ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 16 ฉันยังไม่แต่งงาน

เฉินเฉียวมองไปที่เขาและหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง

เด็กน้อยตะโกนเรียก ‘หม่ามี๊’ บนเตียงทำให้เธอสะเทือนใจ

เฉินเฉียวเห็นพ่อเขานิ่งเฉย จึงไม่มีทางเลือกยื่นมือไปกุมหลังมือของเด็กน้อยเบาๆ พลางเงยหน้าขึ้นถาม :“แบบนี้หรอ”

สายตาของซังหลินจวินมองไปที่บนมือเธอ

นิ้วขาวสะอาดเรียวยาวของเธอ ในคืนนั้นมือคู่นั้นเคยลูบไล้ไปทั่วร่างกายเขา

ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ชอบทำให้คนอื่นปวดหัวอยู่เรื่อย แถมยังทิ้งรอยกัดไว้ตามตัวเขาอีก แต่พอเป็นมิตรขึ้นมาก็รู้สึกอยากจะครอบครอง ถ้าเธอไม่ร้องไห้ฟูมฟายในคืนนั้น เธอคงจะเสร็จเขาไปแล้ว

นายกำลังคิดอะไรอยู่เฉินเฉียวไม่ได้ยินเขาตอบ แต่เห็นเขาเอาแต่จ้องมองเธอเลยถามอีกครั้ง

ชายคนนั้นละสายตาไป มองไปที่เด็กน้อย “ก็ประมาณนี้แหละ แค่เขาไม่ร้องว่าเจ็บก็โอเคแล้ว ”

เฉินเฉียวไม่รู้เขาคิดอะไรอยู่ เธอก็มองไปที่หน้าของเด็กน้อยด้วย

ใบหน้าเล็ก ๆ อ้วนๆของเขาเหมือนหมั่นโถวเล็กๆน่ารักจริงๆ เหมือนว่าจะเจ็บคิ้วน้อยๆขมวดเล็กน้อยทำให้ทนดูไม่ได้

เฉินเฉียวกุมมือเด็กน้อยเบาๆอย่างเอ็นดู”เกิดอะไรขึ้นกับเขา “เฉินเฉียวถามชายที่อยู่ข้างหลังเขา “พยาบาลบอกว่าอาการเล็กน้อย มันจะเล็กน้อยได้ยังไง ถึงขนาดเป็นลมหมดสติ”

หอบหืด คนอื่น ๆ หายใจไม่ออกด้วยโรคหอบหืดแต่เด็กคนนี้จะเป็นลมเมื่อเขาป่วย ”

เป็นหนักไหม

ซังหลินจวินสบตาของเธอทั้งส่ายหัวและพยักหน้า “ถ้าดูแลดีๆ ก็ไม่อันตรายถึงชีวิต”

เฉินเฉียวถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่แม้ว่าจะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ก็ทำให้เจ็บปวดทรมานได้

ว่าแต่เฉินเฉียวคิดอะไรออกบางอย่าง “คุณแต่งงานหรือยัง”

ซังหลินจวินสอดมือข้างหนึ่งลงในกระเป๋ากางเกงของเขามองเธอหัวจรดเท้า”อะไรนะ”

เฉินเฉียวหยุดชั่วคราวก่อนที่จะพูดว่า: “ไหนๆนายก็แต่งงานแล้ว ลูกนายก็โตขนาดนี้แล้วไม่ควรที่จะออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกแบบนั้น”

ชายคนนี้ดูเหมือนจะยิ้ม นี่เขาถูกผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้สั่งสอนหรอ

“ไม่บอกตัวเองก่อนหรอ เข้มงวดกับคนอื่นแต่ตัวเองกลับ ทำตรงกันข้าม ”

เฉินเฉียวรู้สึกละอายใจและใบหน้าของเธอก็ร้อนผ่าว สถานะของเธอในตอนนี้ไม่มีคุณสมบัติเลยสักนิดที่จะเที่ยวไปสั่งสอนคนอื่น แต่ปากเธอดันไม่ยอมแพ้ “มันไม่เหมือนกัน”

“ ไม่เหมือนยังไง ไหนลองบอกมาสิ”ดูเหมือนเขาค่อนข้างสนใจ

ฉัน….ท้ายที่สุดเฉินเฉียวไม่ได้พูดถึงเรื่องตัวเองและปู้อี้เฉินเธอกลืนคำพูดนั้นกลับไปมีเพียงเสียงต่ำๆ: “ฉันไม่อยากเป็นมือที่สามที่ไปทำลายงานแต่งของใครเค้า”

คำพูดของเธอทำให้ชายคนนั้นหัวเราะ

เฉินเฉียวรู้สึกไม่พอใจ รอยยิ้มนั้นเหมือนว่ากำลังดูถูกเธอ เธอรู้สึกหงุดหงิด “นายหัวเราะอะไร”

ซังหลินจวินก้มหัวลงมามองเธอใกล้ ๆ “ก็แค่คืนหนึ่งที่ไม่มีอะไรเกินเลย จะไปทำลายงานแต่งใครได้”

ทันใดนั้นเขาก็เดินเข้ามาประชิดตัว ทำให้สมองของเฉินเฉียวว่างเปล่า

เนื่องจากเธอดื่มเหล้ามา รู้สึกขาดอากาศ เหมือนจะเป็นลม

เธอถอยออกไปโดยสัญชาตญาณ เข่าติดขอบเตียง ร่างเธอเซลงไปทางเตียงข้างหลัง

เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีเด็กน้อยนอนอยู่ สองมือก็เอื้อมไปเกาะผู้ชายด้านหน้าเธอโดยไม่รู้ตัว

ซังหลินจวินเหยียดแขนออกเพื่อรับเธอไว้ในอ้อมกอด

เธอถูกกอดเบา ๆ ในอ้อมแขนของเขาและทั้งสองก็ตัวแนบชิดติดกัน

เฉินเฉียวฉุกคิดขึ้นมาได้เธอดึงคอเสื้อของเขาและหันไปมองคนเด็กน้อยนอนอยู่ข้างหลัง เมื่อเห็นว่าเขายังคงนอนหลับอย่างสบายเธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เมื่อหันกลับไปไม่นึกว่าจะใกล้ผู้ชายคนนั้นขนาดนี้และแก้มของเธอก็แตะคางของผู้ชายคนนั้น

ริมฝีปากของเธอสัมผัสกับลูกกระเดือกสุดเซ็กซี่ของเขา

เขาหายใจแรงและมองลงไปที่ดวงตาของเธอ

ร่างกายเฉินเฉียวว้าวุ่นไปหมดคนทั้งสองคนร่างใกล้ชิดติดกัน เธอสัมผัสได้ถึงปฏิกิริยาทางกายภาพของผู้ชายคนนั้น

มันทั้งร้อนและทั้งแข็งเหมือนแท่งเหล็กที่กำลังทิ่มแทงเธอ

มีเหงื่อออกจากปลายจมูกของเธอและเธอบังคับตัวเองไม่ได้

ครั้งก่อนที่เธอดื่มจนเมาแล้วมีปากเสียงกับเขา ตอนนั้นเองเธอก็จำอะไรไม่ได้แล้ว

แต่ตอนนี้เธอมีสติ

เธอรู้ดีเธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ท่าทางอันคลุมเครือของทั้งสอง อันตรายยิ่งนัก

เฉินเฉียวสูดลมหายใจและผลักไหล่ของเขาออก”ไม่เป็นไร ฉันยืนเองได้”

ซังหลินจวินมองใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอเขาไม่ได้ทำอะไรกับเธอ เขาปล่อยมือเธอท่าทางแข็งทื่อ ปฏิกิริยาตอบสนองมันก็แค่ภาพลวงตาที่เธอสร้างขึ้น

เฉินเฉียวกล่าว “ขอบคุณ” เธอไม่ได้มองมาที่เขาอีกแต่พูดว่า: “ฉันขอตัวก่อนนะ”

อืมเขาไม่รั้งเธอไว้อีก เสียงตอบอย่างแผ่วเบา เขาไปส่งเฉินเฉียวที่ประตูและยื่นมือเปิดประตูห้องให้เธอ เฉินเฉียวเพิ่งก้าวไปได้เพียงหนึ่งก้าวก็ได้ยินเขาพูด: “ฉันยังไม่ได้แต่งงาน”

เฉินเฉียวหยุดก้าว

ยังไม่แต่งงาน? แต่เขามีลูกชาย ดูเหมือนว่าจะพยานรักตัวน้อยในวัยเยาว์

จากนั้นเฉินเฉียวฉุกคิด นี่มันไม่เกี่ยวอะไรฉันเลย

เมื่อหันมองกลับไปเธอมองชายคนนั้นและพูดอย่างชัดเจนว่า: “ฉันแต่งงานแล้ว”

ซังหลินจวินหน้าบึ้ง

เฉินเฉียวไม่สนใจเขาและเดินจากไป

————

ทันทีที่ประตูห้องคนไข้ปิดลงเด็กน้อยที่กำลังนอนเงียบ ๆ อยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้น

ถอนหายใจ

ส่ายหัว

“ผมอุส่าแกล้งหลับนะ พ่อนี่ใช่ไม่ได้เลยจริงๆ”

ซังหลินจวินมองไปที่เด็กคนนั้นตบหัวเบาๆ”นอนลง”

ซังโย่วอีนอนลงตามคำสั่ง

ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่พ่อเขา”พ่อชอบเธอไหม”

พ่อของเขาไม่สนใจ

เด็กน้อยไม่หยุดพูด“ คุณน้าขี้เมานี่ไม่ทันคนเลยสักนิด ถ้าพ่อเอาเธอเป็นเมียผมตายแน่ เรื่องเดียวไม่พอ ยังต้องมาปวดหัวสองเรื่อง

ซังหลินจวินถาม “ใครบอกว่าพ่อชอบ”

“คุณยายบอก”ซังโย่วอีเบะปาก” คุณยายให้ผมซุ่มดูที่ตรงประตูทางเข้า เห็นคุณน้าสวยๆคนนั้นต้องเป็นคนที่พ่อชอบแน่ๆ ”

หน้าของซังหลินจวินจริงจังมากขึ้น“ ลูกวิ่งไปหาเธอแล้วแกล้งเป็นลมหรอ”

อาจจะเป็นเพราะจูบในครั้งนั้นที่คลับ เรื่องไปถึงหูของคุณหญิงใหญ่ ตอนนี้เกรงว่าคุณหญิงใหญ่รอไม่ไหวแล้วที่จะสืบข้อมูลทั้งหมดของเฉินเฉียว

“ผมไม่ได้แกล้ง เวียนหัวจริงๆ”เด็กน้อยแก้ต่างอย่างจริงจัง

ซังหลินจวินมองหน้าอันซีดเซียวของลูกชาย อดดุไม่ได้ “คุณย่าเป็นห่วงแบบนี้หรอ”

“ คุณย่าบอกว่าถ้าพวกเราไม่ช่วยกันกลัวว่าชีวิตนี้พ่อจะหาแฟนไม่ได้ งั้นชีวิตนี้ผมก็ไม่มีหม่ามี๊ . แต่ว่า พ่อครับ คุณน้าขี้เมาบอกว่ามีสามีแล้วทำยังไงดี ”

ซังหลินจวินหน้าบึ้งอีกครั้ง ท้ายสุดกล่าวเพียงว่า “ช่วยไม่ได้”

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset