แต่เฉินเฉียวหัวดื้อเกินไป ถ้าทั้งสองคนจะเถียงกันจริงๆ ซังหลินจวินก็แพ้เธออยู่ดี
พอส่งเจียงฉยงฉยงกลับไปแล้ว ซังหลินจวินกับเฉินเฉียวก็กลับจิ้งหย่วน เขาเลยกดเธอลงบนเตียง เอาผ้าห่มหนาๆจากอีกห้องมีหุ้มเธอไว้เหมือนคนป่วย
เฉินเฉียวดึงออกแล้วหาว “ฉันบาดเจ็บที่หัว ไม่ใช่อัมพฤกษ์ จำเป็นต้องขนาดนี้เลยเหรอ?”
ซังหลินจวินเอาผ้าห่มห่มให้เธอ แล้วเอาผมเธอทัดหู “โรคอะไรที่รุนแรงก็เกิดจากอาการเล็กๆน้อยๆแบบนี้แหละ ตอนนี้เธอโดนลมไม่ได้ เดี๋ยวจะเป็นบาดทะยัก ต้องห่มผ้าดีๆ แล้วหมอก็บอกว่าเธอไม่สบาย เพราะครั้งก่อนยังไม่หายดีหรือเปล่า”
พอได้ยินซังหลินจวินเอาแต่พูด เฉินเฉียวเลยหงุดหงิดเล็กน้อย เลยมุดตัวเองเข้าผ้าห่ม
เห็นท่าทางที่เหมือนเด็กของเฉินเฉียว ซังหลินจวินเลยยิ้ม แต่พอนึกถึงเรื่องที่เกิดวันนี้ เลยอารมณ์เสียกับตระกูลเจียง แม้แต่ผู้หญิงที่เขาก็ไม่อยากทำร้าย แต่กลับบาดเจ็บ
ถึงจะเป็นพ่อแม่ของเจียงอี้ฟานก็ปล่อยไปไม่ได้ พวกเขาอยากมีเรื่องมากไม่ใช่เหรอ?
งั้นก็ทำให้เรื่องมันใหญ่เลยแล้วกัน
ตอนนี้พ่อแม่ของเจียงอี้ฟานเป็นอาจารย์ เพราะตั้งแต่รุ่นปู่ของเจียงอี้ฟานก็เริ่มล้างมลทินแล้ว เลยไม่ได้ให้พ่อเขารับช่วงสำนักเฟยอี้กับบริษัทต่อ
พ่อแม่เจียงเป็นอาจารย์โบราณคดี เลยต้องออกพื้นที่บ่อย
ถึงทั้งสองจะใกล้ชิดสนิทสนมกัน แต่ก็มีเรื่องสกปรกไม่น้อย
แล้วในมือซังหลินจวินก็มีความผิดของพ่อเจียงพอดี
กี่วันหลังจากนั้น ในเว็บมหาวิทยาลัยอี้เฉิงมีข่าวแฉ บอกว่าอาจารย์โบราณคดีมีความคลุมเครือกับนักศึกษาหญิง
ทีแรกไม่ค่อยมีใครสนใจมากนัก
จนกระทั่งผู้โพสต์แฉความจริงที่ว่า
ผู้ใช้งาน : ว้าว มาเผือกๆ อาจารย์ที่ผู้โพสต์เหมือนกำลังพูดถึงอาจารย์ในมหาวิทยาลัยฉัน อายุประมาณห้าสิบ ร่างกายแข็งแรง แถมภรรยาก็อยู่คณะเดียวกัน กำลังหมายถึงXXXหรือเปล่า”
ผู้ใช้งาน : ผู้หญิงที่พูดถึงก็คุ้นๆ ฉันเห็นกับตาว่าอาจารย์คนนั้นส่งเธอกลับ”
ผู้ใช้งาน : โอ้มายก็อต เล่าต่อๆ
คอมเมนท์พวกนี้ทำให้โพสนี้ติดเทรนสูง สามีภรรยาที่เป็นอาจารย์โบราณคดี แถมยังมีชื่อเสียงคงเป็นคู่ตระกูลเจียงแล้วล่ะ
พอข่าวนี้ถูกปล่อย ทั้งสองสามีภรรยาก็เอาแต่ทะเลาะกัน
อารมณ์ไม่ดีเพราะลูกชายไม่กลับบ้านอยู่แล้ว นี่เลยแย่กว่าเดิม
จนสุดท้าย แม่เจียงออกนอกประเทศ ไม่รู้ว่าไปที่ไหน
พอแม่เจียงไปแล้ว พ่อเจียงก็ตามไปด้วย
เหมือนกำลังแสดงละครตามภรรยากลับมา
คนอื่นๆก็เอาแต่พูดว่าอิจฉา โรแมนติก
แต่ความจริง พ่อเจียงจำเป็นต้องทำแบบนี้
มหาวิทยาลัยที่เขาอยู่ไม่ใช่มหาวิทยาลัยกิ๊กก๊อก แต่กลับเป็นมหาวิทยาลัยชื่อเสียงโด่งดัง
พูดได้เลยว่า เคยมีคนมีชื่อเสียงไม่น้อยที่เคยเรียน แล้วคนที่เรียนอยู่ก็มีคนฉลาดไม่น้อย
พอคู่สามีภรรยาเจียงไปแล้ว เลยไม่มีใครไปหาเรื่องเจียงฉยงฉยงอีก
ในใจเฉินเฉียวค่อยโล่งใจไปหน่อย
เพื่อไม่ให้เจียงฉยงฉยงแต่งงานตอนท้องโต ฉยงฉยงกับกู้ซีเลยจะแต่งในอีกครึ่งเดือน
วันนี้เฉินเฉียวเลยไปลองชุดแต่งงานกับฉยงฉยง ชุดฟูฟ่องสีขาวอยู่บนตัวฉยงฉยง ดูน่ารักมาก
เจียงฉยงฉยงหน้าเด็กอยู่แล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะหุ่นเธอดี คงรับมือกับชุดนี้ไม่ได้หรอก
ตอนที่เจียงฉยงฉยงนั่งอยู่หน้าโต๊ะแต่งหน้า เฉินเฉียวถือผ้าคลุมหน้าไว้แล้วถาม “ฉยงฉยง ฉันลองผ้าคลุมหน้านี้ให้แกได้ไหม?”
“ได้สิ เอาเลย” เจียงฉยงฉยงยิ้มกับเฉินเฉียวในกระจก แค่ฉยงฉยงปัดบลัชออนก็ดูดีแล้ว
เฉินเฉียวกางผ้าคลุมหน้าออก พยายามไม่ให้โดนทรงผมของฉยงฉยง
ฉยงฉยงเห็นเฉินเฉียวระวังขนาดนี้ เลยขำ “เฉียวเฉียว แกจะเกร็งทำไม ฉันแค่ลองชุดแล้วถ่ายรูป ไม่ได้แต่งจริงๆสักหน่อย”
พอเฉินเฉียวทำเสร็จ ค่อยมองอย่างพอใจ พอได้ยินที่ฉยงฉยงพูดเลยอารมณ์ไม่ดี “ฉยงฉยง ถ่ายพรีเวดดิ้งทำไมแกไม่ใส่ใจเลย ฉันบอกแกไว้เลย สิ่งที่สำคัญกับผู้หญิงอย่างเราก็คือ การขอแต่งงาน ถ่ายพรีเวดดิ้ง แต่งงานแล้วก็ฮันนีมูน”
“ถึงไม่รู้ว่ากู้ซีขอแกแต่งงานยังไง แต่นิสัยเขาเหมือนเด็ก คงไม่ได้อะไรมาก เพราะฉะนั้นฉยงฉยง ตอนที่แกถ่ายพรีเวดดิ้ง ต้องทำให้ดีที่สุด”
เจียงฉยงฉยงโดนเฉินเฉียวพูดแบบนี้เลยเริ่มเกร็ง
“งั้นเฉียวเฉียวแกดูสิว่าเมคอัพฉันเละหรือเปล่า” เจียงฉยงฉยงส่องกระจก กลัวว่าจะมีตรงไหนที่เธอไม่เห็น เลยให้เฉินเฉียวช่วยดู
เฉินเฉียวยกคางฉยงฉยงขึ้น ท่าทางเหมือนกำลังแหย่เล่น
พอมองหน้าฉยงฉยงแล้ว เฉินเฉียวเลยยิ้มสดใส “สวยที่สุด”
จากนั้นเฉินเฉียวก็ยกนิ้วโป้งด้วย
เพราะตอนกลางคืนกู้ซีต้องไปทำงาน ตอนเช้าเลยต้องพักผ่อน
รอเขามาถึง เฉินเฉียวกับฉยงฉยงก็ลองไปหลายชุดแล้ว ระหว่างนั้น ฉยงฉยงก็เลือกชุดเพื่อนเจ้าสาวให้เฉินเฉียวด้วย
ถึงเฉินเฉียวจะแต่งงานแล้ว เป็นเพื่อนเจ้าสาวไม่ได้ แต่เจียงฉยงฉยงที่ไม่งมงายเรื่องพวกนั้นแล้วยัดชุดให้เฉินเฉียวเอ่ยเสียงเข้ม “เฉียวเฉียวแกไปเปลี่ยนเลย ถือสะว่าให้ฉันดู”
การเปลี่ยนเสื้อผ้าถือเป็นปัญหาที่ผู้หญิงชอบ จนทั้งสองคนลองชุดเกือบจะทั้งร้านแล้ว
กู้ซีเปิดประตูเข้ามา มองเห็นเจียงฉยงฉยงที่พิงอยู่บนโซฟา จากนั้นก็มองรอบๆร้านเลยสงสัย แต่ก็รีบปรับอารมณ์แล้วก้มลงมาถาม “ฉยงฉยง เธอมากับเฉินเฉียวไม่ใช่เหรอ? ทำไมเธออยู่คนเดียวล่ะ?”
เจียงฉยงฉยงยันตัวขึ้น แล้วชี้ไปที่ห้องลองเสื้อ “ยังลองชุดเพื่อนเจ้าสาวอยู่ในนั้น วันนี้เราลองจนจะอ้วกแล้ว”