โหมวยู่ถอนหายใจ ความเจ็บปวดของแผ่นหลังเจ็บสะท้านไปถึงหัวของเขา อาการปวดหัวก็กำเริบขึ้นมาอีกครั้ง
“เซียวฉู่ ไปเรียกรถพยาบาล” โหมวฉี่ก็โล่งอก
“ไม่ต้อง” โหมวยู่ลุกขึ้น เลือดบนแผ่นหลังไหลออกมาไม่หยุด เขามองโหมวฉี่อย่างเย็นชา
“อะยู่” โหมวฉี่ดวงตาแดงก่ำ “กฎตระกูลโหมว เป็นอำนาจที่ฉันไม่สามารถขัดขืนได้ พ่อเลี้ยงดูฉันจนเติบใหญ่ ด้วยพระคุณนี้ ถึงแม้เขาจะผิดมากแค่ไหน ฉันก็จะช่วยพูดให้เขายกโทษให้กับนาย”
โหมวยู่เดินออกไปด้านนอก
“วันนี้นายก็รับรู้ได้แล้ว ฉันอยากจะช่วยเยียนหัว แต่ช่วยเอาไว้ไม่ได้” โหมวฉี่พูดต่อ “สิบปีมานี้ ฉันใช้ชีวิตอยู่ในความเจ็บปวด รู้สึกเสียใจอยู่ตลอดเวลา เสียใจที่ตอนนั้นทำไมฉันถึงรักเธอ ตอนนั้นฉันยังคิดอย่างไร้เดียงสาว่า ฉันไม่เอาอะไรแล้ว ขอแค่ได้ออกจากตระกูลโหมวและอยู่กับเธอตลอดไป แต่ว่า……”
แต่ว่าโหมวเจิ้งถิงไม่ยอมปล่อยพวกเขาไป
วันที่นัดกันจะไป เขาออกจากตระกูลโหมวไม่ได้
โหมวเจิ้งถิงรู้แผนการของเขา เพราะเขาอยากหนีไปพร้อมกับเซิ่งเยียนหัว ดังนั้นถูกแส้โบยหลังอยู่หลายครั้ง จนทำให้เขาเดินไม่ได้ และเซิ่งเยียนหัว ระหว่างทางที่รอเขาก็ถูกรถชน ดับคาที่เกิดเหตุ……
เขารู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่เขากลับทำอะไรไม่ได้
โหมวฉี่ที่อายุยี่สิบสองปีกับโหมวยู่ที่อายุสิบแปดปี ไม่มีแรงมากพอที่จะต่อต้านโหมวเจิ้งถิง
“ฉันไม่ใช่นาย” โหมวยู่พูดออกไปเสียงดัง เขาไม่ใช่โหมวฉี่ ดังนั้น ถึงแม้ต้องเสียทุกอย่างไป เขาก็จะไม่ให้เหตุการณ์ของน้าเกิดขึ้นอีกครั้ง
เขาเดินไปอย่างอ่อนแรง แต่ก็เดินออกจากประตูตระกูลโหมวได้
“คุณชายฉี่” เซียวฉู่มองดูแผ่นหลังของโหมวยู่ ก็ถอนหายใจ แต่ว่าเขาเป็นห่วงโหมวฉี่มากกว่า “ครั้งนี้เสี่ยงเกินไปแล้ว”
โหมวฉี่เก็บอาการความเศร้าใจ มือเขาวางไว้ที่เข่า กระตุกยิ้ม “นายไปสืบผู้หญิงคนนั้นมาสิ”
“ชางฉิงเหรอ?” เซียวฉู่ไม่เข้าใจ
“นายคิดว่า โหมวยู่จะชอบชางฉิงผู้หญิงแบบนั้นเหรอ?” โหมวฉู่แสยะยิ้ม “เซียวฉู่ ครั้งนี้ พวกเราโดนหลอกแล้วล่ะ”
โหมวฉี่เริ่มรู้สึกสนใจ เขาจะดูสิว่า ผู้หญิงแบบไหนกันแน่ ที่ทำให้โหมวยู่คนใจเย็นมีสติแบบนี้สติแตกได้
โหมวยู่วางแผนมาสามปี เก็บริบธุรกิจของตระกูลโม่ รวบรวมหลักฐานความผิดของโม่โม่ ก็เพื่ออยากจะยกเลิกงานแต่งและขับไล่ตระกูลโม่ออกจากเซิ่งซื่อ ตอนนี้ทุกอย่างกลับพังทลายลง เพราะผู้หญิงคนเดียว
น่าสนใจจริงๆ
——
ชางหลิงถูกขังไว้ตลอดทั้งคืน
เชือกที่หนาและหยาบมัดไว้ตรงแผลของเธอ ข้อเท้าที่แพลงข้างนั้นของเธอก็บวมใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ พอขยับก็รู้สึกเจ็บมาก
เธอนอนอยู่บนพื้น ปากก็ถูกผ้ายัดเอาไว้ ในห้องมืดมาก มีเพียงหน้าต่างเล็กๆที่ยังพอมีแสงสาดส่องเข้ามา บนพื้นเต็มไปด้วยกล่องลัง พื้นเปียกชื้นมีความเหม็นอับ ทำให้เธอรู้สึกอยากอ้วก
ทั้งหิวทั้งง่วง แต่เธอกลับไม่กล้านอน กลัวว่าตัวเองหลับตาแล้วจะตื่นขึ้นมาอีกไม่ได้
เธอไม่รู้ว่านายท่านโหมวอยากทำอะไร พอจับเธอมาแล้ว ก็โยนเธอไว้ในห้องนี้ ไม่สนใจ เธอเหมือนถูกโลกนี้ทอดทิ้งเลย
ตรงหน้าต่างมีเสียงดังขึ้น ต่อมาหน้าต่างทั้งบานก็ถูกเปิดออก ชางหลิงดิ้นรน ส่งเสียงร้องออกไป
คนคนนั้นปีนหน้าต่างเข้ามา ชางหลิงถูกปิดปากเอาไว้
“ชวู่!” คนที่มาก็พูดเสียงเบา “พี่สะใภ้ ผมเอง”
ชางหลิงเบิกตาโพลงโต ก็ถึงมองออกว่าเขาเป็นใคร
ผ้าในปากถูกดึงออกมา ชางหลิงตกตะลึง “หลีซิน นายมาได้ยังไง ฉันบอกให้นายหนีไปไง?”
“ผมจะหนีได้ยังไง กลับไปก็โดนด่าน่ะสิ” หลีซินพูดแล้วก็แกะเชือกให้ชางหลิง
ชางหลิงมองเห็นบาดแผลบนตัวหลีซินด้วยแสงอันริบหรี่ ชุดสูทที่ตอนแรกยังสะอาดสะอ้านตอนนี้กลับเละไม่เป็นท่า ใบหน้าก็มีรอบช้ำหลายจุด
ดูท่าแล้ว เขาไม่ได้หนีไปไหน แต่ตามมาตลอดทั้งทาง ชางหลิงรู้สึกซาบซึ้งใจ และไม่รู้ว่าควรพูดยังไงดี
ด้านนอกมีเสียงปลดล็อกดังขึ้น ทั้งสองใจเต้นตึกตัก หลีซินรีบปล่อยชางหลิงออก และหลบไปที่หลังกล่อง
มือของชางหลิงขยับได้แล้ว เธอรีบเอาผ้ามายัดปากไว้อีกที เชือกก็คล้องไว้ที่มือ ทำท่าเหมือนครั้งแรกที่ถูกจับมา
ประตูเปิดออกแล้ว ผู้ชายเดินเข้ามาหาชางหลิง นั่งลงข้างๆเธอ และดึงผ้าออกมาจากปากเธอ
“พวกนายอยากทำอะไร?” ชางหลิงเงยหน้าขึ้น มองด้วยแววตาดื้อรั้น
ผู้ชายยิ้มหัวเราะ หยิบมีดด้านหลังออกมา
ชางหลิงหวาดกลัว ถอยหลังไปเรื่อยๆ หลีซินก็ตกใจ เขากำลังจะพุ่งออกไป ผู้ชายคนนั้นกลับพูดขึ้นมา
“กลัวอะไร นายท่านสั่งมาว่าให้ปล่อยเธอได้แล้ว”
ปล่อยเธอ? ชางหลิงใจสั่นคลอน
หลีซินหยุดชะงักทันที
ผู้ชายจับมือชางหลิงไว้ ชางหลิงขัดขืนไม่ได้ ผู้ชายเห็นเชือกในมือเธอได้แกะออกแล้ว ก็ขมวดคิ้วเป็นปม
“เก่งจริงนะ อยากหนีงั้นเหรอ?” ผู้ชายกวาดตามองภายในห้อง ไม่เห็นสิ่งผิดปกติ คิดว่าเธอคงแกะเอง
“แต่ว่า ถึงเธอจะหนีจากห้องนี้ได้ แต่ก็อาจจะหนีออกจากเมืองนี้ไม่ได้นะ” ผู้ชายแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์ ชางหลิงยังไม่ทันได้คิดที่เขาพูดมาหมายความว่ายังไง เขาเอามีดในมือกรีดข้อมือเธออย่างรวดเร็ว
“โอ๊ย!” ชางหลิงกรีดร้อง เลือดอุ่นๆนั้นไหลออกมาจากข้อมือของเธอ
“นายท่านบอกว่า ปล่อยเธอได้ แต่จะมีชีวิตรอดออกไปได้ไหม ก็ต้องดูฟ้าลิขิตแล้วล่ะ”
หลีซินไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ เป็นจริงดังว่า ความโหดเหี้ยมอำมหิตของนายท่านโหมวไม่ได้เป็นเพียงข่าวลือ เขายังคิดว่านายท่านจะปล่อยชางหลิงไปจริงๆเสียอีก ไม่คิดว่าจะปล่อยให้เธอเลือดไหลจนหมดตัว
เขาเตรียมตัวกำลังจะออกไปจัดการผู้ชายคนนั้น แต่กลับเห็นสายตาของชางหลิง
ผู้ชายมัดข้อมือชางหลิงเอาไว้อีกครั้ง ไม่ทันได้สังเกตสีหน้าชางหลิง เธอจ้องหลีซิน เตือนเขาอย่าพึ่งออกมา
ถ้าต่อสู้ตอนนี้ คงจะทำให้ด้านนอกแตกตื่นด้วย ถึงตอนนั้น ก็คงมีการต่อสู้กันอีกครั้ง รอเขาสู้เสร็จ เลือดของเธอคงไหลหมดตัว
หลีซินเข้าใจความหมายของเธอ ข่มใจไว้ไม่ออกไปฆ่าคนตอนนี้
“คุณชาง สวดมนต์ภาวนาให้ตัวเองแล้วกัน” ผู้ชายเตะร่างกายของชางหลิง จากนั้นก็เก็บมีดและเดินออกไป
ด้านนอกมีเสียงล็อกประตูดังขึ้น หลีซินรีบวิ่งออกมาจากหลังกล่อง และรีบแกะเชือกให้กับเธอ
“พี่สะใภ้ ขอโทษจริงๆ ขอโทษด้วย……” เธออยู่ตรงหน้าเขาแล้ว แต่เขากลับหยุดคนคนนั้นทำร้ายเธอไม่ได้
ชางหลิงเจ็บจนพูดไม่ออก เธอกัดฟันอดทน ปล่อยให้หลีซินแกะมัดให้ตัวเอง
หลีซินกดแผลเธอไว้ เห็นชายกระโปรงเธอฉีกขาด เขาก็ฉีกมันลงมามัดไว้ที่ข้อมือเธอ
ชางหลิงเจ็บจนเหงื่อไหลท่วมตัว เธอพิงกำแพงไว้ เลือดบนข้อมือซึมออกมาจากผ้า ทำให้กระโปรงเธอเปื้อนเลือดไปหมด มือซ้ายและขาขวาได้รับบาดเจ็บ เธอรู้สึกเจ็บจนวิญญาณแทบจะออกไปร่างแล้ว
หลีซินเดินไปข้างประตู เขามองลอดตรงช่องประตูออกไป ก็เห็นคนด้านนอกออกไปหมดแล้ว
“พี่สะใภ้” หลีซินย้อนกลับไป เห็นเธอทรมานมาก ตัวเขาเองก็ร้อนรนใจ
“พวกเขาไปหรือยัง?” เสียงของชางหลิงสั่นเทา
“อืม” หลีซินพยักหน้า “ยังดีที่ผมตามมา ที่นี่ห่างจากตัวเมือง ขนาดถนนก็ยังไม่มีเลย รอบข้างก็ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์”
ถ้าเขาไม่ตามรถมาตลอดทาง โหมวยู่พวกเขาไม่มีทางรู้แน่ว่าชางหลิงถูกพวกเขาขังเอาไว้ที่โกดังร้าง
เดิมเป็นโกดังชั่วคราวที่สร้างขึ้นเพื่อกังหันลม หน้าหลังไม่มีทั้งหมู่บ้านและร้านค้า บนแผนที่ก็ยังหาไม่เจอด้วย
แค่ชางหลิงคนเดียว คงหนีออกไปจากที่นี่ไม่ได้
ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 79 ไปสืบผู้หญิงคนนั้น
Posted by ? Views, Released on September 26, 2021
, ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก
เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง