ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 39 รบกวนคุณออกไป

บทที่ 39 รบกวนคุณออกไป
เมื่อถึงเวลาเลิกงานแล้ว คนในบริษัทก็เริ่มกลับบ้านกัน
ชางฉิงคอยเฝ้าประตูลิฟต์อยู่ ทั้งบริษัทก็กลับไปพอสมควรแล้ว แต่ว่ายังไม่เห็นโหมวยู่ลงมาสักที
ในที่สุด ประตูลิฟต์ก็เปิดออก ฉู่ฉือพลันปรากฏในดวงตาของชางฉิงก่อน ส่วนเขาอยู่ด้านหลัง โหมวยู่กำลังยืนกอดอกยืนพิงกับกำแพงอยู่ ด้วยท่าทางไม่สนใจไยดี
“คุณชายรอง!” ชางฉิงยิ้มให้อย่างยินดี ฉู่ฉือพลันยื่นมือออกไปขวางชางฉิงที่กำลังพุ่งตัวเข้าใกล้โหมวยู่ตามสัญชาตญาณ “คุณชาง คุณยังไม่กลับเหรอ?”
ชางฉิงถอยหลังออก เพื่อหลีกให้โหมวยู่กับฉู่ฉือทั้งสองคนเดินออกมาจากลิฟต์
“วันนี้ฉันทำงานเป็นวันแรก ที่บ้านฉันเลยจัดงานเลี้ยงฉลองปาร์ตี้ขึ้น คุณชายรองดูแลฉันได้ดี ดังนั้น เลยอยากจะถามว่าคุณชายรองพอจะมีเวลา…”
“ไม่มี” โหมวยู่ปฏิเสธแบบไม่ลังเล
ความหวังของชางฉิงว่างเปล่าทันที แต่ก็ไม่ได้ยื้อต่อ ได้แต่ก้มหน้าลงพร้อมกับความผิดหวัง “เช่นนั้น … ไม่รบกวนคุณชายรองแล้ว”
ฝีเท้าของโหมวยู่หยุดเท้าทันที เขาหันข้าง มองมาทางดวงตาละห้อยของเธอ พลันกระตุกยิ้มมุมปาก “เดือนหน้าจะมีการแข่งขันการออกแบบขนาดใหญ่ของเซิ่งซื่อ คนที่ชนะการแข่งขันนั้นจะมีสิทธิ์เป็นตัวแทนเซิ่งซื่อไปร่วมงานเทศกาลแฟชั่นโชว์ที่มิลาน ถึงตอนนั้น ฉันจะเตรียมงานฉลองไว้ให้คุณ”
“จริงเหรอ?” จิตวิญญาณของชางฉิงเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
“ขอบคุณมากค่ะคุณชายรอง” ท่าทางของเธอต้องการขยับเข้าใกล้เขาอีกนิด ทว่าโหมวยู่ก็ก้าวเท้าเดินจ้ำอ้าวไปไกลแล้ว
ชางฉิงไม่ได้ตามไป แม้ว่าโหมวยู่ไม่อนุญาตให้เธอเข้าใกล้ก็ตาม แต่คำพูดที่เขาพูดสิ่งเหล่านี้ออกมานั้น มันก็เป็นความหวังของเธอได้อย่างเต็มเปี่ยมแล้ว
เขาเป็นถึงคุณชายรองโหมวเลย แถมถูกให้ความสำคัญถึงขั้นไหนนะ เขาถึงเตรียมงานเลี้ยงฉลองให้เธอ….
ในใจของชางฉิงมันอลหม่านปนเปไปหมด แล้วออกจากบริษัท
รอจนที่พวกเขาทั้งหมดกลับไปแล้ว คุณโม่โม่ก็เดินออกมาจากบันไดตึก ใบหน้าดำคร่ำเครียดทั้งหน้า
——
ประตู nova ชางหลิงเดินลงจากรถของหลีซินอย่างหมดเรี่ยวแรง
หลีซินรู้สึกว่าสภาพของเธอดูผิดปกติไป เพราะนิสัยเธอเป็นคนตื่นตัวอยู่ตลอด ทว่าวันนี้ไม่พูดอะไรสักคำ มีหลายครั้งที่เขาพูดหยอกล้อแต่กลับต้องผิดหวังไป
“พี่สะใภ้ใหญ่?” หลีซินเดินตามเธอ เพื่อไปกดลิฟต์ให้เธอ “พี่เป็นอะไรหรือเปล่า? ที่บริษัทโดนใครแกล้งมาเหรอ?”
ก็ไม่น่านะ ด้วยนิสัยของพี่สะใภ้แล้ว ควรน่าจะว่าเธอไปแกล้งคนอื่นนี่
ชางหลิงได้แต่ส่ายหน้าไปมา พร้อมทั้งก้มหน้าอย่างเสียใจ
ตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นมาเธอมัวแต่ครุ่นคิดเรื่องที่โหมวยู่ไปส่งดอกไม้ให้ชางฉิง ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่มีแรงเลย
แม้ว่าจะพูด ว่าเวลาที่เธออยู่กับโหมวยู่ก็ไม่นานนัก ทว่า เธอก็อยู่ข้างกายเขาไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน แต่นอกจากความอบอุ่นบนเตียงที่ให้กับเธอแล้ว ปกติก็เย็นชาใส่เธอตลอด
ถ้าวันนี้ไม่เห็นกับตาตนเอง เธอก็ไม่คิดว่าภูเขาน้ำแข็งจะทำเรื่องโรแมนติกเพื่อเอาใจเด็กสาวสักหน่อย
แต่ว่าเพราะอะไรล่ะ?
อีกฝั่งเขาประกาศอยู่ปาวๆ ว่ามีสัญญาแต่งงานกับคุณโม่โม่ ทางอีกฝั่งก็กำลังสร้างความอบอุ่นให้กับคุณโม่โม่ แล้วเธอล่ะเป็นอะไร?
เธอรู้ดีว่าคุณชายมหาเศรษฐีเช่นเขานั้น มีผู้หญิงหลายคนก็เป็นเรื่องปกติดี ทว่า ทำไมเธอถึงเป็นหนึ่งในนั้นล่ะ?
เธอก็ไม่ได้มีความทะเยอทะยานสูงอะไร ปกติก็ใช้ชีวิตเป็นคนปกติธรรมดาทั่วไป ก็แค่อยากจะหาคนที่รักเธอจริงๆ และเธอก็รักคนคนนั้นพร้อมทั้งใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าเป็นหยูเฉิน หลังจากนั้น เธอก็เคยสงสัยว่าจะเป็น โหมวยู่หรือเปล่า แต่ว่าตอนนี้มาดูแล้ว … เขาก็ไม่ใช่คนดีสำหรับเธอ
“ผมได้เรียกให้คนจัดเตรียมอาหารเย็นให้พี่” หลีซินลองเปลี่ยนบรรยากาศดู “คืนนี้พี่สะใภ้อยากกินอาหารเย็นอะไร?”
เมื่อพูดถึงเรื่องกิน ชางหลิงพลันนึกถึงอาหารในโรงอาหารของเซิ่งซื่อ พลันส่ายหน้าไปมาอย่างเบื่อหน่ายเต็มที
เธอกินพวกอาการผัดผักไม่ไหวจริงๆ เมื่อนึกถึงรสชาตินั้น จนตอนนี้เธอยังไม่มีความหิวเลย ตอนนี้เธอมีเชื่ออย่างมีเหตุผลแล้วว่าโหมวยู่จงใจจัดการเธออยู่
“วันนี้ไม่กินแล้วแหละ พรุ่งนี้คุณช่วยฉันเตรียมข้าวกล่อง ฉันจะเอาไปข้าวไปที่บริษัท” ชางหลิงบ่นไปเรื่อย พร้อมทั้งวิ่งไปอย่างโมโห
หลีซินที่ไม่เข้าใจเรื่องราวอะไรเลย ว่าอาหารที่เซิ่งซื่อมันรสชาติแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?
ชางหลิงกลับไปที่ห้องของตนเองคนเดียว บนตัวที่มีริบบิ้นงานปาร์ตี้อยู่ยังทำความสะอาดไม่ค่อยสะอาด เธอรีบเข้าไปอาบน้ำทันที แล้วขึ้นเตียงเลย
ทำไมอารมณ์ถึงได้รู้สึกย่ำแย่ขนาดนี้?
ชางหลิงนอนอยู่บนเตียง ทำไมก็ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้อยู่ดี เป็นเพราะว่าคนที่ส่งดอกไม้ให้ ชางฉิงคือโหมวยู่ หรือเป็นเพราะว่าโหมวยู่เป็นคนส่งดอกไม้ให้ชางฉิงกันแน่?
กำลังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่นั้น ไฟในห้องก็สว่างจ้า มันแสบตาไปทั่วทั้งห้อง โหมวยู่ก้าวเท้ายาวเดินผ่านเข้าประตูมา
“นอนเร็วขนาดนี้เลย? เขามองนาฬิกาข้อมือ มันเพิ่งจะสองทุ่มเอง”
ชางหลิงหลับตาลง ไม่ยอมตอบเขา
โหมวยู่เดินมานั่งลงข้างริมขอบเตียงของเธอ ก็เห็นว่าผมยังไม่แห้งเลย เลยยื่นมือออกไปลูบคลำ
“อย่าแตะต้องฉันนะ” น้ำเสียงของชางหลิงเย็นชามาก
มือของโหมวยู่ค้างเติ่งทันที พลันค่อยๆ ดึงมือกลับมา
เขาไม่เคยเห็นชางหลิงในสภาพนี้มาก่อนเลย ด้วยนิสัยอารมณ์โกรธของเธอแล้ว เมื่อเกิดอารมณ์น้อยใจขึ้นมาก็จะระเบิดอารมณ์ออกมา หนักสุดก็ทำให้ทุกคนไม่อาจสงบได้ แต่ว่าวันนี้ เหมือนว่าเธอดำดิ่งไปกับเกาะกำแพงของตนเอง ในทางตรงกันข้ามกันทุกอย่าง
“เป็นเพราะว่าชางฉิงเหรอ?” โหมวยู่กำลังจัดระบบตรวจสอบความก้าวหน้าของชางหลิงที่บริษัทในวันนี้ เรื่องที่ทำให้เธอไม่สบายใจเช่นนี้ น่าจะเป็นเพราะว่าตำแหน่งชางฉิงสูงกว่าเธอ เธอเลยรู้สึกอัดอั้นจนเสียใจ
ชางหลิงเอาผ้าห่มคลุมโปง แล้วก็เงียบต่อ
ก็ทำเหมือนเธอเป็นชางฉิงก็แล้วกัน
“ถ้าคุณมีความสามารถจริงๆ ก็น่าจะทำได้ ต้องหาวิธีชนะเธอให้ได้” โหมวยู่ไม่เคยมีประสบการณ์คบหากับผู้หญิงมาก่อน เมื่อเห็นอาการของชางหลิงเป็นแบบนี้ เขาก็ได้แต่ขมวดคิ้วตาม
โหมวยู่ไม่พูดก็ดีอยู่แล้ว พอพูดถึงชางหลิงความรู้สึกไม่มีความสุขมันยิ่งทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ
เธอไม่ได้เก็บเอาชางฉิงมาไว้ในสายตาเลย เพราะว่าเธอเชื่อมั่นในตนเองกว่าเก่งกว่าชางฉิงอยู่แล้ว ทว่า เขาคิดอะไรของเขาอยู่? เรื่องเมื่อวานยังไม่ได้จัดการเลย วันนี้เอาเกลือมาโรยปากแผลเธออีกแล้ว ชางหลิงยังสงสัยด้วยซ้ำว่าเขาไปตกลงอะไรกับชางฉิงไว้หรือเปล่าที่จงใจมาทรมานเธออยู่เนี่ย
“ฉันอยากอยู่คนเดียว เชิญคุณออกไป” ชางหลิงเอ่ยปากพูดด้วยความเย็นชา
โหมวยู่หรี่ตามอง
น้ำเสียงของเธอคืออะไรกันแน่? เชิญเขาออกไปเนี่ยนะ?
เขารู้ว่าวันนี้เธอจะต้องมีอารมณ์แน่ๆ ขนาดนายท่านต้องการให้เขาไปกินข้าวที่บ้านด้วยเขายังปฏิเสธเลย สิ่งแรกก็คือต้องกลับมาปลอบโยนเธอ แต่เธอดันพูดกับเขาว่า เธอไปคิดถึงคนอื่น?
“ตามใจคุณ” โหมวยู่พยายามเก็บงำความโกรธเอาไว้ สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้พูดออกมา เขาลุกขึ้น และเดินจ้ำอ้าวออกไป
ถ้าขืนอยู่ต่อไป เขาคงต้องถูกอารมณ์โกรธของเธอทำให้ตายไปแน่นๆ
ในห้องเริ่มกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง ชางหลิงเลิกผ้าห่มขึ้นเพื่อเอาตัวเองออกมา
ปล่อยเขาไป เธอจะไม่สนใจเขาแล้ว!
โหมวยู่เองก็อึดอัดหลายเท่าตัว พลันเดินลงมาชั้นสอง ห้องรับรองโดยเฉพาะพวกเขากำลังมีสาวๆ สวยๆ เต็มไปหมด ท่ามกลางแสงไฟที่ส่องลงมา เหล่าบรรดาหญิงสาวพลันใช้ร่างกายอันเย้ายวนบิดย้ายไปมา ท่ามกลางแสงไฟสาดส่องไปทั่วทุกสี ฉินซางนั่งกอดคนทั้งซ้ายขวาต้วนเหิงก็นั่งดื่มเหล้าไปด้วย
หลีซินก็เป็นคนสบายๆ อยู่แล้ว แต่หลังจากที่ชางหลิงมาแล้ว ก็ถูกบีบให้วุ่นอยู่กับเรื่องพี่สะใภ้ใหญ่ของบ้านตนเอง
โหมวยู่ใช้เท้าข้างเดียวเตะไปประตูห้องรับรอง จนทำให้ฉินซางที่กำลังถลำลึกความสวยของสาวงามตกใจทันที
“พี่ใหญ่?” ฉินซางกำลังหมกมุ่นอยู่กับทฤษฎีอยู่ เมื่อเห็นว่าสีหน้าของโหมวยู่ดูไม่ดีนัก คำพูดที่หลุดออกมาจากปากก็กลืนลงคอไปแทน
โหมวยู่เริ่มระเบิดอารมณ์รัศมีอาฆาตนั้นมันไม่ใช่เรื่องตลก
โหมวยู่จ้องมองผู้หญิงเหล่านี้อย่างเย็นชาต้วนเหิงเข้าใจความหมายของเขาดี เลยใช้สายตาส่งสัญญาณให้ฉินซาง
“ได้ๆๆ ออกไปก่อนทั้งหมดนี่แหละ” ฉินซางเริ่มรำคาญ ได้แต่ไล่ผู้หญิงทั้งห้องออกไป
โหมวยู่เลือกโซฟาที่สะอาดและนั่งลงต้วนเหิงไปปรับแสงไฟในห้อง เพลงก็หยุดทันที
“ดูจากสภาพแล้ว ไปทะเลาะกับนายท่านของนายมาล่ะสิ?”ต้วนเหิงเทเหล้าให้โหมวยู่
โหมวยู่ไม่ได้ตอบ แต่รับแก้วเหล้าไป แล้วดื่มหมดแก้ว
ฉินซางกับต้วนเหิงสบตากัน เพราะรู้สึกว่าบรรยากาศมันแปลกๆ อยู่
“ไม่ใช่ว่านาย ไปทะเลาะกับคนที่บ้านแกคนนั้นมาใช่ไหมเนี่ย” ไม่เสียแรงที่ฉินซางเป็นผู้มากความสามารถในเรื่องนี้ ดูแวบเดียวกับจับทางได้
โหมวยู่เงยหน้าขึ้น แล้วก็หยิบขวดเหล้าเอาเอง และเทลงในแก้วของตนเอง
“พอเลย” ฉินซางเอนตัวลงบนโซฟาอย่างสบายใจ “ถูกฉันเดาถูกแล้ว แต่ว่า มันมีเรื่องน่าอึดอัดตรงไหนกัน? อารมณ์โมโหของเด็กน้อยนั่น จับใครได้ก็จะโกรธทุกที”
มือของโหมวยู่ค้างเติ่งทันที พลันใช้สายตาคมกริบกวาดตากลับมา “เธออารมณ์เสียหรือเปล่าแล้วนายยุ่งอะไรด้วย?”

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

Options

not work with dark mode
Reset