“ไม่ต้องหรอก นี่โรคคนแก่ แม่รู้ดี” กับความกังวลของลูกชาย คุณหญิงซังรู้สึกอบอุ่นใจ
แต่ท่านก็ไม่อยากสร้างภาระให้ลูกชาย
ลูกต้องยุ่งทั้งเรื่องที่บริษัทกับเรื่องในบ้าน ถ้ายังเอาโรคของท่านไปทำให้เขาเครียด เดี๋ยวสักวันเขาคงรับมือไม่ไหว
ท่านเป็นห่วงเขา
ซังหลินจวินมองสีหน้าของคุณแม่ เข้าใจว่าคุณแม่กำลังคิดอะไรอยู่
จากนั้นจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรทันที
ทันใดนั้น ซังหลีหย่วนที่นั่งอยู่ข้างๆกลับขมวดคิ้วเอ่ย “ทีแท้คุณก็ป่วยเหรอ ฉันคิดว่าครั้งก่อนที่เจอกันที่โรงพยาบาลคุณ……”
“คุณคิดว่าฉันจงใจตามไป” คุณหญิงซังยิ้มอย่างเย็นชากับท่าน ในสายตามีความเสียดสี
“คุณคิดมากไป ฉันอายุห้าสิบกว่าแล้ว ไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่เพิ่งหมั้นกับคุณ ในชีวิตฉันมีเรื่องที่สำคัญกว่าคุณ เสียเวลาไปสะกดรอยตาม ฉันไม่ว่างขนาดนั้นหรอก”
สีหน้าคุณหญิงซังเย็นชา ในตาเหมือนเป็นน้ำที่ใสสะอาด
ในใจท่าน ตอนนี้มองทุกอย่างทะลุแล้ว
ซังหลีหย่วนก็คิดไม่ถึง ผู้หญิงตอนนั้นที่ชอบทะเลาะกับตัวเอง แต่ตอนนี้กลับใจกว้างขนาดนี้
เพราะอายุมากแล้ว เข้าใจแล้ว หรือว่าความรักในใจจืดจางไปแล้ว
คิดคำตอบไม่ออก แต่กลับปิดบังความผิดหวังในใจไม่ได้
ถึงซังหลีหย่วนจะชอบเฉียวยวี่หมิน แต่ในใจลึกๆกลับมีเงาของใครบางคนที่ลืมไม่ได้ ในชีวิตของท่าน ผู้หญิงที่อยู่กับท่านนานที่สุด คือภรรยาเก่าตรงหน้า
เฉียวยวี่หมินที่ได้ยินก็เหลือบมองคุณหญิงซังอย่างแปลกใจ
เฉียวยวี่หมินมั่นใจว่าท่านรักซังหลีหย่วนจริงๆ ถึงจะเคยเจอคุณหญิงซังไม่กี่ครั้ง แต่ในข่าวลือคุณหญิงซังเป็นผู้หญิงที่เด็ดขาด แต่ความสัมพันธ์ของพวกเธอ ถึงจะเจอกัน ก็ไม่เคยคุยอะไรกันสักคำ
รักผู้ชายคนเดียวเหมือนกัน เฉียวยวี่หมินเลยมองออกว่าที่คุณหญิงซังพูดเป็นความจริงหรือปลอม
แต่ก่อนที่เจอกัน ถึงแม้จะไม่เคยคุยอะไรกัน แต่เธอก็รู้สึกได้ว่าสายตาของท่านเคยเหลือบมองผ่านเธอ ถึงจะแค่ชั่ววินาที แต่เฉียวยวี่หมินมั่นใจว่าเธอไม่ได้ตาฝาด
แต่คุณหญิงซังตรงหน้า ยังเป็นคนเดิม แต่เหมือนไม่แคร์แล้วจริงๆ
ไม่มีสายตาแบบนั้น แค่มีความว่างเปล่า แต่ไม่รู้ทำไม เฉียวยวี่หมินกลับอิจฉา
เพราะถูกนอกใจเหมือนกัน คุณหญิงซังกลับปล่อยวางแล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แล้วเธอล่ะ ยังอยู่ภายใต้ร่มเงาของคนอื่นอยู่
ผ่านไปตั้งหลายปี แต่เธอก็ยังไม่เอาไหนอยู่ดี
เฉียวยวี่หมิยยิ้มเยาะเย้ยตัวเอง
เฉินเฉียวเห็นว่าบรรยากาศเริ่มอึดอัด เลยไม่รู้จะทำยังไง
แต่ยังดีที่ซังหลินจวินวางโทรศัพท์แล้วเดินมาเอ่ยว่า “แม่ครับ เดี๋ยวคุณหมอหลินจะมาตรวจให้ คุณแม่อย่าไม่รักษาเลยครับ อย่างน้อยก็ให้ผมกับเฉียวเฉียวสบายใจนะครับ”
“ก็ได้ลูก” กับความหวังดีของลูกชาย คุณหญิงซังเลยไม่อยากปฏิเสธ
อีกอย่างลูกชายกลับไปเป็นเหมือนเดิม ท่านรู้สึกดีใจมาก
ตอนที่คุณหมอหลินมาเป็นหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น
เขาใส่เสื้อเชิ้ตธรรมดา ดูสบายตามาก เป็นหมออายุน้อยคนหนึ่ง
หลังจากที่เขาตรวจคุณหญิงซังเรียบร้อยแล้ว จึงมาคุยกับซังหลินจวิน “คุณชายซังครับ ช่วงนี้คุณหญิงควบคุมความดันได้ดี ขอแค่ทำใจร่มๆ ระวังเรื่องการกิน โอกาสที่โรคจะกำเริบมีน้อยครับ”
ซังหลินจวินกลับขมวดคิ้ว มองไปทางคุณแม่อย่างสับสน
“แม่ครับ ความดันแม่สูงตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
แต่ก่อนร่างกายคุณแม่แข็งแรงตลอด สามปีก่อนยังไปท่องเที่ยว ชีวิตดูมีความสุขกว่าเขาอีก
เขาจะคาดถึงได้ยังไง คุณแม่ที่ร่างกายแข็งแรงตอนนั้น แต่กลับความดันสูง
ท่านเพิ่งห้าสิบเอง
ทีแรกที่คุณหญิงซังเห็นว่าเป็นหมอหนุ่มมา ยังคิดว่าเขาดูไม่ออก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมีความสามารถ แม้แต่ท่านที่พยายามกินยาควบคุมก็ดูออก
ท่านที่ทีแรกอยากกลบเกลื่อนกลับต้องพูดความจริง “มีมาหลายปีแล้ว แก่แล้ว รู้สึกกดดัน ความดันสูงก็ไม่แปลกอะไร ลูกแม่ ลูกอย่าเป็นห่วงเลย บนโลกมีคนแก่เยอะแยะที่ความดันสูง พวกเขาก็ใช้ชีวิตได้ปกติ”
ซังหลินจวินอยากพูดว่าจะเหมือนกันได้ยังไง พวกเขาไม่ใช่แม่เขาสักหน่อย
แต่คำพูดของเขาติดอยู่ที่ปากพูดไม่ออก
เพราะว่าเขาคิดได้ กี่ปีนี้เพราะเขาเองที่ทำให้คุณแม่เป็นโรคนี้
ตอนนั้นที่เฉินเฉียวเกิดเรื่อง ในใจเขาเก็บกดมาก เลยโยนเรื่องทุกอย่างไปบนตัวคุณแม่ จนถึงขั้นปฏิเสธที่จะเจอท่าน
ถ้าไม่ใช่แบบนั้น คุณแม่ที่ยังดูสาวขนาดนี้จะเป็นโรคนี้ได้ยังไง
สีหน้าซังหลินจวินหม่นหมอง เขาไม่ถามอะไรอีก แต่กลับเดินไปคุยกับคุณหมอหลิน
ซังหลีหย่วนที่นั่งอยู่ข้างๆขยับไปนั่งใกล้คุณหญิงซังแล้วเอ่ย “คิดไม่ถึงจริงๆ แก่แล้ว เรายังเป็นโรคเดียวกันอีก”
คุณหญิงที่เห็นท่านขยับมาใกล้เอ่ยอย่างไม่แยแส “ที่คุณเป็นโรคนี้ก็สมควรแล้ว ฉันนี่สิโชคไม่ดี พอแล้วๆ คุณไม่ต้องขยับมาใกล้ เดี๋ยวภรรยาคุณอารมณ์ไม่ดีอีก”
ซังหลีหย่วนหยุดชะงักเพราะคำพูดของภรรยาเก่า แต่ไม่ได้หันไปหาเฉียวยวี่หมิน แค่ส่ายหน้าเอ่ย “เธอไม่งี่เง่าหรอก เธออ่อนโยนจะตาย”
“ก็จริง คงมีแค่ผู้หญิงอย่างเธอถึงจะเอาคุณอยู่” นึกถึงตอนยังสาวๆที่ท่านอารมณ์ร้อน เลยเห็นด้วย
เห็นซังหลีหย่วนที่อายุห้าสิบกว่าแล้วแต่ร่างกายยังแข็งแรง เลยถามอย่างไม่ตั้งใจ “คุณไม่อยากมีลูกกับเธอเหรอ”
“ไม่เอาแล้ว มีหลินจวินก็พอแล้ว” สายตาที่พอใจของซังหลีหย่วนมองไปทางซังหลินจวิน
แต่คุณหญิงกลับนึกถึงลูกอีกคนเพราะคำพูดซังหลีหย่วน เลยเอ่ยว่า “คุณลืมลูกชายอีกคนของคุณแล้วเหรอ ตอนนั้นคุณซื้อเขากลับมาด้วยเงินตั้งหลายล้าน ทำไมไม่เลี้ยงดูเขาดีๆล่ะ”
มือของซังหลีหย่วนแอบถูกันแล้วเอ่ย “นั่นเป็นความผิดที่เคยทำตอนหนุ่ม ทำไมคุณยังจำได้ล่ะ ตอนนั้นที่ซื้อลูกกลับมา ก็แค่ไม่อยากให้ลูกตระกูลซังเร่ร่อนข้างนอก แล้วอีกอย่าง ถ้าตอนนั้นถ้ายังอยู่กับแม่อีก ตอนนี้เขาก็คงไม่มีฐานะในนี้”