ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 129 ตกลงพวกคุณเป็นอะไรกัน

“พี่!”เพิ่งส่งซังโย่วอีเข้าโรงเรียนแล้วก็เจอกับเฉินอิน เฉินเฉียวมองไปที่รถฮัมเมอร์ไกลๆ เธอมองไม่เห็นใบหน้าของผู้ชายในรถ เธอรู้ว่าต้องมองไปยังทิศนั้นแน่ๆ

ทำไมพี่มาอยู่ที่นี่ได้เฉินอินเห็นเฉินเฉียวไม่สนใจ แต่มัวแต่มองไปที่รถคันที่อยู่ไกลๆ เลยขมวดคิ้ว

“ ทำไมพี่กับประธานซังอยู่ด้วยกันได้?”เฉินเฉียวซึ่งถูกถามคำถามหลายชุดเธอไม่รู้ว่าควรตอบเฉินอินอย่างไรในตอนนี้

“ เฉียวเฉียว!ตามคาดผู้ชายบนรถทำตัวแปลกๆแบบนั้น ตอนนี้เขาเดินเข้ามาแบบนี้ไม่ใช่ว่ามีความสัมพันธ์อะไรระหว่างกันหรอ?

“ ประธานซัง คุณทำไมถึงมาอยู่กับพี่สาวฉันได้?”ตอนนี้เฉินอินกำลังโกรธ ไม่มีเวลาคิดถึงว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นเจ้านายของเธอ

“ พวกเรามาส่งโย่วอีไปโรงเรียนด้วยกัน”ซังหลินจวินมองไปที่เฉินอินและตอบเรียบๆ

“ฉันหมายถึงคุณกับพี่สาวฉันมีความสัมพันธ์อะไรกัน”เมื่อได้ยินคำพูดที่เย็นชาของซังหลินจวิน เฉินอินก็อดไม่ได้ที่จะพาล

“ อันนี้ ต้องถามเฉียวเฉียว”ซังหลินจวินมองผู้หญิงตรงหน้าเขาอย่างขบขันเขาไม่เข้าใจว่าเธอมีสิทธิ์อะไรที่จะมาถามคำถามนี้

“ เฉียวเฉียว!เฉินอินนึกถึงสิ่งที่ซังหลินจวินพูดและหันไปมอง เฉินเฉียว “พี่ไม่รู้สึกว่าควรอธิบายให้ฉันฟังหน่อยหรอ?”เธอมองไปที่เฉินเฉียวด้วยความโกรธในดวงตาของเธอ

ไม่ใช่เสปคของซังหลินจวินอไรล่ะ ไหนจะซังหลินจวินมีคู่หมั้นแล้ว แล้วไหนจะกลัวเธอเจ็บอีก ที่แท้เหตุผลจริงๆก็คือเฉินเฉียวคบอยู่กับซังหลินจวินแล้ว

เฉินอินเฉินเฉียวต้องการอธิบาย แต่พบว่าเธอไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรเมื่อเธอโน้มน้าวให้เธออยู่ห่างจากซังหลินจวินแต่ตอนนี้เธอกลายเป็นผู้หญิงของซังหลินจวินดังนั้นถ้าเธออธิบาย เฉินอินจะเชื่อได้ยังไง

เป็นอะไรไป ไม่มีอะไรจะพูดหรอ? “เฉินอินมองไปที่เฉินเฉียวอย่างเย็นชา หันไปหาซังหลินจวิน “ประธานซังคุณรู้ไหมพี่สาวฉันเคยหย่าแล้ว”

ผมรู้ซังหลินจวินไม่ใช่คนโง่เขารู้ว่าเฉินอินคิดอย่างไรกับเขา แต่เขามีเพียงเฉินเฉียว อยู่ในใจและเขาควรปล่อยให้เฉินเฉียว แก้ปัญหาด้วยตัวเองในเวลานี้เพราะอีกฝ่ายเป็นน้องสาวเธอ.

คุณรู้เฉินอินมองชายที่เธอชื่นชมต่อหน้าเธออย่างงุนงงทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้? เห็นได้ชัดว่าเขาชอบเธอไม่ใช่เหรอ?

“ถ้าก่อนหน้านี้ทำอะไรให้คุณเข้าใจผิด ผมขอโทษ ผมเป็นห่วงคุณเพราะคุณเป็นน้องสาวของเฉียวเฉียว ไม่มีอย่างอื่นอีก”ซังหลินจวินเหลือบมองไปที่หญิงสาวตัวเล็กที่เฉื่อยชาในอ้อมแขนของเขาเขารู้ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าอาย แต่สุดท้ายเธอก็ต้องแก้เรื่องนี้ด้วยตัวเอง

“ พี่คบกับประธานซังตั้งนานแล้วหรอ?”เฉินอินไม่ใช่คนโง่ถ้า ซังหลินจวินบอกว่าเขาห่วงใยตัวเองเพียงเพราะเธอเป็นน้องสาวของเฉินเฉียวก็เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะคบด้วยมานานแล้ว

แต่ไหนๆก็เป็นแบบนี้แล้ว ทำไมต้องปิดเธอด้วย ทำไมตอนเธอบอกว่าชอบซังหลินจวินยังทำเป็นเสแสร้งสั่งสอนเธอ

เหอะ เฉินเฉียวปลอมจริงๆ

“เฉินอิน มันไม่ได้เป็นอย่างที่เธอคิด ฉันกับเขา … “เฉินเฉียวต้องการอธิบายอะไรบางอย่าง แต่ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรเธอก็ดูไม่จริง เพราะเธอกับซังหลินจวินอยู่คบกันมานาน

“ เฉินเฉียว ไม่ต้องอธิบายแล้ว ฉันคิดไม่ถึงเลยพี่จะหลอกฉันได้ขนาดนี้ แต่ก่อนที่พี่ยังไม่หย่ากับปู้อี้เฉิน ฉันหวังดีกับพี่ตลอด แต่พี่กลับแย่งคนที่ฉันชอบ”เฉินอินมองไปที่เฉินเฉียวและพูดอย่างขมขื่น

“ เฉียวเฉียว!ซังหลินจวินดึงชายเสื้อเฉินเฉียว เห็นได้ชัดว่าเธอเบอร์หนึ่ง

“ ประธานซังรู้ไหม พี่สาวที่แสนดีของฉันยั่วปู้อีเฉินยังไง? หรือประธานซังไม่กลัวว่าตัวเองจะเป็นแบบปู้อี้เฉิน? รอให้มีผู้ชายที่ดีกว่าคุณปรากฏตัวออกมา พี่สาวฉันก็จะแบบที่ทำกับปู้อี้เฉิน “เฉินอินมองไปที่ ซังหลินจวินตอนนี้เธอไม่มีสติ เธอคิดเพียงอยากจะทำลายเฉินเฉียว ซังหลินจวินควรจะเป็นของเธอ เธอมีสิทธิ์อะไรไปคบกับซิงหลินจวิน

“เฉินอิน ระวังปากของเธอหน่อยเถอะ ฉันให้โอกาสเธอมายืนพูดอยู่แบบนี้ก็เพราะเป็นน้องสาวของเฉินเฉียว พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานแล้วนะ”ซังหลินจวินพูดจบเดนออกไปพร้อมกับเฉินเฉียว

“ เฉินอินขาดสติ เพราะว่าชอบคุณมากเธอก็เลย … ”เฉินเฉียวต้องการพูดแทนเฉินอิน แต่ซังหลินจวินไม่ให้โอกาสเธอพูด

“ เฉียวเฉียว คุณจะเอายังไงต่อ? น้องสาวคนนี้ของคุณไม่ได้ใสอย่างที่คุณคิด “ซังหลินจวินมองไปที่เฉินเฉียวและดูเหมือนว่าผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้ต้องการการปกป้องของเขาจริงๆ

“เฉินเฉียว ตอนนี้กลับบ้านเถอะ”ซังหลินจวินเพิ่งส่งเธอกลับบ้าน ก็ได้รับสายโทรศัพท์จากเฉินอัน เฉินอินเป็นลูกรักของพวกเขาจริงๆด้วย

“ ฉันไม่มีเวลาฉันเหนื่อยมากและต้องการพักผ่อน”เฉินเฉียวไม่อยากเจอพวกเขาในตอนนี้ จริงๆแล้วพวกเขาคิดถึงแต่เฉินอิน สำหรับเธอแล้วไม่ได้สำคัญอะไรในบ้านนั้น

คุณนาย…หลังจากที่เฉินเฉียวย้ายมาที่นี้ ซังหลินจวินก็สั่งให้ทุกคนเปลี่ยนวิธีเรียกเธอ เขาบอกว่าเฉินเฉียวเป็นนายหญิงของที่นี้ เพราะฉะนั้นหลังจากนี้ให้เรียกคุณนาย ถึงแม้เฉินเฉียวจะเคยปฏิเสธแต่ก็เอาชนะซังหลินจวินไม่ได้

-ฉันไม่เป็นไรความเอาใจใส่ของแม่บ้านมีค่ามากสำหรับเฉินเฉียว ตั้งแต่เล็กลู่ลี่ลี่ไม่ค่อยใส่ใจกับเธอมากนัก แต่แม่บ้านปฏิบัติต่อเธอเป็นความห่วงใยที่จริงใจ

“คุณทานเยอะๆนะคะ สีหน้าไม่ค่อยดี เดี๋ยวฉันจะเคี่ยวซุปบำรุงให้ค่ะ”แม่บ้านรักเฉินเฉียวจากใจจริงแม้ว่าเธอจะมีชีวิตแต่งงานที่ล้มเหลว แต่หลังจากผ่านมาหลายวันเธอก็พบว่าเฉินเฉียวเป็นเด็กที่ดีมากจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นนายท่านและคุณหญิงก็ไม่ได้รังเกียจ เธอที่เป็นแค่คนรับใช้ก็ยิ่งรักเธอ มีแค่พ่อของนายท่านที่ไม่ชอบ หวังว่าถึงเวลานั้นเฉินเฉียวจะผ่านไปได้ด้วยดี

“ ค่ะ รบกวนคุณแย่เลย”เฉินเฉียวเดินไปที่ห้องนอนบนชั้นสองตอนนี้เธอไม่สบายใจจริงๆเธอถูก ซังหลินจวินทำทั้งคืน แล้วตอนเช้าก็เจอเฉินอินอีก

“เฉินเฉียวล่ะ”ก่อนที่เธอจะหลับเธอได้ยินเสียงแหลมๆและจำได้

เฉินเฉียวขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวและสองแม่ลูกนี่มาอีกแล้ว

พวกคุณเป็นใคร?แม่บ้านมองไปที่คนสองคนตรงหน้า ดูแล้วไม่น่าใช่คนดี นายหญิงของเธอเป็นคนนุ่มๆนิ่มๆแบบนั้นถ้าเจอสองคนนี้แล้วคงจะแย่แน่ๆ

“ ฉันถามว่า เฉินเฉียวอยู่ไหน? คนรับใช้ของตระกูลซังไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนหรอ? “เมื่อลู่ลี่ลี่เห็นว่าแม่บ้านไม่สนใจเธอเธอก็รู้สึกอายมาก คนใช้ชักสีหน้าใส่เธอได้ด้วยหรอ

“ นายท่านของฉันบอกว่า คุณนายต้องการพักผ่อน ไม่ว่าใครก็ห้ามรบกวน ไม่งั้นพวกคุณรอให้คุณซังกลับมาก่อนแล้วค่อยมาดีกว่า “แม่บ้านมองเหยยีดลู่ลี่ลี่ หลายปีมานี่ที่ทำงานที่บ้านตระกูลซังไม่เคยมีใครใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับเธอ แม้แต่คุณซังก็ไม่เคย แต่ผู้หญิงคนนี้เหมือนพวกปากจัด เป็นธรรมดาที่เธอจะดูถูก

“ถ้าบอกว่าแม่ของเฉินเฉียวมาหาเธอ ต้องขออนุญาตนายท่านของพวกแกอีกไหม”ลู่ลี่ลี่โดนแม่บ้านมองเหยียด มีหรือที่เธอจะยอม

“ คุณแม่บ้านคะ ไปพักก่อนเถอะค่ะ”แม่บ้านกำลังจะพูดต่อ แต่เฉินเฉียวก็ออกมาห้ามพวกเขาที่โต้เถียงกันไว้

“เฉินเฉียว เธอจับซังหลินจวินได้แล้วจริงๆด้วย”พอเห็นเฉินเฉียวลู่ลี่ลี่ก็ควบคุมสติไม่อยู่ แต่เดิมที่เฉินอินกลับบ้านมาฟ้องเธอ เธอก็ยังมีทาทีที่สงสัยแต่ตอนนี้เรื่องทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง

“ฉันกับซังหลินจวินเป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้จับ”เฉินเฉียวขมวดคิ้วและมองไปที่ลู่ลี่ลี่เธอมักวางมาดเล็กน้อย ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะกลายเป็นคนปากร้ายโดยสมบูรณ์แล้ว

“เฉินเฉียวเธอทำโดยตั้งใจหรือไม่เธอก็รู้ว่าซังหลินจวินเป็นของอินอิน เธอยังจะแย่ง หรือว่าอยากจะแก้แค้นเรื่องหกปีก่อนของฉันกับพ่อเธอลู่ลี่ลี่มองไปที่เฉินเฉียวและตะโกนด้วยความโกรธ

“ หกปีที่แล้วหรอ?”เฉินเฉียวมองไปที่ลู่ลี่ลี่ด้วยความงงหกปีที่แล้วเธออยู่ในอาการโคม่ามาตลอดทั้งปีเมื่อเธอตื่นขึ้นมาเธอรู้แค่ว่าเธอไม่สบายแต่เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

ทุกครั้งที่ถามเรื่องนี้กับพ่อเธอ เขามักจะอ่ำๆอึ้งๆหรือว่าเธอไม่ได้แค่โคม่า?

“ หกปีก่อนทำไมงั้นหรอ เธออย่ามาเปลี่ยนเรื่องวันนี้ฉันมาถามเธอ ทำไมเธอแย่งผู้ชายของน้องสาวตัวเอง”ลู่ลี่ลี่มองไปที่เฉินเฉียว เธอเกือบเผลอพูดออกไปแล้ว ถ้าเกิดเฉินเฉียวรู้เรื่องเด็กคนนั้นจะทำยังไง?

“คุณบอกฉันได้ว่าตกลงหกปีก่อนเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”สัญชาตญาณบอกเฉินเฉียว ว่าลู่ลี่ลี่ และ เฉินอัน ต้องมีอะไรปิดบังเธออยู่แน่ๆ แต่ทำยังไงถึงพวกเขาจะยอมบอก?

“ หกปีก่อนไม่มีะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น เธออยากให้เกิดอะไรขึ้นล่ะ? เธออยู่ในอาการโคม่าเป็นเวลาหนึ่งปีด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์และเธอสูญเสียความทรงจำของปีนั้นหลังจากตื่นนอน “ลู่ลี่ลี่มองไปที่เฉินเฉียว เธอบอกเฉินเฉียวเรื่องหกปีก่อนไม่ได้

“เหอะๆ”เฉินเฉียวหัวเรารอยยิ้มของเธอทำให้ลู่ลี่ลี่ตกใจ เฉินเฉียวเป็นคนฉลาดเธอรู้ว่าเธอไม่สามารถปิดมันจากเธอได้ตลอดไป แต่ตอนนี้คงต้องปิดไปก่อน

แม่ในตอนนี้เฉินอินเขย่าแขนของลู่ลี่ลี่

“ เฉียวเฉียว เธอมีปู้อี้เฉินแล้ว ทำไมต้องมาแย่งผู้ชายของอินอินล่ะ?” เธอก็รู้ว่าเด็กคนนี้รักซังหลินจวินมาก “ลู่ลี่ลี่มองไปที่ลูกสาวที่ร้องไห้เสียใจก่อนจะมาที่นี้

“ แม้จะไม่มีฉัน แต่ซังหลินจวินก็ไม่ชอบเฉินอิน”เฉินเฉียวไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับลู่ลี่ลี่เรื่องนี้ วันนี้ตอนเช้าซังหลินจวินก็พูดกับเฉินอินชัดเจนแล้ว แต่ไม่คิดว่าเฉินอินจะหลงเขาขนาดนี้

เฉินเฉียวเมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฉียว เฉินอินก็เริ่มโกรธหมายความว่าอย่างไรที่ว่า ซังหลินจวินจะไม่ชอบตัวเองถ้าไม่มีเธอ“ เห็นได้ชัดว่าพี่ยั่วเขา ครั้งที่แล้วที่ไปโรงบาลพี่ก็เห็นว่าเขาชอบซุปไก่ที่ฉันเคี่ยวให้ขนาดไหน “เฉินอินต้องการหาข้อได้เปรียบให้กับตัวเอง

“ซุปไก่ที่ให้เข้าครั้งที่แล้ว เขาเอาไปให้ฉิวฉิว”เฉินเฉียวมองไปที่เฉินอินและพูดอย่างเรียบๆ

“ ใครคือฉิวฉิว”เฉินอินมองไปที่เฉินเฉียว

“ โฮ่ง … ”ราวกับว่าได้ยินว่ามีคนเรียกชื่อ ฉิวฉิววิ่งเข้ามาหมอบตรงขาเฉินเฉียว

“นี่ไง”เฉินเฉียวชี้ไปที่ฉิวฉิวตรงขาของเธอ

“พูดบ้าอะไรของพี่ วันนั้นเขาดื่มเองชัดๆ พี่ไปพูดอะไรกับเขาแน่ๆ เฉินเฉียวทำไมหน้าไม่อายขนาดนี้ แค่ผู้หญิงที่หย่ามาแล้วรอบนึง มีสิทธิอะไรไปคบกับเขา”

“เฉินอินถ้าคุณต้องการให้คนอื่นชอบก็หัดควบคุมอารมณ์บ้างอย่าทำตัวเลอะเทอะนี่ไม่ใช่พฤติกรรมของผู้หญิงที่ผู้ชายอย่างซังหลินจวินจะชอบ ซังหลินจวินจะชอบพูดหญิงปากร้ายอย่างเธอได้ยังไง “เฉินเฉียวพูดอย่างหวังดีกับเฉินอิน ถึงแม้ว่าตอนนี้กำลังโดนเธอด่า แต่ยังไงซะเธอก็เป็นน้องสาว

“ อย่างน้อยฉันก็สะอาด ไม่เหมือนพี่ ได้ยินปู้อี้เฉินบอกว่าพี่เลี้ยงหนุ่มๆนอกบ้าน ไม่รู้ว่าประธานซังรู้เรื่องนี้แล้วจะว่ายังไง พี่คิดว่าเขาจะรังเกียจพี่ไหม? เขาจะโยนพี่ออกไปเหมือนผ้าขี้ริ้ว? “เฉินอินมองไปที่เฉินเฉียวอย่างมีชัยราวกับว่าเธอจะได้เห็นวันนั้น วันที่ได้เห็นซังหลินจวินเขี่ยเฉินเฉียวทิ้ง

“เฉินอินเธอเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วยหรอ?”เฉินเฉียวรู้สึกว่าเฉินอินกู้ไม่กลับแล้ว

“ เฉินเฉียวเพิ่งอย่าดีใจไปหน่อยเลย ฉันจะทำให้ประธานซังเห็นธาตุแท้ของพี่ หวังว่าพอถึงวันนั้นพี่จะไม่มานั่งร้องไห้ฟูมฟายนะเฉินอินไม่พอใจ ทำไมซังหลินจุนต้องเอาอกเอาใจเฉินอินขนาดนั้น แม้แต่สายตาที่เขามองเธอยังจะใช้สถานะในความเป็นน้องสาวของเฉินเฉียวให้เขามามองเธอ

“ เฉียวเฉียว!จู่ๆซังหลินจวินก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องนั่งเล่นและทำให้ทั้งสามคนในห้องนั่งเล่นตกตะลึง

“ ทำไมคุณกลับมาตอนนี้”เฉินเฉียว มองไปที่ชายตรงหน้าและถามด้วยความประหลาดใจจำได้ว่าวันนี้ตอนออกจากบ้านเขาบอกว่าวันนี้มีการประชุมที่สำคัญเขาควรจะอยู่ในห้องประชุมในเวลานี้

“ เป็นห่วงคุณ เลยกลับมาดู”ซังหลินจวินพูดเรียบๆ แต่ลู่ลี่ลี่รู้ดีว่าเขาหมายถึงเธอจะรังแกเฉินเฉียวและเขาก็ปรากฏตัวที่นี่เพื่อปกป้องเฉินเฉียว

“ ประธานซัง ลูกสาวฉันตอนนี้อาศัยอยู่ที่นี้คนเดียวไม่เหมาะสม ฉันเลยจะพาเฉียวเฉียวกลับ บ้านยังไงก็เป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด”ลู่ลี่ลี่มองไปที่ซังหลินจวิน พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset