“ แน่นอนว่าฉันไม่เคยแตะต้องตัวเธอเลย…. ”ในที่สุดปู้อี้เฉินก็ตอบ
จริงหรอดูเหมือนโหยวจิ้งหลีจะไม่เชื่อเธอรู้สึกอิจฉาเล็กน้อยและพูดว่า: “ฉันไม่เชื่อหรอกเธอสวยหุ่นดีขนาดนั้นและอย่างน้อยหน้าอกก็มีคัพดี จะอดใจไหวหรอ ”
เฉินเฉียวไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ดีๆพวกเขาสองคนต้องมาพูดถึงร่างกายเธอ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาการจ้องมองของเธอตามคำพูดของโหยวจิ้งหลีและก้มลงบนหน้าอกของเธอ
สายตาแบบนี้ทำให้เฉินเฉียว รู้สึกราวกับว่าเขาถูกถอดเปลือยและยืนอยู่ตรงหน้า เธอทำตัวไม่ถูก
เธอปิดคอเสื้อตัวเอง
เงยหน้าขึ้นมองเขาราวกับจะถามว่า ‘มองอะไร’
ซังหลินจวินยิ้มลูบไล้ใบหูของเธอและกระซิบ: “ไม่ต้องดูหรอก ฉันเคยจับมาแล้ว แค่คัพซี ”
คำพูดลามกของเขา ทำให้เฉินเฉียวเกือบจะวูบ
คืนนั้นเธอหมดสติภาพตัด มีเพียงบางเหตุการณ์ที่จำได้เท่านั้น เขาพูดถึงเรื่องนั้น เสียใจก็เสียใจ อายก็อาย
ตอนนั้นเธอเมาจริงๆและทำตัวเซ่อๆ เลยไปยั่วผู้ชายคนนี้เข้าให้
“เธอหุ่นดีก็ใช่ว่าฉันจะสนใจเธอ”เสียงของปู้อี้เฉินดังขึ้นอีกครั้ง “ฉันชอบคนแบบคุณ … ”
เมื่อโหยวจิ้งหลีได้ยินเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เขารู้สึกอิจฉาร้องลั่น“ คุณเพิ่งมีอะไรกับเธอมา ยังจะไม่ยอมรับอีก ถ้าไม่เคยมีอะไรด้วยทำไมรู้ว่าเธอหุ่นดี ”
เฉินเฉียวรู้สึกอาย
สองคนนี้เลิกพูดถึงเธอได้มั้ย?
แต่ ทำไมซังหลินจวินเอาแต่จ้องเธอราวกับจะกลืนกิน
ท่าทางราวกับว่าเธอได้ทำบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เขาไม่พอใจ
“ยัยขี้หึง”ทั้งสองร่างแนบชิดติดกัน ปู้อี้เฉินมีน้ำอดน้ำทนต่อโหยวจิ้งหลี พลางง้อเธอ “ที่ผมรู้ว่าเธอหุ่นดี เพราะผมเคยมอง เธอถอดเสื้อผ้ายั่วผมบนเตียง ผมจะไม่เห็นได้ยังไงล่ะ แต่ว่าผมไม่ได้แตะต้องเธอเลย อยู่ต่อหน้าเธอผมไม่รู้สึกอะไรเลย ”
“ คุณไม่ได้หลอกฉันใช่ไหม?”
“ ถ้าหลอกฉัน ฉันจะรีดน้ำให้แห้งเลย ห๊ะ
“ ร้ายจริงๆ”โหยวจิ้งหลีคร่ำครวญและตีเขา “ครั้งหน้าถ้าเธอถอดเสื้อผ้ายั่วคุณอีก ห้ามดูนะ!”
“ครับ ถ้าคุณไม่ให้ดูผมก็จะไม่ดู”
เฉินเฉียวได้เห็นอีกครั้งว่าปู้อี้เฉินเลวแค่ไหน บิดเบือนความจริง เรื่องแบบนี้เก่งจริงๆ
ในขณะที่ฉันกำลังคิดกับตัวเองก็มีอาการเจ็บที่ริมฝีปากอย่างกะทันหัน
เธอเกือบจะครางออกมา โชคดีที่คิดถึงคนทั้งสองข้างนอกจึงหยุดทัน
เธอเงยหน้าขึ้นอย่างโกรธเคืองและพบกับดวงตาสีเข้มของชายคนนั้น
ดูเหมือนเขาจะโกรธและกัดริมฝีปากของเธอเป็นการลงโทษ ฝ่ามือใหญ่ที่ทาบลงบนเอวของเธอก็รัดแน่นและจับลงไป
ทุกๆครั้งดูเหมือนจะทำให้เธออ่อนปวกเปียก
เฉินเฉียวหอบและบีบมือของเขาอย่างตื่นตระหนกใช้ปากบอกเขา “หยุด”
นิ้วยาวๆของเขาสอดเข้าไปในกางเกงกระโปรงของเธอ …
เฉินเฉียวสั่นอย่างรุนแรงหลังจากสัมผัสจุดที่อ่อนไหวที่สุดผ่านผ้าบาง ๆ ของกางเกงชั้นใน
เกือบจะร้องครางออกมาเธอกัดริมฝีปากของชายคนนั้นแล้วเก็บเสียงกลับเข้าลำคอ
เหมือนเป็นการแก้แค้นเธอกัดผู้ชายคนนั้นคืน และบังคับให้ตัวเองสงบสติอารมณ์ไม่ให้ตกหลุมพลางกามรมณ์ของชายแปลกหน้า เธออกแรงผลักไหล่เขาออก แต่โดนเขาดันกลับติดกำแพง
ขณะนี้พวกเขาสองคนที่อยู่ข้างนอกในที่สุดก็เสร็จกิจจบลงด้วยเสียงร้องสุดท้าย
โทรศัพท์มือถือของปู้อี้เฉินอยู่เรื่อยๆ
เขาปรับการหายใจจัดแจงเสื้อผ้าและเดินออกไปรับโทรศัพท์ โหยวจิ้งหลียังจัดเสื้อผ้าของเธอและใส่รองเท้าส้นสูง
จึงเหลือเพียงเฉินเฉียวซังหลินจวินและเท่านั้นที่อยู่ที่นี่
พวกเขายังคงรักษาท่าทางที่คลุมเคลือนั้นยืนอยู่หลังแผงประตู
เมื่อสักครู่นี้ว่าน่าอายแล้ว ตอนนี้เหลือแค่เขาและเธอสองคนรู้สึกประหม่า น่าอายยิ่งกว่า
ในที่สุดเฉินเฉียวก็กลับมามีชีวิตและเรียนรู้ที่จะหายใจได้อีกครั้ง หายใจหอบและพูดเบาๆ: “ปล่อยฉัน … ”
ซังหลินจวินดูเหมือนจะค่อยๆสงบสติลง
สายตานักล่าของเขาหายไปและมือของเขาก็ถอนออกจากขาของเธอ การปรากฏตัวของสุภาพบุรุษผู้สง่างามผู้นั้นกลับคืนมาอีกครั้งราวกับว่าการสูญเสียการควบคุมเมื่อสักครู่นี้เป็นเพียงภาพลวงตา
เฉินเฉียวไม่รู้จะทำตัวยังไงกับเหตุการณ์นี้ และไม่รู้จะทำตัวกับชายคนนี้อย่างไร เธอไม่ได้พูดอะไรและเดินออกไป
เธอโกรธเล็กน้อย โกรธตัวเองที่ไม่ได้ปฏิเสธเขาในตอนแรก
ก่อนจะเดินออกไปจู่ๆข้อมือของเธอก็ถูกคว้าไว้
เธออยากจะสะบัดออก แต่ว่าทั้งร่างถูกเข้าจับเข้ากับกำแพงห้อง
ลมหายใจอันตรายของชายคนนั้นใกล้เข้ามา
เธอหายใจติดๆขัดๆ เธอพยายามหลบสายตา “ประธานซัง คิดจะทำอะไรอีกคะ”
“กลัวอะไร”เมื่อเทียบกับเธอแล้วซังหลินจวินทำอย่างใจเย็น
เฉินเฉียวเหลือบมองเขาพยายามปรับอารมณ์ให้ได้มากที่สุดกัดริมฝีปากและพูดว่า: “เรื่องเมื่อสักครู่นี้เป็นเพราะฮอร์โมนมันพุ่งพล่าน ฉันไม่ได้ใส่ใจอะไร ประธานซังก็อย่าเก็บมาใส่ใจนะคะ”
เธอนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้อีก ก็พูดต่อ: “ฉันไม่ได้ตั้งใจจะยั่วนะคะ อย่าเข้าใจผิด”
ซังหลินจวินมองใบหน้าที่แดงของเธอและไม่ตอบคำพูดของเธอ แต่พูดว่า: “ติดกระดุมให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยออกไป”
เฉินเฉียวมองลงไป
กระดุมสามเม็ดบนของเสื้อกีฬา หลุดออกเปิดโล่งทั้งหมด
เผยให้เห็นร่องอกชัดเจน
เธอติดกระดุมอย่างรวดเร็ว โดยปกติจะติดแค่เม็ดเดียว แต่ครั้งนี้เธอติดสามเม็ด
ซังหลินจวินรู้สึกตลก “มากไป”
มากกว่านี้ก็เคยเห็นมาแล้ว
เมื่อกี้ก็ได้เห็นตั้งเยอะ
เฉินเฉียวเข้าใจความหมายของคำสองคำนั้นของเขา หน้าเธอแดงก่ำเดินออกไปโดยไม่สนใจเขา
คราวนี้ซังหลินจวินไม่รั้งไว้
เธอเปิดประตูและเดินออกจากห้อง แต่ขาเธออ่อนแรง
เธอเกือบจะล้มลงแต่ถูกคนข้างหลังคว้าไว้ได้ทันเวลา
“ เป็นแบบนี้กลัวว่าจะไปตีกอล์ฟกับคนอื่นไม่ได้”เสียงของเขาดังขึ้นเหนือหัว
เฉินเฉียวเขินจนทำอะไรไม่ถูก
เธอทนไม่ได้กับการยั่วยวนจริงๆ
ยิ่งไปกว่าถึงขนาดนี้แล้วใครมันจะไปมีกระจิตกระใจไปตีกอล์ฟ
เฉินเฉียวดึงฝ่ามือของเธอออกไปและยืนตัวตรง
ทันใดนั้นก็ถามว่า “คุณกับโหยวจิ้งหลีเป็นอะไรกัน”
“ ลูกพี่ลูกน้อง”
“……”เฉินเฉียวไว้อาลัยให้กับตัวเองและทีมงานของเธอ คนเป็นญาติกัน มาแก่งแย่งกันสิแปลก
เธอไม่ได้พูดอะไรต่อ สงบสติและเปิดประตูห้องเดินออกไปเงียบๆ
ด้านหลังเธอมีเสียงดังขึ้น: “อย่าลืมทายาด้วยนะ”
เธอหยุดก้าว
ยา?
เป็นไปได้ไหมว่ายาที่ได้รับในห้องทำงานไม่ได้มาจากปู้อี้เฉินแต่มาจากเขา?
ปู้อี้เฉินดูเหมือนจะไม่ใช่คนที่แคร์เธอ ยิ่งไปกว่านั้นคงจะไม่ใช้วิธีส่งพัสดุ