“แต่ผมหวังดีกับเขา”ซังหลีหย่วนยังคงดื้อดึง
“ใช่ คุณหวังดีกับเขาแต่หลีหย่วน ถ้าคุณเป็นเขาคุณจะคิดยังไง”เฉียวอวี้หมิ่นคิดว่า ซังหลีหย่วนแบบนี้น่ารักจริงๆ
ดูเหมือนเขาจะไม่ห่างเหินอีกต่อไป
ซังหลีหย่วนรู้สึกสับสนกับคำถามนี้
ใช่ถ้าเขาอยู่ในสถานการณ์ของลูกชายของเขา
ผู้หญิงที่รักกับบริษัทถูกพ่อบังคับให้เลือกเพียงอย่างเดียวบางทีเขาอาจจะ …
จู่ๆซังหลีหย่วนก็รู้สึกว่าดูเหมือนจะรุนแรงกับลูกชายของเขามากเกินไป
บางทีอาจเป็นเพราะซังหลินจวิน เป็นความภาคภูมิใจของเขามาตั้งแต่เขายังเด็กและอยากให้เขาได้สิ่งที่ดีที่สุดมาโดยตลอด
ไม่ว่าจะเป็น บริษัท หรือภรรยาในอนาคต.
แต่มีบางสิ่งที่เขารับไม่ได้ แต่ลูกชายยอม
สิ่งที่ไม่ชอบ จะบังคับยังไง ก็ไม่มีประโยชน์
“ฉันขอคิดดูก่อนล่ะกัน.”ในที่สุดซังหลีหย่วนก็ถอยออกมา
เฉียวอวี้หมิ่นยิ้ม ไม่รู้ว่าสายตาเขากำลังมองไปทางไหน
เมื่อซังหลินจวินมาหาเจียงอี้ฝาน พบว่ามีคนตามมาอยู่ข้างหลังเขา
“ น้องสาวนายมาได้ยังไง?”ซังหลินจวินมองไปที่เจียงอี้ฝานน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสงสัยเขากำลังมองหาใครสักคนไม่ใช่การพาผู้หญิงไปด้วยจะทำให้เสียเวลา
แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นเพื่อนสนิทของเฉินเฉียวแต่เขาก็ไม่อยากที่จะเผชิญหน้ากับเธอในตอนนี้
เจียงอี้ฝานลูบหน้าผากของเขาดูเหมือนจะรู้สึกปวดหัวสำหรับเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังคงอธิบายให้เธอฟัง: “ฉยงฉยงเป็นห่วงเฉินเฉียวหลังจากรู้เบาะแสเธอก็อยากตามไปด้วยไม่ต้องกังวลฉันจะดูแลเองจะไม่ทำให้นายลำบาก”
ซังหลินจวินพยักหน้ารู้ว่าเธอเป็นห่วงเฉินเฉียวเลยไม่ได้พูดอะไร
เนื่องจากเจียงอี้ฝานไม่เคยไปที่แห่งนั้นทั้งสามคนเลยแยกรถกันไป
ซังหลินจวินขับงรถนำทางด้านหน้าเจียงอี้ฝานขับรถด้วยตัวเองและเจียงฉยงฉยงนั่งอยู่ข้างๆคนขับ
เจียงฉยงฉยงดึงหน้าอารมณ์เสียใส่
เจียงอี้ฝานปลอบเธอขณะที่เขาขับรถ: “ฉยงฉยงอย่าโกรธ ซังหลินจวินเลย เขาเป็นห่วงเฉินเฉียว ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเขามีชีวิตที่เลวร้ายและความกดดันในใจของเขาในที่สุดเขาก็ได้รับข่าวคราวของเฉินเฉียว เลยไม่มีเวลามาอธิบาย”
เจียงฉยงฉยงพยักหน้าด้วยความเข้าใจ แต่ก็ยังทำหน้ามุ่ยและพูดอย่างโกรธ ๆ : “แม้ว่าเขาจะเป็นห่วง เฉียวเฉียวแต่นั่นเป็นเพราะเขาผิดพลาดด้วยตัวเองรอฉันเจอเฉียวเฉียวก่อนเถอะฉันจะฟ้อง”
ราวกับจะพิสูจน์ความโกรธของเธอเธอทำเสียงโกรธฮึดฮัด
“โอเคๆ เธอพูดถูก”ขณะขับรถเจียงอี้ฝานยิ้มที่มุมปากของเขาจนเกือบโดนจับได้
ฉยงฉยงของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่และน่ารักที่สุดในโลก
ถ้าไม่มีเขาไม่รู้ว่าใครจะมาหลอกหรือเปล่า
เขาวางแผนไว้ในใจว่าแค่เฝ้าดูแลเธออย่างเงียบ ๆ ก็เพียงพอ
เขาต่อต้านระลอกคลื่นที่ท่วมหัวใจของเขาและขับรถอย่างตั้งใจโดยไม่คิดถึงฉยงฉยงอีก
หมู่บ้านเสี่ยวเหลียนนั้นค่อนข้างห่างไกล
ตั้งแต่เช้าถึงบ่ายไม่มีผ่านไปหลายชั่วโมงไม่มีวี่แววของหมู่บ้าน
ในเวลานี้เฉินเฉียวที่กำลังมองดูทิวทัศน์โดยรอบบนภูเขาพลางเก็บดอกคามิเลียที่สวยงามและมองไปที่ซังอวิ๋น
ว่ากันว่าผู้ชายที่กำลังจริงจังอยู่หล่อที่สุด
แต่ประโยคนี้ถ้าพูดถึงซังอวิ๋นแล้วมันตรงกันข้ามผู้ชายที่จริงจังมีเสน่ห์ที่สุดถึงจะถูก
ลักษณะใบหน้าของเขาดูนุ่มนวลอยู่แล้ว
ตอนวาดภาพอย่างเงียบ ๆ ด้วยพู่กันยิ่งเหมือนกับภาพทิวทัศน์ที่นุ่มนวล
เขาวาดภาพแบบร่างๆเนื่องจากถนนบนภูเขาเดินไม่สะดวก
บนทางเดินค่อนข้างลำบาก เพราะฉะนั้นทั้งสองกินข้าวกลางวันเสร็จ เขาถือมาแค่สมุดสเก็ตช์ธรรมดาและดินสอง่ายๆออกไปบนภูเขากับเฉินเฉียว
“ เฉียวเฉียว มานี่แปปนึง”ซังอวิ๋นวางภาพทิวทัศน์ที่วาดไว้ในสมุดร่างและกวักมือเรียกเฉินเฉียวที่กำลังเก็บดอกไม้ป่า
โอเคเฉินเฉียวถือดอกไม้ที่เธอเก็บและเดินไปหาซังอวิ๋นบาง
“ชอบดอกไม้ขนาดนั้นเลยหรอ”ซังอวิ๋นสังเกตว่าอารมณ์ของ เฉินเฉียวดีขึ้นกว่าเมื่อวานมาก
ดูเหมือนว่าจะเริ่มในตอนเช้า
ตอนนี้ดูเหมือนเธอจะปล่อยวางความหดหู่ที่เก็บกดไว้ในใจและเธอก็ไม่ได้ขมวดคิ้วตลอดทั้งวัน
เฉินเฉียวยิ้มพยักหน้าเบา ๆ ลูบกลีบดอกคามิเลียเบา ๆ : “ใช่แม้ว่าดอกไม้เหล่านี้จะดูบอบบาง แต่ก็สวยงามและได้กลิ่นหอมของมันดูเหมือนว่าทำให้ความกังวลในใจน้อยลง ”
“คุณเป็นคนพอใจง่ายจริงๆ”ซังอวิ๋นมองไปที่เธออย่างพอใจ เกือบจะโดนจับได้ว่ามองเขารีบหันหน้าหนี
“นี่ ให้คุณ”ทันใดนั้นซังอวิ๋นก็ยื่นพวงดอกไม้ออกมาจากด้านหลัง เป็นดอกไม้ป่านานาชนิดสีสดและสง่างามสวยงามมาก
เฉินเฉียวลังเลเล็กน้อยบนใบหน้าของเธอก่อนที่จะรับมัน แม้แต่รอยยิ้มที่มีชีวิตชีวาในตอนแรกก็หยุดลง
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ปฏิเสธอย่างมีชั้นเชิง: “พวงดอกไม้แบบนี้ ให้ได้แต่ผู้หญิงที่ชอบเท่านั้น อาอวิ๋น ให้ใครมั่วๆไม่ได้นะ”
ซังอวิ๋นยิ้มและเขาจงใจถอนหายใจและพูดว่า: “เฉียวเฉียว ตอนแรกผมเห็นคุณนานๆทีจะมีความสุขและผมตั้งใจมอบมันให้คุณเป็นพิเศษเพื่อให้คุณมีความสุขตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามีความหมายอะไรมากกว่านั้น งั้นก็ช่างมันเหอะ.”
พวงดอกไม้ที่เขาถืออยู่ในมือกำลังจะถูกโยนออกไปเฉินเฉียวมองไปที่มันและรู้สึกอึดอัด
เดี๋ยวก่อนเธอเดินไปข้างหน้าสองก้าว มือของซังอวิ๋นหยุดและมองเธออย่างสงสัย เธอหยิบพวงดอกไม้จากมือเขา แล้วสวมไว้บนหัว
“ เฉียวเฉียว คุณบอกว่านี่ต้องมอบให้กับคนที่ชอบไม่ใช่หรอ? ทำไมอยู่ๆคุณก็ใส่ล่ะ หรือว่าคุณชอบผม? “เขาลูบคางของเขาหัวเราะร่าเริง
เฉินเฉียวกลอกตามองบน: “พวงดอกไม้สวยๆแบบนี้ ไม่ใส่ได้ยังไงล่ะ
เธอแตะพวงดอกไม้บนศีรษะของเธอรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอสวยงามกว่าดอกไม้ในภูเขา
เขาว่ากันว่าสุราไม่ได้ทำให้เมามาย คนนั้นเมามายตัวเอง แต่พวกเขาไม่รู้ว่ายังมีรอยยิ้มนี้อยู่ในโลก
ซังอวิ๋นเคลิ้มกับรอยยิ้มของเฉินเฉียวไปชั่วขณะ
เมื่อเขากลับมามีสติสายตาของเขาก็ดูเขินเล็กน้อย เขาสังเกตเห็นสมุดร่างที่เขาถืออยู่เขาก็เกิดความคิดขึ้นมา
“ เฉียวเฉียว เป็นแบบให้ผมได้ไหม”ซังอวิ๋นถามอย่างลังเลพลางถือสมุดวาด
“ โอเคแค่ยืนเฉยๆใช่ไหม”เฉินเฉียวไม่เคยเป็นนางแบบให้คนอื่นวาด แต่เธอเคยเห็นคนที่เป็นนางแบบมาก่อน
โดยปกติจะต้องยืนนิ่ง ๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง