คืนวันส่งท้ายปีเก่าผ่านไปอย่างราบรื่น แต่ว่าไม่รู้ว่าทำไม ชางหลิงยังรู้สึกซาบซึ่ง
ตอนนั้นในปีก่อน คนที่อยู่กับเธอยังเป็นหยูเฉิน คำอวยพรปีใหม่ตอนนั้นของเธอ คือการได้เป็นภรรยาของหยูเฉินเร็วๆ ออกจากตระกูลชางเร็วๆ
แต่ตอนนี้ กลับเปลี่ยนไปทั้งหมดแล้ว
ต่างฝ่ายต่างมีเรื่องในบ้าน หลังจากทานอาหารส่งท้ายปีเก่าแล้ว ต้วนเหิงก็พาภรรยาและลูกกลับไปก่อนแล้ว บ้านของฉินซางก็มาเร่งให้เขากลับบ้านไปรวมตัวครอบครัว บอกลาโหมวยู่อย่างรวดเร็ว
พื้นที่ที่เคยคึกคักก็เงียบสงบขึ้นมา จี้เหยากวงนั่งอยู่บนโซฟา สองมือประสานกันอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ตาก็จ้องมองโทรทัศน์ ท่าทางเหมือนจะไม่อยากกลับ
“เหยากวง” ชางหลิงเดินเข้าไปในห้อง “ดึกมากแล้ว ฉันพยุงเธอไปพักผ่อนไหม”
จี้เหยากวงได้ยินเสียงชางหลิงก็เงยหน้าขึ้นมา น้ำตาเอ่อล้นเต็มขอบตาจนเป็นประกาย
“พี่รองต้วนกับพี่ฉินซางกลับไปหมดแล้วเหรอคะ?”
“อืม” ชางหลิงพยักหน้า
“อิจฉาพวกเขาจังเลย ยังมีบ้านให้กลับไปได้……” จี้เหยากวงรู้สึกเสียใจ “พี่ชายฉันไม่อยู่แล้ว บ้านของฉันก็ไม่มีแล้ว”
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง?” ชางหลิงปลอบใจหล่อน “ตอนนี้ในเมื่อพวกเราหาเธอเจอแล้ว ก็เป็นญาติของเธอแล้ว”
“งั้นฉันยังต้องอยู่ที่นี่อีกนานเท่าไหร่คะ?” จี้เหยากวงถามหล่อน “ร่างกายของฉันดีขึ้นมากแล้ว ฉันไม่ชอบความรู้สึกที่ต้องพักโรงแรม ไม่มีความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านเลย”
“พี่ชางหลิง พี่ยืมเงินให้ฉันหน่อยได้ไหม ฉันอยากออกไปเช่าบ้านอยู่ ฉันสัญญาค่ะ รอฉันหางานได้แล้วจะรีบหาเงินได้แล้ว ฉันจะเอามาคืนพี่แน่นอนค่ะ”
ชางหลิงขมวดคิ้ว
แววตาของจี้เหยากวงดูจริงจังและจริงใจ เธอตอบปฏิเสธยากเสียด้วยสิ
แต่ว่า…………
“เธอกลับหนานวานกับพวกเขาสิ” โหมวยู่เดินเข้ามาจากด้านนอก คำพูดเมื่อกี้เขาได้ยินทั้งหมด ก็เลยพูดออกไปทันที
ชางหลิงตะลึง
“กลับหนานวาน? ไปอยู่กับพวกเราเหรอ?”
โหมวยู่มีสีหน้าเรียบเฉย “ร่างกายเหยากวงยังไม่หายดี ต้องพักผ่อนก่อนสักพักใหญ่”
“งั้นพวกเรา……” เช่าบ้านไว้ให้เธอด้านนอกก็ได้นี่ หาคนดูแลพิเศษ แบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอ?
“งั้นก็ตกลงแบบนี้แล้วกัน” โหมวยู่พูดโดยไม่ให้โอกาสชางหลิงได้ปฏิเสธ
ชางหลิงเงียบ
เธอไม่ได้ใจแคบอะไร ที่ขนาดไม่อยากให้จี้เหยากวงเข้ามาอยู่ในบ้าน ตามหลักแล้ว ตระกูลจี้มีบุญคุณต่อโหมวยู่ ถึงจะให้คฤหาสน์สักหลังหนึ่งเธอก็จะไม่พูดอะไรเลย
แต่ว่า ให้หญิงสาววัยรุ่นเข้ามาอยู่ในบ้านพวกเขาแบบนี้เลย เธอรู้สึกเหมือนตัวเองถูกบุกรุกพื้นที่ยังไงอย่างนั้น
“ได้เหรอคะ?” จี้เหยากวงดูจะดีใจมาก แววตาของเธอเปร่งประกาย แต่สักพักใหญ่ ก็หันไปมองชางหลิงอีกครั้ง เหมือนกำลังร้องขอความเห็นจากเธอ “พี่ชางหลิง ถ้าพี่ไม่ว่าอะไรละก็……”
“นั่นเป็นบ้านของโหมวยู่” ชางหลิงตอบ “เขาตัดสินใจก็พอแล้ว”
“ขอบคุณค่ะพี่ชางหลิง” จี้เหยากวงดีใจเหมือนกับเด็กน้อย
ชางหลิงมองโหมวยู่หนึ่งที เห็นได้ชัดว่า เขาก็รับรู้ได้ถึงความไม่พอใจของชางหลิง เขาก็สบตาเธอกลับเหมือนกัน
“ฉันง่วงแล้ว ไปพักผ่อนก่อนนะ” ชางหลิงพูดแล้วก็ถือกระเป๋าตัวเองเดินออกไป
ช่วงนี้ความคิดทุกคนต่างไปตกอยู่ในเรื่องของจี้เหยากวง ทำเอาเธอนอนไม่หลับไปด้วย
โหมวยู่เดินตามเธอออกไป เห็นเธอก้มหน้าเดินไปเรื่อยๆ ตอนที่จะเข้าลิฟต์ เขาเร่งฝีเท้า คว้าตัวเธอเอาไว้อย่างเร็ว
“เดี๋ยวก่อน” โหมวยู่ตะโกน
“เธอโกรธเหรอ?”
ชางหลิงหยุดเดิน เธอกัดริมฝีปากบาง หันหน้าไป “แม้นั่นจะเป็นบ้านของนาย แต่ยังไงก็เป็นพื้นที่ที่พวกเราอยู่ด้วยกัน ก่อนที่นายจะตัดสินใจอะไร ควรจะคุยกับฉันก่อนไหม?”
“ฉันคิดว่าเธอจะไม่ปฏิเสธเสียอีก” โหมวยู่ตอบ
ชางหลิงพูดไม่ออก เธอยังรู้สึกตลกกับคำพูดนี้ “ในสายตานาย ฉันเป็นคนใจกว้างขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“หลิงเอ๋อ” โหมวยู่เห็นเธอแข็งข้อกับเขา ก็รีบอธิบายว่า “สถานการณ์ของหล่อนไม่ง่ายเหมือนที่พวกเราเห็นหรอกนะ”
สีหน้าของโหมวยู่ดูมีความกังวล “หล่อนติดยาเสพติด หมอบอกให้ฉันหาสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด ทำการรักษาตรงจุดถึงจะทำให้หล่อนหลุดพ้นออกมาได้ช้าๆ”
“หล่อนจะอยู่ข้างนอกไม่ได้ ฉันจะต้องทำให้หล่อนเลิกของแบบนั้นให้ได้ภายใต้การดูแลของฉัน นี่เป็นความรับผิดชอบของฉัน”
ชางหลิงพูดไม่ออกทันที
“เธอก็รู้ว่าหล่อนผ่านอะไรมาบ้าง สถานการณ์แบบนี้ ฉันไม่สามารถส่งหล่อนไปสถานบำบัดได้ พี่ชายของหล่อนตายแล้ว ถ้าพวกเรายังไม่พาหล่อนกลับมายังเส้นทางที่ถูกต้อง ทั้งชีวิตนี้ของหล่อนคงได้พังทลายแน่”
ที่จริงเขาคิดแบบนี้ไว้นานแล้ว และอยากจะคุยกับชางหลิงมาตลอด แต่เขายังหาโอกาสคุยกันดีๆไม่ได้ จี้เหยากวงก็พูดขึ้นมาก่อนแล้ว
“นายพูดขนาดนี้แล้ว ฉันไม่ตกลงอีก คงเป็นฉันเองที่งี่เง่าสินะ?” ชางหลิงรู้สึกไม่สบายใจ
“โหมวยู่ ฉันจะบอกกับนายอย่างจริงจังนะ ฉันไม่ได้เป็นคนไม่มีเหตุผลขนาดนั้น และคงเปิดใจรับเรื่องนี้ได้ยาก ขอแค่เกี่ยวกับนาย ฉันก็จะใจแคบทันที ฉันไม่สนหรอกนะว่าคนอื่นจะพูดถึงฉันยังไง ฉันไม่สนใจทั้งนั้น”
การเป็นภรรยา ฉันเข้าใจความรู้สึกนายดี และพร้อมที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้ไปด้วยกัน แต่ว่า……ชางหลิงชะงัก “การเป็นคนรักของนาย ฉันไม่ชอบการตัดสินใจนี้ของนาย ไม่ว่านายจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม นายให้ผู้หญิงคนอื่นเข้ามาอยู่ในชีวิตของพวกเรากะทันหัน ฉันรับไม่ได้ ดังนั้น ทางที่ดีนายเตรียมใจไว้ให้ดีแล้วกัน”
โหมวยู่เงียบ
“ถ้าหล่อนทำเรื่องอะไรที่เป็นอันตรายต่อความรักระหว่างเรา ฉันอาจจะไม่สามารถอยู่ร่วมกับหล่อนได้ ฉันไม่ใช่นักบุญ นายก็รู้นิสัยของฉันดี ถ้าฉันโกรธขึ้นมา ไม่สนใจหรอกนะว่าหล่อนจะเป็นคนป่วยไหม”
จี้เหยากวงน่าเห็นใจก็จริง แต่ไม่รู้ว่าทำไม ชางหลิงกลับรู้สึกว่าหล่อนแปลกๆ
คนคนหนึ่งผ่านเรื่องราวมามากมายขนาดนั้น แต่กลับใจเย็นได้ในระยะเวลาสั้นๆ ยิ่งไปกว่านั้น หล่อนไม่ตกใจกับตัวตนของโหมวยู่พวกเขาเลย คนที่ดิ้นรนอยู่ในความทุกข์ยาก ในตอนที่ถูกคนช่วยขึ้นมาได้ ก็ทำเหมือนเรื่องทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นและเข้ากับพวกโหมวยู่ได้อย่างเป็นกันเอง
จะต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งแค่ไหนถึงจะทำแบบนั้นได้?
“ได้” โหมวยู่ตอบ “ฉันรับรอง ฉันจะไม่ให้หล่อนมากระทบถึงชีวิตของพวกเราแน่นอน”
เขากอดชางหลิงเอาไว้ เอาคางถูไถไปบนหัวของเธอ “อย่าโกรธเลยนะ ปีใหม่ทั้งที”
ชางหลิงเหนื่อยใจ
ผู้ชายคนนี้ไม่รู้ว่าไปเรียนมาจากไหน ตอนนี้เขากลับออดอ้อนตัวเองขึ้นมา แม้เธอจะไม่พอใจแค่ไหน แต่ก็ต้องข่มอารมณ์ไว้เพราะท่าทีของเขา
แต่แม้จะได้คำรับรองจากโหมวยู่ ชางหลิงก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
รู้สึกเหมือนกำลังจะมีเรื่องเกิดขึ้นเลย แต่จะเกิดอะไรขึ้นนั้น เธอก็พูดไม่ลงเหมือนกัน
ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 253 กลับหนานวานกับพวกเรา
Posted by ? Views, Released on September 26, 2021
, ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก
เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง