เวลานี้เจ้าหน้าที่สำนักการรับประทานอาหารกลางเสร็จแล้วและเริ่มเข้างาน
พอเห็นคู่รักสาวสวยหนุ่มหล่อเดินมาเข้าทางประตู ก็ซุบซิบกันในใจด้วยความดีใจ
เฉินเฉียว มีภาพลวงตาแวบเดียวในใจของเธอ แต่เธอรู้ดีว่าหากไม่มีบัตรประชาชนและสมุดทะเบียนบ้านในประเทศจีนเธอจะไม่สามารถรับใบรับรองได้อย่างแน่นอน
แต่หลังจากเห็นซังหลินจวินดึงหนังสือเล่มเล็ก ๆ ออกมาดวงตาของเฉินเฉียวแทบจะถลน
คนตรงหน้าเขาเตรียมแผนการณ์ล่วงหน้ามาอย่างชัดเจน
การทำใบรับรองถึงจะเป็นเรื่องลำบากแต่สำหรับซังหลินจวินที่ติดต่อกับสำนักงานพลเรือนมาก่อนแล้ว เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย
หลังจากทั้งสองถ่ายภาพร่วมกันในทะเบียนสมรสพวกเขาก็นั่งรอและได้เล่มสมรสสีแดงในที่สุด
เฉินเฉียว เปิดทะเบียนสมรสดูรูปถ่ายที่ทั้งสองยิ้มพร้อมกันแล้วแตะเบา ๆ มุมปากเธอยิ้มเล็กน้อย
เธอยิ้มจริงๆเหรอ?
เฉินเฉียวคิดว่าเธอไม่มีความสุขในใจ แต่เธอไม่ได้คาดหวังว่าภาพนั้นจะเปิดเผยความในใจของเธอแล้ว
ซังหลินจวินยืนอยู่ข้างๆเธอเห็นเฉินเฉียวจ้องทะเบียนสมรสอย่างใกล้ชิดกลัวว่าเธอจะเอาไปคืน เลยยื่นมือไปหยิบแล้วบอกว่า “ผมจะเก็บไว้ให้คุณเอง”
“เฮ้ เอามานะ”เฉินเฉียวยื่นมือออกไปสัมผัสเขาและมีเสียงหัวเราะ
ตอนนั้นเฉินเฉียวจำได้ว่าพวกเขายังอยู่ข้างนอก แต่พวกเขาเริ่มหยอกล้อกันต่อหน้าคนอื่น ๆ และแก้มของเธอก็กลายเป็นสีแดงทันทีด้วยความเขิน
เมื่อซังหลินจวินเห็นว่าเธอเขินเขาจับมือเธอและพาเธอออกไป
เจ้าหน้าที่แอบดูทั้งคู่เงียบ ๆ ถ่ายรูปพวกเขาไว้ในโทรศัพท์และโพสต์บน เวยป๋อ
คู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันวันนี้เป็นที่ฮือฮาในโลกโซเชียล
จากนั้นบางคนที่ซ่อนตัวอยู่หลังแป้นพิมพ์ก็เริ่มสืบและพบว่า ซังหลินจวินเป็นประธานของหยวนเซิ่งพวกเขาได้เปิดเผยตัวตนของซังหลินจวิน กลายเป็นหัวข้อฮิตที่ถูกค้นหา
ในเวลานี้ทั้งสองคนนั่งอยู่ในรถไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่าตอนนี้ใครๆก็รู้กันไปทั่วแล้ว
ในเวลานี้ซังอวิ๋นซึ่งนั่งอยู่ในร้านอาหารตะวันตกและดื่มไวน์แดงกับมั่วอวี่เพราะว่าเบื่อกับเรื่องงาน
ทันใดนั้นข้อความก็ดังออกมา
ความรักที่แท้จริงของประธาน หยวนเซิ่ง
เรื่องราวที่ไม่อาจบรรยายได้ระหว่างเจ้าชายผู้มั่งคั่งและซินเดอเรลล่า
เมื่อซังอวิ๋นเห็นชื่อของประธานหยวนเซิ่งเขาก็คลิกเข้ามาโดยไม่รู้ตัว
เดิมทีเขาคิดว่าเป็นซังหลินจวินที่มีปัญหาอะไร
คิดไม่ถึงเมื่อเห็นข่าวว่าพวกเขาได้จดทะเบียนก็รู้สึกเศร้าและวางมือของเขาไปด้านข้าง แต่มือมันดันไวน์แดงที่อยู่ข้างๆตกลงไปที่พื้น
เสียง “เพ้ง” เสียงนั้นคมชัด
เป็นเพียงไวน์แดงเปื้อนที่สาดลงบนกระโปรงสีขาวของมั่วอวี่
ทันใดนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของมั่วอวี่ก็เปลี่ยนเป็นหน้าบึ้ง
เธอยืนขึ้นและพูดว่า “ฉันจะไปห้องน้ำ”
เฉินเฉียวที่พาเฉินเฉียวไปที่ร้านอาหารตะวันตกเพื่อรับประทานอาหารคู่กันเพื่อเฉลิมฉลองว่าวันนี้เป็นวันที่ดีสำหรับการจดทะเบียนพวกเขาเหลือบมองเห็นซังอวิ๋นที่กำลังรับประทานอาหารตามลำพัง
ในใจเขาคิดว่าดีจัง มาได้ถูกเวลาพอดี
สำหรับศัตรูหัวใจ เขาเป็นไม้เบื่อไม้เมามาโดยตลอด
กว่าจะได้จดทะเบียนกับเฉินเฉียวมันยากมาก งั้นต้องอวดหน่อย
ศัตรูหัวใจโผล่มาตอนนี้ ทันเวลาจริงๆ
เมื่อเฉินเฉียวตาม ซังหลินจวินเข้ามาเธอก็ไม่เห็นว่า ซังอวิ๋น อยู่ที่นั่นด้วยซ้ำ
จนกระทั่งเขาพาเธอเดินไปที่โต๊ะข้างๆซังอวิ๋นเขาก็ยิ้มอย่างมีความสุขและกล่าวทักทายคนข้างๆเขา: “บังเอิญจังเลยนะ คิดไม่ถึงว่าคุณก็กลับประเทศมาแล้ว”
หลังจากนั้น เฉินเฉียว ก็รู้ว่าซังอวิ๋นกลับมาที่ประเทศจีนและพูดด้วยความประหลาดใจ: “ซังอวิ๋น ทำไมคุณถึงกลับมาล่ะ?
ซังอวิ๋นไม่คาดคิดว่าจะได้พบพวกเขาที่นี่โดยบังเอิญเขาปิดบังความขมขื่นและแสร้งทำเป็นพูดอย่างเมินเฉย: “บริษัทที่นี้เกิดเรื่องนิดหน่อย ผมเลยกลับมาจัดการหน่อย ช่วงนี้ยังคงอยู่เป่ยเฉินสักพักหนึ่ง”
เฉินเฉียวรู้สึกดีใจ ยังไงซะเขาก็ไม่ใช่คนแปลกหน้า
“ ดีจริงๆเลย คุณรู้ไหมเหมิ้งเหมิ้งพูดอยู่ทุกวันว่าคิดถึงคุณ”
เมื่อซังอวิ๋นได้ยินสิ่งนี้ก็มีรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา: “ผมก็คิดถึงเหมิ้งเหมิ้งเหมือนกัน”
เมื่อเห็นพวกเขาพูดคุยและหัวเราะ ซังหลินจวินคิดว่าจะมาจัดการเขา แต่ทำไมกลายเป็นมาคุยกันไปได้
แม้ว่าเขาจะไม่มีความสุข แต่เขาก็ยังคงมีรอยยิ้มที่บนใบหน้าของเขาและกล่าวว่า: “ไหนๆก็กลับมาแล้ว งั้นพวกเรามากินข้าวด้วยกันเถอะ วันนี้ต้องมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นแน่ๆ”
ทันทีที่ เฉินเฉียวได้ยินก็รู้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไร
มือที่วางอยู่ใต้โต๊ะค่อยๆยืดออกและบิดต้นขาของเขา
ซังหลินจวินส่งเสียงขู่ แต่มีรอยยิ้มที่มุมปากของเขา
ทำเอาเฉินเฉียวยิ้มไม่หุบ
แต่ฉากนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าเธอลืมเอามือที่ยื่นออกไปกลับมา มือนุ่มๆของเธอวางอยู่บนต้นขาของซังหลินจวิน
ซังหลินจวินอาจไม่ใช่กระต่ายกินพืชเขาและเฉินเฉียวเคยทำมาวันละหลายครั้งเกือบทุกวัน แต่หลังจากอุบัติเหตุของเฉินเฉียว เขาไม่ได้ทำมาเป็นเวลาสามปีแล้ว
ตอนแรกคิดว่าต้องกินมังสาวิรัตไปตลอด หลังจากเจอเฉินเฉียว ในใจเขาก็มีความต้องการ
แต่ว่าหลังจากที่เธอไม่ยินยอม เขาก็สามารถควบคุมได้
แต่หลังจากจดทะเบียนแล้วความปรารถนาในใจของเขาก็ไม่ถูกปกปิดอีกต่อไป
เมื่อเห็นดวงตาของเฉินเฉียวกลายเป็นสีเข้มเขาอยากจะกลืนกินเธอ
การแสดงออกในดวงตาของซังหลินจวิน นั้นถูกมองออกโดยซังอวิ๋น ซึ่งเป็นผู้ชายเช่นกัน
มีรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
แม้ว่าเขาจะตัดสินใจปล่อยวาง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะลืมเธอเร็วขนาดนี้
ตอนที่เขาลุกขึ้นยืนและจะเดินออกไป
มั่วอวี่ก็เดินกลับมาจากห้องน้ำ
เธอเดินไปพลางด่าไป: “พี่อวิ๋น ตะกี้มัวแต่ดูอะไรเนี่ย แม้แต่แก้วไวน์ยังจะทำแตกอีก”
“ มั่วอวี่”ซังหลินจวินขมวดคิ้วและมองไปที่เธออารมณ์ไม่ดีนัก
เฉินเฉียวมองเธอด้วยความกังวล แต่ดวงตาของเธอก็จ้องมองไปที่มั่วอวี่ที่สวยงาม
บอกได้เลยว่าถึงแม้เฉินเฉียวจะสวย แต่เมื่อเทียบกับมั่วอวี่แล้ว ยังห่างกัน
รูปลักษณ์ของเฉินเฉียวถูกทำลายไปแม้ว่าจะดีขึ้นมาแล้ว แต่แก้มของเธอนั้นตอบลงมากผอมเกินไปและบางครั้งก็ดูไม่ดีนัก
มั่วอวี่ที่อยู่ตรงหน้าเธอเป็นตัวอย่างการใช้ชีวิตที่ดี