ซังอวินมองเขาด้วยสายตาซับซ้อน สุดท้ายก็พยักหน้ายอมรับ
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ทุกคนคิดว่าเขาสร้างทุกอย่างในตอนนี้ด้วยสองมือของเขา อาจจะมีคนเกลียดเขา ไม่แยแสกับฐานะของเขา แต่ก็มีหลายๆคนที่อิจฉาเขา
แต่ทุกครั้งที่เห็นสายตาที่อิจฉาของคนพวกนั้น เขาไม่เคยภูมิใจเลย เพราะมีแค่เขาคนเดียวที่รู้ว่าเขาพยายามมากแค่ไหน
เขาไม่เคยเล่าเรื่องเหล่านั้นให้คนอื่นฟัง ถึงจะเป็นเฉียวเฉียวขาก็ไม่เคยบอก
เขาแค่หวังว่าในใจเฉียวเฉียว เขาเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งปกป้องเธอได้ อดีตที่มืดมนแบบนั้น เขาไม่อยากให้เธอรู้
ซังหลินจวินก็คิดไม่ถึงว่าแต่ก่อนเขาจะลำบากขนาดนั้น
เห็นใจเหรอ เขารู้ว่าเขาไม่ต้องการ
คนอย่างพวกเขา ความเห็นใจเป็นการเหยียดหยามมากกว่า
เพราะฉะนั้นเขาเลยเปลี่ยนประเด็นถามว่า “ที่นายมาฉัน เพื่ออะไร? รู้สึกผิด?”
ซังอวินหัวเราะในลำคอ “ที่ฉันเล่าให้ฟังเพราะอยากบอกนายว่า คนของจอร์จเฝ้าตามฉันมาตั้งนาน เขารู้ความสัมพันธ์เราดี ถ้าเขายังมีชีวิตรอดจากครั้งนี้ได้ เขาอาจจะไปหาตระกูลซัง ไปที่เป่ยเฉิง ฉันอยากอยู่ต่อ เฝ้าระวังสถานการณ์ตรงนี้ก่อน”
คำพูดขอซังอวินซังหลินจวินคาดไม่ถึงเลย เขาไม่เคยคิดว่า คนที่เขาระแวงตลอด กลับยื่นมือมาช่วยเหลือ
แต่ว่า ซังหลินจวินไม่คิดจะรับน้ำใจเขาไว้ “นายไม่ต้องอยู่ต่อ นายคิดว่าไม่ไปพร้อมเรา เฉียวเฉียวก็จะไม่สงสัยเหรอ? ถ้านายไม่อยากให้เฉียวเฉียวเป็นห่วงนายจริงๆ ก็ใช้ชีวิตดีๆที่เป่ยเฉิง ออกห่างจากอันตรายพวกนั้น ฉันไม่อยากให้ เฉียวเฉียวเสี่ยงเพื่อนายอีก”
ถ้ายังมีอีกครั้ง เขาคงไม่ไปช่วยเหมือนครั้งนี้
เพราะเขารู้สึกว่า ความรู้สึกที่เฉียวเฉียวเคยติดค้างเขา หลังจากเรื่องครั้งนี้ก็น่าจะชดใช้หมดแล้ว
“ซังหลินจวิน นายไม่อยากไปอย่างปลอดภัยเหรอ? ถ้าฉันไม่อยู่ต่อ คนของจอร์จอาจจะไปที่ตระกูลซังตอนที่เราไม่รู้ตัว ถึงเวลานั้น เรื่องจะใหญ่กว่าเดิม เราสองคนใครจะรับผิดชอบ ถ้านายกังวลว่าเฉียวเฉียวจะเป็นห่วงฉัน ฉันบอกนายได้เลยว่า ฉันจะจัดการเรื่องทุกอย่างให้เรียบร้อย ไม่ให้เธอรู้ พูดตรงๆก็คือ ที่ฉันทำเรื่องนี้ ไม่ใช่เพื่อแค่เฉียวเฉียว แต่เพื่อเหมิงเหมิงด้วย เหมิงเหมิงยังเด็กขนาดนั้น ฉันอยากให้เธอมีชีวิตที่สงบสุข ไม่อยากให้เธอใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง”
ซังอวินพยายามพูดเกลี้ยกล่อม จนยกเหมิงเหมิงออกมาด้วย
ซังหลินจวินที่ก้มหน้าคิดปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เขาหวั่นไหวจริงๆ
บางทีหลายๆเรื่อง ความคิดของเขากับซังอวินอาจจะตรงข้ามกัน แต่ความคิดที่จะปกป้องเฉียวเฉียวกับเหมิงเหมิง เขาไม่มีทางให้จอร์จเอาเรื่องลามไปถึงเป่ยเฉิงเด็ดขาด
“ได้ นายอยู่ต่อ แต่เรื่องพวกนี้ นายเป็นคนตัดสินใจเอง ฉันก็จะไม่ปิดบังเฉียวเฉียวด้วย” สุดท้ายซังหลินจวินก็เห็นด้วยกับซังอวิน แต่นึกได้ว่าปิดบังเฉียวเฉียวหลายครั้งแล้ว ถึงจะทำเพื่อเฉียวเฉียว แต่เขาก็ไม่ลืมที่เคยสัญญาว่าจะไม่โกหกเธออีก
เพราะฉะนั้นครั้งนี้ เขาเลือกที่จะเมิน ทำเหมือนไม่รู้
ซังอวินยิ้ม “ฉันก็ไม่เคยคิดจะให้นายช่วย”
เขายังไม่ลืมว่าซังหลินจวินเป็นศัตรูหัวใจ ถึงเขาที่เป็นศัตรูหัวใจจะไม่มีโอกาสแล้วก็ตาม
ซังหลินจวินเห็นซังอวินชิวขนาดนี้ ในใจเลยไม่ค่อยโอเค แล้วจงใจพูดแขวะเขา
“นายไม่กลับเป่ยเฉิง คนที่สำนักรากษสก็ไม่สนใจแล้ว?”
ซังอวินนั่งอยู่บนโซฟาอย่างขี้เกียจ หรี่ตาแล้วพูดเสียงชิลล์ว่า “ไม่สนแล้ว มีอะไรให้น่าสน คนของคนอื่นจะหักหลังเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ปล่อยไปทางของใครของมันดีกว่า”
“นายยอมปล่อยงั้นเหรอ” ซังหลินจวินใช้สายตาที่จริงจังแขวะซังอวิน
“แน่นอน” ซังอวินไม่ใส่ใจกับน้ำเสียงของเขา เพราะถ้าวันหนึ่งเขาพูดดีๆกับเขาจริงๆ เขาสิที่ต้องสงสัยว่าสมองเขามีปัญหาหรือเปล่า
แต่ว่าตอนที่เห็นซังหลินจวิน อยู่ๆซังอวินเลยนึกอะไรได้
เขายันตัวขึ้นนั่งดีๆแล้วเอ่ย “ครั้งก่อนฉันยังมีเรื่องหนึ่งอยากบอกนาย แต่ฉันลืม ครั้งก่อนที่เจียงอี้ฟานโดนทำร้ายจนเกือบจะความจำเสื่อม ตัวการเรื่องนั้นฉันหาตัวเจอแล้ว ไม่ใช่แค่เกี่ยวกับปู้อี้เฉิน คนที่ลงมือเป็นคนของพวกมาเฟีย เป็นคนของจอร์จ”
“ถ้าพูดอย่างนี้ หรือว่าพวกมันเล็งเราตั้งนานแล้ว” ซังหลินจวินขมวดคิ้ว แล้วได้ข้อสรุปจากสิ่งที่ซังอวินพูด
“น่าจะไม่ใช่……”ซังอวินส่ายหน้า กำลังจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด โทรศัพท์ที่ซังหลินจวินเอามาจากเซิ่งยวี่กลับดังขึ้นก่อน
พอเห็นคนที่โทรมา มุมปากซังหลินจวินจึงเลิกขึ้น
ซังอวินหยุดพูด กำลังสงสัยว่าใครทำให้ซังหลินจวินสนใจขนาดนี้
เขารู้ว่าไม่มีทางเป็นเฉียวเฉียว เพราะเฉียวเฉียวยังนอนอยู่ ไม่มีทางโทรหาซังหลินจวินเวลานี้แน่นอน
ซังหลินจวินกดรับแล้วเปิดลำโพง เสียงที่ลอยออกมาจากโทรศัพท์ ทำให้คนทั้งสองคนในห้องยิ้มอย่างเอ็นดู
“คุณพ่ออยู่ไหนคะ คุณพ่อไม่ได้โทรหาเหมิงเหมิงนานแล้ว” น้ำเสียงที่ออดอ้อนมีความไม่พอใจ
รอยยิ้มจึงยิ้มกว้างกว่าเดิม แล้วน้ำเสียงของซังหลินจวินก็คุยกับลูกสาวอย่างอ่อนโยน
“เหมิงเหมิงครับ คุณพ่อกำลังยุ่งเรื่องงาน กี่วันนี้ยุ่งเกินไปแล้วลืมโทรหาหนู ทำไมครับ เพราะการบ้านที่โรงเรียนยากหรือว่าที่บ้านมีปัญหาเหรอครับ?”
“ไม่มีค่ะ แค่คิดถึงคุณพ่อ” เด็กจะพูดว่าคิดถึงตรงๆ ไม่เหมือนผู้ใหญ่ เพราะอายหรือเพราะอะไรบางอย่างเลยพูดไม่ออก
ซังหลินจวินได้ยินว่าลูกสาวคิดถึงเขา ใจที่แข็งเหมือนก้อนหินละลายทันที
ไม่คิดเลยว่า เขายังไม่ทันพูดว่าคิดถึงเหมิงเหมิงเหมือนกัน ในโทรศัพท์กลับมีคำพูดที่ได้ยินบ่อยๆ จนรอยยิ้มของเขาแห้งแล้วน้ำเสียงก็เริ่มจริงจัง
“เหมิงเหมิง บอกคุณพ่อว่าตอนนี้พวกหนูอยู่ที่ไหน”
“เราอยู่ที่ อื้ออื้อ” เพิ่งเอ่ยพูดแต่กลับกลายเป็นเสียงของอีกคนไปก่อน
“พ่อครับ พ่ออยากได้เซอร์ไพรส์ไหมครับ”