เฉินเฉียว มองไปที่ซังหลินจวินและพยักหน้าเธอหึงจริงๆวันนี้เมื่อเธอได้ยินการสนทนาระหว่างเถียนเถียน และแม่ของเธอเธอต้องการตัดการติดต่อกับผู้ชายคนนี้ แต่เมื่อเธอเห็นเขาเธอก็รู้สึกใจอ่อนอีกครั้ง
“ เฉียวเฉียวรู้มั้ยว่าคุณดูน่ารักขนาดไหนเวลาหึง?”ซังหลินจวินกอดกระชับเธอแน่นและจับเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาอย่างแน่นทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขามีเพียงเธอเท่านั้นที่อยู่เหนือการควบคุมของเขาเขาแค่ต้องการแก้ไขทุกอย่างโดยเร็วที่สุดและให้เธออยู่เคียงข้างมิฉะนั้นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้จะออกไปจากชีวิตเขา
“ เรื่องที่ฉันพูดตะกี้คุณต้องคิดดีๆนะ ถ้าเกิดว่าเรื่องที่คุณต้องแต่งงานแก้ไขอะไรไม่ได้ ถ้าถึงเวลานั้นจริงคุณอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับฉันอีก “เฉินเฉียวมองไปที่ ซังหลินจวินอย่างจริงจังเธอไม่ชอบเป็นมือที่สามโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเจ้าของซังหลินจวินไม่ได้ เธอก็ไม่อยากจะเสียเขาไปให้คนอื่น
ท่าทางซังหลินจวินเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเขาไม่ชอบคำพูดแบบนี้ของ เฉินเฉียวตอนนี้เขาไม่รู้ว่าการแต่งงานของเขากับเถียนเถียนสามารถเปลี่ยนได้หรือไม่และเขาก็จะไม่ยอมแพ้กับเธอเช่นกัน
“ในอนาคตไม่ได้ติดต่อกับผมแล้ว ไม่ว่าผมจะมีสถานะเป็นยังไง คุณก็ยังเป็นผู้หญิงของผมเสมอ “คำพูดของซังหลินจวินทำให้เฉินเฉียวคิดว่าเขาไม่ได้ล้อเล่นเธอรู้ว่าถ้าเขาพูดแบบนั้นเขาจะทำได้แน่นอน แต่เธอไม่เชื่อว่าเธอจะทำได้
“เอาเถอะ หยุดความคิดคุณไว้เลยคุณไม่มีวันหนีจากผมได้โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากผม”ซังหลินจวินกอดคนที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาและมองไปที่ร่างที่ยืนอยู่ในระยะไกล
“ฉันไปก่อนนะ ตะกี้บอกแค่ว่าจะออกมาแปปเดียว”เฉินเฉียวคลายจากอ้อมกอดของซังหลินจวินและเธอไม่สามารถให้เฉินอินรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับซังหลินจวินได้
พี่แต่เมื่อเธอผละออกจากอ้อมกอดของซังหลินจวินเสียงนั้นก็ดังขึ้น
“คุณรีบไปเร็ว!”เฉินเฉียวรีบผลักซังหลินจวินออกไป ให้เขาเจอเฉินอินไม่ได้ อย่าน้อยก็ไม่ใช่ตอนนี้
“ เฉียวเฉียว ผมจะเจอใครไม่ได้เลยหรอ?”ซังหลินจวินขมวดคิ้วผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้กลัวเขาเปิดเผยหรอ?
“ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา วันหลังฉันจะอธิบายให้คุณฟัง ตอนอยู่โรงบาลคุณน่าจะดูออกแล้วว่าเฉินอินคิดกับคุณยังไง”ใจที่กังวลของเฉินเฉียวกำลังสั่นสะท้าน แต่ผู้ชายตรงหน้าเขาไม่ได้อยากจะจากไปเลย
“ตอนนี้ก็อธิบายให้ชัดเจนไปเลยสิ ผมไม่อยากให้น้องสะใภ้มาเกาะแกะ”ซังหลินจวินเข้าใจความรู้สึกของเฉินเฉียวตอนนี้เขาก็รู้สึกว่าเขาไม่ควรสร้างปัญหามากขึ้นเพราะ เรื่องเถียนเถียนก็ลำบากพอสมควรแล้ว
ซังหลินจวิน…เฉินเฉียวกระโดดอย่างกระวนกระวายเมื่อเห็นเฉินอินเดินเข้ามาทีละก้าว แต่ชายคนนั้นก็ไม่ยอมเดินออกไป
“พรุ่งนี้ย้ายไปอยู่กับผม ผมสัญญาผมจะไปจากคุณตอนนี้ให้เร็วที่สุด ไม่งั้นผมจะเข้าไปพบพ่อแม่คุณตอนนี้”ซังหลินจวินมองไปที่ของเฉินเฉียวที่กำลังคลั่งด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
ฉันรับปากตอนนี้เฉินเฉียวไม่มีเวลามาต่อรองกับผู้ชายคนนี้ ที่แท้เป้าหมายที่เขามาวันนี้ก็คือ… …
“ เจอกันพรุ่งนี้นะเฉียวเฉียว”ซังหลินจวินขับรถออกไปหลังจากพูดจบเมื่อ เฉินอิน มาถึงเธอก็เห็นด้านหลังรถเพียงอย่างเดียว
“ พี่ เขาเป็นใครอะทำไมไม่ให้ฉันดู”เฉินอินมองไปที่ เฉินเฉียวด้วยความสงสัยในขณะนี้แม้ว่าเฉินเฉียวจะปฏิเสธที่จะยอมรับแต่เธอก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นแค่ลูกค้าธรรมดา
เฉินเฉียวเข้าไปอาศัยอยู่ในจิ้งหย่วนตามสัญญา แต่เธอไม่เจอซังหลินจวินเลยทุกๆวันมีแค่เธอกับซังโย่วอี
“ พี่เฉียว พ่อบอกว่าหลังจากนี้พี่จะอยู่อาศัยที่นี้จริงไหม”ซังโย่วอีเห็นเฉินเฉียวก็ดีใจจนเนื้อเต้น เมื่อเขารู้ว่าเธอจะย้ายมาอยู่ด้วย
“ใช่ หลังจากนี้ฉันจะมาอยู่กับโย่วอี”เฉินเฉียวรู้สึกรักเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้าอย่างอธิบายไม่ถูกเธอไม่เคยรู้สึกกับเด็กคนอื่น ๆ มาก่อนซังโย่วอีคือเด็กคนเดียวที่เธออยากอยู่ใกล้ ๆ
“ งั้นพี่เฉียวจะเป็นแม่ผมไหมในอนาคต?”ซังโย่วอีมองเฉินเฉียวอย่างคาดหวัง
เฉินเฉียวไม่รู้ว่าจะตอบคำถามของซังโย่วอี อย่างไรตอนนี้เธอย้ายไปอยู่ที่ จิ้งหย่วนในอนาคตไม่แน่เธออาจจะเป็นนายหญิงของที่นี้ แต่เมื่อเทียบกับเถียนเถียนเฉินเฉียวเทียบไม่ติดเลย และซังหลินจวินตอนนี้กำลังเผชิญหน้ากับภายในและ ปัญหาภายนอก เธอไม่อยากเป็นตัวถ่วงของเขาในอนาคต
“ พี่เฉียวคิดอะไรอยู่?” คุณไม่อยากเป็นแม่ของผมหรอ? “เมื่อซังโย่วอีเห็นว่าเฉินเฉียวไม่ตอบเขาเขาคิดว่า เฉินเฉียวไม่ชอบเขาและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความผิดหวังทันที
“ไม่ใช่นะ โย่วอีฉันชอบเธอมาก แต่ว่าเรื่องที่ให้ฉันเป็นแม่ไม่ใช่ฉันที่เป็นคนกำหนด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จะฉันดูแลเธอตลอด แค่เธอต้องการฉันฉันก็จะมาหาทันที โอเคไหม? “เมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังบนใบหน้าของซังโย่วอี เฉินเฉียวก็รู้สึกเจ็บปวดในหัวใจของเธอเธอไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนถูกใครบางคนย่ำยี อดไม่ได้ที่จะเขยิบเข้าไปใกล้ซังโย่วอี
“ แต่ผมอยากให้พี่เฉียวเป็นแม่ของผม พ่อก็บอกอีกว่าไม่ว่เขาจะแต่งงานกับใคร พี่เฉินก็จะเป็นแม่ผม นี่เป็นความจริงที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้”ซังโย่วอีมองเฉินเฉียวอย่างแน่วแน่อีกครั้ง
หลังจากฟังคำพูดของซังโย่ว เฉินเฉียวก็รู้สึกอบอุ่นในหัวใจไม่ว่าจุดประสงค์ของซังหลินจวินที่พูดแบบนี้คืออะไร เธอมักจะรู้สึกว่าซังโย่วอีชอบเธอมากเหมือนอย่างที่เธอชอบซังโย่วอีจริงๆ .
“ โย่วอี เดี๋ยวให้เหล่าฟู่ไปส่งที่โรงเรียนนะ ฉันต้องไปบริษัทที่นั่นมีงานเยอะมากฉันต้องไปจัดการ ฉันรับปากวันนี้จะไม่ทำโอทีจะรีบไปรับเธอที่โรงเรียน โอเคไหม?หลังจากที่เฉินเฉียวพูดจบก็ไปช่วยโย่วอีเตรียมของไปโรงเรียน
“ พี่เฉียวผมบอกเพื่อนได้ไหมว่าพี่เป็นแม่ของผม”ซังโย่วอีกระพริบตาสวยๆของเขาและมองไปที่ เฉินเฉียว อย่างคาดหวัง
เฉินเฉียวยิ้มและพยักหน้าแน่นอนว่าเธอเข้าใจความคิดของเด็กถ้าเขามีความสุขก็ปล่อยเขาไป
“งั้นพี่เฉียวรับมารับผมนะครับ”เมื่อได้รับอนุญาตจากเฉินเฉียว ซังโย่วอีมีความสุขราวกับว่าเขาได้รับรางวัลและไปโรงเรียนอย่างมีความสุขโดยมีกระเป๋านักเรียนสะพายอยู่บนหลังของเขา
“ เฉียวเฉียว!ทันทีที่เฉินเฉียวเข้ามาใน บริษัทเจียงฉยงฉยงก็ลากเธอไปที่ห้องทำงาน
“ ทำไมทำหน้าเหมือนเจอผี?”เฉินเฉียวแปลกใจมาก ไม่เคยเห็นท่าทางแบบนี้ของเจียงฉยงฉยงมาก่อน
“เฉียวเฉียว เธอต้องใจเย็นๆก่อนนะ อย่าทำลายข้าวของในห้องฉันนะ”เจียงฉยงฉยงมองไปที่เฉินเฉียวและพูดอย่างประหม่า
เฉินเฉียว จ้องมองเพื่อนตรงหน้าด้วยความสงสัย เพื่อนคนนี้ต้องคิดอะไรพิเรนอยู่แน่ๆ
“เฮ้ เฉียวเฉียวอย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนี้สิ พอเธอเข้าห้องประชุมเดี๋ยวก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันสาบานว่าฉันแค่พูดเล่นกับเขา ฉันคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำจริงๆ”เจียงฉยงฉยงรู้สึกเหลือเชื่อจริงๆ ปู้อี้เฉินทำไมอยู่ดีๆก็ทำดีกับเธอขึ้นมา?
ปู้อี้เฉินหรอเฉินเฉียวมองไปที่เจียงฉยงฉยง”ฉันคิดว่าจำเป็นต้องบอกพฤติกรรมช่วงนี้ของเธอให้อี้ฝานรู้”เฉินเฉียวกัดฟันพูด
“ เฉียวเฉียว!เจียงฉยงฉยงกลอกตามองบน เธอรู้ว่าเธอไม่ควรทำแบบนี้
“ รีบอนุมัติแผนที่ประธานหลูส่งให้ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะไปคุยเรื่องการร่วมงานกันกับประธานซัง”เฉินเฉียวเดินไปที่ห้องประชุมโดยไม่ลังเลใด ๆ
“ เฉียวเฉียว!เมื่อเห็นเฉินเฉียวเข้ามาปู้อี้เฉิน ก็รู้สึกอึดอัดใจไปชั่วขณะ แต่เมื่อเห็นเธอแยกงานออกจากเรื่องส่วนตัวได้ เขาก็ใจเย็นลง แต่ก็ยังมีร่องรอยของความผิดหวังอยู่ในใจเธอไม่มีเขาอยู่เลยสักนิด
“ประธานปู้ ได้ยินประธานเจียงพูดว่าคุณนำแผนที่ดีกว่าของประธานหลูมาเสนอ ขอดิฉันดูได้ไหม”เฉินเฉียวเดินเข้ามาและพยักหน้าให้เขาอย่างสุภาพ
“ เฉียวเฉียว!ปู้อี้เฉินไม่ชอบให้เธอพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงแบบนั้นเธอขัดจังหวะเขาทันทีที่เขาเรียกชื่อเธอ
“ตอนนี้ฉันอยู่ใน บริษัท โปรดอย่าเรียกฉันแบบนี้นอกจากนี้ไม่ได้สนิทกับคุณเป็นการส่วนตัว”เฉินเฉียวขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเขาเรียกชื่อเธอเธอไม่ชอบให้เขาเรียกตัวเองแบบนั้น
“เฉินเฉียว คุณน่าจะดูออกผมอยากชดใช้ให้คุณ”เมื่อได้ยินคำพูดที่ห่างเหินและไม่แยแสของเฉินเฉียวความโกรธที่อธิบายไม่ถูกก็เกิดขึ้นในใจของปู้อี้เฉิน
“ฉันขอโทษที่ฉันมองไม่เห็นมันและฉันบอกประธานปู้ได้เลยว่าฉันไม่ต้องการ ฉันตกลงกับประธานหลูแล้ว ตอนบ่ายจะเซ็นสัญญากันดังนั้นฉันอาจจะไม่รับแผนการร่วมมือของประธานปู้”เฉินเฉียวปิดแผนความร่วมมือและผลักข้างหน้าปู้อี้เฉิน ข้อเสนอของเขาดีมากๆยิ่งไปกว่านั้นบริษัทเล็กๆเปิดใหม่แบบนี้ต้องการชื่อบริษัทปู้อี้มาช่วยส่งเสริม
แต่ เฉินเฉียว มีจุดยืนและความภาคภูมิใจของตัวเองเธอไม่ต้องการความเห็นอกเห็นใจจากผู้อื่นนับประสาอะไรกับคนอย่างปู้อี้เฉิน
“เฉินเฉียวคุณก็รู้ว่าร่วมมือกับปู้อี้มีความหมายกับคุณอย่างไรผมเชื่อว่าด้วยความฉลาดของคุณคุณต้องรู้ว่าระหว่างผมกับหลูตงซิ้งใครเหมาะสมกับคุณมากกว่ากัน”ปู้อี้เฉิน มองไปที่ เฉินเฉียว และพูดอย่างจริงจังพูดตามตรงเขามาที่นี่ในวันนี้เพื่อเจรจาความร่วมมือกับเฉินเฉียวเพราะเขาต้องการที่จะมีส่วนร่วมกับเธอแม้ว่าจะเป็นเพียงเรื่องงานก็ตามดังนั้นครั้งนี้เขาไม่ต้องการกลับไปโดยที่ไม่ได้อะไรเลย
“แผนความร่วมมือของประธานปู้ผ่านการพิจรณาโดยผู้บริหารแต่ละระดับมาแล้วหรือว่าเป็นการตัดสินใจของประธานปู้คนเดียว?”เฉินเฉียวมองไปที่ดวงตาของปู้อี้เฉิน
“ไม่ว่าจะตัดสินใจยังไง แค่ผมต้องการ คุณไม่ต้องสนใจหรอกว่าจะผ่านผู้บริหารคนไหนผมจัดการได้”ปู้อี้เฉินคิดว่าเฉินเฉียวกำลังคิดถึงเขาเลยไม่อยากร่วมมือด้วย ใจเขาเลยชื้นขึ้นมานิดหน่อย
“ ประธานปู้ควรกลับไปพูดคุยเสนอเรื่องความร่วมมือก่อนเถอะค่ะหลังจากได้รับการอนุมัติจากคณะผู้บริหารแล้วค่อยว่ากัน บอกด้วยว่าบริษัทฉันเป็นบริษัทเปิดใหม่ ฉันไม่อยากให้แผนการร่วมมือครั้งนี้หยุดกลางทางเฉินเฉียวพูดจบก็ออกจากห้องประชุมอย่างเย็นชา
ปู้อี้เฉินมองไปที่ร่างของเฉินเฉียวที่จากไปเขาไม่เข้าใจว่าทั้งๆที่เขาเกลียดเฉินเฉียวมาก แต่ว่าทำไมเขาต้องพยายามเอาตัวเองเข้ามาใกล้เธอด้วย
เรื่องปู้อี้เฉินช่วงเช้าที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผมต่ออารมณ์ของเฉินเฉียวเลย ตอนบ่ายเธอเซ็นสัญญากับประธานหลู และรีบเลิกงาน
“ เฉียวเฉียว ทำไมวันนี้กลับเร็วจัง”เมื่อเห็นเฉินเฉียวกำลังเก็บข้าวของเจียงฉยงฉยงก็งงเพื่อนคนนี้บ้างานจะตายทำไมวันนี้เลิกงานเร็ว
อืม งานเสร็จหมดแล้ว ไหนๆก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้วฉันกลับก่อนนะ คงไม่เอาเวลาทั้งหมดอุทิศให้กับบริษัทหรอกนะเฉินเฉียวไม่ได้เงยหน้ามอง เพียงแค่เก็บข้าวของอย่างจริงจัง
“ เธอจะไปเดทกับประธานซังหรอ?”เจียงฉยงฉยงเป็นคนที่อยากรู้อยากเห็นมากท่าทางเฉินเฉียวแบบนี้กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเธอมากหลังจากที่เธอย้ายออกจากบ้านอย่างกะทันหันเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“นี่เป็นความลับ วันนี้เธอเขียนแผนงานให้เสร็จดีกว่านะ อย่าช้า”หลังจากที่ เฉินเฉียวพูดจบก็ดีดไปที่หน้าผากของเจียงฉยงฉยงและสะพายกระเป๋าออกไป
“ชิ เพื่อนทรยศ ทิ้งให้ฉันทำงานที่นี่คนเดียว”เจียงฉยงฉยงพึมพำ แต่ก็เพื่อให้เฉินเฉียวมีความสุข
“ เหล่าฟู่วันนี้ไม่ต้องไปรับโย่วอีนะคะ เอ่อ ตอนนี้ฉันกำลังไปที่โรงเรียนค่ะ”ระหว่างทางเฉินเฉียวโทรหาเหล่าฟู่และบอกว่าเธอจะไปรับโย่วอีที่โรงเรียน
เมื่อมาถึงโรงเรียนเฉินเฉียวพบว่าหน้าประตูของโรงเรียนเต็มไปด้วยผู้คนและร่างเล็ก ๆ ของซังโย่วอีก็ล้อมรอบไปด้วยผู้คนทันใดนั้นในใจของเฉินเฉียวก็เริ่มตึงเครียด เธอคิดว่ามีเรื่องเกิดขึ้นกับซังโย่วอี
“โย่วอี”เฉินเฉียวตะโกนชื่อโย่วอีอย่างประหม่าและเมื่อเธอเข้าไปใกล้เขาก็รู้ว่า ซังโย่วอีกำลังโต้เถียงกับเด็กอ้วน
“ชิ ซังโยวอีนายโกหกอีกแล้วใช่ไหม ครั้งที่แล้วตอนงานวันเกิดก็บอกว่าแม่จะกลับมาคราวนี้ก็หลอกอีกแล้วใช่ไหมล่ะ”เด็กน้อยผลักร่างของซังโย่วอี
“ ฉันไม่ได้หลอก เดี๋ยวแม่ฉันก็มาแล้ว”ซังโย่วอีไม่กลัว เขารู้ว่าวันนี้เฉินเฉียวต้องมาแน่ๆ
“โย่วอี”เฉินเฉียวเดินเข้าหาฝูงชนและเรียกชื่อโย่วอี
พี่….หม่ามี๊!เมื่อเห็นเฉินเฉียว ซังโย่วอีก็กระโดดด้วยความตื่นเต้นและรีบวิ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเฉินเฉียว
“ คุณเป็นแม่ของซังโย่วอีจริงๆหรอ?”เด็กอ้วนที่กำลังโต้เถียงกับซังโย่วอีตอนนี้มองไปที่เฉินเฉียวอย่างไม่เชื่อสายตาและถาม
“สวัสดีเด็กๆ ฉันเป็นแม่ของโย่วอี งานวันเกิดครั้งที่แล้วงานยุ่งมากเลยไม่ได้เจอทุกคนเลยทำให้เพื่อนๆของโย่วอีเข้าใจผิด ขอโทษด้วยนะวันหลังเดี๋ยวน้าจะเลี้ยงเค้กทุกคนเลยดีไหมจ๊ะ? “เฉินเฉียวยิ้มและมองไปที่เด็ก ๆ ที่อยู่ตรงหน้าเธอเธอชอบเด็กที่ไร้เดียงสาเหล่านี้เพราะเธอไม่ต้องปวดหัวมาหาวิธีจัดการอะไรมาก