ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 132 กำจัดเธอ

ตั้งแต่ที่ซังอวี้เจอกับเถียนเถียนได้ตกลงกันแล้ว ชีวิตของเฉินเฉียวก็ไม่ได้ราบรื่นขนาดนั้น ก่อนอื่นคดีความร่วมมือกับหลายบริษัทถูกแย่งชิงไปโดยไม่มีเหตุผล ตอนนี้ตอนเลิกงานยังคงเจอพวกอันธพาลพวกนั้นอยู่ดี

“ หลังเลิกงานหรือยัง ฉันจะไปรับเธอ”หลายวันมานี้ซังหลินจวินกับเฉินเฉียวยุ่งมาก เหมือนกันแมลงที่บินจนลืมวันลืมเวลา ซึ่งนั่นสร้างปัญหาให้ซังหลินจวินมาตลอด

“ซังหลินจวินช่วยฉันด้วย”เสียงของเฉินเฉียวดังผ่านโทรศัพท์อย่างร้อนรน ซังหลินจวินจับโทรศัพท์ไว้แน่น เฉินเฉียวต้องกำลังเจออันตรายบางอย่างอยู่แน่ๆ

“เธออยู่ไหน?”น้ำเสียงของซังหลินจวินเต็มไปด้วยความร้อนรน เขายังไม่ทันได้ถามถึงที่อยู่ของเฉินเฉียว โทรศัพท์ก็ส่งเสียงบี๊บๆออกมา

“เจียงอี้ฟาน มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเฉินเฉียว”ซางหลินจวินรีบโทรหาเจียงอี้ฟาน แล้วกําชับให้อวี้เฟยและหลีชิงขับรถไปที่บ้านของเฉินเฉียว

“ เฮ้ ซังหลินจวิน เห็นเฉียวเฉียวไหม? เธอเพิ่งส่งของมาให้ฉัน ฉันรอมานานแล้วก็ยังไม่เห็นใครสักคน “ทันทีที่ซังหลินจวินสตาร์ทรถเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากเจียงฉยงฉยงทันที

“คุณอยู่ที่ไหน?” ซังหลินจวินรู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ ไม่ง่ายเลย เฉียวเฉียวไปมอบของบางอย่างให้เจียงฉยงฉยง แต่จู่ๆก็หายไปในระหว่างการเดินทาง มันแปลกมากและต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ

“ ฉันอยู่ที่ซั่งจิ่งหยวน”หลังจากเจียงฉยงฉยงแจ้งที่อยู่ของตัวเองแล้ว ซังหลินจวินก็วางสายไป เธอทําได้เพียงโทรไปที่เบอร์ของเฉินเฉียวซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกระทั่งมีข้อความแจ้งว่าปิดเครื่องแล้วถึงได้หยุดโทร

“พวกคุณเป็นใคร?”เฉินเฉียวที่ง่วงนอนค่อยๆตื่นขึ้นมา เธอขยับร่างกายและพบว่าแขนขาถูกมัดและมีผ้าปิดตาของเธอเอาไว้ เธอเข้าใจทันทีว่าเธอนั้นถูกลักพาตัว

“เธอไม่ต้องสนใจหรอกว่าพวกเราเป็นใคร รู้ไว้แค่ว่าอีกแป็ปเดียวพวกเราก็จะทําให้เธอรู้สึกอยากตายก็พอแล้ว”เสียงหยาบคายดังขึ้น เฉินเฉียวก็เริ่มการต่อสู้แบบสงครามเย็นทันที

เธอหมุนแผนที่ของตัวละครในหัวของเธออย่างรวดเร็ว โดยพยายามนึกถึงคนที่เธอเคยทำให้ขุ่นเคืองเมื่อเร็วๆนี้

แต่หลังจากคิดไตร่ตรองเป็นเวลานาน ก็จำไม่ได้อยู่ดีว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ไปทำให้ใครรู้สึกขุ่นเคือง

“พวกคุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร?”เฉินเฉียวคิดว่าในเมื่อไม่สามารถนึกถึงคนที่เธอเคยไปล่วงเกินได้ เช่นนั้นแล้วก็เริ่มจากความต้องการของพวกเขาก็ได้

“รู้สิ เฉินเฉียว อดีตผู้อำนวยการโครงกา และก็เพิ่งได้ยินมาว่าเธอเพิ่งได้เป็นหัวหน้า”ชายคนหนึ่งที่มีเสียงทุ้มกล่าวเบา ๆ

“ฉันสามารถเพิ่มเงินเป็นสองเท่าของเงินที่คนที่จ้างพวกคุณ ฉันแน่ใจว่าพวกคุณจะได้รับเงินสำหรับการยื่นหมูยื่นแมวนี้” เฉินเฉียวได้ยินความหวังอันริบหรี่ในใจเมื่อพวกเขารู้จักตัวตนของพวกเขา

และน้ำเสียงที่หนักแน่นในตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าคน ๆ นี้ไม่ควรจะเป็นคนชั่วร้ายแบบนี้

“ฉันทำสิ่งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อเงิน”ชายคนนั้นตอบกลับเฉินเฉียวด้วยเสียงทุ้ม คำพูดของเขาทำให้เฉฺนเฉียวรู้สึกตัวเย็นไปทั่วร่างกายทันที

“ แล้วจุดประสงค์ของคุณคืออะไร?”เฉินเฉียวย่อมไม่ปล่อยโอกาสที่จะช่วยตัวเองไป เธอไม่รู้ว่าซังหลินจวินจะปรากฏตัวต่อหน้าเธอได้ทันเวลาหรือไม่ หากเขาไม่ปรากฏตัว เช่นนั้นแล้ววันนี้ตัวเองคงจะต้องถูกจำกัดทิ้งอย่างแน่นอน

ความหวังมันริบหรี่เกินไป เฉินเฉียวไม่สามารถนั่งรอความตายแบบนี้ได้

“คนผู้นั้นมีพระคุณต่อฉัน ไม่ว่าเธอขอให้ฉันทำอะไรฉันจะไม่ปฏิเสธแน่นอน”ชายคนนั้นบอกว่ามีใบหน้าที่อันบอบบางอยู่ในความคิดของเขาเสมอ ตอนนั้นเขากำลังจะตายจากการถูกกลุ่มคนทำร้ายแต่เธอก็ปรากฏตัวต่อหน้าเขาและช่วยเขาไว้

ต่อมาตัวเขาก็พยายามเข้าหาเธอหลายครั้งเพื่อตอบแทนเธอที่ช่วยชีวิต แต่ดูเหมือนเธอจะลืมเรื่องนั้นไปแล้ว แต่เขาก็ไม่คิดท้อถอย คอยปกป้องและคอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ

“เป็นยังไงบ้าง?”ซังหลินจวินที่ตามหาเฉินเฉียวอย่างร้อนรน เขาดูกล้องวงจรปิดทั้งหมดจากทางที่เฉินเฉียวเดินทางมาในวันนี้ และหม่าตงก็ถูกตรวจสอบแล้วเช่นกัน

“อินอิน ทําไมเธอถึงดูร้อนรนนัก”ลู่ลิลลี่มองลูกสาวที่ตัวสั่นระรัวตรงหน้า เธอบอกว่าเธอจะต้องจัดการปัญหาทั้งหมดให้เธออย่างแน่นอน แต่คิดไม่ถึงว่าเด็กสาวคนนี้จะใจเย็นขนาดนี้ ถึงกับหาพวกอันธพาลมาจำกัดเฉินเฉียวได้

“ทำไมเธอถึงสามารถมีทุกคนไว้ในมือได้ตั้งแต่เธอยังเด็ก ฉันได้แต่เฝ้าดูมันเงียบ ๆ ฉันเป็นคนที่ชอบซังหลินจวินมาก่อน แล้วทำไมเธอถึงได้อยู่กับซังหลินจวิน?”เฉฺินอินมองไปที่เสียงคำรามของแม่ของเธอ วินาทีสุดท้ายเธอได้ยินเฉินอีนพูดว่า ซังหลินจวินเห็นหม่าตงแล้ว เฉินอินยังคงตื่นตระหนก แต่ในวินาทีถัดมาความโกรธของเธอก็ทำลายเธออย่างสิ้นเชิง เหตุผลตอนนี้คือเธอต้องการจำกัดเฉินเฉียวเท่านั้น

บางทีประธานซังอาจจะแค่หลงแค่ชั่วขณะว รอจนเฉินเฉียวถูกจำกัดออกไปก่อน บางทีเขาอาจจะเข้าใจได้สักทีใครคือผู้หญิงที่เหมาะสมกับเขา ใช่แล้ว ต้องแบบนี้แน่ๆ

“อินอิน รีบบอกฉันว่าคนนั้นพาเฉินเฉียวไปที่ไหน?”ลู่ลี่ลี่มองไปที่ลูกสาวของเธออย่างหงุดหงิด เฉินเฉียวจะต้องไม่ถูกจำกัดในมือของเฉินอิน หากเฉินเฉียวถูกจำกัดโดยเฉฺนอิน แม้ว่าตอนนั้นซังหลินจวินจะยอมแพ้เรื่องเฉินเฉียวไป แต่เขาก็คงจะไม่ปล่อยเฉินอินไปอย่างแน่นอน

นี่ไม่ใช่แบบที่เธอคิดไว้ เธอวางแผนไว้แล้วว่าเถียนเถียนจะเป็นคนลงมือ แต่ทําไมเธอถึงได้เจอกับลูกสาวของเธอเอง

“ฉันไม่รู้ ถึงฉันจะรู้แต่ฉันก็จะไม่พูดมันออกมา ฉันจะต้องทำลายเฉินเฉียวให้ได้”เฉินอินมองไปข้างหน้าอย่างร้ายกาจราวกับเห็นฉากที่เฉินเฉียวถูกจำกัด ทันใดนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นหัวเราะและรีบออกจากบ้านไป

“อินอิน ลูกสาวฉัน เธอจะเป็นแบบนี้ไม่ได้สิ”ลู่ลี่ลี่มองลูกสาวที่เดินออกจากประตูอย่างหงุดหงิด เสียใจจนน้ำตาไหลอาบแก้ม

เธอรู้ว่าเธอต้องไม่สามารถปกป้องลูกสาวของเธอได้ในครั้งนี้

“เป็นยังไงบ้าง อินอินได้อธิบายอะไรไหม?”เฉินอันโทรไปถามลู่ลี่ลี่อย่างใจจดใจจ่อเกี่ยวกับความคืบหน้า

“ไม่ อินอินไม่ได้ทำเฉินเฉียว”ลู่ลี่ลี่ยังคงต้องการที่จะโต้แย้งเฉินอิน แต่ซังหลินจวินที่อยู่ข้างๆก็ได้ขโมยโทรศัพท์ไปแล้ว

“บอกเฉินอินด้วย ถ้าเธอสารภาพที่อยู่ของเฉียวเฉียวตอนนี้ ฉันอาจปล่อยเธอไป และถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเฉียวเฉียวแม้แต่นิดเดียว ฉันจะทำให้เธอเจียนตายอย่างแน่นอน”ซังหลินจวินเพิ่งตรวจสอบภูมิหลังของหม่าตง และมั่นใจอย่างแน่นอนแล้วว่าเฉินอิน และหม่าตงเป็นเพื่อนกัน ครั้งนี้หม่าตงกำหนดเป้าหมายไปที่เฉียวเฉียว เนื่องจากเฉินอินต้องการจะบ่ายเบี่ยงความผิด ตอนนี้เขาเพียงแค่ต้องการเช็คให้แน่ใจว่าเฉินเฉียวปลอดภัย

“ประธานซัง ฉันจะให้เฉินเฉียวกลับมาอย่างปลอดภัย ได้โปรดอย่าทำอะไรอินอินเลย”ลู่ลี่ลี่ได้ยินคําพูดของซังหลินจวินก็แทบเสียสติไปแล้ว เธอทําได้เพียงไล่ตามเส้นทางที่เฉินอินออกไปอย่างร้อนรน

อีกอย่างเฉินเฉียวกับหม่าตงและคนอื่นๆ ก็ยืนอยู่ในทางตัน

“หม่าตง”เฉินเฉียวถูกปลดผ้าสีดำที่ปิดตาเธออยู่และเธอก็จำผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอได้

“คุณรู้จักผม?”หม่าตงมองไปที่เฉินเฉียวอย่างสงสัย ผู้หญิงคนนี้รู้จักตัวเขา ซึ่งหมายความว่าเขาจะต้องไม่ปล่อยให้เธอได้ออกไป

“ไม่ ฉันรู้แค่ว่าสิ่งที่ห้อยคอของคุณนั่นมันเป็นของฉัน”เฉินเฉียวส่ายหัว เมื่อเจ็ดปีก่อนเธอออกไปเล่นกับเฉินอิน และช่วยเด็กที่กำลังจะตายบนถนน

ในตอนนั้นเด็กหนุ่มได้ทิ้งสิ่งของบางอย่างไว้ให้เฉินเฉียวเพื่อจะได้ตามหาเพื่อตอบแทนบุญคุณ แต่ตอนนั้นเธอไม่ได้ให้อะไรเขา ทําได้เพียงแค่มอบสร้อยคอให้เขาเท่านั้น

“คุณพูดว่าอะไรนะ?”ประโยคหนึ่งทำให้หม่าตงรู้สึกประหลาดใจ

สิ่งๆนี้เป็นของผู้หญิงตรงหน้า? เฉินอินเป็นบ้าอะไร ทำไมเธอถึงบอกว่าเธอเป็นคนช่วยชีวิตเขา?

ความจริงแล้วหม่าตงมองข้ามครั้งแรกที่ตัวเองเจอกับเฉินอิน เธอไม่คุ้นเคยกับจี้ที่คอตัวเองเลย อีกทั้งเธอดูไม่มีความรู้สึกอะไรกับเรื่องที่เคยช่วยเขาสักนิด

“หม่าตง ฉันไเกือบจะคิดไม่ถึงว่าฉันเคยช่วยคุณ เพียงเพื่อความเมตตาของคุณในสักวันหนึ่ง “เฉินเฉียวยิ้มเจื่อนๆ พลางส่ายหน้า เธอมองอันธพาลตรงหน้าที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ เฉินเฉียวหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง

“อ๊า!”อันธพาลมองเข้าใกล้เฉินเฉียว แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกตี “พี่ใหญ่ อย่าถูกผู้หญิงคนนี้หลอกเลย อย่าลืมว่าผู้หญิงคนนี้เป็นพวกหัวสูงในที่ทํางาน วิธีการจัดการกับคนมันไม่มีที่สิ้นสุด “นักเลงอยากจะแสดงอารมณ์โกรธ แต่เมื่อเห็นว่าเจ้านายของเขากำลังตีเขา เขาก็ได้ แต่ปิดปากเงียบอย่างเสียใจ

“ ไม่ได้มีคำสั่งจากฉัน ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้แตะต้องเธอ “หม่าตงสลัดอันธพาลออกไป เขาไม่ได้คิดเลยว่านี่เป็นแผนการที่เฉินเฉียวจะลดกําลังพวกเขาลง แต่ไม่รู้ว่าทําไมเขาถึงเชื่อเธอ เพราะแค่เขามองหน้าเฉินเฉียว และพบว่าใบหน้าของเธอค่อยๆ บังเอิญเหมือนกับใบหน้าในความทรงจําของเขา

“คุณ เป็นเจ้าของจี้นี้จริงๆหรือ?”หม่าตงมองไปที่เฉินเฉียว น้ำเสียงของเข้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“มีคำว่าเฉียวอยู่มุมขวาล่างของจี้นี้”เฉินเฉียวมองไปที่หม่าตงและเอ่ยเบาๆ

หม่าตงมองจี้ที่คอของเขาด้วยท่าทางงงงวยและหันไปทางมุมขวาล่างและเขาก็เห็นคำว่าเฉียวอย่างชัดเจน

“นี่เป็นของขวัญจากพ่อของฉัน ตอนฉันอายุสิบแปดปีในปีนั้น วันที่ฉันช่วยชีวิตคุณมันเป็นวันเกิดของฉัน และตอนนั้นฉันไม่มีอะไรจะให้คุณนอกจากสิ่งนี้”เฉินเฉียวพูดซ้ำกับสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น

หม่าตงมั่นใจแล้วว่าเฉินเฉียวคือผู้หญิงที่ช่วยเขาในวันนั้น

“ ขอโทษนะ ฉันไปจำคนอื่นผิดว่าเป็นคุณ เกือบจะทำร้ายคุณ “หม่าตงเดินไปปลดเชือกที่มัดเฉินเฉียว

“ระวังด้วย”แต่คำเตือนของ Cen Qiao ยังคงสายเกินไปเมื่อ Ma Dong ตอบสนองมันก็สายเกินไปแล้วและเขาทำได้เพียงแค่ตะคอกและล้มลงกับพื้น

“หวงเหมา นายกำลังทำอะไร?”บางคนเห็นว่าหวงเหมาพ่นเสียงคำรามอย่างไม่พอใจกับหม่าตง

“ฉันทำอะไร? พวกเรากำลังทำอะไรอยู่ ทุกคนล้วนเป็นพวกอันธพาล แต่เจ้าหมอนี่กลับมีคุณธรรมและพูดได้อย่างเต็มปาก ทั้งๆ ที่บอกว่าพอทําเสร็จพวกเราก็จะล้างมือ แล้วกลับบ้านไปแต่งงานมีภรรยามีลูก ตอนนี้กําลังทําอะไรอยู่งั้นหรอ? ”หวงเหมาคำรามอย่างบ้าคลั่งและเขาไม่พอใจ เขาก็ไม่ลืมที่จะเตะไปที่หม่าตงหลาย ๆ ครั้ง

“ผู้หญิงคนนี้ไม่มีความหมายสำหรับเรา ความหมายก็คือถ่ายรูปนู้ดและวีดีโอของเธอแล้วเราสก็ามารถแลกชีวิตของเราเพื่อชีวิตที่มีความสุขได้”หลังจากที่หวงเหมาพูดจบ เขาก็หันกลังไปมองที่เฉินเฉียว

เมื่อครู่เขามีแรงกระตุ้นที่จะได้เจอกับเฉินเฉียว แต่หม่าตงคนนั้นดันคิดถึงแต่เรื่องผู้มีพระคุณของตัวเองเท่านั้น

ผมหางม้าของเขาคดจะทำอะไรโง่ ๆแบบนั้น สำหรับเขาเงินเท่านั้นที่เป็นวิธีที่เหมาะสมสำหรับเขาที่สุด

“หวงเหมา นายรู้ไหมว่าผู้หญิงคนนี้ได้รับการติดต่อจากพี่ตงและตอนนี้นายต่อยพี่ตง” ถึงได้ผู้หญิงคนนี้มา เราก็ไม่รู้ว่าจะไปรับเงินจากใคร “หนึ่งในนั้นที่กำลังดูหวงเหมาได้แสดงความกังวลออกมา

เป็นเรื่องจริงที่คนกลุ่มนี้เป็นพวกสิ้นหวังและพวกเขาไม่สนใจเรื่องความเมตตากรุณาและศีลธรรมของหม่าตง จริงๆพวกเขาออกมาทำธุรกิจแบบนี้เพื่อเอาชีวิตรอดเพียงเพราะต้องการเลี้ยงเด็กๆ แม่และคนในครอบครัว

แม้ว่าหวงเหมาจะหยาบคายและคิดอย่างรอบคอบ แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องนี้เมื่อได้ยินเพื่อนของเขาเตือนเขาเช่นนี้

“ ฉันจ่ายได้สองเท่าตราบใดที่คุณเต็มใจให้ฉันกับหม่าตงออกไปตอนนี้ ฉันไม่เพียง แต่รับประกันว่าพวกคุณจะปลอดภัยและมั่นคงเท่านั้น แต่ยังรับประกันว่าจะจ่ายเงินเดือนให้พวกคุณสองเท่าด้วย”เฉินเฉียวพูดในเวลานี้เพียงเพื่อความปลอดภัยของเธอ

“ เราจะเชื่อเธอได้ยังไง สิ่งที่เราต้องการในครั้งนี้คือความบริสุทธิ์ของเธอ เธอจะสามารถปล่อยเราไปอย่างไม่เห็นแก่ตัวได้ไหม? “หวงเหมาเหลืองมองเฉินเฉียวอย่างสงสัย เขาจะไม่ถูกคนรวยหลอกตามอําเภอใจ แต่เฉินเฉียวกลับเคยถามมาก่อน แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็งและเด็ดเดี่ยวในห้างแต่คำพูดที่ไม่สามารถกู้คืนได้

“ฉันสาบาน”เฉินเฉียวมองไปที่หวงเหมาและพูดอย่างหนักแน่นว่า “ทั้งหมดที่ฉันต้องการคือความปลอดภัยของตัวเอง และสิ่งที่คุณต้องการคือเงิน ตราบใดที่คุณสัญญาว่าจะเอาเงินไปและปล่อยฉันไป ฉันจะไม่มีวันต่อต้านคุณ”เฉินเฉียวมองไปที่หวงเหมาที่ดูจะหวั่นไหวเล็กน้อยและกล่าว

หวงเหมานึกถึงตัวตนของเฉินเฉียว แล้วคิดอีกทีว่าซังหลินจวินผู้ชายที่คอยซัพพอร์ตอยู่ข้างหลังเธอ เขาก็แอบกลืนน้ำลายลงคอ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ชั่งน้ำหนักเรื่องนี้ ถ้าเขาทำอะไรกับเฉินเฉียวในวันนี้ เขาอาจจะไม่มีชีวิตต่อที่จะใช้เงิน เนื่องจากเป็นแบบนี้แล้วดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะเชื่อผู้หญิงคนนี้

“ ฉันอยากเห็นความจริงใจของเธอก่อน”หวงเหมายื่นโทรศัพท์มือถือให้เฉินเฉียว

“กดโทรไปที่เบอร์ 139 ********”เฉินเฉียวบอกหมายเลขโทรศัพท์ และหวงเหมาก็กดโทรออกอย่างเชื่อฟังและเอาโทรศัพท์แนบหูเฉินเฉียว

“สวัสดี คุณคือ?”การโทรถูกเชื่อมต่ออย่างรวดเร็วและเสียงอันเยือกเย็นของหลีชิงก็เอ่ยออกมา

“ฉันเอง”เฉินเฉียวตอบและเธอพยายามทำให้เสียงของเธอสงบที่สุด

“ ประธานเฉียว”พอได้ยินเสียงของเฉินเฉียว หลีชิงก็ดูตื่นเต้นเป็นพิเศษทำให้คนรอบข้างมองเขา

อวี้เฟยที่อยู่ข้างๆ ได้ยินเสียงของหลีชิงก็ส่งสายตาไปที่เขา

“ประธานซาง ผมพบตําแหน่งที่แน่นอนของคนที่ลักพาตัวแล้ว ผมจะส่งมันให้คุณตอนนี้”ประสิทธิภาพในการทำงานของอวี้เฟยนั้นยอดเยี่ยมมาโดยตลอด

เฉินเฉียวอธิบายให้หลีชิงโอนเงินไปให้หวงเหมา

“ คุณปล่อยฉันกับหม่าตงไปได้แล้ว”เฉินเฉียวมองไปที่ชายที่นอนอยู่ข้างๆเธออย่างเป็นห่วง ตอนนี้เขามีเลือดออกมากและ เฉินเฉียวก็กังวลว่าเขาจะได้รับการรักษาไม่ทันเวลา

“มีอะไรรีบด่วน ผู้ช่วยของเธอยังไม่โอนบัญชีให้เลยไม่ใช่หรอ? พูดถึงคนสวย ตอนนี้ยังว่างอยู่ไม่ใช่หรอ? จะให้ฉันเล่นกับเธอก่อนและดูสิว่าพี่ชายของฉันหรือประธานซังจะเจ็บปวด? “หวงเหมามองไปที่เฉินเฉียวด้วยรอยยิ้มที่หยาบคายและผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาก็ช่างน่าสนใจจริงๆ

หวงเหมาไม่เคยมีโอกาสพบกับรูปลักษณ์ที่สวยงามเช่นนี้มาก่อนในชีวิต เขาจะพลาดโอกาสแบบนี้ไปในวันนี้งั้นหรอ

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้เขาก็มีปฏิกิริยาทันที

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset