มือจับต้นคอเธอ จับหน้าเธอแหงนขึ้น “เฉียวเฉียว กล้าหน่อยได้ไหมเพื่อผม?”
เฉินเฉียวมองไปที่เขา “คุณไม่กลัวเหรอ?”
กลัวอะไร
“คุณยั่วฉันซะขนาดนี้ ฉันติดคุณแล้ว คุณอยากจะทิ้งยังไงก็ทิ้งไม่ได้ จะทำยังไงได้”
ดวงตาของซางหลินจุนเข้มขึ้นราวกับถูกย้อมด้วยหมึก“ ถ้าอย่างนั้นคุณควรทำตามที่คุณพูดดี ทำให้ผมทิ้งคุณไม่ได้จริงๆ”
เฉินเฉียวใจอ่อนและเธอไม่ได้พูดอะไรในท้ายที่สุด
ในตอนนี้จู่ๆประตูด้านนอกก็เปิดออก
พยาบาลเดินเข้ามาจากด้านนอก เธอไม่คิดว่าจะได้เห็นภาพแบบนี้ เธอตะลึงแล้วรีบออกไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อ เฉินเฉียวได้ยินการเคลื่อนไหวหันไปมอง และเอามือของซังหลินจวินออก และลุกจากตักเขา ซังหลินจวินอารมณ์ดีนั่งอยู่ที่นั่นและยิ้มให้เธอ
เขาเหนื่อยและอ่อนเพลียเล็กน้อยเพราะความเจ็บป่วยของเขา แต่รอยยิ้มดังกล่าวอยู่บนใบหน้าของเขาและย้อมดวงตาของเขาให้สดใสซึ่งทำให้ความกังวลของเฉินเฉียวคลายลงเยอะ
“ อย่ามัวแต่ยิ้ม ไข้สูงซะขนาดนี้ยังยิ้มออก”เฉินเฉียวดุเขา
เขานั่งอยู่ที่นั่นพร้อมกับรอยยิ้มที่กว้างขึ้น“ ที่แท้คุณนี่บ้าอำนาจจริงๆ แม้แต่ยิ้มยังห้ามผม”
เฉินเฉียวไม่สนใจเขาลุกขึ้นและเปิดประตูห้อง เธอเตรียมใจไว้แล้วแต่แววตาของพยาบาลยังคงทำให้เธออาย
เธอแกล้งทำเป็นนิ่ง.
เขาไข้ขึ้นค่ะ ดูเหมือนว่าจะไข้สูงด้วย ”
เดี๋ยวไปดูให้นะคะ
พยาบาลตรวจร่างกายเขาบอกให้เขานอนลงบนเตียงให้น้ำเกลือแล้วก็ออกไป
เฉินเฉียวไปกดน้ำจากเครื่องให้เขา เขานั่งพิงอยู่หัวเตียงมองเธออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล เฉินเฉียวไม่ได้หันไป แต่รู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองมา”คุณมองฉันทำไม”
ซังหลินจวินได้แต่ยิ้มไม่ได้พูดอะไร มือก็หยิบเอกสารข้างๆมาดู
เฉินเฉียวเดินไปส่งน้ำให้เขา “ไม่ต้องดูแล้ว พยาบาลบอกว่าคุณต้องดื่มน้ำพักผ่อนเยอะๆ”
ซังหลินจวินดื่มน้ำแล้วเปิดลิ้นชักข้างๆหยิบซองแดงอันนั้นขึ้นมา
“ทำอะไร?”เฉินเฉียวมองไปที่ซองสีแดงซึ่งเป็นซองที่เธอให้เขาและเงิน 20,000 หยวนก็ยังอยู่ในนั้น
“ รู้แล้วก็ยังจะถาม”
“ รู้ที่ไหนล่ะ? ผมไม่รับ
“ คุณมาเยี่ยมผม แล้วยังให้เงินอีก ไม่อายหรอ?”ซังหลินจวินรู้สึกทั้งขำทั้งโกรธถือซองจดหมายสีแดงและเคาะที่หน้าผากของเธอเบาๆ “คุณคิดเราคบกันเพื่อสิ่งนี้หรอ?”
“ น้อยไปหรอ”เฉินเฉียวจงใจพูดว่า: “เยอะๆฉันไม่มีหรอกนะ”
ซังหลินจวินโดนยั่วโมโหก็ขว้างซองสีแดงไปทางเธอ ด้วยสัญชาตญาณเธอจึงแบบมือรับ
เขาเอนหลังบนเตียงเหลือบมองเธอและพูดด้วยท่าทางโกรธ ๆ : “เฉินเฉียวถ้าพูดถึงเรื่องจิตใจ น้องสาวคุณดีกว่าคุณเยอะ”
ไม่พูดก็ไม่เป็นไร แต่พอพูดถึงเรื่องนี้ เฉินเฉียวสีหน้าบึ้งตึงทันที
เธอดึงเก้าอี้และนั่งลงข้างเตียงเก็บซองสีแดงลงกระเป๋าพร้อมกับมองเขา”คุณดูออกไหมว่าเฉินอินคิดยังไง”
“ผมไม่สนใจความคิดคนอื่น”ซังหลินจวินหันหน้ามามองเธออย่างจริงจังและแววตาของเขาก็จริงจังมาก“ เฉินเฉียว พูดเรื่องความคิดของคุณดีกว่าให้ผมไปพูดเรื่องคนอื่น ผมสนใจคุณมากกว่า ”
ดวงตาของเขามองอย่างลึกซึ้ง
ทะลุปรุโปร่งอะไรเช่นนี้
ราวกับว่าจะมองทะลุไปในหัวใจเธอ
เฉินเฉียวโดนมองจนหัวใจเต้นแรง”คุณเดาใจฉันออกหมดแล้ว มีอะไรต้องพูดอีก”
ซังหลินจวินเม้มริมฝีปากและยิ้ม “ผมเดาออกหรอ?”
“……”เธอไม่ตอบ
“ใช่หรอ?”เขาถามอีกครั้ง มีรอยยิ้มมากขึ้นในดวงตา
“……”เฉินเฉียวยังคงนิ่งเงียบจ้องมองเขา
ซังหลินจวินกลับไปที่หัวข้อที่เธอเพิ่งพูดไป “งั้นเรามาคุยกันเรื่องเฉินอินกันเถอะ”
“ เธอชอบคุณ คุณดูออกใช่ไหม”เฉินเฉียวถาม
หรอ?ซังหลินจวินส่ายหัว “ผมไม่ได้สนใจอะไรมาก”
“ เธอให้ซุปไก่คุณคุณยังไม่สนใจอีกหรอ”
ซังหลินจวินเหลือบมองไปรอบ ๆ โต๊ะอาหาร “บนโต๊ะนั้นมีตั้งแต่ โจ๊ก ซุปไก่ รังนก แม้แต่ซี่โครงก็มี แต่ละอันพนักงานหย่วนเซิ่งส่งมาให้ ถ้าส่งอันนี้มาแล้วให้ผมใส่ใจพวกเขา ผมคงปวดหัวตาย”
เฉินเฉียวมองตามสายตาของเขาและมองไปที่แถวกระติกน้ำร้อนทำให้เธอพูดไม่ออก
คุณชายก็คือคุณชายอยู่วันยังค่ำแหละนะ
“ประธานซังเป็นที่รักของทุกคนจริงๆ!”เฉินเฉียวถอนหายใจ
“ เมื่อเทียบกับพวกเขาแล้วคุณแย่มาก หัดเรียนรู้ไว้”
เฉินเฉียวเบ้ปากกล่าวว่า “มีคนให้ตั้งเยอะแล้ว ขืนฉันให้อีกจะไม่กลายเป็นส่วนเกินหรอ”
“ถ้าคุณให้พวกนี้ละก็เป็นของส่วนเกินแน่ๆ”ซังหลินจวินมองเธอ“ แต่คุณสามารถให้สิ่งที่คนอื่นให้ผมไม่ได้ได้ อย่างเช่น…
“หยุดนะ ฉันอยากคุยกับคุณเรื่องปกติเหมือนชาวบ้านชาวช่องเขา”เฉินเฉียวตัดคำพูดของเขาทันที “ไหนๆคุณก็ไม่ได้สนใจเฉินอิน ก็อย่าให้ความหวังอะไรเธออีก เธอจะได้ไม่เข้าใจผิดนะ”
เฉินเฉียวนิ่งไปชั่วขณะ คิดถึงท่าทางที่เฉินอินหลงไหลเขาก็กังวล”เธอหลงหัวปักหัวปลำฉันกว่าว่าเธอจะเจ็บ”
ซังหลินจวินรู้สึกช่วยไม่ได้ “ผมยังไม่เคยได้ส่งสัญญาณอะไรให้เธอเลย”
เฉินเฉียวอยากจะพูดต่อ และก็ได้แต่ถอนหายใจ: “เอาเป็นว่าเธอคิดว่าคุณชอบเธอมากๆ”
“มันง่ายมาก คุณบอกความจริงกับเธอแค่นั้น”ซังหลินจวินมองไปที่ เฉินเฉียว ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “บอกเธอว่า คนที่ผมชอบคือคุณ ไม่ใช่เธอ นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ทำให้เธอตัดใจ”
คนที่ผมชอบคือคุณ…
นี่อาจเป็นคำสารภาพที่ง่ายที่สุด
เฉินเฉียวส่ายหัวปฏิเสธ”ไม่ได้นะ”
ทำไมไม่ได้?
“ถ้าเป็นฉันเฉินอินต้องเสียใจมากแน่ๆ”
“เป็นเพราะผมหรอที่ทำให้ความสัมพันธ์พี่น้องเกิดการร้าวฉาน?”
ใช่แน่ๆเฉินเฉียวพยักหน้า “เธอชอบคุณมากจริงๆ”
ซังหลินจวินดูเหมือนจะไม่เข้าใจและส่ายหัวให้กับคำพูดของเฉินเฉียว”ชอบมากจริงๆ” ในตอนท้ายกล่าวเพียงว่า: “ในอนาคตผมคงจะปฏิเสธความหวังดีของเธอแบบนี้ แต่ว่าเฉียวเฉียว คุณก็ต้องเตรียมใจด้วยนะ ในอนาคตผมกับคุณต้องเตรียมใจเผชิญหน้ากับมัน”
คำว่าอนาคตทำให้จิตใจ เฉินเฉียวปั่นป่วน
ถ้าเธอและซังหลินจวินคบกันจริงๆ คนที่จะต้องเผชิญหน้าด้วยไม่ใช่มีแค่เฉินอิน
————
หลังจากพูดคุยกับเขาเฉินเฉียวกลับขึ้นไปชั้นบน
มองกลับไปที่เด็กน้อยที่ยังหลับอยู่บนโซฟา“ฉันพาเขากลับก่อนนะ
ตอนนี้หรอ
อืม มันดึกแล้วนะเฉินเฉียวจะไปอุ้มเด็กน้อย
ซังหลินจวินยื่นมือออกไปเพื่อจับเธอ เฉินเฉียวไม่ทันได้ระวัง ก็เซอยู่ในอ้อมกอดเขาแล้ว มือเกือบไปโดนมือเขาที่เจาะสายน้ำเกลือไว้ เธอตกใจรีบถอยออก แล้วตำหนิเขาว่า “อย่าเดินไปทั่วสิ ให้น้ำเกลืออยู่นะ!”