สมองของโหมวยู่หมุนติ้วทันควัน นอกจากเรื่องความลับนี้แล้วที่ไม่สามารถให้ชางหลิงรู้อย่างเด็ดขาด ยังมีเรื่องอะไรที่สามารถพูดกับเธอได้อีก เธอไม่รู้มาก่อนเลยเหรอ?
คงจำเป็นต้องหนักแน่นเพิ่มขึ้นอีกนิดถึงจะได้มีประโยชน์มากขึ้น
เขาเกิดฉุกคิดถึงข้ออ้างที่ดูไปวัดไปวาได้ขึ้นมาอย่างทันควัน เลยพูดเรื่องที่ว่าหลังจากที่ผู้ชายแต่งงานแล้วแอบเก็บเงินส่วนตัวเอาไว้และถูกจับได้มันเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก “ไม่ใช่ว่าผมโอนทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของคุณหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ความจริงแล้วผมก็ยังมีเงินอีกก้อนหนึ่งที่ยังไม่ได้บันทึกลงไปนะ”
ชางหลิงได้ยินแล้วถึงกับตกตะลึงทันที ผู้ชายตรงไปตรงมา อย่างโหมวยู่กลายเป็นคนคิดมากตั้งแต่ตอนไหนกัน ถึงได้หลงกลได้ขนาดลึกขนาดนี้ “คุณใช้ได้นะเนี่ยเก่งล้ำขึ้นไปอีกขั้น แล้วเก็บเงินนั่นเอาไว้ไปทำอะไรล่ะ?”
“ถ้าวันหนึ่งเกิดถูกไล่ตะเพิดออกจากบ้าน ก็เท่ากับต้องไปนอนข้างถนนแหละมั้ง ยังพอจะมีเงินไปซื้อเต็นท์สักหลังเพื่อเอาไว้มาคอยเฝ้าคุณอยู่ใต้ตึกไง” ตอนนี้โหมวยู่คิดได้อย่างถ่องแท้แล้ว ไม่สนใจภาพลักษณ์หน้าตาบ้าบออะไรอีกแล้วแหละ ชางหลิงสบายใจถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดแล้ว
ผลที่ได้คือ ชางหลิงหัวเราะจนตัวงอ ความรู้สึกไม่สุขใจและความรู้สึกกระอักกระอ่วนก่อนหน้านี้มลายหายสิ้นไปทันที เหลือแค่ความสุขหวานชื่นเบ่งบานท่วมท้นทั้งห้อง
หลังจากนั้นสองวัน ชางหลิงก็จับพิรุธความผิดปกติของโหมวยู่ได้ อีตานี่เวลาเช้าและเย็นจะต้องออกไปกำลังกายครึ่งชั่วโมงทุกวันตามเวลากำหนดเป๊ะเลย แถมยังไม่ให้ชางหลิงตามไปด้วย มีการพูดติดท้ายว่าไม่เหมาะให้คนท้องมาออกแรงหนักๆ
เขาเอาแต่พูดว่าวิ่งอยู่ใต้ตึก แม้ว่าตอนที่โหมวยู่กลับมานั้นเหงื่อไหลเต็มตัวทุกครั้ง กระทั่งถึงขั้นนั่งหายใจหอบแฮกๆ จนโอเว่อร์เกินขนาดอยู่ตรงพรมหน้าประตูด้านในห้อง
อาศัยความเข้าใจในตัวของโหมวยู่สำหรับเธอแล้วนั้น แรงในการออกกำลังกายแค่นี้ไม่ควรจะทำให้เขาเหนื่อยถึงขั้นนี้ได้ อย่างน้อยก็ไม่สามารถที่จะเหนื่อยจนหมดเรี่ยวแรง จนทำให้เขาต้องลงไปนั่งกองกับพื้นบนพรมหน้าประตูได้หรอก
ผ่านไปอีกหนึ่งคืน พอกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว โหมวยู่เก็บจานชามตะเกียบที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างรวดเร็วเสร็จแล้ว จากนั้นก็จัดแจงเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดออกกำลังกายเพื่อออกจากบ้านตามกำหนดเวลาทันที
ครั้งนี้ชางหลิงต้องดูให้ได้ว่าตกลงเขาวิ่งยังไงกันแน่ เพราะว่าตัวตึกบ้านหลังนี้ของเธอนั้นพอออกไปแล้วถนนทางวิ่งมีแค่สองสายเท่านั้นเอง บังเอิญเสียจริง ที่ตำแหน่งบ้านของเธอสามารถมองเห็นถนนทั้งสองสายเลย
ชางหลิงจ้องมองถนนเส้นหนึ่งเอง ส่วนอีกเส้นหนึ่งนั้นก็ใช้กล้องบันทึกวิดีโอเอาไว้แทน หลังจากที่เปิดโหมดอัดวิดีโอแล้วก็ให้ทางวิดีโออัดเองตามระบบทันที
เมื่อชางหลิงเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่อันคุ้นตาร่างนั้นก้าวเท้าออกไปจากสายตาตนเองแล้ว ชางหลิงอดไม่ได้ที่เคาะหัวจนเองอย่างอดไม่ได้ทันที
สมองของโหมวยู่หมุนติ้วทันควัน นอกจากเรื่องความลับนี้แล้วที่ไม่สามารถให้ชางหลิงรู้อย่างเด็ดขาด ยังมีเรื่องอะไรที่สามารถพูดกับเธอได้อีก เธอไม่รู้มาก่อนเลยเหรอ?
คงจำเป็นต้องหนักแน่นเพิ่มขึ้นอีกนิดถึงจะได้มีประโยชน์มากขึ้น
เขาเกิดฉุกคิดถึงข้ออ้างที่ดูไปวัดไปวาได้ขึ้นมาอย่างทันควัน เลยพูดเรื่องที่ว่าหลังจากที่ผู้ชายแต่งงานแล้วแอบเก็บเงินส่วนตัวเอาไว้และถูกจับได้มันเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก “ไม่ใช่ว่าผมโอนทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของคุณหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ความจริงแล้วผมก็ยังมีเงินอีกก้อนหนึ่งที่ยังไม่ได้บันทึกลงไปนะ”
ชางหลิงได้ยินแล้วถึงกับตกตะลึงทันที ผู้ชายตรงไปตรงมา อย่างโหมวยู่กลายเป็นคนคิดมากตั้งแต่ตอนไหนกัน ถึงได้หลงกลได้ขนาดลึกขนาดนี้ “คุณใช้ได้นะเนี่ยเก่งล้ำขึ้นไปอีกขั้น แล้วเก็บเงินนั่นเอาไว้ไปทำอะไรล่ะ?”
“ถ้าวันหนึ่งเกิดถูกไล่ตะเพิดออกจากบ้าน ก็เท่ากับต้องไปนอนข้างถนนแหละมั้ง ยังพอจะมีเงินไปซื้อเต็นท์สักหลังเพื่อเอาไว้มาคอยเฝ้าคุณอยู่ใต้ตึกไง” ตอนนี้โหมวยู่คิดได้อย่างถ่องแท้แล้ว ไม่สนใจภาพลักษณ์หน้าตาบ้าบออะไรอีกแล้วแหละ ชางหลิงสบายใจถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดแล้ว
ผลที่ได้คือ ชางหลิงหัวเราะจนตัวงอ ความรู้สึกไม่สุขใจและความรู้สึกกระอักกระอ่วนก่อนหน้านี้มลายหายสิ้นไปทันที เหลือแค่ความสุขหวานชื่นเบ่งบานท่วมท้นทั้งห้อง
หลังจากนั้นสองวัน ชางหลิงก็จับพิรุธความผิดปกติของโหมวยู่ได้ อีตานี่เวลาเช้าและเย็นจะต้องออกไปกำลังกายครึ่งชั่วโมงทุกวันตามเวลากำหนดเป๊ะเลย แถมยังไม่ให้ชางหลิงตามไปด้วย มีการพูดติดท้ายว่าไม่เหมาะให้คนท้องมาออกแรงหนักๆ
เขาเอาแต่พูดว่าวิ่งอยู่ใต้ตึก แม้ว่าตอนที่โหมวยู่กลับมานั้นเหงื่อไหลเต็มตัวทุกครั้ง กระทั่งถึงขั้นนั่งหายใจหอบแฮกๆ จนโอเว่อร์เกินขนาดอยู่ตรงพรมหน้าประตูด้านในห้อง
อาศัยความเข้าใจในตัวของโหมวยู่สำหรับเธอแล้วนั้น แรงในการออกกำลังกายแค่นี้ไม่ควรจะทำให้เขาเหนื่อยถึงขั้นนี้ได้ อย่างน้อยก็ไม่สามารถที่จะเหนื่อยจนหมดเรี่ยวแรง จนทำให้เขาต้องลงไปนั่งกองกับพื้นบนพรมหน้าประตูได้หรอก
ผ่านไปอีกหนึ่งคืน พอกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว โหมวยู่เก็บจานชามตะเกียบที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างรวดเร็วเสร็จแล้ว จากนั้นก็จัดแจงเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดออกกำลังกายเพื่อออกจากบ้านตามกำหนดเวลาทันที
ครั้งนี้ชางหลิงต้องดูให้ได้ว่าตกลงเขาวิ่งยังไงกันแน่ เพราะว่าตัวตึกบ้านหลังนี้ของเธอนั้นพอออกไปแล้วถนนทางวิ่งมีแค่สองสายเท่านั้นเอง บังเอิญเสียจริง ที่ตำแหน่งบ้านของเธอสามารถมองเห็นถนนทั้งสองสายเลย
ชางหลิงจ้องมองถนนเส้นหนึ่งเอง ส่วนอีกเส้นหนึ่งนั้นก็ใช้กล้องบันทึกวิดีโอเอาไว้แทน หลังจากที่เปิดโหมดอัดวิดีโอแล้วก็ให้ทางวิดีโออัดเองตามระบบทันที
เมื่อชางหลิงเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่อันคุ้นตาร่างนั้นก้าวเท้าออกไปจากสายตาตนเองแล้ว ชางหลิงอดไม่ได้ที่เคาะหัวจนเองอย่างอดไม่ได้ทันที
“ใครผิดสัญญาคนนั้นเป็นหมา”
ชางหลิงได้แต่ค้อนจนหน้าคว่ำด้วยความโมโหอยู่บ้าง แถมยังอยากจะพุ่งตัวเข้าใส่เพื่อไปถามให้รู้เรื่องรู้ราวไปเลยว่าจริงๆตกลงแล้วเมื่อครู่เขาไปไหนมา และทุกครั้งที่ออกไปในหลายต่อหลายครั้งก่อนหน้านี้ก็เป็นการวิ่งแบบนี้ใช่หรือเปล่า
น่าโมโหชะมัดเลย เดิมก็คิดว่าโหมวยู่คิดได้แล้ว ดูเหมือนว่าเธอจะคิดมากไปเอง คนที่เคยชื่นชมทัศนียภาพอยู่บนยอดตึกพีระมิดสูงที่สุดเหนือคนอื่น ทำไมถึงได้ยอมปล่อยวางตำแหน่งทัศนียภาพอันสูงสุดเพื่อเธอไปได้อย่างไรกัน
คืนนี้ค่อยมาดูซ้ำอีกรอบ ถ้าคืนนี้โหมวยู่ยังเป็นแบบนี้อยู่ เธอต้องตรวจสอบให้ได้ว่าตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
หลังจากวันแห่งความสุขผ่านพ้นไปหนึ่งวัน ชางหลิงทั้งรอคอยและทั้งกลัวเวลากลางคืนที่จะมาถึง หลังจากที่เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปแล้ว ชางหลิงก็รีบเอากล้องมาตั้งตรงตำแหน่งเดิมอย่างเร่งรีบ ส่วนตัวเองก็ไปนั่งมองจดจ้องไม่กะพริบตาอยู่อีกฝั่งทันที
ถ้าไม่มีอะไรพลิกแพลงไปจากจินตนาการของเธอแล้ว โหมวยู่ก็คงทำเหมือนเมื่อเช้า ที่ใช้เวลาอยู่ข้างนอกไม่เกินสี่นาทีเป็นอย่างมากก็จะกลับมาที่ตึกนี้แล้ว จากนั้นก็ไปอยู่ที่ไหนสักแห่งใช้เวลา 25 นาทีค่อยกลับมาที่บ้าน
เวลาตั้งยาวนานขนาดนี้ แถมยังล็อกเวลา1วัน 2 ครั้ง ถ้าเขาพูดว่าไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายใครจะกล้าเชื่อล่ะ
ชางหลิงมองหน้าท้องของตนเองในที่สุดก็เริ่มนูนออกมา ประกอบกับเธอที่เข้าใจในตัวโหมวยู่ จะอย่างไรแล้วก็ไม่สามารถออกตัวไปจ้องมองเขาด้วยตนเองได้
ชางหลิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พลางมองวีแชทของป๋ายจื๋อ จนสุดท้ายก็กดออกแทน
ช่วงนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีตานั่น เหมือนว่าจะเชื่อฟังคำพูดของโหมวยู่มาก ทุกครั้งที่เขามาเขาก็กลับปุ๊บทันที ทำเหมือนไม่เคยอยู่ด้วยกันมาก่อน ก่อนหน้านี้ช่วงที่ฉันเพิ่งอยู่กับโหมวยู่ก็ไม่เคยเห็นเขาขี้ขลาดได้ขนาดนี้นี่
สมองของโหมวยู่หมุนติ้วทันควัน นอกจากเรื่องความลับนี้แล้วที่ไม่สามารถให้ชางหลิงรู้อย่างเด็ดขาด ยังมีเรื่องอะไรที่สามารถพูดกับเธอได้อีก เธอไม่รู้มาก่อนเลยเหรอ?
คงจำเป็นต้องหนักแน่นเพิ่มขึ้นอีกนิดถึงจะได้มีประโยชน์มากขึ้น
เขาเกิดฉุกคิดถึงข้ออ้างที่ดูไปวัดไปวาได้ขึ้นมาอย่างทันควัน เลยพูดเรื่องที่ว่าหลังจากที่ผู้ชายแต่งงานแล้วแอบเก็บเงินส่วนตัวเอาไว้และถูกจับได้มันเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก “ไม่ใช่ว่าผมโอนทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของคุณหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ความจริงแล้วผมก็ยังมีเงินอีกก้อนหนึ่งที่ยังไม่ได้บันทึกลงไปนะ”
ชางหลิงได้ยินแล้วถึงกับตกตะลึงทันที ผู้ชายตรงไปตรงมา อย่างโหมวยู่กลายเป็นคนคิดมากตั้งแต่ตอนไหนกัน ถึงได้หลงกลได้ขนาดลึกขนาดนี้ “คุณใช้ได้นะเนี่ยเก่งล้ำขึ้นไปอีกขั้น แล้วเก็บเงินนั่นเอาไว้ไปทำอะไรล่ะ?”
“ถ้าวันหนึ่งเกิดถูกไล่ตะเพิดออกจากบ้าน ก็เท่ากับต้องไปนอนข้างถนนแหละมั้ง ยังพอจะมีเงินไปซื้อเต็นท์สักหลังเพื่อเอาไว้มาคอยเฝ้าคุณอยู่ใต้ตึกไง” ตอนนี้โหมวยู่คิดได้อย่างถ่องแท้แล้ว ไม่สนใจภาพลักษณ์หน้าตาบ้าบออะไรอีกแล้วแหละ ชางหลิงสบายใจถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดแล้ว
ผลที่ได้คือ ชางหลิงหัวเราะจนตัวงอ ความรู้สึกไม่สุขใจและความรู้สึกกระอักกระอ่วนก่อนหน้านี้มลายหายสิ้นไปทันที เหลือแค่ความสุขหวานชื่นเบ่งบานท่วมท้นทั้งห้อง
หลังจากนั้นสองวัน ชางหลิงก็จับพิรุธความผิดปกติของโหมวยู่ได้ อีตานี่เวลาเช้าและเย็นจะต้องออกไปกำลังกายครึ่งชั่วโมงทุกวันตามเวลากำหนดเป๊ะเลย แถมยังไม่ให้ชางหลิงตามไปด้วย มีการพูดติดท้ายว่าไม่เหมาะให้คนท้องมาออกแรงหนักๆ
เขาเอาแต่พูดว่าวิ่งอยู่ใต้ตึก แม้ว่าตอนที่โหมวยู่กลับมานั้นเหงื่อไหลเต็มตัวทุกครั้ง กระทั่งถึงขั้นนั่งหายใจหอบแฮกๆ จนโอเว่อร์เกินขนาดอยู่ตรงพรมหน้าประตูด้านในห้อง
อาศัยความเข้าใจในตัวของโหมวยู่สำหรับเธอแล้วนั้น แรงในการออกกำลังกายแค่นี้ไม่ควรจะทำให้เขาเหนื่อยถึงขั้นนี้ได้ อย่างน้อยก็ไม่สามารถที่จะเหนื่อยจนหมดเรี่ยวแรง จนทำให้เขาต้องลงไปนั่งกองกับพื้นบนพรมหน้าประตูได้หรอก
ผ่านไปอีกหนึ่งคืน พอกินข้าวเช้าเสร็จแล้ว โหมวยู่เก็บจานชามตะเกียบที่วางอยู่บนโต๊ะอย่างรวดเร็วเสร็จแล้ว จากนั้นก็จัดแจงเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดออกกำลังกายเพื่อออกจากบ้านตามกำหนดเวลาทันที
ครั้งนี้ชางหลิงต้องดูให้ได้ว่าตกลงเขาวิ่งยังไงกันแน่ เพราะว่าตัวตึกบ้านหลังนี้ของเธอนั้นพอออกไปแล้วถนนทางวิ่งมีแค่สองสายเท่านั้นเอง บังเอิญเสียจริง ที่ตำแหน่งบ้านของเธอสามารถมองเห็นถนนทั้งสองสายเลย
ชางหลิงจ้องมองถนนเส้นหนึ่งเอง ส่วนอีกเส้นหนึ่งนั้นก็ใช้กล้องบันทึกวิดีโอเอาไว้แทน หลังจากที่เปิดโหมดอัดวิดีโอแล้วก็ให้ทางวิดีโออัดเองตามระบบทันที
เมื่อชางหลิงเห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่อันคุ้นตาร่างนั้นก้าวเท้าออกไปจากสายตาตนเองแล้ว ชางหลิงอดไม่ได้ที่เคาะหัวจนเองอย่างอดไม่ได้ทันที
ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 321 สะกดรอยตาม
Posted by ? Views, Released on September 28, 2021
, ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก
เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง