เมื่อมองไปที่ฉากนั้น ในหัวของเฉินเฉียวมีแต่เสียง หึ่งๆ
ความเสียใจจางหายไปแทนที่ด้วยความเขินอายและความคับแค้น
เธอหน้าแดงและอยู่ในความงุนงง
รายการเรียลลิตี้แบบนี้เร้าอารมณ์เกินไปจนทำให้อึดอัดทำตัวไม่ถูก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีชายร่างใหญ่ยืนอยู่ข้างหลังเธออย่างซางหลินจุน
เฉินเฉียวไม่กล้ามองและหันไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นตระหนก แต่การพลิกตัวครั้งนี้กลับเลวร้ายยิ่งกว่า
เธอกำลังเผชิญหน้ากับซังหลินจวิน
คนสองคนสบตากันการเต้นของหัวใจของเธอก็แรงมากขึ้นและเธอไม่รู้ว่าจะจัดการกับตัวเองอย่างไร
หลังจากมองหน้ากันเพียงหนึ่งวินาทีเธอก็มองออกไปอย่างเขินอาย
แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ดีไปกว่าตัวเธอเอง
ในพื้นที่เล็ก ๆ ลมหายใจของเขาแรงและร้อนขึ้น
เฉินเฉียวก้มศีรษะลงและเขาก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่ร้อนแรงของเขาที่จับจ้องมาที่เธอ
เอ่อ….ประธานซัง…..คุณ…หยุดมองฉันแบบนั้นได้ไหม “เธอรู้สึกคอแห้งผากและหายใจลำบาก ประโยคหนึ่งพูดขาดๆหายๆ
ชูวว์…หลังจากพูดจบมือของชายคนนั้นก็อยู่ที่ริมฝีปากของเธอ
ความอบอุ่นจากฝ่ามือของเขาทำให้เฉินเฉียวรู้สึกร้อนยิ่งขึ้น
ก่อนที่เธอจะมีเวลาเอามือออกจากริมฝีปากเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าก้าวเข้ามาใกล้
ปู้อี้เฉินกับโหยวจิ้งหลียังคงอ้อยอิ่งซึ่งกันและกันไม่ปล่อยมือจากกัน
เธอจ้องไปที่ซังหลินจวินด้วยสายตาที่ตกตะลึงหัวใจของเธอห้อยลงมาที่คอ
เกิดอะไรขึ้น
“เรื่องแบบนี้เปลี่ยนที่บ้างอะไรบ้างตื่นเต้นดี”เขาพูดข้างหูเธออธิบายให้เธอฟังเบาๆ
หูเฉินเฉียวแดง
แทบอยากจะมุดดินหนี
เรื่องแบบนี้เข้าอธิบายโดยไม่รู้สึกอะไรเลยได้ยังไงกัน
เธอกล่าว”ประธานซัง คุณรู้ดีจริงๆ”
ซางหลินจุนยิ้ม และมองไปที่เธอ “พอดีว่ารู้มากกว่าเธอนิดหน่อย”
เมื่อเห็นว่าคนทั้งสองข้างนอกกำลังจะเดินมาทางช่องแคบๆที่พวกเขาอยู่ เฉินเฉียวกลั้นหายใจ มือล๊อคกลอน
แต่ว่าที่ล๊อคดันเสีย ล๊อคยังไงก็ไม่ได้
ทำยังไงดีล่ะเธอกระซิบถาม
ในสถานการณ์แบบนี้ไม่อยากเจอกับพวกเขาเลย
น่าอายเกินไป.
ไม่อยากลากซังหลินจวินไปเกี่ยวพันชีวิตแต่งงานของเธอกับปู้อี้เฉิน
ซังหลินจวินอดไม่ได้ที่จะคว้าเอวของเธอและพาเธอไปด้านหลังประตูอย่าง
ยืนอยู่นิ่งๆ ประตูก็ถูกเขาทั้งสองกระแทกอย่างแรง
เฉินเฉียวถูกขังอยู่ในช่องว่างหลังประตู
อย่างไรก็ตามซังหลินจวินวางมือไว้ที่ด้านข้างของตัวเธอโอบหลังเธอปกป้องไว้ที่หน้าอกเพื่อไม่ให้ประตูแข็งๆกระแทกเธอ
ด้วยพละกำลังของคนด้านนอกทั้งสองแผ่นประตูกระแทกหลังของเขาอย่างแรง
เฉินเฉียววิตกกังวลมากและอยากจะถามเขาว่ามันเจ็บไหม แต่ในตอนนี้เธอไม่สามารถพูดได้
ปู้อี้เฉินกับโหยวจิ้งหลีทนไม่ไหวแล้ว พวกเขาไม่พบใครในห้องเล็ก ๆ แม้แต่ประตูก็ไม่ปิดปู้อี้เฉินจับโหยวจิ้งหลีหันมาแล้วกดไว้บนแผงประตู
เขาบีบเอวของเธอด้วยมือข้างหนึ่งมืออีกข้างยกเธอขึ้นร่างกระแทกไปที่เธอ
เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องในช่องว่างเล็ก ๆ ดังชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ
“ชอบให้ผมอยู่ด้านหลังหรือด้านหน้า”เสียงของปู้อี้เฉินนั้นแหบแห้ง
เสียงผู้หญิงออดอ้อนเขินอาย“ …ชอบหมดเลย ”
คำพูดลามกพวกนี้ เป็นยาปลุกอารมณ์ชั้นดี
เฉินเฉียวกัดริมฝีปากของเธอไม่กล้าหายใจ
คนทั้งคนกำลังจะแย่แล้ว
ตอนนี้เธอเสียใจ
เสียใจที่ดูพวกเขาตีกอล์ฟอยู่ดีๆ ทำไมต้องอยากมาห้องน้ำ มาโดนทารุณอะไรแบบนี้
ปู้อี้เฉินดูเหมือนจะพอใจกับคำตอบของโหยวจิ้งหลีมากและโจมตีหนักขึ้น
เนื่องจากแรงกระแทกที่รุนแรงเช่นนี้แผงประตูจึงกดเข้าไปด้านในเรื่อยๆ
ซังหลินจวินพยายามอย่างเต็มที่ที่จะยันไว้ แต่ทั้งสองคนด้านนอกยังคงดันมาเรื่อยๆ
ร่างของเขาแนบชิดกับเฉินเฉียว
แรงกระแทกจากข้างนอกเขาถูกบังคับให้ชนเธอ
ร่างกายของเฉินเฉียวลุกโชนเหมือนไฟ
ร่างกายอันบอบบาง สัญชาตญาณอยากจะหดถอยหลัง
แต่ไม่มีที่ว่างให้เธอก้าวถอยอีกแล้ว
เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งในร่างกายของผู้ชายรวมถึงพลังแห่งความเป็นชายอันนั้น ถึงแม้จะไม่ได้ทำอะไรเลยแต่เหมือนกับว่าจะทำให้เธอละลายกลายเป็นน้ำ
ใครบอกผู้ชายคนนี้ตายด้าน ไอตรงนั้นไม่ได้ตายด้านซะหน่อย?
เป็นเรื่องไร้สาระทั้งหมด!
แม้จะสัมผัสผ่านชั้นของผ้าเธอก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงปฏิกิริยาที่รุนแรงของมันและขนาดที่ใหญ่
เธอกลัวมากจนรู้สึกละอายใจที่ความรู้สึกแปลก ๆ ที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อนเพิ่มขึ้นในร่างกายของเธออย่างไม่สามารถควบคุมได้
ที่ปลายจมูกและบนฝ่ามือของเขาเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ปรากฏขึ้น มองไปที่ดวงตาเขามีแสงในดวงตา
ซังหลินจวินมองเธอแบบนี้
ในช่วงเวลาต่อมาริมฝีปากบางๆของเธอก็ถูกจูบอย่างกระหาย
เฉินเฉียวหายใจ
ขนตาสั่นอย่างรุนแรง
มือที่ห้อยอยู่ข้างตัวเกร็ง
ในอกของเธอหัวใจเหมือนจะหลุดออกมา
ผลักเขาออกไป!
ต้องผลักเขาออกไปเดี๋ยวนี้!
เธอเตือนตัวเองยกมือขึ้นแล้วกดที่หน้าอกของเขา
อย่างไรก็ตามจูบของชายคนนั้นเหมือนมีเวทมนตร์ทำให้ร่างกายของเธออ่อนปวกเปียก
เธอพยายามหลายครั้งร่างกายของเธอก็อ่อนแอลงและอ่อนแอลงละลายกลายเป็นน้ำ
การกระทำที่ผลักเขาออกแบบนั้นไม่เป็นผล แต่กลับเป็นเหมือนการเพิ่มอารมณ์
จูบของชายคนนั้นบ้าระห่ำร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ปลายลิ้นรุกล้ำริมฝีปากและฟันของเธอ
จากหลังคอของเธอฝ่ามือใหญ่ที่ลุกเป็นไฟก็ลูบไล้ไปตามหลังเนียนๆของเธอและโอบรอบเอวเรียวของเธอ …
ตายแล้ว!
ทั้งหมดนี้อยู่นอกเหนือการควบคุม
“ อี้เฉิน …คุณ…คุณทำแบบนี้กับเฉินเฉียวหรือเปล่า”ด้านนอกเสียงขาดๆหายๆของคุณโหยวจิ้งหลีดังขึ้นอีกครั้ง
“แบบไหน แบบนี้หรือว่าแบบนี้”ปู้อี้เฉินแกล้งเธออย่างร้ายกาจ
โหยวจิ้งหลีคร่ำครวญ“ ทำไมคุณร้ายจัง คุณก็รู้ว่าฉันพูดถึงอะไร ตกลงทำไหม ”
ในด้านหลังประตู จู่ๆซังหลินจวินก็หยุดจูบ แต่ริมฝีปากของเขายังคงอยู่ที่ริมฝีปากของเธอและหน้าผากของเธอและเขาก็แนบชิดกัน
นอกจากนี้ยังมีชั้นเหงื่อบาง ๆ บนหน้าผากของเขา
เฉินเฉียวสามารถหายใจได้ครู่หนึ่งพยายามสงบสติอารมณ์ริมฝีปากของเธอขยับและเธอต้องการหลบเขา แต่ทันใดนั้นก็โดนเขาประกบด้วยริมฝีปาก
เธอสะดุ้งและลืมตาขึ้นด้วยความหวาดกลัวสัมผัสได้ถึงสายตาที่เขาส่งสัญญาณเตือน เธอก็ไม่กล้าขยับ
ผู้ชายคนนี้ถึงแม้นิสัยใจคอดี เมื่อเทียบกับปู้อี้เฉินแล้วเป็ยสุภาพบุรุษมากกว่าแต่ว่าธาตุแท้เขานั้นเป็นเจ้านายทีแข็งข้อด้วยไม่ได้
เธอกลัวว่าถ้าเธอขยับอีกนิดเธอจะกลายเป็นเนื้อบนเขียงของเขาเลยปล่อยเลยตามเลย
ในพื้นที่แคบ ๆ อย่างนี้นับประสาอะไรกับการดันเขากลับแม้กระทั่งหายใจยังต้องระวังเลย ถ้าหากว่าทำเสียงดังเพียงแค่นิดเดียว คนข้างนอกสองคนนั้นก็จะรู้