“คุณชายรอง” ฉู่ฉือเฝ้าอยู่หน้าประตูตลอด พอเห็นโหมวยู่ออกมาก็รีบเดินเข้าไปหา
“พวกเขาล่ะ?” ใบหน้าของโหมวยู่กลับมาเย็นชาเหมือนเดิม
“จับตัวไว้แล้ว คุณโม่บาดเจ็บจากการถูกยิง ยังอยู่ในอาการสลบ” ฉู่ฉือตอบ
“บาดเจ็บจากการปืนงั้นเหรอ?” โหมวยู่หรี่ตาลง เหมือนคิดอะไรขึ้นมาได้ เมื่อกี้ถ้าไม่ใช่เสียงปืนนั่น เขาคงยังหาตัวชางหลิงไม่เจอ
ปืนคงไม่ใช่ของชางหลิงแน่นอน งั้นก็คงมีแต่……สายตาของโหมวยู่มองไปอีกห้องหนึ่ง
“คุณชายว่าจะจัดการยังไงดีครับ?” ฉู่ฉือถาม
“รอชางหลิงดีขึ้นก่อน พากลับประเทศ” โหมวยู่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย พูดจบ เขาก็พูดเสริมอีกว่า “ขอแค่มีชีวิตอยู่ก็พอ”
ฉู่ฉือมองตาโต สองคนนั้นยังไงก็เป็นคนดัง คนหนึ่งเป็นคุณหนูตระกูลโม่ อีกคนก็เป็นดีไซเนอร์มีชื่อเสียง ทำแบบนี้……
“ครับ” ฉู่ฉือก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ขอแค่โหมวยู่อยากทำ เขาก็ต้องทำตามคำสั่ง
ฟ้าสว่างแล้ว
ป๋ายจื๋อก็ตื่นแล้ว พยาบาลมาเปลี่ยนยาให้เขาเสร็จก็ออกจากห้องผู้ป่วยไป พอปิดประตูลงสักพักประตูก็เปิดอีกครั้ง
ในมือของโหมวยู่ถือกระเป๋าสีดำและเดินเข้ามา
“ของของนาย” เขาเอากระเป๋าวางไว้บนเตียงของป๋ายจื๋อ
ป๋ายจื๋อมองกระเป๋าด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์ และไม่มีคำพูดใดๆเอ่ยออกมา
โหมวยู่มองดูสีหน้าเขาอย่างละเอียด ไม่ได้คิดจะไป เขานั่งลงบนเก้าอี้
“ขอบใจ นายเป็นคนช่วยชีวิตภรรยาฉันเอาไว้” โหมวยู่พูดด้วยแววตาที่ร้อนผ่าว
ป๋ายจื๋อหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง ทำเหมือนโหมวยู่ไม่อยู่ในห้อง
โหมวยู่ที่ถูกเมินก็รู้สึกไม่พอใจ แต่ยังไงป๋ายจื๋อก็เป็นคนช่วยชางหลิงเอาไว้ เขาจึงจำใจต้องอดทน
“ฉันเห็นโลเคชั่นในห้องของนาย ถึงเจอนายกับชางหลิงได้” ต่อมาเขาตรวจสอบอย่างละเอียด ที่ส่งสัญญาณมาก็คือโน้ตบุ๊กในกระเป๋าของเขา
ดังนั้น ที่พวกเขาเจอคือตำแหน่งของป๋ายจื๋อ
“ผมรู้” ในที่สุดป๋ายจื๋อก็พูดขึ้น “ไม่งั้น พวกเราตายแล้วคุณคงยังตามหาไม่เจอหรอก”
โหมวยู่กระอัก สีหน้าดูแย่ลง
ถูกผู้ชายคนอื่นช่วยชางหลิงไปก่อนเขาก็ไม่พอใจอยู่แล้ว ซ้ำยังถูกเขาดูถูกอีก?
“แต่ผมก็รู้ว่า คุณจะต้องมาแน่นอน” ดังนั้น เขาถึงอยากจะปกป้องชีวิตของชางหลิงเอาไว้ อยากให้เธอมีเวลารอเขามาถึงมากขึ้น
“ทำไมนายต้องทำแบบนี้?” โหมวยู่ถามเขา แววตาของเขาเยือกเย็น
“ฉันไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเธอหรอก” ป๋ายจื๋อหันหน้าไป สบตาโหมวยู่ตรงๆ
ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย? เชื่อก็บ้าแล้วล่ะ! ผู้ชายคนหนึ่งยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องผู้หญิง หรืออยากเป็นพี่น้องกับเธอหรือไงกัน?
“นายให้คำอธิบายที่ดีมากับฉันสิ” โหมวยู่แสยะยิ้มเย็นชา
ป๋ายจื๋อหลบสายตาลง ไม่พูดตอบ
“ฉันสืบข้อมูลของนายมาแล้ว ข้อมูลทุกอย่างของนายเป็นของปลอม” โหมวยู่หยิบไฟแช็กออกมาจากกระเป๋า เอาออกมาเล่นในมือ “โรงเรียนที่เขียนไว้นั้น ไม่เคยมีคนชื่อป๋ายจื๋ออยู่เลย”
ฉินซางเป็นแบบนี้ตลอด จ้างคนมาก็ดูแค่ผิวเผิน ลูกน้องก็ยิ่งเป็นคนสะเพร่า ป๋ายจื๋อแอบเข้าบริษัทของเขา แต่เขากลับไม่รู้อะไรเลย
“นายเป็นใคร?” โหมวยู่ถามเขา “นายตั้งใจเข้าใกล้ชางหลิงเพื่ออะไร?”
เขาแอบอยู่ในบริษัทของฉินซางอยู่หลายเดือน ไม่มีท่าทีปฏิกิริยาอะไรเลย และทั้งที่เขาเลือกอาชีพที่เขาถนัดได้ แต่กลับเลือกมาเป็นนายแบบแทน
สรุปการกระทำของเขาแล้ว งั้นก็มีแค่เหตุผลเดียว——ชางหลิงเป็นดีไซเนอร์
อาชีพออกแบบในเมืองหนานมีเยอะมาก การเป็นนักเดินแบบ ขอแค่ใช้ฝีมือเล็กน้อย ก็สามารถเข้าใกล้ชางหลิงได้อย่างแนบเนียน
สองมือป๋ายจื๋อประสานกัน แม้จะดูปกติ แต่ว่า โหมวยู่สังเกตได้ถึงนิ้วมือของเขาที่กระตุกเล็กน้อย
ป๋ายจื๋อกำลังระแวงเขา
“มีคนให้ผมมาปกป้องเธอ” ป๋ายจื๋อพูดเสียงเบา
โหมวยู่หรี่ตาลง
“ใคร?”
ป๋ายจื๋อเงียบอีกครั้ง จากนั้นก็พูดขึ้นช้าๆ “ที่ผมบอกได้ก็มีเท่านี้ ผมไม่มีทางทำร้ายชางหลิง และไม่มีความคิดที่เกินเลยด้วย การอยู่ของผมก็เพื่อรับประกันความปลอดภัยของชางหลิง”
โหมวยู่หึ! ในลำคออย่างเย็นชา
“ผู้หญิงของฉัน ไม่ต้องการให้คนอื่นมาปกป้อง”
“คุณแน่ใจเหรอ?” ป๋ายจื๋อเลิกคิ้วขึ้น
โหมวยู่กำไฟแช็กในมือไว้แน่น สบตาป๋ายจื๋อนิ่งๆ สายตาพวกเขาเหมือนไฟฟ้าฟาดที่ประสานกัน คนหนึ่งเหมือนระเบิด อีกคนก็เยือกเย็น ทำเอาบรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายของระเบิด
“ผมเคยบอกแล้ว ผมรับผิดชอบแค่ปกป้องชางหลิง” สุดท้าย ป๋ายจื๋อก็พูดขึ้นก่อน “ส่วนเรื่องอื่น ต่อไปคุณจะรู้เอง”
โหมวยู่กระตุกมุมปากขึ้น ด้วยสีหน้าที่เย็นชา
ที่จริงเขาก็ไม่คิดว่าจะถามอะไรจากปากป๋ายจื๋อได้
ไหวพริบของทหารที่ออกจากกองทัพมาแล้ว เขาสังเกตได้ว่าบนตัวป๋ายจื๋อมีความพิเศษอยู่ เห็นได้ชัดว่าเขาเคยได้รับการฝึกที่เข้มงวดมาแล้ว คนแบบนี้ ไม่มีทางพูดออกมาง่ายๆแน่
และบอกได้เลยว่า ฝีมือของเขามีประโยชน์อย่างมาก ถ้าข้างตัวชางหลิงมีคนแบบนี้อยู่ด้วย คงจะทำให้เขากังวลใจน้อยลงได้
เสียงดังขึ้น “แต๊ก” ฝาไฟแช็กถูกปิดลง โหมวยู่ยืนขึ้นเดินไปทางประตู
“คุณโหมว” ป๋ายจื๋อเรียกเขาเอาไว้
โหมวยู่ชะงักฝีเท้าลง
“ตัวตนของผม ขอปิดเป็นความลับ ไม่งั้น……”
โหมวยู่หันหน้าไปมองด้วยแววตาแหลมคม
“ผมจะต้องตาย”
แน่นอน ถ้าเขาตาย ชางหลิงก็คงต้องตายด้วย
โหมวยู่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร สายตาเขาเยือกเย็น มองดูป๋ายจื๋ออยู่นานมาก แต่สุดท้ายกลับไม่ได้พูดอะไรและปิดประตูเดินออกไป
ภายในห้องเงียบลงอีกครั้ง ป๋ายจื๋อลดสายตาลง เขาหันไปมองนอกหน้าต่างอีกครั้ง เงียบอยู่ตลอด ใบหน้าไร้อารมณ์ใดๆ ก็เหมือนกับว่าเรื่องเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 228 มีคนให้ฉันปกป้องเธอ
Posted by ? Views, Released on September 26, 2021
, ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก
เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง