ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 378 ไม่เคยโดนปฏิเสธ

ตอนที่เซิ่งโหรวมา เธอไม่เคยคิดเลยว่าคำแนะนำของเธอจะโดนปฏิเสธ

แววตาที่สงสัยของเธอมองไปทางเฉินเฉียว แล้วแอบหงุดหงิดในใจ

แต่เธอก็รีบปรับอารมณ์ ในเมื่อเฉินเฉียวไม่หวั่นไหว งั้นก็รอดูว่าใครจะหมดความอดทนก่อน

“ในเมื่อคุณเฉินพูดถึงเรื่องร่วมงาน งั้นเราก็มาคุยกันดีๆเถอะค่ะ” เซิ่งโหรวนั่งอยู่ตรงข้ามเฉินเฉียว เรียวขาที่ยาวก็วางลงด้วยท่าทางสบายๆ

เฉินเฉียวกลับมายิ้มเหมือนเดิม

“คุณหนูเซิ่งมาได้บังเอิญเลยค่ะ ผู้ช่วยอวี้ของหยวนเซิ่งอยู่บริษัทเราพอดี พวกคุณคุยเรื่องงานกันได้เลยค่ะ” เฉินเฉียวโยนประเด็นไปให้เซิ่งโหรว ท่าทางที่เซิ่งโหรวไม่ค่อยใจร้อนกับธุรกิจ เฉินเฉียวมองออกว่า เธออาจจะเอามาเป็นข้ออ้าง ถ้าพวกเธอยังคุยกันอีก อาจจะยื้อยาวไปตามที่เธอหวังก็ได้

แต่เรื่องภายในของC&Jยังเคลียร์ ถ้ายังเสียเวลากับงานที่รู้ผลลัพธ์อีก ก็เหมือนเสียเวลาเปล่าๆ

เซิ่งโหรวไม่คิดเลยว่าเธอจะโดนเฉินเฉียวตีหน้ากลับ เลยลนลาน

ยังดีที่เธอผ่านเหตุการณ์กะทันหันมาเยอะ เลยรีบปรับสีหน้า เดิมทีที่เธอใช้ข้ออ้างนี้ไม่ได้คิดอะไรเยอะ ถ้าซังหลินจวินมายุ่งด้วยจริงๆเธอจะทำยังไง

ตอนนี้เรื่องเกิดแล้ว เธอเลยจำใจต้องรับไว้

เซิ่งโหรวที่หน้าแดงจัดชายกระโปรง ตอนที่เปิดประตูออกไป เธอหันกลับมายิ้มอ่อน ไม่สามารถปิดบังความมั่นใจได้เลย

ริมฝีปากแดงขยับ “คุณเฉิน เรื่องวันนี้คุณต้องคิดดีๆนะคะ ถ้าเสียใจทีหลัง มาหาฉันได้ทุกเมื่อ พี่ชายฉันเป็นเพื่อนบ้านใหม่ที่เพิ่งย้ายไป เชื่อว่าพวกคุณต้องคุยกันถูกคอแน่นอนค่ะ”

เซิ่งโหยวทิ้งคำพูดนี้ไว้แล้วเดินจากไปด้วยท่าทางมั่นใจ

เหลือแค่เฉินเฉียวคนเดียวที่ยิ้มหน้านิ่งเฉย

แต่กับเรื่องที่เซิ่งโหรวบอกว่าทำให้เธอจำได้ เฉินเฉียวคิดไปมาก็ไม่คิดที่จะไปหาเธอ เพราะผู้หญิงอย่างเซิ่งโหรวทำอะไรตามใจเกินไป

นิสัยแบบนี้ ถ้าโดนเธอหลอก เธอคงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

พอจัดการเรื่องนั้นเรียบร้อยแล้ว เฉินเฉียวค่อยเริ่มเคลียร์งานในบริษัท เพราะเสียเซิ่งกรุ๊ป ยังมีอีกหลายบริษัทที่เธอยังต้องรับมือ

จากการดูแลควบคุมของเฉินเฉียว สถานการณ์ของC&Jก็ดีขึ้น เธอเปิดม่านแล้วมองทุกคนที่ทำงานกันเป็นระบบ เฉินเฉียวเลยยิ้มอย่างพอใจ

เธอไม่ได้ทำให้ฉยงฉยงผิดหวัง

พอนึกถึงฉยงฉยง เฉินเฉียวก็นึกได้ว่าฉยงฉยงน่าจะคลอดลูกแล้ว

ถ้าถึงเวลาที่ฉยงฉยงคลอด เธอต้องไปที่อังกฤษให้ได้

ไม่งั้นเธอไม่มีทางวางใจหรอก

เฉินเฉียวที่กำลังคิดมาก โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดัง

เฉินเฉียวรีบเดินไปรับโทรศัพท์ กลับเห็นว่าเป็นอาอวินที่หายหน้าหายตาไปนานโทรมา เลยรีบรับอย่างดีใจ

“อาอวิน นายโทรมาสักที” น้ำเสียงเฉินเฉียวมีความดีใจ

“เฉียวเฉียว ขอโทษนะ ช่วงก่อนฉันกลับอิตาลี โทรศัพท์โดนขโมยตอนที่อยู่อิตาลี แล้วที่บริษัทก็ยุ่งมากด้วย เลยมีเวลามาโทรหาเธอตอนนี้” ถึงแม้ซังอวินที่ได้ยินเสียงเฉินเฉียวก็ดีใจเหมือนกัน แต่เขาก็ปิดบังเรื่องที่เกิดในอิตาลี

เฉินเฉียวได้ยินอาอวินบอกว่าโทรศัพท์โดนขโมยเลยไม่ได้ติดต่อเธอ ในใจเป็นห่วงเขามาก แต่ตอนนี้เขาไม่เป็นอะไรแล้วโทรมาหาเธอ งั้นก็แสดงว่าเรื่องจัดการเรียบร้อยแล้ว เธอเลยไม่ถามอีก

จากนั้นเลยทำได้แค่พูดปลอบใจ

พอวางโทรศัพท์แล้ว เฉินเฉียวรู้สึกว่อาอวินผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้คิดมาก

เธอคงคิดไม่ถึง เหตุผลที่เขาบอกเมื่อกี้เป็นแค่ข้ออ้างที่เขาปิดบังความจริง

ซังอวินมองโทรศัพท์ที่ตัดสายไปแล้ว แววตายังอาลัยอาวรณ์ มือของเขาที่จับโทรศัพท์ไว้แน่นค่อยๆวางลง

เฉินเฉียวรู้ข่าวว่าซังอวินหายตัวไปหลังจากสามวันที่โทรคุยกัน

วันนั้น เฉินเฉียวกำลังจัดของให้กระเป๋าสีชมพูของเหมิงเหมิงอยู่

เหมิงเหมิงนั่งอยู่บนโซฟา สายตาก็มองตามคุณแม่ที่เดินไปเดินมา

เฉินเฉียวเอานมวัว เค้ก ทิชชูเปียกแล้วก็แก้วน้ำใส่เข้ากระเป๋าเหมิงเหมิง แต่สมุดกับดินสอกดยังลังเลไม่ได้ใส่เข้าไป

เหมิงเหมิงใกล้จะสี่ขวบแล้ว ไปเรียนอนุบาลตอนนี้กำลังดีเลย

แล้วยังเป็นโรงเรียนเดียวกับโยว่อีด้วย เฉินเฉียวเลยไม่ต้องเป็นห่วง

โยว่อีที่ยืนมองอยู่หน้าประตูเริ่มหมดความอดทน แล้วก้มมองโทรศัพท์ นี่ใกล้ถึงเวลาเรียนแล้วเลยเอ่ยเร่ง “แม่ครับ แม่ใส่ของเข้าไปให้หมดเลยครับ เดี๋ยวผมถือกระเป๋าเหมิงเหมิงให้ ถ้าถึงเวลามีอะไรที่ไม่ใช้ค่อยให้เหมิงเหมิงทิ้งไว้ที่โต๊ะเรียน”

เฉินเฉียวคิดไปมา รู้สึกว่าแบบนี้ก็ได้

จากนั้นเลยยัดของทุกอย่างใส่กระเป๋า

พอส่งลูกทั้งสองคนถึงหน้าประตูโรงเรียนแล้ว เฉินเฉียวก็เริ่มอาลัยอาวรณ์

ถึงแม้ช่วงก่อนๆเหมิงเหมิงจะอยู่กับโยว่อีไม่ก็อาอวินตลอด แต่เวลาที่เจอกันทุกวันยังมีเยอะ

ไม่เหมือนตอนนี้ ถ้าลูกไปเรียนแล้ว เธอคงไม่ได้เจอเหมิงเหมิงนานเลย

มองเห็นคุณแม่ที่กอดน้องสาวไม่ปล่อย โยว่อีเลยพูดเตือนว่า “แม่ครับ ถึงเวลาเรียนแล้ว ถ้ายังไม่ไปอีก เดี๋ยวน้องจะโดนเช็กสายนะครับ”

เด็กใหม่ทุกห้องต้องเช็กชื่ออยู่แล้ว นี่เป็นกฎของโรงเรียนพวกเขา

ขอบตาเฉินเฉียวแดง จากนั้นก็ปล่อยตัวเหมิงเหมิงให้โยว่อี

เดิมทีเหมิงเหมิงที่ยังดีใจที่มาเรียน แต่พอเห็นน้ำตาคุณแม่ เลยจูงมือคุณแม่ไว้แล้วพูดว่า “แม่คะ คุณแม่ร้องไห้ หนูไม่อยากไปเรียนแล้ว”

เหมิงเหมิงคิดว่าเพราะเธอไปโรงเรียนเลยทำให้คุณแม่ร้องไห้ เรื่องที่เธอรู้สึกดีใจ แต่ตอนนี้ไม่ดีใจแล้ว

เฉินเฉียวค่อยรู้ตัวว่าอารมณ์เธอมีผลกระทบกับเหมิงเหมิง แล้วนั่งลงแล้วลูบศีรษะเหมิงเหมิง แล้วยิ้มกับเธอ “เหมิงเหมิงจะพูดว่าไม่ไปโรงเรียนไม่ได้นะคะ เพราะคุณแม่จะอารมณ์ไม่ดี เมื่อกี้ที่คุณแม่ร้องไห้เพราะฝุ่นเข้าตา เดี๋ยวก็ดีเองค่ะ”

“จริงเหรอคะ?” เหมิงเหมิงเม้มปากไม่เชื่อ

“จริงค่ะ เหมิงเหมิงเด็กดี รอหนูเลิกเรียน เดี๋ยวคุณแม่ทำเค้กที่หนูชอบให้หนูนะคะ” เฉินเฉียวใช้มือแตะจมูกเหมิงเหมิง จงใจใช้ขนมมาเบี่ยงเบนความสนใจ

คำพูดคำนี้น่าดึงดูดมาก พอเหมิงเหมิงได้ยินจึงรีบจูงมือพี่ชายเดินไป พอเดินไปไกลแล้ว เฉินเฉียวยังได้ยินเสียงลอยมาว่า “รีบไปเถอะค่ะพี่ เรารีบไปเรียนกัน เลิกเรียนแล้วจะได้กินเค้ก”

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset