ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 23 ผู้ชายหน้าหม้อ

เฉินเฉียวพูดไม่ออกขณะที่เธอมองดูเขาและลูกที่กำลังเดินออกไป

สองพ่อลูกไม่กระดากปากเลยแม้แต่น้อยที่ว่าเธอต่อหน้าโดยไม่มีเธออยู่ในสายตาเลย ยิ่งไปกว่านั้น จะให้เธอห่วงชูชีพ ถามเธอหรือยังว่าอยากได้หรือเปล่า?

เฉินเฉียวบ่นในใจและเดินตามพวกเขาลงไปชั้นล่าง

คฤหาสน์ใหญ่มาก สไตล์การตกแต่งหรูหรามากด้วยการออกแบบที่แยบยล จะเห็นได้ว่าเจ้าของบ้านมีรสนิยมที่ไม่ธรรมดา

“ อรุณสวัสดิ์ นายท่าน”เมื่อพวกเขาลงมาแม่บ้านก็กล่าวทักทาย “คุณหนู เมื่อคืนหลับสบายไหม”

“ ต้องโทษพ่อไม่ให้ผมไปดูพี่เฉียว ผมนอนไม่หลับเลย”ซังโย่วอีบ่นอีกครั้งและเขาก็ปีนขึ้นไปบนเก้าอี้ก่อนจะนั่งลง

เขาตบเก้าอี้ข้างๆและเรียกเธออย่างกระตือรือร้น “พี่เฉียว มานั่งตรงนี้สิครับ ”

เฉินเฉียวมองไปที่ซังหลินจวินและเขาพยักหน้าเล็กน้อย “ไปนั่งเถอะ”

เธอนั่งลงข้างๆซังโย่วอีและถามเขาด้วยรอยยิ้ม “ตะกี้ข้างบนยังโกรธฉันอยู่เลยไม่ใช่หรอ หายงอนแล้วหรอ”

“ ผมไม่ได้งอน”เสียงของซังโย่วอีชัดเจน “คุณน้าไม่ชอบพ่อผม แต่ไม่ไช่ไม่ชอบผมไปด้วย ใช่ไหม”

“อื้อ ฉันก็มีความคิดนะเฉินเฉียวพยักหน้าอย่างจริงจังมองไปที่ใบหน้าอันน่ารักของเด็กน้อยและบีบเบา ๆ “ฉันชอบหนูจริงๆ”

ซังโย่วอีตาโต หน้าขาวๆของเขาเริ่มแดง เขาจับมือบนเธอที่อยู่บนหน้าตัวเองอย่างอายๆ แอบมองเธอพลางพูดเสียงเบาๆ:“จริงๆแล้ว….ผมชอบน้ามากๆ ”

เฉินเฉียวดีใจ”งั้นแสดงว่าพวกเราตาถึง”

เด็กน้อยหันหน้าไปมองพ่อ“ พ่อครับ พี่เฉียวเธอชอบผม ผมก็ชอบเธอ ถ้างั้นให้พี่เฉียวเป็นแฟนผมเถอะ ”

เฉินเฉียวหัวเราะออกมา เด็กน้อยคนนี้! เพิ่งจะไม่กี่ขวบริอาจจะมีแฟน

“ ถ้าอยากได้แฟนก็หาเอง คนนี้ห้าม”คำปฏิเสธจากคนบางคน หลังจากพูดจบสามคำสุดท้าย เขาส่งสายตามองเฉินเฉียว

เฉินเฉียวอ่านแววตาเขาไม่ออก แต่อยู่ๆในใจลึกๆรู้สึกใจเต้น

“ พ่อทำไมขี้งกจัง”

ซังหลินจวินนั่งลงบนที่นั่งหลักของโต๊ะอาหาร

เฉินเฉียวก้มหน้ารับประทานอาหารและมองไปที่เขาเป็นครั้งคราว

ตั้งแต่รู้ว่าเขาคือซังหลินจวินแห่งหยวนเซิ่งกรุ๊ปเธอก็กลายเป็นคนแปลกหน้าและห่างเหินจากเขาอย่างไม่มีเหตุผล

ทำไมตอนแรกเจียงฉยงฉยงบอกว่าเขาเป็นเด็กขาย เธอสติหลุดลอย ดันไปเชื่อคำพูดของเจียงฉยงฉยงจริงๆ

มองย้อนกลับไป รู้สึกเหลือเชื่อมากๆ

“หน้าฉันมีอะไรน่าดูหรอ”ทันใดนั้นชายคนนั้นก็เงยหน้าขึ้นและถามเธอ

โดนจับได้แล้วว่าแอบมอง น่าอายจริงๆ

ขายหน้าสุดๆ

เฉินเฉียวรู้สึกอายรีบหาข้อแก้ตัว“ ก็แค่ …มีเศษอะไรไม่รู้ติดอยู่บนหน้า”

ไหน?

นี้ไงเธอพยกหน้าชี้ไปมั่วๆ

ซังหลินจวินมองเธอ ยกมือขึ้นมาปลายนิ้ววางลงบนหน้าเธอ

ความร้อนระอุทำให้เฉินเฉียวตกใจและภาพที่พวกเขาจูบกันบนเตียงก็ผุดขึ้นมาในความคิดของเธอมันช่างเหมือนฝันที่เป็นจริง

ใจเธอเต้นแรง สัญชาตญาณทำให้เธอถอยหลบมือเขา

อย่าขยับเขามองไปที่เธอ พูดกับเธอเบาๆสองคำ มีความรู้สึกบังคับแอบแฝง

นิ้วเรียวยาวช้อนคางของเธอและปลายนิ้วก็ลูบที่มุมริมฝีปากของเธอเบา ๆ

จิตใจของเฉินเฉียวว่างเปล่าได้ยินเพียงเขาพูดว่า: “เลอะน้ำมะเขือเทศ”

เอ่อ…

คนที่มีอะไรติดบนหน้าจริงๆแล้วเป็นเธอหรอ ตะกี้เข้าเพิ่งเช็ดปากให้เธอ

“ ขอบคุณค่ะ ประธานซัง”ด้วยความอายเธอเหลือบมองเขาแวบนึงแล้วละสายตาไปอย่างรวดเร็ว

เธอใช้มือขึ้นเช็ดอีกครั้งไม่รู้ว่ากำลังพยายามเช็ดสิ่งที่ตกค้างบนริมฝีปากหรือไอร้อนปลายนิ้วชายคนนั้น

ด้วยความยินดีซังหลินจวินมองเธออย่างกังวล

คำตอบสี่คำนั้น ตอบแบบเรียบเฉยไร้อารมณ์ เหมือนกับว่าสิ่งที่ทำเมื่อกี้ไม่ได้มีอะไร

เฉินเฉียวรู้สึกได้ว่า ผู้ชายคนนี้อันตรายมากๆ ใครบอกเขาไม่แตะผู้หญิง ที่แท้เป็นพวกหน้าหม้อ

——

ผู้ใหญ่สองคนกับเด็กน้อยหนึ่งคน ทานอาหารเช้าต่อ โชคดีที่ซังโย่วอีอยู่ด้วยทำให้บรรยากาศไม่อึดอัด

ส่วนใหญ่ตอนที่เฉินเฉียวคุยกับซังโย่วอี ซังหลินจวินจะไม่ได้ร่วมวงด้วย

ตอนนี้โทรศัพท์เขาดังขึ้น

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อมองไปที่หน้าจอกดรับสายเปิดลำโพงแล้ววางบนโต๊ะ

“ ฮัลโหล หลินหลิน แม่เอง “เสียงหญิงชราดังมาจากโทรศัพท์ ‘หลินหลิน’คำนั้นเฉินเฉียวอยากจะขำก๊าก

ซังหลินจวินมองเธอ แล้วพูดกับแม่”แม่ ลูกชายแม่อายุสามสิบแล้วนะ เปลี่ยนคำเรียกได้แล้ว”

“ถึงจะอายุหกสิบก็ยังเป็นหลินหลินลูกชายแม่”อีกฝ่ายไม่ยอมแพ้

เฉินเฉียวแทบจะกลั้นขำไม่อยู่

ตลกเกินไปแล้ว

คุณชายผู้มีชื่อเสียงอันโด่งดัง คิดไม่ถึงว่าจะโดนเรียกว่าหลินหลิน ฮ่าฮ่า

อย่างไรก็ตามในวินาทีต่อมาคำพูดของหญิงชราทำให้เธออดหัวเราะไม่ได้

“ หมอเฉินบอกว่าเมื่อคืนลูกพาผู้หญิงกลับมาด้วย นั่นใคร? ใช่คนที่ลูกจูบด้วยที่คลับครั้งก่อนหรือเปล่า ”

ตะเกียบในมือของเฉินเฉียวเกือบตก แน่นอนว่าเรื่องดีไม่มีคนรู้แต่ถ้าเรื่องไม่ดีละก็ชาวบ้านชาวช่องรู้กันหมด

สีหน้าเขาดูเรียบเฉย ดันโทรศัพท์ไปข้างหน้าเธอ และผู้กับแม่ว่า: “แม่ถามเธอเองเถอะ ตอนนี้เธอกำลังฟังอยู่”

“ถามฉัน?”เฉินเฉียวถามเขาพลางชี้ไปที่ตัวเอง

ซังหลินจวินไม่สนใจ

“ฮัลโหล แม่หนู เธอชื่อเฉินเฉียวใช่ไหม?”เธอไม่ทันได้ตั้งตัว หญิงชราก็ถามเธออย่างจริงจัง

เฉินเฉียวไม่มีประสบการณ์มากนักในการพูดคุยกับผู้ใหญ่แปลกหน้าเมื่อเธอแต่งงานกับปู้อี้เฉินเธอก็ไม่ได้พูดอะไรกับแม่สามีมากนัก ได้ยินหญิงชราถามเธอจึงพยักหน้าตอบ “สวัสดีค่ะ ฉันเองค่ะ”

“ อย่าหาว่าฉันเร่งเร้าเลยนะ แต่ลูกชายฉันปกติไม่เคยจูบกับผู้หญิงคนอื่นยิ่งไปกว่านั้นไม่เคยพาใครมาที่จิ้งหย่วน เพราะฉะนั้นฉันอยากรู้เรื่องเธอจริงๆ ”

หน้าของเฉินเฉียวร้อนขึ้นเล็กน้อย

ผู้ใหญ่ท่านนี้พูดตรงเกินไปจนไม่ทันตั้งรับ

เธอมองไปที่ชายคนนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่เขายังคงกินอาหารอย่างช้าๆโดยไม่สนใจเธอ

เฉินเฉียวกัดริมฝีปากตัวเองและดึงแขนเสื้อเขา

“รีบหรอ”เขาเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้กับใบหน้าที่แดงระเรื่อของเธอ

“……นายช่วยอธิบายให้หน่อยสิ”เฉินเฉียวขอร้องให้เขาช่วยเขา

ซังหลินจวินเหลือบมองเธอและเขยิบเข้าไปใกล้ๆพูดเสียงเบาๆ “ยังหัวเราะเยาะฉันอยู่หรือเปล่า?”

เฉินเฉียวส่ายหัว “ใครจะกล้าหัวเราะท่านประธานซัง”

ผู้ชายคนนี้ร้ายกาจมาก เอาคืนอย่างฉับพลัน!

“อยากให้ฉันอธิบายอะไรล่ะ”เขาถามอีกครั้ง เสียงเบาๆที่มีแรงดึงดูด พูดผ่านหูเธอเหมือนดั่งฝนตกในหนองน้ำ กระเซ็นเป็นระลอกคลื่น

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset