ซังอวี้ไม่พอใจ“ แม่ครับ ลุงเรียกพวกมากินข้าวนะ!”
“ ไม่เห็นคุณลุงกำลังโกรธหรอ?”หวังอี๋จวินพูดเสียงเบาๆเพราะกลัวชายชราจะได้ยิน
ซังอวี้เหลือบมองพ่อลูกที่กำลังเผชิญหน้ากันยิ้มเยาะและหยิบตะเกียบขึ้นมาอีกครั้ง “คุณลุงกำลังดุพี่ ไม่ใช่ผมสักหน่อย”
ตอนนี้ผู้เฒ่าซังตวาดเสียงดัง: “แกทำไปได้ไง! ทั้งๆที่รู้ว่าธุรกิจยาช่วงเยี่ยเป็นของจ้าวเวิงฮวา แกยังจะกล้าคว่ำ แกอยากเป็นศัตรูกับจ้าวเวิงฮวาหรือไง? ”
ผู้เฒ่าซังจ้องมองลูกชายของเขา
ซังหลินจวินเงยหน้าขึ้น “เรื่องของบริษัท ผมรู้อยู่แล้ว ”
ผู้เฒ่าซังตบโต๊ะ “รู้บ้าอะไร! อย่าคิดว่าฉันไม่ได้เข้าบริษัทแล้วจะไม่รู้ แกปัดตกช่วงเยี่ยก็เพราะผู้หญิงคนนั้น! เพื่อผู้หญิงแย่ๆแบบนั้นแกถึงกับกล้ามีปัญหากับผู้ถือหุ้น แกคิดอะไรอยู่? ”
เมื่อเห็นสามีของเธอโกรธเฉียวอวี้หมิ่นรีบรินน้ำเย็นหนึ่งแก้วแล้วส่งให้ชายชราแล้วพูดเบา ๆ เพื่อปลอบเขา: “ใจเย็นๆก่อนค่ะคุณ อย่าใจร้อน การปัดตกช่วงเยี่ยนั้นต้องมีจุดประสงค์ที่ลึกกว่านั้น ไม่ใช่แค่เรื่องความรัก ”
ชายชราตะคอก“ ไม่เกี่ยวกับความรักหรอ? แกมันบ้าไปแล้ว โดนผู้หญิงที่เคยแต่งงานมาแล้วหลอกจนหัวหมุน ”
เฉียวอวี้หมิ่นประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง“ ผ้หญิงที่แต่งงานแล้วหรอ?”
“ แต่งงานแล้วแล้วมันยังไง”ในที่สุดซังหลินจวินก็วางตะเกียบของเขาเงยหน้าขึ้นและสายตาของเขาก็มองไปที่เฉียวอวี้หมิ่นและพ่อของเขา“ ในตอนแรกที่พวกคุณคบกันพ่อของผมก็ยังอยู่ในสถานะแต่งงานแล้วไม่ใช่หรอ นายว่าขี้ข้าพลอย พวกคุณก็เป็นต้นแบบให้ผม แล้วทำไมต้องมาตกใจอะไรด้วย? ”
น้ำเสียงของซังหลินจวินเรียบเฉย ฟังแล้วไม่รู้สึกถึงอารมณ์ใดๆ ใบหน้าของเฉียวอวี้หมิ่นซีดและมือของเธอกำแน่น
บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้น
“ แกไม่ต้องมาย้อน! ต้องให้ฉันโกรธตลอด! “ผู้เฒ่าซังโกรธมาก เขาคว้าจานบนโต๊ะอาหารแล้วโยนไปทางซังหลินจวิน
เฉียวอวี้หมิ่นต้องการเกลี้ยกล่อม แต่ไม่สำเร็จ
ซังหลินจวินยกมือขึ้นป้องกันและจานกระแทกจานใส่ข้อมือของเขาเป็นรอยช้ำ
จากนั้น “เพ้ง … “เสียงจานตกลงบนพื้นและแตกเป็นชิ้น ๆ
หวังอี๋จวินไม่กล้าหายใจเพียงจับมือของซังอวี้ไว้แน่น
“ หลินจวินคุณโอเคไหม? พ่อบ้านโทรเรียกหมอมาหน่อย! “เฉียวอวี้หมิ่นต้องการดูมือของซังหลินจวินด้วยความเป็นห่วง
แต่พอสัมผัสโดนมือของซังหลินจวิน ซังหลินจวินก็สะบัดออกอย่างเย็นชาแล้วลุกขึ้น
เขาเอาผ้าเช็ดริมฝีปากแล้วพูดว่า “ผมอิ่มแล้ว”
การเคลื่อนไหวมีความสง่างาม แต่คำพูดนั้นเย็นชา
วางผ้าเช็ดปากลุกขึ้นและเดินจากไป
เฉียวอวี้หมิ่นอยากจะรั้งไว้ “หลินจวิน … ”
อย่าไปยุ่งกับเขา ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี คุณไปทำดีด้วย แล้วเขาเคยเห็นหัวคุณไหม “ผู้เฒ่าซังห้ามเฉียวอวี้หมิ่นไว้
เฉียวอวี้หมิ่น ถอนหายใจ: “ฉันไม่อยากทำร้ายความสัมพันธ์พ่อลูก”
ซังอวี้พูดจากด้านข้าง: “แม่ครับ ไม่ต้องไปหวังดีกับพี่ชายผมหรอก พี่ผมเค้าอารมณ์ร้าย ยิ่งอยากเอาใจเขา แม่ก็ยิ่งไม่อยู่ในสายตาเขา กลับกันคนที่ไม่สนใจเขา เขาตามกลับง้อเหมือนเด็กๆ ดูอย่างเฉินเฉียวคนนั้นสิ พี่ผมยอมแตกหักกับประธานจ้าวเพื่อเอาใจเธอ ผมตกใจจริงๆ ”
เมื่อพูดถึงเฉินเฉียวผู้เฒ่าซังก็ขมวดคิ้วมากขึ้น
หวังอี๋จวินบีบมือซังอวี้และไม่ให้เขาเติมน้ำมันเข้าไปในกองไฟ
แต่เฉียวอวี้หมิ่นบนหน้าเธอเต็มไปด้วยคำถาม เธอมองไปที่ซังอวี้และถามอย่างตื่นเต้น: “คุณบอกว่าผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไรนะ?”