ซังหลินจวินกำลังจัดการเรื่องของบริษัท
ในวันที่เฉียวเฉียวไป บริษัทได้เกิดเรื่องอื้อฉาว
มีคนโพสต์รูปของเขาและผู้หญิงที่ไม่รู้จักในเว่ยป๋อซึ่งกลายเป็นหัวข้อค้นหายอดฮิตอย่างรวดเร็ว
เดิมทีเขาเป็นแค่ผู้จัดการของบริษัท ไม่ได้มีเหตุผลอะไรเลยที่จะทำให้ติดหัวข้อยอดฮิต แต่การขึ้นหัวข้อยอดฮิตครั้งแรกๆทำให้พวกเขาได้รับความนิยมจากคนจำนวนมาก
อาจเป็นเพราะสังคมในปัจจุบัน แต่ละคู่มีความรักที่จริงใจและแท้จริงน้อยเกินไป ทำให้หลังจากรูปเขากับเฉินเฉียวถูกเผยแพร่ออกไปแล้วเป็นที่ยอมรับจากคนจำนวนมาก
แต่สิ่งพวกนี้มันปลอมมาก ถ้าเกิดมีอะไรเกิดขึ้นมาหน่อยทุกอย่างก็จะแตกสลายในไม่กี่นาที
เมื่อดูรูปในโทรศัพท์ ผู้ชายที่จูบผู้หญิงนั้นคือเขาตอนนั้นในใจเขาชัดเจนมาก
แต่ผู้หญิงคนนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นรูปตัดต่อ
ซังหลินจวินจำได้ เมื่อสี่ปีก่อน เขากับเฉียวเฉียวยังไม่ได้คบกันอย่างเป็นทางการ เขาอดไม่ได้ที่จะจะูบเธอ ถึงแม้จะรู้ว่าเป็นรูปที่ปู้อี้เฉินแอบถ่ายในตอนนั้น แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เขาจะเอามาปล่อยตอนนี้
ยิ่งไปกว่านั้นยังแอบแต่งรูปแก้คนข้างบนอีก
ต้องบอกว่าเทคนิคการแต่งรูปนี้เก่งจริงๆ ถ้าเขาจำไม่ได้เขาคงสงสัยในตัวเองว่าไปจูบกับคนอื่นตอนไหน
ให้เฉียวเฉียวไปตอนนี้ ซังหลินจวินไม่อยากให้เธอมาปวดหัวกับเรื่องพวกนี้
คาดไม่ถึงแม้กระทั่งตอนที่เขาไปส่งเฉียวเฉียว ก็โดนถ่ายรูปและขึ้นปกใหญ่ๆไว้
ประธานผู้เอาแต่ใจก็มีกิ๊กตอนภรรยาเดินทางไปต่างประเทศ
เขียนหัวข้อน้ำเน่าแบบนี้ ถ้าไม่ได้เกิดขึ้นกับเขา เขาอยากจะหัวเราะดังๆสามครั้งจริงๆ
แน่นอนว่าเขาโดนกับตัว ซังหลินจวินทำได้เพียงยิ้มอย่างเย็นชา
เมื่อเอนกายไปบนเก้าอี้ในห้องทำงาน ก็รู้สึกเบื่อสุดๆ
สายตาของเขาไม่ได้โฟกัสอะไรและเหม่อลอยไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเฉียวเฉียวจากเขาไปซังหลินจวินคิดถึงเธอและอยากเจอเธอ
นายครับเสียงของอวี้เฟยดังอยู่นอกประตู
มีอะไรซังหลินจวินได้สติและโยนบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ใสๆ
อวี้เฟยเหลือบมองไปที่ก้นบุหรี่ที่เจ้านายเขาทิ้งแล้วพูดเพียงว่า: “สืบหาตัวคนที่อยู่เบื้องหลังได้แล้วครับเป็นผู้หญิงคนนั้นของตระกูลปู้ นายครับ พวกเราแจ้งตำรวจให้ไปจับเธอเลยดีไหมครับ ”
ดวงตาของซังหลินหรี่ลงแม้ว่าเขาจะได้ยินว่าคนที่ทำร้ายเขาคือใคร แต่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เพราะเขารู้ตั้งนานแล้ว เรื่องทั้งหมดใครทำ
เจ้าของที่แท้จริงของภาพนี้คือปู้อี้เฉิน บางทีคนที่ปู้อี้เฉินต้องการจัดการอาจจะเป็นเฉียวเฉียว เพียงแต่เธอถูกตัดออก
ซังหลินจวินรู้สึกขอบคุณรูปภาพต้นฉบับของเฉียวเฉียวที่ถูกตัดออก
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยคนที่ต้องการทำร้ายเขาไปง่ายๆ
“รวบรวมหลักฐานและส่งจดหมายทนายให้พวกมันความผิดฐานหมิ่นประมาท รับโทษนานเท่าไหร่นะ”
หยูเฟยก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้มากนักเขารีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดค้นหาและพบว่าเป็นเวลาสั้นๆสามปี เขาขมวดคิ้วบอกเจ้านายเขาอย่างตรงๆ
“ไม่ถึงสามปีครับ”น้ำเสียงของซังหลินจวินโกรธ
เห็นได้ชัดว่าคนที่ทำความผิดในการใส่ร้ายผู้อื่นไม่เพียงแต่ทำร้ายจิตใจ แต่ยังทำให้คนฆ่าตัวตาย เป็นบ้า หนีออกจากบ้าน
คนที่ทำร้ายคนอื่นพวกนั้นติดคุกไม่ถึงสามปี ซังหลินจวินอยากจะหัวเราะ
เสียงหัวเราะแห้งๆดังก้องในห้องทำงานที่ว่างเปล่าดูน่ากลัวแต่อวี้เฟยที่ยืนอยู่ข้างๆกลับไม่รู้สึกแม้แต่น้อย
หลังจากนั้นไม่นานอวี้เฟยก็ได้ยินเจ้านายเขาพูด: “งั้นทั้งหมดก็ฝากนายจัดการด้วยนะ”
“ครับ”อวี้เฟยตอบ เขาเข้าใจว่าคำพูดของเจ้านายหมายถึงอะไร
หลังจากที่อวี้เฟยออกไปซังหลินจวินก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อซื้อตั๋วเครื่องบิน
เมื่อเขากำลังจะกดซื้อตั๋วเครื่องบินไปอังกฤษเขาก็กดยกเลิกและเลือกไปอิตาลี
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ที่อังกฤษมีเจียงอี้ฝานอยู่ เขาไว้ใจให้ดูแลฉยงฉยง
เฉียวเฉียวยังกังวลกับซังอวิ๋น งั้นเขาจะไปหาด้วยตัวเอง
ที่อิตาลีมีมาเฟียเยอะมาก เขาก็ไม่อยากปล่อยให้เฉียวเฉียวไปเกี่ยวข้องด้วย แต่ถ้าเขาไปคนเดียวคงจะไม่มีใครคิดว่าที่เขาไปก็เพราะว่าซังอวิ๋น
สามวันต่อมา
ซังหลินจวินนั่งเงียบ ๆ บนเรือหรูในเมืองเวนิสเขามองดูเรือไม้ลำเล็กและเรือลำใหญ่แล่นไปมา ได้ยินเสียงพูดภาษาอิตาลีจากคนที่เดินเข้ามาจากด้านนอก
“ คุณซัง คุณรออยู่ที่นี้มาสองวันแล้ว คนที่คุณอยากเจอยังไม่มาเหรอ”ชาวอิตาลีรูปร่างเตี้ยผมสีน้ำตาลเข้มตาสีน้ำเงินเข้มนั่งตรงข้ามกับซังหลินจวิน
เขาเป็นพ่อค้าขายปืนและปกติจะไม่มีใครหาเขาเจอ ยังไงซะช่วงนี้พวกกลุ่มคนขายอาวุธโดนพวกมาเฟียเข้ามาควบคุมแล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อวานผู้ชายตรงหน้าหอบเงินไปซื้อข่าวจากเขา เขาคงไม่มานั่งคุยด้วย
เขารู้ดีว่าพวกนี้ไม่ค่อยต้อนรับคนต่างบ้านต่างเมืองมากนัก
ซังหลินจวินวางกาแฟลงในมือและพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย:“ คุณลอเออร์คุณบอกว่าคนพวกนั้นจะผ่านแม่น้ำเวนิสทุกๆบ่าย แต่ในความเป็นจริงผมยังไม่เห็นคนคนนั้นที่คุณพูดถึงเลย”
ลอเออร์คนขายข่าวได้มองไปรอบ ๆ และเห็นว่าไม่มีใครมองพวกเขาจึงพูดเบาๆว่า: “คุณซัง วันนี้ผมเพิ่งได้ยินว่าช่วงนี้พวกเขาได้ของไปล๊อตหนึ่ง ช่วงนี้พวกเขาอาจจะไม่โผล่มา”
“ของเหรอ?”ซังหลินจวินทำมือเป็นรูปปืนแล้วถาม “อันนี้เหรอ”
ลอเออร์ส่ายหัวขยับมาใกล้เขาแล้วพูดว่า “เป็นผู้ชายผมทอง”
ซังหลินจวินอยากจะถามอีกครั้ง หูของเขาได้ยินคนบางคนกำลังเคลื่อนไหวหลังจากคิดอะไรบางอย่างออกเขาก็อดกลั้นคำถามไว้ในใจ
เมื่อเขากลับไปที่โรงแรมที่พักชั่วคราวในตอนกลางคืนเขาเอนตัวบนเตียงนุ่มๆ ซังหลินจวินรับรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดี
เดิมทีคิดว่าหลังจากหาข่าวไม่เจอ เขาควรจะเปลี่ยนที่ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะสืบหาข่าวเจอจริงๆ
แม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าคนผมทองคือซังอวิ๋น แต่สัญชาตญาณของเขาก็บอกเขาว่าใช่
ถึงแม้ว่าเขาจะได้ข่าวคราวได้ แต่เขาจะทำให้ไก่ตื่นไม่ได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าที่นี้เขาไม่มีผู้ช่วยตัวเขาเองทักษะการต่อสู้ก็ไม่ได้ดีมากนัก เป็นไปไม่ได้ที่จะชิงตัวคนมาจากกลุ่มมาเฟีย ถ้าเกิดพลาดขึ้นมาอาจจะโดนปืนยิงได้
ทุกอย่างต้องคิดให้รอบด้าน
หลังจากคิดได้เขาก็โทรหาอี้ฝานที่อยู่อังกฤษ
เจียงอี้ฝานผู้ซึ่งมีความสุขกับลูกชายและลูกสาวของเขา เขาเพิ่งพาลูกที่เพิ่งคลอดทั้งสองเข้านอนเมื่อเขาเห็นชื่อที่คุ้นเคยบนหน้าจอโทรศัพท์ก็วางขวดนมในมือลงแล้วเขาก็ปิดประตูอย่างเงียบๆเดินออกไป