ดวงตาของซังอวิ๋นดูงุนงงเล็กน้อย: “คุณต้องการอะไร?”เขาไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆเธอถึงยื่นมือมาหาเขา
เฉินเฉียวมองบน : “โทรศัพท์มือถือ”
อ๋อซังอวิ๋นหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าและส่งให้เธอ
หลังจากรับโทรศัพท์เฉินเฉียวพบว่าเขาไม่ได้ล็อคหน้าจอจึงคลิกที่กล้องและเปิดโหมดกล้อง
ตอนที่กำลังจะกดจู่ๆก็นึกขึ้นได้ “เอาท่าไหนดี เคร่งขึม หรือว่าแบบนารัก
เธอชูสองนิ้วเข้ากับใบหน้าของเธอซึ่งน่ารักจริงๆ
ซังอวิ๋นกลั้นยิ้ม: “แค่ถ่ายรูปตามปกติก็พอ”
ตอนแรกที่เขาขอนี้เขาคิดว่าเธอจะส่งรูปถ่ายให้เขาทางโทรศัพท์มือถือ
ไม่คาดคิดว่าเธอจะหยิบโทรศัพท์มือถือของเขามาถ่ายภาพโดยตรง แต่ก็ไม่เป็นไรแบบนี้ทำให้เขายิ่งมีความสุข
เฉินเฉียวคิดถึงหน้าปกติของเธอที่กลั้นยิ้มสีหน้าดูแล้วเคร่งขรึม
เธอถือกล้องหน้าของโทรศัพท์มือถือและหันเข้าหาตัวเองจากนั้น “แชะ” ภาพที่ไม่ยิ้มแย้มแจ่มใสก็ปรากฏออกมา
หลังจากที่ซังอวิ๋นหยิบมันขึ้นมาเขาก็ส่ายหัว: “เฉียวเฉียวผมคิดว่าคุณมักจะยิ้มผมต้องการวาดใบหน้าที่มีรอยยิ้มบนใบหน้าของคุณอันนี้ดูจริงจังเกินไป”
เฉินเฉียวในโทรศัพท์สีหน้าเย็นชาในดวงตาของเธอพร้อมกับกลิ่นอายของ ซังหลินจวิน
สีจาง ๆในดวงตาของซังอวิ๋นแสดงให้ว่าเขาเห็นมันได้อย่างชัดเจน
เฉินเฉียวเอือม ปกติเธอมักจะอยู่ใน บริษัท เวลาที่เธอยิ้มหรือหัวเราะน้อยจริงๆ
แต่ก่อนไม่มีอะไรที่ทำให้เธอมีความสุข เธอยิ้มไม่ออก
หลังจากได้พบกับซังหลินจวินเธอไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เธอมักจะยิ้ม
ที่แท้สนใจคนๆนึง ก็แสดงออกมาจากใบหน้า
เธอจือปากขึ้นทำตาปรือและดูเหมือนเธอเหม่อ
แต่มันแสดงให้เห็นถึงความเซ็กซี่
ความประหลาดใจแวบหนึ่งแวบเข้ามาในดวงตาของซังอวิ๋น แต่ในขณะนี้มีสายโทรศัพท์เข้ามา
อยู่ไหนอีกคนที่อยู่ปลายสายถาม
มุมปากของเฉินเฉียวยิ้ม: “ทายสิ”
ไม่รู้ว่าจู่ๆก็คิดอะไรถึงถามเธอแบบนั้น
ซังหลินจวินกำลังออกจากบริษัท และขึ้นไปนั่งบนรถ
เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเฉินเฉียวเขาก็มองไปที่โทรศัพท์มือถือ
พบว่าไม่ได้โทรผิด
ปลายสายดูเหมือนจะมีชีวิตชีวาขึ้นกว่าเมื่อก่อน
เขาพับแขนเสื้อขึ้นนั่งในรถแล้วถามว่า “วันนี้มีเรื่องอะไรทำไมดูมีความสุข”
มันกลายเป็นเรื่องตลก
เขาเก็บประโยคนั้นไว้ในใจ
กังวลว่าพูดออกไปแล้วจะทำลายบรรยากาศ
เฉินเฉียวหยิบโทรศัพท์หันไปด้านข้างเล็กน้อยหันหน้าไปทางหน้าต่างดูฝูงชนที่พลุกพล่านอยู่ด้านนอก
เธอไม่ได้ปิดบัง: “อยู่ที่ร้านกาแฟหมิงซิ้น”
ซังหลินจวินเลิกคิ้วและเสียบกุญแจเข้าไปในรถ: “คุณอยู่กับใครเจียงฉยงฉยงหรอ?”
เขาถามแล้ว กังวลว่าจะถามมากไป เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของเธอ เลยเปลี่ยนเรื่อง: “จะกลับเมื่อไหร่”
เฉินเฉียวมองไปที่นาฬิกาของและพบว่าเป็นเวลาเกือบสามโมงแล้วเธอจึงถามซังอวิ๋น อย่างเบาๆ ว่า “เดี๋ยวฉันกลับเลยได้ไหม”
ซังอวิ๋นพยักหน้า
เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกและตอบว่า: “ใกล้แล้ว อีกแปปเดียวฉันก็จะกลับบ้าน”
“รอผม เดี๋ยวผมไปรับแค่นี้ก่อนนะ”เมื่อรู้ถึงสถานที่ ซังหลินจวินก็จะไปรับเธอ
ไม่ใช่เรื่องง่ายก็จะจัดการเรื่องของบริษัทให้เสร็จ
จะได้อยู่กับเธอได้ชิวๆ
เมื่อนึกถึงของที่ส่งไปแล้วมีแววแห่งความสุขในดวงตาของเขา
หลังจากวางสาย เฉินเฉียวก็ถ่ายรูปให้ซังอวิ๋นอีกครั้งเพราะเธอกำลังจะกลับ
หัวข้อสนทนาของทั้งสองคนไม่มากเท่าตอนแรก
เมื่อซังหลินจวินมารถก็จอดในที่จอดรถข้างร้านกาแฟ
ก้าวของเขาสบาย ๆ แต่จำนวนก้าวของเขายาว
ก่อนที่จะเดินไปที่ประตูร้านเห็นเฉินเฉียวและคนที่อยู่ตรงข้ามเธอด้านนอก
หัวใจที่เคยมีความสุขก็สำลัก
เขาไม่ชอบผู้ชายที่ชื่อซังอวิ๋น
ในฐานะผู้ชายเขาเข้าใจสายตาชายคนนั้นเมื่อเขามองไปที่เฉินเฉียว
อย่างไรก็ตามเขาเก่งมากในการเสแสร้ง
ถ้าไม่ใช้เพราะอารมณ์อ่อนไหวของเขานั้นเป็นธรรมชาติ เกรงว่าคงดูไม่ออก
ตอนที่เฉินเฉียวหลับแล้วออกจากหมู่บ้านนั้น เขาตั้งจากจะแยกพวกเขาทั้งสองออกจากกัน
เขาไม่ชอบผู้ชายที่จีบผู้หญิงไปทั่ว
ไม่คาดคิดว่าภายในสองวันชายคนนี้จะติดต่อ เฉินเฉียวอีกครั้ง
เขาไม่อยากพูดกับเฉินเฉียวตรงๆว่าผู้ชายคนนั้นชอบเธอ
เขาไม่มีความสุข
“ รอนานแล้วใช่ไหม”เมื่อพวกเขาเห็นทั้งสองคนคุยกันอีกครั้งซังหลินจวินก็เดินไป
เขายืนอยู่ข้างหลังเฉินเฉียวหัวของพวกเขาใกล้มากพวกเขาดูคลุมเครือ
เฉินเฉียวถอนตัวเล็กน้อยและส่ายหัว: “ไม่”
เครื่องดื่มที่เธอสั่งเพิ่งเสิร์ฟได้ไม่นาน พอเขามาก็ดื่มหมดพอดี
เขามาได้เวลาพอดี
เมื่อเห็นว่าเขามา ซังอวิ๋นก็ลุกขึ้นยืนทักทาย: “คุณซังพบกันอีกแล้วนะครับ”
ซังหลินจวินก็ยืดตัวขึ้นและยิ้ม: “ใช่ พบกันอีกแล้วแต่ถ้าไม่ใช่พบกันที่นี้ผมคงดีใจกว่านี้”
สายตาของเขาละจากเฉินเฉียวและเห็นได้ชัดว่าเสียงของเขากำลังพูดว่าคุณกับผู้หญิงของผมอยู่ด้วยกัน ไม่อยากจะเห็นหน้าคุณเลยจริงๆ
เฉินเฉียวไม่รู้สึกถึงความผิดปกติของเขาทั้งสอง
เธอแค่ยืนเฉยๆพูดกับเขาว่า“อาอวิ๋น ขอโทษนะที่จริงอยากจะอยู่คุยต่อ แต่ไม่มีเวลา ถ้างั้นกาแฟครั้งนี้ฉันเลี้ยงนะ”
โอเคเขาตอบ ครั้งนี้เธอเลี้ยงเขาแล้ว ครั้งหน้าเขาก็ค่อยหาเหตุผลให้เธอออกมา เป็นเหตุผลที่ดีจริงๆ
ซังหลินจวินดูเหมือนจะเห็นความคิดของเขา
เมื่อทั้งสามคนไปที่เค้าเตอร์เพื่อจ่ายเงินพวกเขาก็เงินออกมาก่อน
“ใช้บัตรผม”เขายื่นให้พนักงาน
พนักงานกำลังจะรับบัตร แต่มีมือหนึ่งเข้ามาขวาง
ซังอวิ๋นหยิบแบงค์ออกมาสองสามใบและส่งให้เธอโดยตรงโดยพูดว่า “ไม่ต้องทอน”
เขายอมให้เฉินเฉียวเลี้ยงได้ แต่ไม่ยอมให้ซังหลินจวินจ่ายให้แน่
เขาไม่พอใจ
แต่เมื่อเขามองไปที่ซังหลินจวินซังอวิ๋นก็ยังคงยิ้ม: “ขอโทษนะครับ คุณซัง ผมคิดแล้วผมจ่ายเองดีกว่า ไม่รบกวนคุณแล้ว”
ซังหลินจวินไม่ได้ตอบ
จนกระทั่งทั้งสามคนเดินออกจากร้านกาแฟเขาโอบแขนรอบเอวของ เฉินเฉียวแล้วยิ้ม: “คุณซังอวิ๋น ผมกับเฉียวเฉียวกำลังจะแต่งงานกันสิ้นเดือน ถึงเวลานั้นคุณก็มางานพวกเราด้วยนะครับ”