ทันใดนั้นโหยวจิ้งหลีก็นึกขึ้นได้ พูดว่า “จริงด้วยสิ โครงการรื่ออันการแพทย์ประธานกรรมการเขามอบหมายให้ฉันแล้ว”
หลังคำพูดนี้เฉินเฉียวที่กำลังเดินกลับไปที่ห้องทำงานก็หยุดก้าว
หลี่ชิงและคนอื่น ๆ ในห้องทั้งหมดหันมองไปที่พวกเธอ
โหยวจิ้งหลีพอใจกับปฏิกิริยาของแบบนั้นพวกเขามากและในที่สุดก็ยิ้มออกอย่างผู้ชนะ“ ช่วงแรกๆรบกวนทุกคนแย่เลยเนอะ โทษนะคะ คุณหลี่ชิงใช่ไหม ”
เธอหันศีรษะและมองไปที่หลี่ชิง “รบกวนส่งข้อมูลทั้งหมดของรื่ออันการแพทย์ไปที่อีเมล์ของฉันด้วย ขอบคุณค่ะ
หลี่ชิงมองไปที่เธอแล้วมองไปที่โหยวจิ้งหลี แต่ไม่กล้าตอบ
โหยวจิ้งหลี เดินสับบนรองเท้าส้นสูงเงยหน้าขึ้นและจากไปอย่างผู้ชนะ
ทันทีที่เธอจากไปก็มีการถกเถียงกันมากมาย
“โครงการนี้พวกเราวางรากฐานไว้แล้วนะ ลำบากลำบนทำโอทีเดือนนึง ไหนจะโบนัสท้ายปีอีก”
“โบนงโบนัสอะไรกัน นี้มันชุบมือเปิปชัดๆ”
“ ผู้หญิงคนนี้มาจากไหนกัน ประจบสอพลอจริงๆ ประธานปู้จะลำเอียงก็ช่างแต่นี้แม้แต่ประธานกรรมการปู้ก็ยังจะไปเข้าข้างเธอ หลังจากนี้โครงการทั้งหมดที่พวกเราทำมาเธอจะไม่เอาไปอีกหรอ ”
ทุกคนระบายออกมาอย่างไม่สบายใจ
สีหน้าของเฉินเฉียวเปลี่ยนไปและในท้ายที่สุดเขาก็พูดเรียบๆว่า: “พวกคุณทำงานของคุณต่อไป ทำโครงการนี้ต่อ”
ขณะที่เธอพูดเธอยื่นกระเป๋าให้หลี่ชิงแล้วเดินไปที่ห้องทำงานของประธานกรรมการ
ทุกคนมองหน้ากันไปมา ความขุ่นเคืองใจก็หายไปเยอะ ความแกร่งกล้าในการทำงานของผู้อำนวยการเฉินเป็นประจักษ์แก่ทุกคน ไหนๆเธอก็รับปากไว้แล้ว งั้นโครงการนี้ก็ยังน่าจะมีหวัง
——
ห้องทำงานประธานกรรมการ
ปู้หมิงหย่วนกำลังพลิกเอกสารและประตูห้องก็ถูกเปิดออก
“ท่านคะ ผู้อำนวยการเฉินต้องการพบท่าน ฉันห้ามไว้ไม่อยู่ค่ะ”
ปู้หมิงหย่วนเงยหน้ามองลูกสะใภ้ที่อยู่หลังเลขา แล้วโบกมือ“ออกไปก่อน”
“ คุณพ่อคะ โครงการรื่ออันการแพทย์หนูปล่อยไปไม่ได้จริงๆ”เฉินเฉียวเปิดประเด็น ไม่อ้อมค้อม
นั่งก่อนปู้หมิงหย่วนเป็นหนึ่งในไม่กี่คนในตระกูลที่ชอบเฉินเฉียวมาโดยตลอดเขาบอกเพียงว่า: “โครงการในมือมีตั้งเยอะ เสียสักโครงการจะเป็นอะไรไป แม่เธอก็อยากให้เธอมีลูกเร็วๆ ตอนนี้วางมือสักโครงการจะได้มีเวลามากขึ้นไม่ดีหรือ ”
“ พ่อคะ โครงการนี้มันไม่เหมือนกับโครงการอื่น ทีมของพวกหนูได้เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว เหลือแค่ลงมือก็เท่านั้น ถ้าพ่อโอนโครงการให้โหยวจิ้งหลี ลูกน้องหนูทุกคนก็จะหมดศรัทธา ถ้าเกิดพนักงานทุกคนหมดหวัง ไม่มีกำลังใจ หลังจากนี้มีโครงการอะไรหนูก็เรียกความหึกเหิมพวกเขากลับมายาก ”
“ ฉันรู้ว่าเรื่องนี้เธอจะต้องค้าน แต่เธอก็รู้ว่าอี้เฉินรู้สึกผิดกับจิ้งหลีมาตลอด”
เฉินเฉียวนั่งอยู่ที่นั่นยืดอก
ปู้อี้เฉินรู้สึกผิดแต่กับโหยวจิ้งหลีคนเดียวหรอ เขาทำผิดต่อผู้หญิงตั้งเยอะ
“ พ่อคะ ฉันจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ถ้าเธอจะเอาโครงการของหนูไปแบบนี้ หนูขอลาออก “เฉินเฉียวลุกขึ้นยืน
“ อย่าใจร้อนนักสิ”ปู้หมิงหย่วนกล่าว
“ ฉันวางใบลาออกไว้ที่โต๊ะนะคะ”
เฉินเฉียวเป็นพนักงานที่ดีบริษัท โครงการมีเธออยู่ งานดำเนินไปด้วยดีตลอด ปู้หมิงหย่วนไม่อยากจะเสียเธอไปเพียงเพราะโหยวจิ้งหลี
“ ถ้างั้น…..”ปู้หมิงหย่วนรั้งเธอ“โครงการนี้เธอทั้งสองก็ทำด้วยกัน ใครดีใครได้ เธอคิดว่าจะแย่งไปได้หรอ งั้นคอยดู ถ้าทีมพวกเธอเอาไปจะถือว่าเป็นการใช้อำนาจกลั่นแกล้งโหยวจิ้งหลีนะ ว่าไง”
——
ในคืนนั้น.
เฉินเฉียวนำทีมด้วยตัวเองนัดทานอาหารที่ไป่ฮวาซินฮุ่ยกับประธานหลูแห่งรื่ออันการแพทย์
เธอเป็นหวัดและมีไข้ แต่เธอก็ยังคงร่วมโต๊ะอาหาร มองไปที่อาหารและเครื่องดื่มรู้สึกเวียนหัว
วินเวียน
หลี่ชิงหันมาถาม “ผู้อำนวยการ คุณไหวไหม สีหน้าคุณดูไม่ดีเลย”
ฉันไม่เป็นไรเฉินเฉียวโบกมือของเธอ
ได้แต่ฟังคุณหลู: “ตอนเที่ยงผมไปพบกับคุณโหย่วคนของบริษัทคุณ แผนงานสวยเยี่ยมยอด เหมือนคนไม่มีผิดคุยกับเธอเรียบร้อยแล้วเหลือแค่เซ็นสัญญา ”
เฉินเฉียวรินไวน์ให้อีกฝ่ายพลางยิ้ม“ งั้นคุณไม่ลองดูแผนงานของเราหน่อยหรอคะ เลือกอันที่เหมาะสมสบายใจกว่า ”
อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะชายตามองเอกสารที่เธอส่งให้“ คุณโหย่วคนนั้นเป็นคนที่สุดยอดจริงๆ เธอบอกว่าเธอสนิทกับประธานซังด้วยนะ”
เฉินเฉียวเข้าใจในทันที
คนในวงการนี้มีตั้งมากมายอยากจะคบค้าสมาคมกับซังหลินจวิน แต่ไม่มีโอกาส รื่ออันการแพทย์ก็อยากพบซังหลินจวินตั้งนานแล้ว พวกเขารู้ดี
ไม่ว่าโหยวจิ้งหลีจะโกหกหรือไม่ แต่ใช้ลูกไม้นี้ก็นับว่าฉลาดมาก
เฉินเฉียวยิ้ม“ คุณโหย่วเพิ่งกลับจากเมืองนอก เกรงว่าจะไม่สนิทกับประธานซังเท่าฉันนะคะ”
“ คุณเฉินรู้จักประธานซังด้วยหรอ”
หลี่ชิงตอบทันที“ ผู้อำนวยการของเรามีเส้นสายกว้างขวาง ไม่เพียงแค่รู้จักประธานซัง วันก่อนยังไปทานข้าวด้วยกันเลย ”
ที่โต๊ะอาหารนี้พวกเธอพูดไหลกันไปตามน้ำ หลี่ชิงมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้
ประธานหลูเขาไม่ได้มีท่าทีเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป“ ผู้อำนวยการเฉิน ถ้าคุณรู้จักประธานซังจริงๆ งั้นวันหลังผมของเลี้ยงข้าวเอง ชวนประธานซังมาด้วยดีไหม”
เฉินเฉียวพูดไม่ออก ประธานหลูคนนี้หาเรื่องให้วุ่นวายได้ตลอด
เธอเพียงแค่ยิ้ม: “ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ ประธานหลูคะ แผนงานของเรา…”
“ แผนงานนี้ผมจะดูอย่างละเอียด”อีกฝ่ายหยิบมันขึ้นมาส่งให้ผู้ช่วยข้างๆ
ในขณะนั้นห้องรับรองส่วนตัวข้างๆเปิดออกจากด้านนอก คนที่ประธานหลูพามาด้วย เดินเข้ามา“ ประธานหลูครับ ประธานซังอยู่ห้องข้างๆ”
อะไรนะสีหน้าของเฉินเฉียวและหลี่ชิงเปลี่ยน ซวยแล้ว ปกติไม่เห็นเจอซังหลินจวินเลยสักครั้ง ทำไมวันนี้พอพูดถึงก็มาเลย
ประธานหลูลุกขึ้นทันทีอย่างตื่นเต้น“ จริงเหรอ? เป็นซังหลินจวินประธานซังแน่ๆดูไม่ผิดใช่ไหม ”
ไม่ผิดแน่ครับ เป็นเขาจริงๆ ผมถามบริกรแล้ว เขาทานอาหารอยู่ห้องข้างๆจริงๆ ”
งั้นรออะไรอยู่ล่ะ ผู้อำนวยการเฉิน พวกเราเข้าไปทักทายหน่อย เอาเงินนี้ไป รีบไปจ่ายค่าอาหารของประธานซังเร็วเข้า”ประโยคสุดท้ายประธานหลูพูดกับผู้ช่วยข้างๆ รีบหยิบกระเป๋าควักเงินออกมาส่งให้อีกฝ่าย
พูดจบแล้วก็ออกจากห้องรับรองส่วนตัวไป
เฉินเฉียวรู้สึกเพียงว่าอาการปวดหัวยิ่งหนักขึ้น หลี่ชิงเป็นห่วง เธอถามเสียงเบาๆ”ผู้อำนวยการคะ ตอนนี้เอายังไงดี”
เฉินเฉียวเองก็อยากรู้ว่าทำยังไงดี
เธอรู้จักซังหลินจวินที่ไหนกันล่ะ เฉินอินเป็นพนักงานของเขา และเคยแต่ได้ยินเสียงเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นซังหลินจวินไม่ชอบซุงซิงกับใคร ถ้าฉันไปหาเขาแบบนี้ มีหวังโดนเขาไล่ออกมาแน่