉันต้องเตรียมเซอร์ไพรส์ให้คุณด้วยความรู้สึกแบบไหน?”
“วันนี้เป็นวันเกิดของคุณ ซึ่งปีที่แล้วๆ มาคุณก็อยู่กับพี่น้องของคุณตลอด และความสนุกทั้งหมด มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันเลย ฉันมองดูจากด้านข้าง แต่ก็ยังดูเหมือนคนนอก และในที่สุดฉันก็มีโอกาสได้อยู่กับคุณตามลำพังที่ต่างประเทศอย่างไม่ง่ายเลย ฉันอยากฉลองวันเกิดดีๆ ให้คุณสักครั้ง”
โหมวยู่ยังคงนิ่งเงียบ และตระหนี่ขี้เหนียวที่จะพูดกับเธอสักสองสามคำ
เมื่อเห็นท่าทีแบบนี้ของเขา โม่โม่ก็ อดถอนหายใจยาวๆ ไม่ได้ เธอหยิบแก้วไวน์ที่เตรียมไว้แล้วบนโต๊ะกาแฟ แล้วเทไวน์แดงลงไป นอกนั้นก็ส่งเสียงที่ไพเราะและน่าฟัง
“ไม่ว่าจะยังไง ก็ควรดื่มไวน์สักแก้วนะคะ” โม่โม่ถามเขาอย่างหยั่งเชิง
ในที่สุดโหมวยู่ก็มีปฏิกิริยาตอบกลับเล็กน้อย เขาหันหน้ามา แล้วจ้องมองเธอด้วยการเยาะเย้ย “คุณคิดว่าผมดูเหมือนคนที่อยากดื่มไวน์กับคุณมากงั้นเหรอ?”
เรื่องของชางหลิงทำให้เขาเดือดพล่านด้วยความโกรธ โม่โม่นี่ช่างเลือกเวลาจริงๆ เลย
“ฉันจะต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมรับฉันสักที?” โม่โม่ถามเขา “ฉันจะไม่ขอให้คุณต้องมาชอบหรือมารักฉันหรอกค่ะ แต่มันยากมากเหรอคะที่จะทำสีหน้าดีๆ ให้กัน?”
เธอถูกเลี้ยงดูอย่างกับเจ้าหญิงมาตั้งแต่เด็ก แต่ดันกระดิกหางประจบต่อหน้าโหมวยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงแค่เพื่อจะให้เขาหันกลับมามองเธอสักครั้งแค่นั้น
โหมวยู่มองดูนาฬิกาข้อมืออย่างใจร้อน และตอนนี้ก็5 ทุ่มแล้ว หรือว่าคืนนี้ชางหลิงจะไม่มาแล้วจริงๆ เหรอ?
“คุณคิดว่าเธอยังจะมาอีกเหรอ?” โม่โม่มองดูปฏิกิริยาของเขา และคาดเดาถึงสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ในใจ “แค่เกรงว่า ในเวลานี้ เธอกำลังคุยกับโหมวฉี่พี่ใหญ่ของคุณอย่างเข้าด้ายเข้าเข็มกัน และเธอคงไม่ได้ให้ความสำคัญคุณเลยสักนิด”
โหมวยู่ไม่อยากนึกถึงเรื่องนี้อีก เขาจึงคอยระงับความโกรธอยู่ในใจ
เขาหยิบแก้วไวน์บนโต๊ะกาแฟขึ้นมา แล้วกลืนมันทั้งหมดลงในคอเพียงอึดเดียว
โม่โม่มองการกระทำของเขาด้วยความประหลาดใจ และร่างกายของเขาก็สั่นเล็กน้อย
“โหมวยู่…” โม่โม่ค่อยๆ ลุกขึ้น เธอหยุดอยู่ท่วมกลางแสงไฟ และกระโปรงสีแดงก็ห่อหุ้มร่างกายของเธอไว้อย่างงดงามแปลกตา
โหมวยู่เหลือบมองเธอเบาๆ “ตอนนี้ไวน์ก็ดื่มแล้ว คุณจะไปไหนได้อีกล่ะ?”
การแสดงออกของโม่โม่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ หลังจากฟังคำพูดของโหมวยู่แล้ว เธอก็ยังไม่จากไปไหน แต่กลับขยับเข้าไปใกล้เขา
เสื้อผ้าทรงโลว์คัทเผยให้เห็นทัศนียภาพในฤดูใบไม้ผลิของบางแห่งออกมา และเสน่ห์ของหญิงสาวก็เข้มข้นขึ้นตามการกระทำ โม่โม่ยื่นมือออกไป ปลดสายรัดบนหัวไหล่ออกเบาๆ
โหมวยู่ขมวดคิ้ว
“ฉันรู้ว่า ที่คุณบอกว่าคุณไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงได้นั้นมันเป็นเพราะคุณต้องการหลบเลี่ยงข้ออ้างของพ่อคุณเท่านั้น แม้แต่ร่างกายของชางหลิงผู้หญิงคนนั้นคุณยังสามารถรับได้ แล้วทำไมถึงปฏิเสธฉันได้ล่ะ” โม่โม่พูด พร้อมกับคลายเชือกบนไหล่ เสื้อผ้าบนร่างกายก็หลุดลงมาทันที
โหมวยู่รีบหลับตาลงอย่างรวดเร็ว “เธอกำลังจะทำอะไร?”
“แค่ครั้งเดียว สัมผัสฉันแค่ครั้งเดียว ได้ไหมคะ?” ร่างกายของโม่โม่แนบเข้ามา
ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 182 สัมผัสฉันแค่ครั้งเดียว
Posted by ? Views, Released on September 26, 2021
, ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก
เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง