ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 323 นายดูแลเธอให้ดีๆ

“ไปอาบน้ำ เหม็นกลิ่นเหงื่อชะมัด”
ชางหลิงเดินมาถึงข้างตัวของเขา พร้อมทั้งใช้มือตีโหมวยู่เล็กน้อย น้ำเสียงเหมือนสองตายายคู่ผัวตัวเมียกันเช่นนั้น
มุมปากโหมวยู่คลี่ยิ้มออกมา ร่างกายและหัวใจอันเหนื่อยล้าแต่เดิมนั้นพลันจุดไฟขึ้นทันที นัยน์ตาลึกซึ้งของเขามีแต่ชางหลิงอยู่เต็มเบ้าตา น้ำเสียงแหบพร่าจนเซ็กซี่ “ช่วยถอดเสื้อให้ผมหน่อย”
ท่ามกลางการรอคอยความหวานชื่นออดอ้อนของโหมวยู่อย่างเขินอายอยู่นั้น ชางหลิงก็ยิ้มให้และปลดกระดุมเสื้อสูทให้กับเขา ลมหายใจของกันและกันพ่นรดยังใบหน้าและลำคอของอีกฝ่าย บรรยากาศช่างดูคลุมเครือเหลือเกิน
ตอนที่ชางหลิงแกะกระดุมเสื้อเม็ดที่สามของโหมวยู่ นั้น ใบหน้าแดงระเรื่อของเธอพลันขาวโพลนลงฉับพลัน ดวงตาหม่นหมองพลันเปลี่ยนเป็นเฉียบคมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด พลางดึงเสื้อและถามโหมวยู่ทันที “นี่มันคืออะไร?”
โหมวยู่มองรอยลิปสติกที่ไม่รู้ว่าปรากฏอยู่บนเสื้อของตนเองตอนไหนกัน พลันไม่รู้ว่าจะอธิบายว่าอย่างไรดี
เขาก็ไม่อยากจะโกหกชางหลิง ทว่ารอยลิปสติกสีแดงที่ปรากฏอยู่บนเสื้อนั้นตกลงแล้วมันมาจากไหน เขาก็ไม่สามารถจับต้นชนปลายอธิบายได้จริงๆ
“คุณให้เวลาผมสักหน่อย ผมจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้”
โหมวยู่กุมกำหมัดเล็กๆที่เริ่มสั่นของชางหลิงเอาไว้ ในใจหวาดกลัวยิ่งนัก เขามีความลางสังหรณ์อย่าแรงกล้า ว่าการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขระหว่างเขากับชางหลิงมันมาถึงสุดทางแล้ว
การใช้ชีวิตเช่นนี้เขาเพิ่งจะผ่านไปไม่กี่วันเอง เขาไม่อยากจะจบลงเร็วขนาดนี้ เขาปล่อยไม่ได้ เขาไม่เต็มใจ
“ได้ คุณไปตรวจสอบอย่างเร็วเลย ถ้ายังตรวจสอบไม่รู้เรื่องอย่าเข้ามาในคอนโดฉันอีก ฉันกลัวว่าคุณจะมาทำให้ที่นี่ต้องพลอยสกปรกไปด้วย”
ใบหน้าของชางหลิงซีดเผือด หลังจากฝืนทนกับอารมณ์โกรธที่พูดออกมาแล้วนั้น ก็มีอาการตีกลับพะอืดพะอมขึ้นมาจากกระเพาะอาหาร เธอรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็อาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง
จนสุดท้ายอาเจียนออกมาเหลือแต่น้ำเปรี้ยวๆ ทว่าเธอเองก็ยังคงพะอืดพะอมจนไม่ไหว
เมื่อคิดว่าโหมวยู่ตัวติดกับเธอตลอด 24 ชั่วโมง ยังจะมีเวลาไประบายความใคร่กับผู้หญิงคนอื่น เธออดไม่ได้จนอยากจะอาเจียนออกมา เพื่อเอาอาหารที่เธอกับโหมวยู่กินด้วยกันอาเจียนออกมาให้หมด
ขณะที่ชางหลิงอาเจียนจนหมดไส้หมดพุงอยู่นั้น โหมวยู่เอาแต่ยืนเฝ้าอยู่นอกห้องน้ำเพื่อมองเธออยู่เงียบๆ
“ไปอาบน้ำ เหม็นกลิ่นเหงื่อชะมัด”
ชางหลิงเดินมาถึงข้างตัวของเขา พร้อมทั้งใช้มือตีโหมวยู่เล็กน้อย น้ำเสียงเหมือนสองตายายคู่ผัวตัวเมียกันเช่นนั้น
มุมปากโหมวยู่คลี่ยิ้มออกมา ร่างกายและหัวใจอันเหนื่อยล้าแต่เดิมนั้นพลันจุดไฟขึ้นทันที นัยน์ตาลึกซึ้งของเขามีแต่ชางหลิงอยู่เต็มเบ้าตา น้ำเสียงแหบพร่าจนเซ็กซี่ “ช่วยถอดเสื้อให้ผมหน่อย”
ท่ามกลางการรอคอยความหวานชื่นออดอ้อนของโหมวยู่อย่างเขินอายอยู่นั้น ชางหลิงก็ยิ้มให้และปลดกระดุมเสื้อสูทให้กับเขา ลมหายใจของกันและกันพ่นรดยังใบหน้าและลำคอของอีกฝ่าย บรรยากาศช่างดูคลุมเครือเหลือเกิน
ตอนที่ชางหลิงแกะกระดุมเสื้อเม็ดที่สามของโหมวยู่ นั้น ใบหน้าแดงระเรื่อของเธอพลันขาวโพลนลงฉับพลัน ดวงตาหม่นหมองพลันเปลี่ยนเป็นเฉียบคมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด พลางดึงเสื้อและถามโหมวยู่ทันที “นี่มันคืออะไร?”
โหมวยู่มองรอยลิปสติกที่ไม่รู้ว่าปรากฏอยู่บนเสื้อของตนเองตอนไหนกัน พลันไม่รู้ว่าจะอธิบายว่าอย่างไรดี
เขาก็ไม่อยากจะโกหกชางหลิง ทว่ารอยลิปสติกสีแดงที่ปรากฏอยู่บนเสื้อนั้นตกลงแล้วมันมาจากไหน เขาก็ไม่สามารถจับต้นชนปลายอธิบายได้จริงๆ
“คุณให้เวลาผมสักหน่อย ผมจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้”
โหมวยู่กุมกำหมัดเล็กๆที่เริ่มสั่นของชางหลิงเอาไว้ ในใจหวาดกลัวยิ่งนัก เขามีความลางสังหรณ์อย่าแรงกล้า ว่าการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขระหว่างเขากับชางหลิงมันมาถึงสุดทางแล้ว
การใช้ชีวิตเช่นนี้เขาเพิ่งจะผ่านไปไม่กี่วันเอง เขาไม่อยากจะจบลงเร็วขนาดนี้ เขาปล่อยไม่ได้ เขาไม่เต็มใจ
“ได้ คุณไปตรวจสอบอย่างเร็วเลย ถ้ายังตรวจสอบไม่รู้เรื่องอย่าเข้ามาในคอนโดฉันอีก ฉันกลัวว่าคุณจะมาทำให้ที่นี่ต้องพลอยสกปรกไปด้วย”
ใบหน้าของชางหลิงซีดเผือด หลังจากฝืนทนกับอารมณ์โกรธที่พูดออกมาแล้วนั้น ก็มีอาการตีกลับพะอืดพะอมขึ้นมาจากกระเพาะอาหาร เธอรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็อาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง
จนสุดท้ายอาเจียนออกมาเหลือแต่น้ำเปรี้ยวๆ ทว่าเธอเองก็ยังคงพะอืดพะอมจนไม่ไหว
เมื่อคิดว่าโหมวยู่ตัวติดกับเธอตลอด 24 ชั่วโมง ยังจะมีเวลาไประบายความใคร่กับผู้หญิงคนอื่น เธออดไม่ได้จนอยากจะอาเจียนออกมา เพื่อเอาอาหารที่เธอกับโหมวยู่กินด้วยกันอาเจียนออกมาให้หมด
ขณะที่ชางหลิงอาเจียนจนหมดไส้หมดพุงอยู่นั้น โหมวยู่เอาแต่ยืนเฝ้าอยู่นอกห้องน้ำเพื่อมองเธออยู่เงียบๆ
ความคิดไร้สาระฉุกคิดขึ้นมา หลินจื้อหัวเราะเยาะตัวเอง จากนั้นก็เดินไปยังด้านข้างของโหมวยู่แล้วพูดขึ้นมา
“คุณชายรอง คุณหนูชางไม่ให้ผมเข้าไป งั้นให้ผมพาตัวคุณกลับไปพักที่ศูนย์ฯของผมก่อนไหม เพราะสภาพของคุณตอนนี้มันย่ำแย่มาก”
ดวงตาอันว่างเปล่าของโหมวยู่พยักหน้ามา พลางถูกหลินจื้อพาตัวเขาไปยังศูนย์ฯด้วยอาการอยู่ในภวังค์
เมื่อมาถึงประตูใหญ่ของเป่ยเม้าโก๋จี้โหมวยู่ก็กระอักเลือดออกมา จากนั้นก็ล้มคว่ำทิ้งน้ำหนักตัวไปทางด้านหน้าทันที
โชคดีที่หลินจื้อเป็นคนมือไวไหวพริบดี สามารถประคองตัวเขาเข้าไปยังห้องผ่าตัดพิเศษในทันที
ในห้องผ่าตัดนั้น หลินจื้อประเมินอาการของโหมวยู่ที่นอนอยู่บนเตียงผ่าตัดแล้วหนึ่งรอบ พลางควักโทรศัพท์ที่สั่งทำรุ่นพิเศษขึ้นมาเพื่อส่งข้อความออกไป
“เมื่อไหร่จะจัดการกับเหยื่อ?”
ข้อความของเขาเพิ่งจะส่งออกไปเอง ก็ได้รับข้อความตอบกลับมาทันที “ไม่รีบ”
หัวคิ้วของโหมวยู่ย่นหากันเล็กน้อย ท่วงท่าราวการแสดงงานทางศิลปะอันสง่างาม และเริ่มทำการสอดท่อต่างๆ ลงบนตัวโหมวยู่ทีละชิ้น
สามวันเต็มๆ หลังจากที่โหมวยู่ออกไปแล้วก็ไม่ได้โทรศัพท์ติดต่อชางหลิงมาเลยสักครั้ง กระทั่งข้อความขอโทษเป็นห่วงเป็นใยก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ
เธอคุ้นชินกับการอยู่คอนโดห้องชุดนี้กับป๋ายจื๋อมาก่อนหน้านี้แล้ว ทว่าการที่โหมวยู่หายตัวไปดื้อๆนั้น ชางหลิงมักรู้สึกว่าคอนโดห้องชุดนี้ขาดอะไรไปสักอย่าง
“ไปอาบน้ำ เหม็นกลิ่นเหงื่อชะมัด”
ชางหลิงเดินมาถึงข้างตัวของเขา พร้อมทั้งใช้มือตีโหมวยู่เล็กน้อย น้ำเสียงเหมือนสองตายายคู่ผัวตัวเมียกันเช่นนั้น
มุมปากโหมวยู่คลี่ยิ้มออกมา ร่างกายและหัวใจอันเหนื่อยล้าแต่เดิมนั้นพลันจุดไฟขึ้นทันที นัยน์ตาลึกซึ้งของเขามีแต่ชางหลิงอยู่เต็มเบ้าตา น้ำเสียงแหบพร่าจนเซ็กซี่ “ช่วยถอดเสื้อให้ผมหน่อย”
ท่ามกลางการรอคอยความหวานชื่นออดอ้อนของโหมวยู่อย่างเขินอายอยู่นั้น ชางหลิงก็ยิ้มให้และปลดกระดุมเสื้อสูทให้กับเขา ลมหายใจของกันและกันพ่นรดยังใบหน้าและลำคอของอีกฝ่าย บรรยากาศช่างดูคลุมเครือเหลือเกิน
ตอนที่ชางหลิงแกะกระดุมเสื้อเม็ดที่สามของโหมวยู่ นั้น ใบหน้าแดงระเรื่อของเธอพลันขาวโพลนลงฉับพลัน ดวงตาหม่นหมองพลันเปลี่ยนเป็นเฉียบคมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด พลางดึงเสื้อและถามโหมวยู่ทันที “นี่มันคืออะไร?”
โหมวยู่มองรอยลิปสติกที่ไม่รู้ว่าปรากฏอยู่บนเสื้อของตนเองตอนไหนกัน พลันไม่รู้ว่าจะอธิบายว่าอย่างไรดี
เขาก็ไม่อยากจะโกหกชางหลิง ทว่ารอยลิปสติกสีแดงที่ปรากฏอยู่บนเสื้อนั้นตกลงแล้วมันมาจากไหน เขาก็ไม่สามารถจับต้นชนปลายอธิบายได้จริงๆ
“คุณให้เวลาผมสักหน่อย ผมจะไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้”
โหมวยู่กุมกำหมัดเล็กๆที่เริ่มสั่นของชางหลิงเอาไว้ ในใจหวาดกลัวยิ่งนัก เขามีความลางสังหรณ์อย่าแรงกล้า ว่าการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขระหว่างเขากับชางหลิงมันมาถึงสุดทางแล้ว
การใช้ชีวิตเช่นนี้เขาเพิ่งจะผ่านไปไม่กี่วันเอง เขาไม่อยากจะจบลงเร็วขนาดนี้ เขาปล่อยไม่ได้ เขาไม่เต็มใจ
“ได้ คุณไปตรวจสอบอย่างเร็วเลย ถ้ายังตรวจสอบไม่รู้เรื่องอย่าเข้ามาในคอนโดฉันอีก ฉันกลัวว่าคุณจะมาทำให้ที่นี่ต้องพลอยสกปรกไปด้วย”
ใบหน้าของชางหลิงซีดเผือด หลังจากฝืนทนกับอารมณ์โกรธที่พูดออกมาแล้วนั้น ก็มีอาการตีกลับพะอืดพะอมขึ้นมาจากกระเพาะอาหาร เธอรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็อาเจียนออกมาจนหมดไส้หมดพุง
จนสุดท้ายอาเจียนออกมาเหลือแต่น้ำเปรี้ยวๆ ทว่าเธอเองก็ยังคงพะอืดพะอมจนไม่ไหว
เมื่อคิดว่าโหมวยู่ตัวติดกับเธอตลอด 24 ชั่วโมง ยังจะมีเวลาไประบายความใคร่กับผู้หญิงคนอื่น เธออดไม่ได้จนอยากจะอาเจียนออกมา เพื่อเอาอาหารที่เธอกับโหมวยู่กินด้วยกันอาเจียนออกมาให้หมด
ขณะที่ชางหลิงอาเจียนจนหมดไส้หมดพุงอยู่นั้น โหมวยู่เอาแต่ยืนเฝ้าอยู่นอกห้องน้ำเพื่อมองเธออยู่เงียบๆ

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

Options

not work with dark mode
Reset