จริงๆแล้วตอนเธอออกจากจิ้งหย่วนครั้งที่แล้วเฉินเฉียวคิดว่าเธอจะไม่มาที่นี่อีก
ตอนนี้ยืนอยู่ในจิ้งหย่วนที่เงียบสงบฟังเสียงคลื่นและลมทะเลเธอยังคงรู้สึกหลงใหล
ตัวเธอเองใจอ่อนเกินไปที่จะทิ้งเด็กไว้คนเดียวดังนั้นจึงมาที่นี่อีกครั้งกับเด็ก
โชคดีที่ ซังหลินจวินไม่ได้อยู่บ้าน
ถ้าเธอเจอเขาที่นี่เธอไม่รู้จะอธิบายยังไง
ถ้าอย่างนั้นเธอคงจะแก้ตัวไม่ได้กับคดีครั้งก่อนที่บอกว่าเธอ‘ยั่ว’
“คุณเฉิน”ขณะที่คิดเรื่องนี้ป้ามั่วที่ยังไม่เลิกงานก็มาพร้อมกับเสื้อผ้าในมือแล้วพูดว่า “คืนนี้ใส่ชุดนี้นะคะ”
ขอบคุณค่ะเฉินเฉียวหยิบเสื้อผ้า
เอามันขึ้นมาดูและตะลึง
ชุดนอนเป็นชุดนอนจริงๆ แต่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นของซังหลินจวิน
สวมชุดนอนของชายแปลกหน้าและนอนอยู่ในบ้านของเขามันเป็นเรื่องบ้าบอจริงๆ
ความลำบากใจบนใบหน้าของเฉินเฉียวทำให้ป้ามั่วมองเห็น เธอยิ้มและกล่าวว่า: “ดิฉันก็อยากหาชุดนอนผู้หญิงให้คุณเฉินนะคะ แต่บ้านนี้ไม่มีผู้หญิงมาเลยค่ะ แต่ก่อนคุณเทียนเคยมาเป็นครั้งคราว แต่เธอไม่เคยค้าง ยิ่งกว่านั้นคุณเทียนไม่ได้มาที่นี่หลายปีแล้ว ”
คุณเทียน?
เฉินเฉียวไม่สนใจเรื่องของซังหลินจวิน แต่เธอจำชื่อนี้ไว้ในใจโดยไม่มีเหตุผล
ดูเหมือนว่าชายคนนี้จะไม่ได้ใส่ซื่อ ไม่แตะต้องผู้หญิงตามที่เขาว่ากันมา
ตอนนี้ชื่อคุณเทียนโผล่มาแล้วไม่ใช่หรอ?
แต่ก็ใช่ ที่เขาพูดๆกัน มันจะจริงแค่ไหนกันเชียว เรื่องโรคตายด้านพวกนั้นไร้สาระสิ้นดี
ตอนนี้เฉินเฉียวยังสงสัยกับความจริงที่เขาเล่ากันมาว่า ‘ซังโย่วอีเป็นเด็กอุ้มบุญ’
ไม่แน่คุณเทียนเธอคนนี้อาจจะเป็นแม่ที่ให้กำเนิดเด็กน้อยโย่วอีก็ได้
“คุณเฉินคะ ห้องข้างบนขวามือ ดิฉันเพิ่งเก็บกวาดเสร็จ”ป้ามั่วกล่าว
โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ รบกวนแย่เลย”
ไม่เลยค่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ”
เฉินเฉียวพยักหน้า“รีบพักผ่อนนะคะ”
“ ถ้างั้นฝากดูแลคุณหนูด้วยนะคะ”
ค่ะ
ป้ามั่วและคนขับรถจากไปแล้วเหลือเพียงเฉินเฉียวและซังโย่วอีเท่านั้นที่อยู่ในบ้าน
ซังโย่วอีเหมือนกับได้ปลดปล่อย วิ่งเท้าเปล่าจากชั้นบนไปชั้นล่างและจากชั้นล่างขึ้นไปชั้นบน
ในมือถือปืนของเล่น เล็งไปมา ปากเล็กๆขยับพูด‘ปิ้วๆ’ แล้วคลานลงจากโซฟา อีกสักพักกระโดนขึ้นโต๊ะน้ำชา
ผ่านไปไม่นานก็เล่นจนเหงื่อท่วม
เฉินเฉียวดูวิงเวียนศีรษะ แต่ก็รู้สึกว่าชีวิตที่ครื้นเครงแบบนี้สิถึงจะเป็นชีวิตจริงๆ
ในสมัยก่อนเธออยู่คนเดียวในบ้านที่ว่างเปล่าเงียบเหงา
“ เด็กน้อยหยุดเล่นได้แล้ว ไปอาบน้ำเถอะ”เฉินเฉียวสบโอกาสและจับเด็กน้อย อุ้มเขาขึ้น
ถึงซังโย่วอีจะซน แต่เขาก็ฟังคำพูดของเฉินเฉียว
ถูกเธออุ้มไว้ทำให้เขาหยุดดื้อ เฉินเฉียวหยิบปืนของเล่นในมือของเขา”เก็บได้แล้ว”
เขาไม่ได้ต่อต้าน
ปล่อยให้เธอกอดไว้ในอ้อมแขนและมีความสุขกับการกอด
ไหล่ของเฉินเฉียวมีหัวของเด็กน้อยซบอยู่ ใจเธอจะละลาย พาเขาไปในห้องน้ำและถามเขาว่า “คุณหนูจะให้พี่เฉียวอาบน้ำให้ไหมคะ”
“ ไม่ต้องครับ ปกติผมอาบเอง”ซังโย่วอีปฏิเสธอย่างชัดเจนในทันที
เฉินเฉียวไม่มีประสบการณ์ในการอาบน้ำให้เด็กดังนั้นเขาจึงช่วยเติมน้ำให้เท่านั้น “อาบเสร็จแล้วเรียกนะ เดี๋ยวพี่ไปรอด้านนอก”
อืมเด็กน้อยพยักหน้า
“ อย่าเล่นน้ำนะ แล้วก็อย่าเอาหัวจุ่มไปในน้ำ “เฉินเฉียวยังคงกังวลและบอกซ้ำ ๆ ว่า “แค่อาบให้มันเสร็จๆก็พอ เข้าใจไหมคะ”
“ พี่เฉียวนี่จุกจิกชะมัด”เด็กน้อยทนไม่ไหว
เฉินเฉียวก็รู้สึกว่าตัวเองจู้จี้จุกจิก เธอไม่เคยใส่ใจใครมากขนาดนี้ อาจเป็นเพราะเขายังเด็ก
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นลูกของซังหลินจวิน
ถ้าสำลักน้ำแล้วละก็ จะอธิบายให้ซังหลินจวินฟังยังไง
เฉินเฉียวยังคงกังวล แต่เธอก็ออกไปอยู่ดี เธอไม่กล้าออกไปไกลจึงยืนพิงแผงประตูด้านนอกเพื่อฟังความเคลื่อนไหวภายใน
ซังโย่วอีเปลือยเปล่านั่งในอ่างอาบน้ำยิ้มไปที่ประตูที่ปิดสนิท
พี่เฉียวปฏิบัติกับเขาอย่างดี!
นอกจากยายแล้วไม่มีผู้หญิงคนไหน ทำกับเขาแบบนี้ ถึงแม้จะมีก็เถอะ แต่คนพวกนั้นมาเพื่อเข้าหาพ่อของเขา ไม่ได้ทำด้วยใจจริง
แต่ว่าพี่เฉียวไม่เหมือนกับพวกเขา พี่เฉียวไม่ชอบพ่อผม
ซังโย่วอีรู้สึกว่าเขาควรจะพูดอย่างจริงจังกับยายและพ่อของเขา ถ้าพี่เฉียวไม่ได้เป็นหม่ามี๊ งั้นก็ให้เธอเป็นภรรยาในอนาคต
ซังโย่วอีอาบเสร็จและลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำประตูก็ถูกผลักให้เปิดออก
ดวงตาของเขาเบิกกว้างเขาลงไปในอ่างอาบน้ำอีกครั้งและถามอย่างเขินอาย: “พี่เฉียวเข้ามาทำไม?”
ลมทะเลพัดแรง หน้าต่างห้องน้ำเปิดอยู่ เฉินเฉียวกลัวว่าเขาจะหนาว อดไม่ได้ที่จะอุ้มเขาขึ้นมาและหยิบผ้าขนหนูข้างๆมาห่มไว้ให้
ในตอนแรกซังโย่วอีก็พยายามดิ้นเพราะเขินเธอ ต่อมาเขาก็หยุดดิ้นแลดูมีความสุขเป็นพิเศษเมื่อถูกจับไว้ในอ้อมแขนของเธอ
เฉินเฉียววางเขาลงบนเตียงและใช้ผ้าขนหนูเช็ดตัวให้เขา
หันกลับไปเปิดตู้อีกครั้งแล้วถามเขาว่า “อยากใส่ชุดนอนแบบไหน”
ซังโย่วอีชี้ เฉินเฉียวก็หยิบชุดนั้นมาใส่ให้เขา
เธอไม่มีประสบการณ์ในการดูแลเด็ก ๆ แต่ตอนนี้นับว่าเธอทำได้ดี
หลังจากที่เฉินเฉียวให้เด็กเข้านอน เวลาก็ดึกมากแล้ว
เธอค่อยๆออกมาจากห้องเบา ๆ และไปอาบน้ำในห้องนอนแขก
เมื่อมองไปที่ชุดนอนของชายคนนั้นมันเป็นเรื่องที่น่าอายเล็กน้อย มองผ่านเรื่องนั้นไปไม่ได้จริงๆ แต่ว่าถ้าใส่เสื้อและกระโปรงของตัวเองเข้านอนก็ยิ่งแย่ลงไปอีก
ออกมาจากคลับในตอนกลางคืนเสื้อผ้าเต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่และแอลกอฮอล์
หลังจากคิดอยู่นาน เฉินเฉียวก็ตัดสินใจเอาชุดนอนของชายคนนั้นมาสวม ชุดนอนไม่มีกระดุมมีเพียงเชือกผูกรอบเอว
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอซักทั้งเสื้อตัวนอกตัวใน แล้วตากไว้ในห้อง
เช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้เธอต้องนำเสื้อผ้าเหล่านี้กลับมาใส่ก่อนที่ทุกคนจะมา
เฉินเฉียวกำลังคิดถึงเรื่องนี้และตั้งใจตั้งนาฬิกาปลุกตอนตีสี่
ซังหลินจวินเป็นพวกเสพวัตถุนิยม แม้แต่ที่นอนในห้องนอนแขกก็เป็นที่นอนที่นุ่มสบายมากซึ่งน่าจะแพงไม่ใช่เล่น เฉินเฉียวนอนอยู่ที่นั่นและก็หลับไปอย่างรวดเร็ว
เธอนอนหลับสบายเต็มอิ่ม แต่เมื่อนาฬิกาปลุกดังขึ้นเธอก็ตื่นขึ้นมาทันที
รู้สึกงัวเงีย
คว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูมันก็เป็นเวลาตีสี่แล้ว
ข้างนอกยังคงมืดอยู่
เฉินเฉียวลุกขึ้นและเดินออกไปด้วยความงัวเงีย
มีความเป็นห่วงซังโย่วอีอยู่เล็กๆ เดินไปที่ห้องเขา เข้าไปดู เมื่อได้ยินเสียงหายใจของเขาเธอก็ถอยออกมาด้วยความโล่งใจ
ไม่รู้ว่าที่บ้านหลังนี้เปิดไฟตรงไหน เฉินเฉียวทำได้แค่เอามือถือส่องไฟแล้วเดินตรงไปที่ห้องซักผ้า
มีเรื่องอบผ้าอยู่ ไม่กี่ชั่วโมงเสื้อผ้าก็แห้งแล้ว
เธอเก็บเสื้อผ้าออกมาทั้งหมดและขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง
ทันใดนั้น ’ตึ้ง’ เสียงประตูก็ดังขึ้นมาจากห้องครัว
เฉินเฉียวตกใจ
ขโมยหรอ?!