หลีซินมองในกระจกมองหลัง กระจกสะท้อนเงาของเขากับซูเสี่ยวเฉิง เขาตั้งใจแต่งตัวเป็นพิเศษ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่เป็นทางการมากกว่าปกติ ซูเสี่ยวเฉิงก็เช่นกัน
รถยนต์แล่นไปตามถนนในเมือง ไม่นานก็หยุดลงหน้าประตูสำนักงานกิจการพลเรือน
“เสี่ยวเฉิง” ลงจากรถแล้วหลีซินก็ช่วยเปิดประตูให้เธอ
“คุณคิดดีแล้วจริงเหรอ” เขายังคงกังวล เพราะถึงอย่างไรเขาก็อายุมากกว่าซูเสี่ยวเฉิงหกปี กลัวว่าเธอแค่เพราะยังเด็กเกินไป การตัดสินใจฉับพลันจะเกิดขึ้นจากแรงกระตุ้น
“ฉันก็กำลังจะถามคุณ ว่าคุณคิดดีแล้วเหรอ” ซูเสี่ยวเฉิงยังกังวลว่าเขาจะรู้สึกเสียใจภายหลัง เพราะเขาเพอร์เฟกส์มาก สามารถตั้งใจแต่งงานกับเธอได้ เธอต้องปลื้มแน่นอนอยู่แล้ว
หลีซินยิ้ม ยื่อมือให้ซูเสี่ยวเฉิง
ตั้งแต่รู้หัวใจตัวเอง ถึงการสารภาพรัก กระทั่งถึงการได้ใบอนุญาตแต่งงาน อันที่จริงมันแค่เดือนเดียว แต่ไม่รู้เพราะอะไร ในหัวใจของพวกเขาได้ระบุกันและกันแน่นอนแล้ว
ซูเสี่ยวเฉิงได้รับความยินยอมจากพ่อแม่ของเธอ พวกเขาพอใจกับลูกเขยหลีซินคนนี้มาก ดังนั้น เมื่อเขาขอแต่งงาน ไม่ต้องเตือนซูเสี่ยวเฉิง ก็ยัดทะเบียนบ้านใส่มือซูเสี่ยวเฉิงเองแล้ว
คนสองคนอยู่ที่ช่องจดทะเบียนสมรส ทำตามขั้นตอนทั้งหมด
“มาครับ ชิดๆ กัน” ช่างภาพถือกล้องเล็งมาทางพวกเขาทั้งสอง
ซูเสี่ยวเฉิงยังคงมีอาการอึดอัด ตัวเธอขยับไปด้านข้าง
“ใกล้ชิดกันหน่อยครับ” ช่างภาพบอก “หน้าเจ้าสาวอีกครึ่งยังไม่เข้าเฟรมเลย”
หลีซินเหลือบมองด้านข้าง แล้วยื่นมือออกไปคว้าเอวเธอ เอาเธอเข้าหาตัว
“เป็นภรรยาผมแล้ว ยังกลัวอะไรอีก” หลีซินยิ้ม
ซูเสี่ยวเฉิงหน้าแดง มองไปที่กล้อง “แชะ” กล้องเก็บภาพของคนทั้งสองไว้
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ทั้งคู่ก็ออกมาพร้อมกับหนังสือสีแดง เมื่อมองดูตราประทับเหล็กบนนั้น ซูเสี่ยวเฉิงรู้สึกเหมือนว่าตัวเองอยู่ในความฝัน
“ฉันแต่งงานแล้ว” ซูเสี่ยวเฉิงอุทาน “ไม่อยากเชื่อว่าฉันจะได้เรียนรู้จากชางหลิง กับการแต่งงานก่อนวัยอันควร อายุยี่สิบสองตัวเองก็แต่งงานแล้ว”
“ไปกันเถอะ คุณนายหลี” หลีซินเดินตามเข้าไปวางมือบนไหล่ของเธอ
“ส่งฉันกลับบ้านเหรอ” คาดว่าทันทีที่กลับไป ทะเบียนสมรสของเธอจะต้องถูกพ่อแม่ของตัวเองเอาไปเก็บไว้แน่ๆ
“วันนี้เป็นวันแต่งงาน คุณอยากจะกลับบ้านเหรอ” หลีซินขมวดคิ้ว
ซูเสี่ยวเฉิงก้าวเดินไป ท่าทีเขินอาย
จริงสิ เธอมัวแต่คิดเรื่องทะเบียนสมรสและการไปขอความกรุณาต่อหน้าพ่อแม่ ลืมไปเลยว่า…
“พวกเรา…จะไปไหนดี” ซูเสี่ยวเฉิงโตจนป่านนี้ ฉากร่วมรักในนิยายก็หยิบยกมาสุ่มๆ แต่ตัวเธอเอง ไม่มีประสบการณ์เลย…
หลีซินไม่พูด พาเธอไปที่รถ อาสาช่วยเปิดประตูข้างคนขับให้เธอ
ซูเสี่ยวเฉิงหน้าแดงขึ้นรถ หลังจากหลีซินสตาร์ทรถออก ก็ใช้สายตาหวาดหวั่นมองเขาตลอด
“เอ่อ…” ซูเสี่ยวเฉิงบิดนิ้ว “ยังไม่ค่ำ หรือไม่พวกเรา ไปทานข้าวกันก่อนไหม”
“ไม่ต้องห่วง เตรียมไว้แล้ว” หลีซินพูด มือข้างหนึ่งกำพวงมาลัย มืออีกข้างวางบนมือซูเสี่ยวเฉิง พยายามบรรเทาความตึงเครียดของเธอ
รถวิ่งได้สักพัก ในที่สุดก็จอดที่การ์เดนท์คอนโดสุดหรูใจกลางเมือง ซูเสี่ยวเฉิงลงรถ มองไปที่อาคารสูงระฟ้า สีหน้าประหลาดใจขึ้นมาฉับพลัน
“ที่นี่ที่ไหน” ซูเสี่ยวเฉิงงุนงง
หลีซินจอดรถเรียบร้อยแล้วถือพวงกุญแจไว้ในมือ
“บ้านของเรา” หลีซินก็เงยหน้าขึ้นมองตรงไปพลางบอก
ด้านนี้คือลิฟต์ทางเข้าแยกต่างหาก เมื่อเดินออกมา สิ่งที่เห็นอันดับแรกคือ ฝั่งซ้ายเป็นตู้รองเท้า ฝั่งขวาเป็นสวนในร่ม มันเต็มไปด้วยกระบองเพชรและกระถางต่างๆ และยังมีไม้ดอกสดใหม่ด้วย
หลีซินเอากุญแจมาเปิดประตู ก้าวเข้าไป บ้านทั้งหลังเป็นเฟอร์นิเจอร์สไตล์American Pastoralที่ตระการตา
“ชอบไหม” หลีซินถามซู่เสี่ยวเฉิงที่ยืนมองอึ้งๆ “เพนท์เฮาส์หลังนี้ ผมซื้อเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ตอนแรกแค่ตกแต่งง่ายๆ พอครั้งก่อนไปบ้านคุณ เห็นการตกแต่งบ้านของพวกคุณแล้ว จึงเปลี่ยนเป็นสไตล์นี้กะทันหันเลย”
ซูเสี่ยวเฉิงเดินเข้าไปด้วยความตื่นเต้น ดูอย่างละเอียดไปทีละอย่าง ก่อนจะขึ้นไปชั้นบน เปิดประตูห้องนอนใหญ่
“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันชอบสีชมพู” ซูเสี่ยวเฉิงประหลาดใจ
“เดาได้” หลีซีกอดอกยืนพิงประตู “โดยทั่วไปแล้ว เจ้าหญิงน้อยทุกคนล้วนชอบสีชมพู”
ซูเสี่ยวเฉิงมองดูผ้านวมที่พิมพ์ลายการ์ตูน และก็มองร่างสูงใหญ่ของหลีซิน อย่างไรก็นึกภาพเวลาเขานอนบนเตียงกับเธอไม่ออก
หลีซินเดินเข้ามา ดึงลิ้นชักโต๊ะข้างเตียง หยิบเอาใบรับรองอสังหาริมทรัพย์ออกมา เอามันยัดใส่มือของซูเสี่ยวเฉิงพร้อมกับกุญแจ
“นี่คือโฉนดอสังหาริมทรัพย์ของบ้านหลังนี้ ต่อไปนี้คุณเป็นเจ้าของมัน รอคุณว่างเมื่อไร พวกเราไปโอนกัน”
ซูเสี่ยวเฉิงชะงักไปครู่หนึ่ง
เธอรู้จักย่านนี้มาก่อน ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองหนานสูงมาก ย่านนี้ยิ่งราคาแพงเข้าไปอีก เป็นอันดับสองรองจากหนานวานเท่านั้น
“คุณ…” ซูเสี่ยวเฉิงมองสิ่งที่อยู่ในมือ ทำตัวไม่ถูก
หลีซินเดินไปที่หน้าต่าง ชี้ไปยังที่ที่อยู่ไม่ไกล “คุณดูสิ”
ซูเสี่ยวเฉิงเดินเข้าไป ที่ที่พวกเขาอยู่ สามารถมองเห็นทั้งเมืองได้ เมื่อกลางคืนมาถึง จะได้เห็นแสงไฟนับพัน
ส่วนตรงไปข้างหน้า เป็นอาคารเซิ่งซื่อ
“ว่าไปแล้วก็บังเอิญ ที่จริงก่อนหน้านี้ตอนที่ซื้อบ้านหลังนี้ ไม่รู้ว่าจะอยู่กับคุณ แต่ผมเห็นตำแหน่งบ้านหลังนี้ อยู่ตรงกลางระหว่างเซิ่งซื่อกับบ้านคุณพอดี ต่อไปไม่ว่าคุณจะไปทำงานหรือกลับบ้าน ก็ล้วนสะดวกทั้งนั้น”
“ในมือผมยังมีสินทรัพย์อยู่บ้าง เพียงพอที่จะซื้อบ้านอีกหลัง เมื่อถึงเวลาที่คุณตัดสินใจแล้ว จะซื้อสักหลังใกล้ๆ แถวนี้ให้พ่อแม่ หรือเอาไปมอบให้พวกท่านเป็นบำเหน็จก็ได้”
“คุณเอาเงินให้ฉันหมดแล้วตัวคุณเองล่ะ” ซูเสี่ยวเฉิงถามเขา
“สำหรับผู้ชาย ไม่ใช่ว่าหาเงินให้ผู้หญิงใช้หรอกเหรอ ก่อนหน้านี้ผมตัวคนเดียว ในเมื่อมีเงินสำรองอยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้อะไร แต่ตอนนี้มีพวกคุณ ในจิตใจผมรู้สึกมั่นคงมากขึ้น และอีกอย่างตอนนี้ผมก็ยังทำงานอยู่ไม่ใช่เหรอ ยังคงได้เงินกลับมาอีก”
ซูเสี่ยวเฉิงก้มหน้า
เธอรู้ว่าหลีซินไม่เหมือนพวกโหมวยู่ มีครอบครัวที่แข็งแกร่งพอจะซัพพอร์ต ที่เขามีทุกอย่างในตอนนี้ ล้วนอาศัยความพยายามของเขาได้มันมา
ที่เขาให้มันกับเธอ ล้วนเป็นทั้งหมดที่เขามีแล้ว
“ขอบคุณค่ะ” ซูเสี่ยวเฉิงตื้นตันใจ ตาแดงฉับพลัน เธอเดินไปกอดเอวหลีซิน “ก่อนหน้านี้ฉันคิดมาตลอดว่ามีเพียงผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมมากอย่างชางหลิงเท่านั้น ถึงจะถูกรักแบบนี้ได้”
“ยัยโง่” หลีซินลูบผมของเธอ
“ชางหลิงได้รับมากขนาดนั้น ก็ต้องจ่ายออกไปมากเช่นกัน เธออยู่กับพี่ใหญ่ แม้ว่าจะเพลิดเพลินกับทุกอย่างที่เขามอบให้เธอ แต่ก็ต้องแบกรับอันตรายที่คนธรรมดาจินตนาการไม่ถึง”
“ถึงแม้ว่าฉันจะไม่สามารถเป็นเหมือนพี่ใหญ่ได้ ที่ให้ความมั่งคั่งเหลือล้นแก่คุณ แต่ผมสาบาน ผมจะทำให้คุณมีชีวิตที่ราบรื่นไปชั่วชีวิต ไม่ต้องหวั่นเกรงหวาดกลัวตลอดไป เป็นเจ้าหญิงน้อยที่ไร้ทุกข์ไร้กังวล”
ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 285 ไปกันเถอะคุณนายหลี
Posted by ? Views, Released on September 26, 2021
, ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก
เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง