ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 128 ครอบครัวพ่อแม่ลูก

พระเจ้าชอบเล่นตลกเสมอ คนที่คุณไม่อยากเจอเขาก็จะส่งคนคนนั้นมาอยู่ตรงหน้าคุณ

“ คุณนายปู้!”เดิมทีอยากจะพาซังโย่วอีไปเดินห้างแล้วซื้อของกลับไปทำอะไรกินนิดๆหน่อยๆ ไม่คิดว่าจะเจอเถียนเถียน

เฉินเฉียวไม่รู้ว่าเธอคิดอย่างไรเกี่ยวกับ เถียนเถียนตอนนี้เธอไม่อยากเจอเถียนเถียน อาจเป็นเพราะ ซังหลินจวิน หรือบางทีเธออาจไม่ชอบผู้หญิงที่เข้าใจยากเช่นนี้

ถึงแม้ว่าตัวเธอเองติดต่อกับผู้คนมากมายในการทำงานเธอต้องวางมาด ไม่งั้นคงไม่โดนปู้อี้เฉินเกลียดมาตั้งหลายปีหรอก สุดท้ายจบด้วยการหย่าร้าง

คุณเถียนแม้ว่าเธอจะไม่อยากเจอ แต่เธอก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้

“ โย่วอี ทำไมถึงไปรบกวนคนอื่น ไม่ใช่ว่าตกลงกันแล้วหรอว่าถ้าคุณพ่อยุ่งให้โทรหาน้า ไปรบกวนคนนอกได้ยังไง? “เถียนเถียนมองเขาด้วยท่าทางที่ร้อนรนจากนั้นก็หันไปมองที่เฉินเฉียว”ขอโทษจริงๆนะคะ เดี๋ยวฉันพาโย่วอีกกลับก่อนนะคะ ตอนหลินจวินไม่อยู่ก็ฝากให้ฉันไปดูโย่วอี แต่ว่าฉันงานยุ่งมากนึกไม่ถึงว่าเด็กเขาจะไปรบกวนคุณ “เสียงของเถียนเถียนเต็มไปด้วยคำขอโทษ แต่ดวงตาของเธอต็มไปด้วยความรังเกียจ

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันชอบโย่วอีมาก แล้วช่วงนี้จะว่างด้วย”เฉินเฉียวตกใจกับคำพูดของเถียนเถียน ตอนซังหลินจวินไปเข้าไม่ได้ฝากฝังอะไรเธอไว้ แค่ให้เธอย้ายเข้าไปอยู่แค่นั้น

แต่ตอนเขาไปกลับฝากฝังไว้กับเถียนเถียน แม้แต่กับโย่วอีก็กำชับให้เธอดูแล ที่แท้ตอนที่จิตใจเขาย่ำแย่เขานึกถึงเถียนเถียน นับประสาอะไรกับเธอ

“ แบบนี้มันไม่ค่อยดีมั้งคะ”เถียนเถียนยังคงมองไปที่เฉินเฉียวด้วยความรู้สึกผิดเธอรู้ว่าเฉินเฉียว ไม่ได้เถียงอะไรกับเธอและคนตระกูลซังจะไม่ยอมรับผู้หญิงอย่างเฉินเฉียวอย่างแน่นอน ผ่านการแต่งงานมาแล้วดังนั้นไม่ว่าซังหลินจวินจะชอบผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหน แต่เพื่อความมั่นคงของตระกูลซัง ภรรยาในอนาคตเขาต้องเป็นเถียนเถียนเท่านั้น

“ ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้ฉันรับปากกับโย่วอีแล้วว่าจะทานอาหารกินกัน ถ้าคุณเถียนไม่รังเกียจก็มาทานด้วยกันนะคะ”เฉินเฉียวยิ้มเรียบๆให้เถียนเถียน เธอทำไมจะไม่เข้าใจคำพูดของเถียนเถียน

“โย่วอีฉันจะพาไปแมคโดนัลด์เอาไหม”เถียนเถียนพูดประจบโย่วอี

“ไม่เอาครับ น้าเถียนเถียนกลับไปก่อนดีกว่า ตอนนี้พี่เฉียวอยู่กับผมแล้ว พ่อบอกว่าให้เชื่อฟังพี่เฉียว เดี๋ยวผมต้องกลับบ้านไปกินอาหารที่พี่เฉินทำให้”โย่วอีมองไปที่ เถียนเถียนอย่างไร้เดียงสาแม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจว่าทำไมเถียนเถียนต้องพูดอะไรแบบนั้นกับเฉินเฉียว แต่เขารู้ดีว่าพ่อเขาไม่เอาเขาไปให้คนอื่นดูแลหรอก

“พี่เฉียวกลับกันเถอะผมหิวแล้ว”หลังจากพูดจบซังโย่วอีก็ลากเฉินเฉียวไปทางเคาเตอร์จ่ายเงิน “บ๊ายบายครับน้าเถียน! “ก่อนจากไปเขาไม่ลืมที่จะส่งยิ้มให้กับเถียนเถียน

“โย่วอี”เถียนเถียนต้องการพูดอะไรบางอย่างมากกว่านี้ แต่ซังโย่วอีจูงเฉินเฉียวเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามอง “คุณเฉิน คุณรู้อยู่แก่ใจ ยิ่งไปกว่านั้นคุณเป็นภรรยาของคุณปู้ “โย่วอีไม่สนใจเธอ เถียนเถียนทำได้แค่พูดตามหลังเฉินเฉียว

เมื่อได้ยินคำพูดของเถียนเถียนร่างของ เฉินเฉียว ก็หยุดชะงักเธอไม่ได้คิดเกี่ยวกับสิ่งที่เถียนเถียน พูด แต่เธอรู้สึกถึงแรงดึงดูดของซังหลินจวิน

“ พี่เฉียวตอนฟุ้งซ่านรู้สึกว่าแขนของเธอถูกจับไว้แน่นด้วยมือเล็ก ๆ คู่หนึ่ง

“โย่วอี”เฉินเฉียวมองไปที่โย่วอีด้วยความงงเธอเห็นความเป็นห่วงจากใบหน้าของโย่วอีและใจของเธอก็อบอุ่น

“พี่เฉียวอย่าไปเชื่อน้าเถียนเถียนนะ พ่อผมไม่เคยฝากไว้กับเธอ แต่ก่อนพ่อผมไปต่างจังหวัดก็ให้ผมไปอยู่บ้านย่า พ่อบอกว่านอกจากคนที่มีคุณสมบัติเป็นแม่ผมแล้ว ผู้หญิงคนอื่นไม่มีสิทธิ์มาดูแลผม”

เฉินเฉียวบีบใบหน้าเล็ก ๆด้วยความรัก

ซังหลินจวินพูดนอกจากคนที่มีคุณสมบัติเป็นแม่โย่วอีแล้ว ผู้หญิงคนอื่นไม่มีสิทธิ์มาดูแลโย่วอีหรอ?

“พี่เฉียว ผมไม่ได้โกหกนะ พ่อบอกว่าพี่เฉียวเป็นแม่ผมจริงๆ”ใบหน้าสีชมพูของซังโย่วอีหันไปทางเฉินเฉียวและเฉินเฉียวก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับสีหน้าจริงจังนั้น

“ พี่เฉียว จริงจังหน่อยสิ”เมื่อเห็นเฉินเฉียวยิ้ม ซังโย่วอีก็กังวลอย่างเห็นได้ชัดว่าเฉินเฉียวไม่เชื่อดังนั้น เขาเลยสงสารพ่อเขาในใจ

“ พี่เฉียว เมื่อไหร่จะเสร็จครับ”นี่เป็นครั้งที่ห้าที่ซังโย่วอีเข้าครัวมาเร่งเขากลับบ้านมาและเริ่มทำการบ้านการบ้านเขาทำเสร็จตั้งนานแล้วแต่อาหารของเฉินเฉียวยังไม่พร้อม

“คุณหนู ไปเล่นที่ห้องรับแขกรอก่อนนะ มาเร่งทุกนาทีแบบนี้บ่อยไปนิด”แม่บ้านมองไปที่โย่วอีเป็นเรื่องยากที่จะเห็นคุณหนู มีความสุขตอนนี้คุณเฉินหย่ากับสามีของเธอ นายท่านก็มีใจให้เธอขนาดนั้น ขอให้ครอบครัวสามคนมีความสุขอยู่ด้วยกันแบบนี้เถอะ

อ๋อซังโย่วอีเดินไปที่ห้องนั่งเล่นพร้อมกับเบะปากเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ

กำลังทำอะไรอยู่หลังจากที่ซังหลินจวินเข้าประตูไปเขาก็เห็น ซังโย่วอีที่กำลังงอนแต่ไม่เห็นเฉินเฉียว หรือเธอโกรธเป็นเพราะเขาออกไปครั้งนี้ไม่ได้ล่ำลาเธอ?

“พ่อ!เมื่อเห็นซังหลินจวินเด็กน้อยก็รีบวิ่งเข้าไปกอด “พี่เฉียวกำลังทำอาหารอยู่ในครัว แต่เธอไม่ยอมให้ผมเข้าไป”เขาฟ้องพ่ออย่างน้อยอกน้อยใจ

“ เธอกำลังทำอาหารหรอ”ซังหลินจวินเหล่ตาและมองคนตัวเล็กในอ้อมแขนของเขา เห็นท่าทางเขาสักครู่นี้นึกว่าเธอหนีหายไปแล้ว คิดไม่ถึงว่ากำลังทำอาหารอยู่ในครัว

“นั่งตรงนี้แหละ อย่าเข้าไปเล่นในครัวนะ”ซังหลินจวินกำชับซังโย่วอีอีกครั้งแล้วหันตัวเดินไปในครัว

“พ่อ พี่เฉียวบอกว่าไม่ให้เข้าไปใกล้ห้องครัวนะ”ซังโย่วอีตะโกนตามหลัง ทำไมพ่อเขาถึงไม่เชื่อฟังนะ?

“ห้ามเฉพาะเด็กต่างหาก”ซังหลินจวินไม่แม้แต่จะหันไปมอง เพียงพูดทิ้งท้ายไว้แล้วเดินเข้าไปในห้องครัว

“หอมจัง”ซังหลินจวินกอดเฉินเฉียวไว้ในอ้อมแขนของเขาจากด้านหลังในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเขาคิดถึงเธอจะตายอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เกรงว่าโครงการนี้ยังต้องหารือกันอีกครึ่งเดือน แต่ตอนนี้สามารถจัดการได้ในเวลาสั้นๆ

กลับมาแล้วหรอคะเฉินเฉียวไม่ได้หันไปมอง แค่ตอบเรียบๆ

“อื้อ คิดถึงคุณมาก เลยกลับมาก่อน”ซังหลินจวินวางคางของเขาบนหน้าผากของเฉินเฉียวและกอดเอวของเธอไว้ในอ้อมแขน

“ออกไปรอก่อนสิคะ เดี๋ยวก็ได้กินแล้ว”เฉินเฉียวปัดมือที่อยู่ไม่สุขของซังหลินจวินออก

“เฉียวเฉียว ถ้าผมอยากกินแค่คุณล่ะ ทำยังไงดี?”ซังหลินจวินไม่ได้หยุดการเคลื่อนไหวของมือ ตั้งแต่เข้าประตูมาในใจเขาก็รู้สึกมีความสุขที่สุด นี่คือชีวิตที่เขาอยากได้

เด็กน้อยจอมซนคนนึง กับผู้หญิงตัวเล็กๆของเขาคนนึง รอเขากลับบ้านทุกๆวัน แบบนี้สิ

“ อย่าสิคะ โย่วอีอยู่ข้างนอกนะ”โดนซังหลินจวินพูดแบบนี้เฉินเฉียวก็หน้าแดงก่ำ ผู้ชายคนนี้แปลกจริงๆ หยอดเธอแบบนี้อย่างกับเป็นเรื่องปกติ

“อื้อ งั้นตอนกลางคืนขึ้นห้องแล้วค่อยคิดบัญชี”ซังหลินจวินจูบเฉินเฉียวแล้วกำลังจะเดินกลับไปที่ห้องนั่งเล่น

เขาต้องรีบออกไปมิฉะนั้นเขาไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาจะทำอะไรกับนางฟ้าแบบเธอ

“ พ่อเมื่อกี้ทำอะไร?”ซังโย่วอีกระพริบตาโตๆของเขาและมองไปที่ซังหลินจวินพร้อมกับยิ้มเยาะ

“ วันหลังห้ามเข้าไปใกล้ห้องครัว”ซังหลินจวินมองลูกชายตรงหน้าเขาด้วยใบหน้าที่ตึงดูเหมือนว่าเด็กน้อยคนนี้ต้องโดนสั่งสอนจริงๆเสียแล้ว นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วเวลาเขากับเฉินเฉียวทำเรื่องแบบนี้แล้วเขาเห็น

“ พ่อไม่มีสิทธิ นี่คือบ้านผมทำไมผมจะเข้าไปไม่ได้”ซังโย่วอีหน้าบึ้งมองพ่อเขา เขาคิดว่ามีพี่เฉียวแล้วพ่อก็จะไม่รักเขาแล้ว?

เป็นครั้งแรกที่เฉินเฉียวรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านเธอไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านจาก ซังหลินจวิน และซังโย่วอี

“ผมได้ยินโย่วอีบอกว่าวันนี้คุณเจอเถียนเถียน”ซังหลินจวินวางเอกสารในมือลงแล้วเดินไปหาเฉินเฉียว

อืมเฉินเฉียวพยักหน้ากล่าวถึงเถียนเถียน หัวใจของเธอเริ่มกระสับกระส่ายอีกครั้ง

“ซังหลินจวินถ้าฉันจะเป็นปัญหากับคุณทำไมเราไม่ตัดขาดกันไปตอนนี้”เฉินเฉียวมองไปที่ซังหลินจวินเธอไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองจมลึกเกินไปมากกว่านี้

“เฉียวเฉียว ผมให้คุณหึงได้ เพราะคุณหึงแสดงว่าคุณชอบผม แต่ผมไม่อนุญาตให้คุณไปจากผม”ซังหลินจวินมองไปที่เฉินเฉียวด้วยสีหน้าบึ้งตึงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้มักจะเอาคำพูดของคนอื่นมาคิดแล้วคิดจะทิ้งเขาไป

“ ผมบอกแล้วผมไม่ได้จะปล่อยคุณไป ไหนๆพวกเราก็มาเกี่ยวพันกันตอนที่เรื่องยังไม่เรียบร้อยดี งั้นก็ค่อยๆพัฒนาไป ผมเชื่อว่าผมปกป้องคุณได้ แต่คุณก็ต้องเชื่อใจผม”หลังจากที่ซังหลินจวินพูดจบเขาก็ดึงเฉินเฉียวเข้ามาในอ้อมแขนและจูบเธอเป็นการลงโทษ

ซังหลินจวิน…เฉินเฉียวสับสนกับซังหลินจวิน ครั้งก่อนถึงแม้จะสานความสัมพันธ์มาแล้วแต่เพราะเธอรับปัญหาเขาไม่ไหว สุดท้ายเขาทำได้แค่ปล่อยเธอไป แต่ตอนนี้เขาไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ เขาอยากให้เธอเป็นของเขา

ซังหลินจวิน…เฉินเฉียวรู้สึกเพียงว่าเธอลุ่มร้อนและต้องการมากกว่านี้เธอไม่รู้ว่าต้องการอะไรเธอจึงได้ แต่เรียกชื่อของ ซังหลินจวิน

“ผ่อนคลายหน่อย”ซังหลินจวินเกลี้ยกล่อมเฉินเฉียวเขารู้ว่าเขาไม่ต้องรีบร้อน แค่ให้เธอค่อยเป็นค่อยไป

เฉินเฉียวรู้สึกเพียงว่าร่างกายของเธอกำลังจะแตกสลายซังหลินจวินเป็นคนอ่อนโยนและใจเย็นมาก แต่หลังจากนั้นผู้ชายคนนั้นก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เช่นเดียวกับหมาป่าที่หิวโหยมานาน ในที่สุดก็เห็นเหยื่อเธอโดนเขาทำจนแทบเป็นลม ตอนนี้เจ็บหมดแรงไปทั้งร่าง

“ วันนี้พักผ่อนเยอะๆนะ ใบสัญญาที่บริษัทผมช่วยคุณจัดการเอง ”ซังหลินจวินมองเฉินเฉียวลุกขึ้นและจูบที่หน้าผากของเธอ

“ไม่เอาอ่ะ ฉันไปบริษัทดีกว่า “เฉินเฉียวพบว่าเสียงเธอแหบแห้งไปหมดแล้ว ผู้ชายคนนี้ทำอะไรกับเธอเนี่ย

“ถึงแม้ผมให้คุณไบริษัท คุณก็คิดถึงภาพลักษณ์ของตัวเองดีๆนะ”ซังหลินจวินมองไปที่เฉินเฉียวและชี้ไปที่คอของเธอ

“คุณ……”เฉินเฉียวมองไปที่คอของเธอซึ่งเต็มไปด้วยรอยจูบ ถ้าเธอไปบริษัทในสภาพแบบนี้ต้องโดนนินทาแน่ๆ

“ถ้าคุณอยากจะไปบริษัทจริงๆแล้ว ผมจะไปส่งคุณ”ซังหลินจวินมองเฉินเฉียวด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“ พี่เฉียว ตื่นหรือยังครับ?”เสียงนุ่มๆของซังโย่วอีดังเข้ามา

“อื้อ ตื่นแล้ว”เมื่อได้ยินเสียงของซังโย่วอี เฉินเฉียวจำได้ว่าเธอสัญญาว่าจะส่งเขาไปโรงเรียนในวันนี้

“ แล้วเราจะไปเลยไหม?”ครั้งนี้ร่างเล็กๆตามมาด้วยเสียงนุ่มๆ

“อ่า!” พี่เฉียว คอพี่เป็นอะไร โดนยุงกัดหรอ? “ทันทีที่เขาเข้ามา ซังโย่วอี ก็เห็นร่องรอยของสีม่วงที่คอของเฉินเฉียวเขามองไปที่ เฉินเฉียวอย่างใจจดใจจ่อและหันไปหาพ่อของเขา“ พ่อต้องไปบอกคุณปู่ให้เขาหาผู้เชี่ยวชาญในการฆ่าแมลง พ่อดูสิพี่เฉียวโดนกัดจนช้ำไปหมดแล้ว ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่ ซังโย่วอีพูดใบหน้าของซังหลินจวินก็บึ้งตึง เขารีบออกไป แต่เฉินเฉียวขำอย่างมีความสุข

หือ? พี่เฉียวทำไมมีความสุขขนาดนั้น “ซังโย่วอีมองเฉินเฉียว ตรงหน้าเขาด้วยความงงเขาไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาพูดทำให้ผู้ใหญ่อีกคนคนหน้าบึ้งตึงและอีกคนยิ้มอย่างมีความสุข

“เปล่าไม่มีอะไร โย่วอี รอฉันแปปนึงนะ เดี๋ยวฉันไปส่งที่โรงเรียน”เฉินเฉียวแตะหัวเล็ก ๆ ของซังโย่วอีด้วยความรักและเดินไปที่ห้องน้ำ

เธอต้องแต่งหน้าและปกปิดรอยที่คอด้วยแป้งคอนซีลเลอร์

ครึ่งชั่วโมงต่อมารอจนเฉินเฉียวออกมาซังโย่วอีก็นั่งอยู่ด้านหลังของรถกำลังรอเธออยู่แล้วแต่ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงเบาะคนขับเกิดอะไรขึ้น ทำไมเขายังไม่ไปทำงาน.

“ เร็วเข้าเดี๋ยวโย่วอีจะไปสาย”ราวกับว่ามองไม่เห็นสายตาที่สงสัยของ เฉินเฉียว ซังหลินจวินก็รีบเร่งให้ เฉินเฉียวขึ้นรถ

“ คุณไม่รีบไปทำงานเหรอ?”เฉินเฉียวมองไปที่ซังหลินจวินอย่างงงๆหลังจากนั้นก็ขึ้นรถ ผู้ชายคนนี้เข้าใจยากจริงๆ

“พี่เฉียว พ่อบอกว่าเด็กคนอื่นๆพ่อแม่เขาไปส่งด้วยกัน แต่ว่าผมไม่เคยมีแบบนั้นเลย วันนี้พ่อเลยบอกว่าให้ไปส่งผมด้วยกัน ให้เพื่อนๆรู้ว่าผมก็มีทั้งพ่อและแม่”ซังโย่วอีมองไปที่ เฉินเฉียวด้วยความตื่นเต้นและดีใจเขารอคอยวันนี้มานานแล้ว

เฉินเฉียว มองไปที่ใบหน้าด้านข้างของซังหลินจวิน เขาคิดว่าเธอมีคุณสมบัติที่จะเป็นแม่ของโย่วอีจริงๆหรอ

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset