ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 67 ฉันจะรอคุณที่นี่นะ

ใบหน้าโม่โม่ซีดขาว
หลายปีมาแล้ว เพื่อเข้าใจตระกูลโหมวมากขึ้น พ่อของเธอพูดเรื่องราวตระกูลโหมวโม่เซิ่งสามตระกูลให้ฟังแล้ว เรื่องอดีตของคนยุคก่อน เธอก็เคยฟังมาบ้างแล้ง แต่ว่าผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว โหมวยู่ก็อยู่ในกองทหารมานานหลายปี เธอคิดว่าเขาจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วเสียอีก
เธอก้มหน้าลงไม่พูดอะไรอีก
โหมวยู่เงียบและกินยาหนึ่งเม็ด ดื่มน้ำตามลงไป ต่อมาเขาก็ลุกขึ้นและเดินออกไป
พอออกจากห้องทำงาน เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“ต้วนเหิง เรื่องของตระกูลโม่จัดการไปถึงไหนแล้ว?” เขาโทรเร่ง
“ใกล้เสร็จแล้ว” ต้วนเหิงตอบกลับ “ทำไมเหรอ? คุณโม่มาเร่งนายอีกแล้วเหรอ?”
โหมวยู่ไม่ได้ตอบเขา แค่เตือนไปว่า “นายเร่งมือหน่อย ฉันไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุกลางคัน”
เขาวางสายและลงลิฟต์ไปทันที
โม่โม่ยืนอยู่ในห้องทำงานโหมวยู่ เธอมองดูทุกอย่างภายในห้องนั้น ก็รู้สึกตัวเองเหมือนถูกน้ำเย็นรดหัว
ถ้าเพียงแค่เพราะโหมวยู่ไม่ชอบเธอ เธอยังรู้สึกมีความหวัง แม่บอกกับเธอเสมอว่า ความรักสามารถพัฒนากันได้ โหมวยู่แค่เพราะมีปมฝังใจจึงไม่อยากแตะต้องเธอ รอเขาดีขึ้นแล้ว แต่งงาน เธอเชื่อว่าเขาไม่ปฏิเสธเธออีกแน่ ถ้าเพราะเขาชอบผู้หญิงอื่น เธอสามารถกำจัดออกทีละคนได้ ไม่ให้ใครหน้าไหนมีโอกาสได้เข้าใกล้โหมวยู่อีก
แต่ตอนนี้เธอพึ่งรู้ตัวว่า โหมวยู่เกลียดเธอ เพราะเขาเกลียดคนตระกูลโม่ ดังนั้นจึงเกลียดเธอไปด้วย
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอรีบปรับอารมณ์ ค่อยรับสาย
“โม่เอ๋อ คุยกับโหมวยู่เป็นยังไงบ้าง? ทางนี้พวกเราคุยกับโรงแรมที่บ้านแล้วนะ ลูกคิดหรือยังว่าจะจัดที่ไหนกัน” เสียงของพ่อโม่โม่โม่หยวนผิง
“หนู……หนูยังไม่…… โหมวยู่ยังไม่ตกลง……”
อีกฟากหนึ่งของสายเงียบสักพัก “ทำไมเรื่องแค่นี้ก็ยังทำไม่ได้? เธอรู้ไหม ตอนนี้เมืองหนานมีคนมากมายกำลังจ้องมาที่ธุรกิจของตระกูลโม่? โครงการมากมายในเมืองถงของเราก็ถูกแย่งไปแล้ว งานแต่งของเธอกับโหมวยู่ล่าช้ามามากแล้ว? เธอจะให้พวกเราเอาหน้าไปไว้ไหน? พวกเราใช้เงินมากแค่ไหนเพื่อที่จะเลี้ยงดูเธอ ให้เธอเป็นหญิงผู้ดีอันดับหนึ่งในเมืองหนาน ทำไม……แค่ผู้ชายคนเดียวเธอก็ยังจับไว้ไม่อยู่?”
“พ่อ” โม่โม่เม้มปากไว้ เกือบจะร้องไห้ออกมา “พ่อมีสิทธิอะไรโทษทุกอย่างที่หนู? โหมวยู่ไม่ยอมแต่งงานกับหนู เป็นเพราะเรื่องแม่ของเขาต่างหาก”
“พูดบ้าอะไรกัน?” โม่หยวนผิงโมโหมาก “ตอนที่แม่เขาตายเขาพึ่งอายุเท่าไหร่กัน? เขาจะรู้อะไรในตอนนั้น! เธอรีบเลยนะ อย่าชักช้าอีก เมื่อก่อนเธอก็ทำได้ดีนี่? ฉันได้ยินว่าช่วงนี้มีผู้หญิงสกุลชางเข้าใกล้โหมวยู่มาก เธอเร่งหน่อย กำจัดมันออกไปซะ”
“แต่ว่า……” แต่ว่า ครั้งก่อนโหมวยู่เตือนเธอแล้ว เรื่องที่เธอทำในเมื่อก่อน เขาเหมือนจะรู้แล้วด้วย ถ้าตอนนี้ลงมือละก็
“เธอเป็นลูกสาวของฉันโม่หยวนผิง ถึงฟ้าถล่มลงมาฉันจะช่วยแบกไว้ กลัวอะไร? คิดให้ดีนะ ถ้าแต่งงานกับตระกูลโหมวไม่ได้ รอโหมวเจิ่งถิงตาย ตระกูลโหมวมีเหลือแต่สองพี่น้อง เธอคิดว่าในเซิ่งซื่อพวกเราตระกูลโม่ยังจะมีที่ให้ยืนไหม? พวกเราทั้งบ้านฝากความหวังไว้ที่เธอนะ อย่าทำให้พวกเราผิดหวัง”
โม่โม่ได้ยินเสียงทางนั้น เธอก็แอบกำหมัดไว้แน่น
“หนูรู้แล้วค่ะ”
เธอเป็นหญิงผู้ดีอันดับหนึ่งในเมืองหนาน เป็นหญิงที่ทรงเกียรติ พวกนี้เป็นเพราะเงินสนับสนุนจากตระกูลโม่ แต่ช่วงหลายปีมานี้ ธุรกิจตระกูลโม่ซบเซาลงไปมาก โดยเฉพาะช่วงนี้ ยิ่งเสียทุนทรัพย์กับอสังหาริมทรัพย์ไปมาก การแต่งงานเข้าตระกูลโหมว เป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยตระกูลโม่ให้รอดพ้นจากวิกฤตได้
โม่โม่วางสายไป สายตาซ่อนความคิดชั่วร้าย
โหมวยู่เป็นของเธอ ไม่ว่าเขาจะคิดยังไงกับเธอ รักก็ดี เกลียดก็ดี ยังไงเป้าหมายของเธอก็มีแค่แต่งงานเป็นภรรยาของเขาให้ได้
ความร่ำรวยและอำนาจทุกอย่างของตระกูลโหมว ถ้าเธอไม่ได้ คนอื่นก็อย่าคิดว่าจะได้เหมือนกัน
——
โหมวยู่เข้าไปโรงจอดรถใต้ดิน กำลังเดินไปถึงข้างรถตัวเอง แต่กลับไม่คิดว่าชางฉิงจะออกมาจากหลังรถของเขา
ไม่เจอกันหลายวัน สีหน้าเธอไม่เหมือนกับแต่ก่อน ใบหน้าซีดขาว ใบหน้าทรุดโทรม ท่าทางยังไม่ได้แต่งหน้ามา ก็เหมือนกับชางหลิงอยู่เหมือนกันนะ
“คุณชายรอง” ชางฉิงดวงตาแดงก่ำ “ในที่สุดก็เจอคุณแล้ว”
“เธออยู่ตรงนี้ทำอะไร?” โหมวยู่ถามทั้งที่รู้อยู่แล้ว
“ฉันโทรหาคุณไม่ได้ และไม่รู้ว่าควรไปตามหาคุณจากไหนดี ก็เลยต้องรออยู่ที่นี่” ตอนที่พูดคำนี้ หางตาเธอเริ่มมีหยดน้ำตา ท่าทางดูน้อยอกน้อยใจมาก
โหมวยู่เลิกคิ้วขึ้น ไม่ได้พูดอะไร
“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันรู้ว่าฉันทำเรื่องที่น่าอับอาย ทำให้คุณเสียหน้า แต่ว่า ฉันมีเรื่องทุกข์ใจจริงๆ เป็นชางหลิง ชางหลิงตั้งใจใส่ร้ายฉัน……คุณชายรอง ขอแค่คุณยอมช่วยฉัน พวกเรามาคุยกัน แค่เวลากาแฟแก้วเดียว ได้ไหมคะ?”
โหมวยู่ลังเล เขามองความพยายามของชางฉิงต่ำไป หลังจากที่ถูกไล่ออกจากเซิ่งซื่อแล้ว กลับยังกล้ามาหาเขาอีก
เขาขึ้นรถ ชางฉิงดีใจ รีบเปิดประตูรถข้างหน้า แต่โหมวยู่ยื่นมือไปวางเสื้อคลุมตัวเองลงบนที่นั่งข้างหน้า ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ
ชางฉิงกัดปาก เลยถูกบีบให้ไปนั่งข้างหลังแทน
และในตอนนี้เอง โม่โม่ก็เดินออกมาจากลิฟต์ เห็นภาพชางฉิงขึ้นรถไปพอดี……
ร้านกาแฟ
โหมวยู่เลือกที่นั่งใกล้หน้าต่าง
ชางฉิงใช้ช้อนจิ้มขนมในจาน ร้องไห้หนักมาก
“คุณชายรอง คุณก็รู้ แม่ฉันไม่ใช่ภรรยาคนแรก ชางหลิงกับฉันเป็นแค่พี่น้องต่างแม่ หลังจากที่แม่ของเธอตายไป เธอก็โทษพวกเราทุกอย่าง ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันก็ถูกเธอรังแกมาตลอด เธอมีนิสัยอยากเอาชนะ ฉันมีนิสัยยอมคน ชอบถูกเธอแกล้งตลอด ครั้งนี้ต่างกัน แบบร่างนั้นเธอเอาให้ฉันเอง เธอบอกว่าเป็นการขอโทษที่ทำให้ฉันแท้งในตอนนั้น ตอนแรกฉันไม่อยากรับไว้ แต่ฉันรู้ว่า ฝีมือการออกแบบของฉันเทียบกับเธอไม่ติด และฉันก็ไม่อยากทำให้คุณชายรองผิดหวังด้วย ก็เลยรับเอาไว้ แต่ว่า……ฉันไม่รู้เลย เธอจะร้ายกาจแบบนี้ บอกว่าฉันขโมยผลงานของเธอ ยังร่วมมือกับคุณโม่ ขับไล่ฉันออกจากเซิ่งซื่อไป”
ชางฉิงดวงตาแดงก่ำ ท่าทางน่าสงสารมาก
เธอคิดว่าไม่เคยมีชายคนไหนที่เห็นเธออ่อนแอแล้วไม่สั่นบ้าง ขนาดหยูเฉินที่อยู่กับชางหลิงตั้งห้าปียังถูกเธอหลอกเลย ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นโหมวยู่ที่ไม่เคยมีความรักอีก?
เป็นดังนั้น สายตาของโหมวยู่มีความเห็นใจแล้วบ้าง
ได้ยินชางฉิงพูดบิดเบือนความจริงแบบนี้ ในสมองเขากลับคิดได้แต่ ตอนที่ชางหลิงถูกรังแกและท่าทางน่าสงสารแต่กลับยังคิดจะไปแก้แค้น
เขารู้สึกมาตลอดว่าชางหลิงมีชีวิตเหมือนดวงอาทิตย์น้อยๆ แต่ตอนนี้ดูแล้ว มีน้องสาวและครอบครัวแบบนั้น หลายปีมานี้ เธอกับเขาชีวิตก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่เลย แต่ว่า ไม่ว่าเธอจะอยู่ในสภาพไหน ก็ยังคงมองโลกในแง่ดีและก้าวหน้าต่อไป เธอเก่งกว่าเขามากจริงๆ
“งั้น เธออยากให้ฉันทำอะไร?” โหมวยู่ถามเธอ
ชางฉิงดวงตาเปล่งประกาย เธอคิดจะยื่นมือไปคว้ามือโหมวยู่ไว้ แต่เขาแค่ขยับออกเบาๆ จุดไฟแช็กในมือตัวเอง
ชางฉิงจับไม่โดนมือเขา แต่ก็ไม่ได้ถอดใจ
“คุณชายรอง ช่วยฉันหน่อยนะคะ ช่วยฉันไล่ชางหลิงออกจากเซิ่งซื่อที” ชางฉิงขอร้องเขา “ผู้หญิงที่มีความคิดชั่วร้ายแบบนั้น ไม่สมควรอยู่เซิ่งซื่อด้วยซ้ำ ไม่สมควรอยู่บริษัทคุณด้วย”
“เท่านี้เองเหรอ?” โหมวยู่เลิกคิ้วถามเธอ
คำพูดเขาเหมือนการให้ความหวังชางฉิง ความโลภถูกจุดประกายขึ้นในสายตาของเธอ เธอแสยะยิ้มออกมา “แน่นอน ถ้าเป็นไปได้ ฉันหวังว่าต่อไปจะไม่เห็นเธออีก”
“อยากฆ่าเธองั้นเหรอ?” น้ำเสียงโหมวยู่เย็นชาขึ้น
“ก่อนหน้านี้ฉันอยากฆ่าเธอจริง แต่ว่า ฆ่าเธอก็ง่ายเกินไป เทียบกับการฆ่า ฉันอยากให้เธอตายทั้งเป็นมากกว่า ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากให้เธอชื่อเสียงพังทลาย ใบหน้าถูกกรีดเป็นแผล ขังเธอไว้กับพวกนักเลง ทำให้เธอไม่กล้ามาหยิ่งผยองต่อหน้าฉันอีก!”
โหมวยู่หรี่ตาลง
ไฟแช็กของเขามีเสียงดังแกร๊งๆขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่ได้เงยหน้า แค่มองของในมือ ใบหน้าเย็นชา
ชางฉิงจ้องเขาไม่ละสายตา เธอคิดว่า โหมวยู่ไม่ชอบเธอเป็นแบบนี้หรือเปล่า ดูท่าเขาแล้ว เหมือนจะไม่กระทบอะไรเลย
พูดแล้วก็ใช่ เขาเป็น “ยมบาลผู้เย็นชา” ที่ทั้งเมืองหนานต้องหวาดกลัว ฝีมือพวกนี้ในสายตาเขาแล้ว แค่เรื่องง่ายๆ
“คุณชายรองวางใจได้ คุณแค่กำจัดชางหลิงออกไปแบบเงียบๆก็พอแล้ว ที่เหลือให้ฉันจัดการเอง ฉันจะไม่ทำให้มือคุณเปื้อนแน่นอน รอผู้ชายพวกนั้นเสร็จงานแล้ว ฉันจะทิ้งเธอไว้ที่หมู่บ้านเล็กๆ จะไม่ให้ใครรู้เด็ดขาด” ชางฉิงเห็นเขาไม่พูด ก็คิดว่าเขาเกิดความลังเล
“เธอรู้ไหม ทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย?” สายตาโหมวยู่เย็นชาลง
“ผิดกฎหมาย? เหอะ ขอแค่กำจัดชางหลิงได้ ถึงแม้ผิดกฎหมายแล้วยังไง? เธอทำให้ฉันเสียหน้าที่เซิ่งซื่อ ก็สมควรจะรับผิดชอบกับเรื่องโง่ๆที่ตัวเองทำ แม่ฉันเคยบอกกับฉันว่า ถ้าอยากได้ของอะไร ก็ควรจะมีฝีมือหน่อย คุณชายรอง คุณน่าจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าฉันนะ ใช่ไหม”
โหมวยู่เงียบ สายตาเย็นชา ไม่ได้พูดอะไร
“คุณชายรอง ฉันไม่ให้คุณช่วยฉันฟรีๆหรอก” ชางฉิงยิ้ม หยิบการ์ดห้องออกมาจากกระเป๋า นิ้วมือเรียวยาวของเธอ ดันการ์ดห้องไปไว้ตรงหน้าโหมวยู่
“คืนนี้ ฉันจะรอคุณที่นี่นะคะ”

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

Options

not work with dark mode
Reset