ในตอนกลางคืนเขานอนบนเตียงที่ปกติแล้วจะมีเธออยู่ เขานอนพลิกไปพลิกมาแทบไม่ได้นอนทั้งคืน ในหัวเขามีแต่ภาพที่เธออยู่กับชายอื่น
ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ ดังนั้นสิ่งแรกที่เขาทำหลังจากลืมตาคือโทรหาเธออีกครั้ง
นึกถึงสามร้อยล้านนั้น เฉินเฉียวกัดฟัน ในตอนแรกที่เธอแต่งงานกับเขาบนกระดาษระบุชัดเจนว่าเธอไม่สามารถหย่าร้างได้เป็นเวลาสิบปีมิฉะนั้นจะต้องจ่ายเงินชดเชยให้อีกฝ่าย 300 ล้านหยวน
เฉินเฉียวคิดว่าปู้อี้เฉินคงจะโกรธไม่น้อยไปกว่าเธอ ครั้งที่แล้วเขาและเธอเคยพูดเรื่องหย่ากัน อีกทั้งโหยวจิ้งหลีก็กลับมาแล้วตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะแก่การหย่าหรือ ตอนว่าตอนนี้เขากลับปฏิเสธ
“ ปู้อี้เฉิน ไหนๆก็อดทนชีวิตคู่มาได้ขนาดนี้ งั้นก็อดทนต่อไป แต่หลังจากนี้อย่าแปลกใจ ถ้ามีหญ้างอกขึ้นมาบนหัว ”
ปู้อี้เฉินตะหวาดด้วยความโกรธ: “นังแพศยา!”
เฉินเฉียวตะคอก“ แพศยายังไงก็เป็นเมียที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นเมียที่คุณไม่ยอมหย่าด้วย โดนสวมเขาก็เพราะทำตัวเอง มันสาสมแล้ว ”
หลายปีแล้วที่เธอไม่เคยพูดคำหยาบๆคายๆแบบนี้ต่อหน้าปู้อี้เฉิน หลังพูดออกไป เธอแค่รู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก
ปู้อี้เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาแฝงไปด้วยความเกลียดชัด“เฉินเฉียว เธอนี่มันทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงได้เหมือนเดิมตลอดไม่เปลี่ยนจริงๆ”
เฉินเฉียวยิ้ม“ ท่านประธานปู้อย่าถ้อมตัวนักเลย พวกเรามันก็เหมือนๆกัน”
เฉินเฉียวไม่ได้พูดอะไรมากกว่านี้และวางสาย
โชคดีที่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้องโถงและไม่มีใครได้ยินคำพูดของเธอ
เธอยืนกำโทรศัพท์อยู่ที่นั้น มือสั่น หายใจเข้าลึก ๆ และผ่อนคลายอารมณ์ก่อนเตรียมเก็บของออกไป
เมื่อหันกลับไปเธอก็ตะลึง
ที่ชั้นสองของบ้าน ซังหลินจวินยืนอยู่ชั้นบนกำลังจับตาดูเธออยู่ ดวงตาคู่นั้นมองลึกลงไปราวกับว่าอยากจะมองลึกลงไปในตัวเธอทั้งหมด
ที่พูดกับปู้อี้เฉินเมื่อกี้นี้ เขาน่าจะได้ยินทั้งหมดแล้วมั้ง
เฉินเฉียวไม่คุ้นชินกับการแสดงความอ่อนเองของตัวเองต่อหน้าคนอื่น อีกทั้งไม่อยากที่จะหลุดเรื่องชีวิตแต่งงานของเธอต่อหน้าซังหลินจวิน ตอนนี้เธอรู้สึกอับอายสุดๆ
เธอยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋าแล้วพูดเบาๆ”คุณซัง ฉันไปก่อนนะ”
ท้ายที่สุดโดยไม่คำนึงถึงชายที่อยู่ข้างหลังเธอก็รีบออกไป
เขามองเธอเดินจากไปจากชั้นบนด้วยแววตามืดมน
ผู้หญิงคนนี้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าปฏิเสธเขา เธอรักษาระยะห่างระหว่างเขาตลอด
เฉินเฉียวเดินออกจากบ้านมองไปที่ถนนข้างหน้าด้วยความตะลึงงัน
นี่คือเขตป้านซานริมทะเล
คนที่สัญจรไปมาล้วนแต่ขับรถยนต์ส่วนตัว ไม่เห็นแม้แต่แท็กซี่สักคัน
เฉินเฉียวหันกลับไปมองที่พื้นที่บ้าน เห็นทะเลสีฟ้าสวยงาม ที่นี้สวยดั่งภาพวาดแต่ในขณะนี้หัวใจของเธอพังทลาย
เธอมาที่นี่ได้ยังไง
ตอนที่เธอกำลังกลุ้ม มีรถหรูคันสีดำออกมาจากบ้าน ตอนที่ผ่านเธอ รถค่อยๆชะลอหยุด
คนขับรถเลื่อนกระจกลง “คุณเฉินขึ้นรถเถอะครับ”
มองผ่านเข้าไปในกระจก เฉินเฉียวมองที่เบาะหลังเห็นซังหลินจวินที่อยู่ในชุดสูทนั่งอยู่
ขณะนี้เขากำลังตั้งใจดูโน้ตบุ๊คบนตัก ไม่ได้เงยหน้ามองเธอ ราวกับว่าที่จะรับเธอขึ้นรถเป็นเพราะคนขับเห็นเอง
เมื่อนึกถึงความอึดอัดเธอก็ส่ายหัว“ ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ พวกคุณไปเถอะ”
“แค่ว่าที่นี้ไม่มีรถแท็กซี่เดินออกไปไม่ได้”คนขับพูดโน้มน้าว
“ ฉันจะหาวิธีเอง”เฉินเฉียวหนักแน่น
คนขับมองไปที่ด้านหลัง เสียงเบาๆจากผู้นั้น “งั้นไปเถอะ” รถสตาร์ทและขับออกไป
เฉินเฉียวมองท้ายรถ ถอนหายใจ
ผู้ชายคนนี้ก็เหลือเกินนะ ไม่ชวนอีกสักหน่อยล่ะ ถ้าพูดชวนอีกสักครั้งเธอก็จะขึ้นรถไปแล้ว
เธอยืนคิดอยู่สักพักหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า กดหมายเลข
“ฮัลโหล เฉียวเฉียว!อีกฝั่ง เสียงตอบอันขี้เกียจของเจียงฉยงฉยงดังออกมาจากโทรศัพท์
เห็นได้ชัดว่า เธอยังนอนอยู่
“ฉยงฉยง เธออยู่ที่เขตป้านซานใช่ไหม”
“อื้อ ทำไมหรอ
“ฉันจะส่งโลเคชั่นไปนะ มารับฉันหน่อยสิ ฉันอยู่ที่นี้ออกไปไม่ได้”
“ เช้าขนาดนี้มาที่เขตป้านซานได้ยังไง”เจียงฉยงฉยงไม่พูดต่อ เธอลุกขึ้นจากเตียงและหาว “รอฉันล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อก่อนนะ”
อืม จะรออยู่ข้างทางนะ”
หลังจากวางสายเฉินเฉียวได้ส่งโลเคชั่นไปให้เจียงฉยงฉยง
เธออยู่ใกล้มากและภายใน20นาทีรถหรูทะเบียน911ก็มาถึง
“ เฉียวเฉียว!เธอขับไปพลางกวักมือเรียก รถขับเลี้ยวไปมา
เฉินเฉียวถอยหลัง “นี่เธอจอดแล้วค่อยทักทายฉันได้ไหม”
เจียงฉยงฉยงกลับรถแล้วจอด ปิดกระจกรถมองไปรอบๆ“เธอมาที่นี่ได้ยังไงกัน”
เฉินเฉียวเปิดประตูขึ้นรถ”เรื่องมันยาว”
“ งั้นทำให้สั้นสิ ฉันรู้ว่านี่คือบ้านของประธานหยวนเซิ่งกรุ๊ปเขาและพี่ชายฉันเป็นเพื่อนสนิทกัน ”
“เป็นเพื่อนสนิทพี่เธอ เธอยังจะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นผู้ชายขายตัว”
เฉินเฉียวพูดเรื่องที่เจียงฉยงฉยงเข้าใจผิด เจียงฉยงฉยงเองตกใจจนตะลึง
เธอยังคิดว่าตัวตนของชายคนนั้นเป็นพวกเด็กนั่งดริ้ง “งั้น …จริงๆแล้วคืนนั้นเธอนอนกับประธานหยวนเซิ่งกรุ๊ปหรอ”
เฉินเฉียวกลอกตา “ฉันพูดไปแล้วไงว่าคืนนั้นไม่ได้ทำอะไรกันเลย”
“ไม่ๆ ถึงแม้ไม่ได้มีอะไรกัน แต่ที่ที่ควรจับก็จับแล้ว ที่ที่ควรจูบก็จูบแล้วใช่ไหมละ”
คำพูดของเจียงฉยงฉยงพูดตรงเกินไป เฉินเฉียวหน้าแดงและยื่นหน้าออกไปนอกหน้าต่างและปฏิเสธที่จะตอบคำถามนี้
อย่างไรก็ตามมีภาพมากมายนับไม่ถ้วนที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจของเธอ
ในคืนแรกของการพบกันชายคนนั้นสัมผัสทั้งตัวของเธอและจูบเธอ …ที่ที่สงวนที่สุด
หลังจากนั้นพบกันอีกสองสามครั้ง เธอก็พยายามทำเป็นลืมเรื่องนี้ เจียงฉยงฉยงพูดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกละอาย
“เฉียวเฉียว เธอรีบหย่ากับปู้อี้เฉินเถอะ”เจียงฉยงฉยงรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าเธอ
“ฉันก็คิดแบบนั้น แต่ว่าสามร้อยล้านนั้น ขนาดว่าขายตัวแล้วยังหาไม่ได้เลย ”
มันก็ไม่แน่หรอกเจียงฉยงฉยงเลิกคิ้ว“ ลองไปขายให้ประธานหยวนเซิ่งดูสิ? สามร้อยล้านมันก็เยอะแหละ แต่ว่าเขาหาได้ ”
“ เพ้อเจ้อ”เฉินเฉียวมองเจียงฉยงฉยงตาขาว “หย่าไม่หย่าเป็นเรื่องของฉัน เกี่ยวอะไรกับเขา”
“ ทำไมจะไม่เกี่ยว เธอเข้าบ้านเขาไปแล้ว ฉันไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่คิดอะไรกับเธอ”
ทันใดนั้นเฉินเฉียวก็จำฉากที่เขารั้งมือเธอตอนอยู่ที่ห้องอาหารได้ทันทีราวกับว่ายังมีไออุ่นอยู่ที่ข้อมือของเธอ
แต่นั่นหมายความว่าอย่างไร?
เธอลดกระจกรถลงตากลมทะเล“ ถีงฉันจะหย่า ฉันก็ไม่ไปหาเขา”
แน่นอนว่าผู้ชายคนนั้นคงไม่ชอบเธอแน่ ๆ
หย่าแล้ว เธอก็แต่งงานใหม่ แม้ว่าการแต่งงานครั้งที่สองจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ตอนนี้เขามีคุณสมบัติครบถ้วนเพียบพร้อมที่จะหาผู้หญิงที่สาวกว่าสวยกว่า หรือแม้แต่สาวใสๆบริสุทธิ์