ซังหลินจวินจับมือเธอแยกออก จับมือทั้งสองข้างของเธอไว้ ฝ่ามือใหญ่ๆร้อนผ่าวของเขากุมมือเล็ก ๆ ที่อ่อนนุ่มของเธอและมันก็หนักมากจนเธอไม่สามารถดึงมันออกไปได้
ปล่อยฉันนะ
เฉินเฉียวพยายามดิ้นรน
เมื่อหันไปหาเขาก็เห็นว่านิ้วมือขวาของเขากดเข้ากับชุดชั้นในของเธอ เธออายจนหน้าแดงก่ำ
“ ซังหลินจวินปล่อยนะ”
เธอรู้สึกอายและรำคาญ
เรียกชื่อชายคนนั้นตรงๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เรียกชื่อเขาตรงๆ
ซังหลินจวินเคยชินกับคำเรียกว่า “คุณ” กับ “ประธานซัง” ชื่อตัวเองออกมาจากปากเธอก็รู้สึกแปลกๆ
แม้แต่คำปฏิเสธในตอนกลางดึงก็ฟังดูมีเสน่ห์
เขาจ้องมองที่ริมฝีปากสีแดงของเธอพึมพำ: “คุณยั่วผม ผมจะตอบสนองให้เพื่อเป็นการเคารพคุณ”
ใครยั่วเขา
เฉินเฉียวอยากจะต่อต้าน แต่เมื่อริมฝีปากของเธอก็ถูกจูบอย่างกะทันหันโดยชายคนนั้น
เขากลืนกินทุกสิ่งที่เธออยากจะพูด
จูบของเขาเร่าร้อนดุเดือด
“อื้อ ~~” เสียงต่อต้านของเฉินเฉียว
เขาไม่ยอมปล่อย ใช้ปลายลิ้นของเขาสอดแทรกอยู่ระหว่างริมฝีปากและฟันของเธอดูดความหวานจากริมฝีปากของเธอ
เฉินเฉียวรู้สึกร้อนและรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วร่าง
ผู้ชายคนนี้ไม่เหมือนกับพวกผู้ชายที่ไม่แตะต้องผู้หญิงเลยจริงๆ ลีลาการจูบของเขาไร้ที่ติ
เธอกำลังจะละลายด้วยจูบของเขา
เรื่องที่แย่กว่านั้นก็คือ นิ้วยาวๆของชายคนนี้ปลดสายรัดชุดนอนของเธอเบาๆ
เสื้อคลุมกลางออกทันที
ร่างกายที่ขาวราวกับหิมะขาเรียวและสันทัดของเธอและฉากอันเย้ายวนระหว่างขาของเธอก็เผยให้เห็นต่อหน้าเขา
ผู้หญิงคนนี้ทุกๆส่วนล้วนมีความบอบบางและสวยงามมากจนไม่อยากกระพริบตา
การหายใจของซังหลินจวินหนักขึ้น
ในดวงตาของเขามันเหมือนกับสิงโตที่กำลังจะเขมือบเหยื่อ
เฉินเฉียวไม่เคยรู้สึกอายขนาดนี้
นึกถึงว่าตัวเองกำลังเปลือยกายภายใต้แสงไฟที่วาบหวิว ไม่ว่าจะชายแปลกหน้าหรือไม่ก็ตายแต่ระหว่างเธอกับซังหลินจวินยังไม่ได้สนิทกัน เขามองเธอหัวจรดเท้าเธออายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
ครั้งแรกที่เธอกับซังหลินจวินไปถึงจุดนั้น เธอดื่มจนเมาแล้วเข้าใจผิด ต่อมาพอได้สติไม่รู้ว่าเสียใจไปรอบที่เท่าไหร่แล้ว
เธอใช้มือข้างหนึ่งยันเขาไว้ และรีบคว้าชุดนอนทันที หน้าแดงด้วยความโกรธพลางด่าเขา “ซังหลินจวินไอหื่น”
ไอหื่น?ซังหลินจวินพึมพำสองคำนั้นพลางเฉยคางของเธอและดึงใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอเข้ามาใกล้ จากนั้นพูดอย่างกวนๆว่า: “ตอนเจอกันครั้งแรก เธอถอดเสื้อผ้าให้ฉันดู ใครกันแน่ที่หื่น”
เฉินเฉียวไม่สามารถพูดถึงเรื่องคืนนั้นได้
ก้นบึ้งของหัวใจเธอรู้สึกอับอายและขายหน้า ได้แต่ปากแข็งพูดว่า: “อย่าเอาเรื่องคืนนั้นมาแขวะฉันได้ไหม คืนนั้นฉันเมาไม่ได้สติเพราะฉะนั้นเรื่องที่เกิดคืนนั้นประธานซังจะพูดอะไรก็ได้ ฉันไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว ”
“ ลืมไปแล้วเหรอ?”น้ำเสียงของชายคนนั้นแฝงด้วยความอันตรายเล็กน้อย
เฉินเฉียวตกใจกับสายตาที่เขามองพลางตอบว่า “ฉันลืมไปแล้วจริงๆ”
“ งั้นฉันจะทำให้เธอนึกออกอีกครั้ง”
“ แต่ฉันไม่อยาก …อื้อ ~~ “คำพูดที่เหลือของเธอถูกกลืนไปด้วยจูบของชายคนนั้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่แค่จูบ
มือของชายคนนั้นแหย่เข้าไปในเสื้อคลุม มือของเธอกั้นที่หน้าอก แต่ไม่เป็นประโยชน์เลย ไม่สามารถป้องกันการรุกล้ำของเขาได้
ฝ่ามือใหญ่ๆของเขาจับข้างหนึ่งเบา ๆ และกำไว้ในมือ
ไม่มีอะไรมากีดขวางฝ่ามือที่หน้าอกอันอวบอิ่มได้ ไอร้อนนั้นส่งตรงไปผ่านไปที่ผิวของเฉินเฉียว แผดเผาทุกเซลล์ในร่างกายของเธอ …
ไฟในดวงตาของเขาแผดเผาเธอในเวลาเดียวกัน
เฉินเฉียวหายใจหอบและจับมืออีกข้างหนึ่งของเขา “ซังหลินจวินหยุดนะ… ”
ขอบตาเธอเต็มไปด้วยน้ำปริ่มๆ เห็นได้ชัดว่าเธอปฏิเสธ แต่เมื่อพูดออกไปเธอก็ไม่มีเรี่ยวแรงเลย ฟังดูคล้ายกับเสียงครางมากกว่า
ซังหลินจวินยิ้มและมองไปที่เธอริมฝีปากของเขายังคงกดทับเธอ “แน่ใจหรอว่าอยากให้หยุด”
เสียงของเขาแหบแห้งเต็มไปด้วยความเย้ายวนในค่ำคืนอันมืดมิดอันเงียบสงบ
เฉินเฉียวรู้สึกอับอายมาก
ประสานมือเขาและสั่นเล็กน้อย
ลูกชายคุณ….ถ้าโย่วอีตื่นขึ้นมาแล้วล่ะก็….คุณคงไม่อยากให้เขาเห็นภาพนี้ ”
เวลาแบบนี้ย้ายลูกชายออกไปดีที่สุด
ฉากแบบนี้ไม่เหมาะสำหรับเด็ก เขาไม่นึกถึงคนอื่นเขาต้องคำนึงถึงร่างกายจิตใจของลูกชายเสมอ
“ เขาไม่ตื่นหรอก อย่ากังวัลไปเลย ผ่อนคลายหน่อย “เขาจับติ่งหูของเธอและเล้าโลมเธอเบา ๆ
เสียงพึมพำเบา ๆ ที่ทำให้ผู้คนหลงใหล
นิ้วยาวเลื่อนผ่านด้านบนอย่างยั่วยวนทำให้เธอสั่นสะท้าน
มือของเฉินเฉียววางลงอย่างไร้เรี่ยวแรง ขาของเธออ่อนแรงไม่สามารถยืนได้และล้มลงในอ้อมแขนของเขา
เธอทำอะไรไม่ถูกนิดหน่อยและไม่อยากปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับที่แบบนี้ นัยน์ตาสีหมอกมองเขาอย่างดื้อดึง“ คุณ …ไอตรงนั้นใช้การไม่ได้ไม่ใช่หรอ ทำไมถึงหื่นกับฉันตลอด”
ซังหลินจวินหรี่ตาและมองเธอ “ตรงไหนใช้ไม่ได้?”
ห้าคำถูกถามอย่างนุ่มนวล แต่มีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ของคำพูด เช่นเดียวกันกับคนๆนี้ที่มอบความรู้สึกให้เธอ เห็นได้ชัดว่าเป็นท่าทางที่อ่อนโยนแต่กลับทำให้ไม่กล้ายั่วยุเขาอีก
เธอกัดริมฝีปากและมองดูท่าทีที่อันตรายของชายคนนั้นเธอไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก
โอ้ ฉันคิดออกแล้วซังหลินจวินพูดกับตัวเองและดูเหมือนจะไม่โกรธกับคำพูดของเธอ “ครั้งก่อนที่คลับ คุณเคยบอกว่าความสามารถในวิชาชีพของผมแย่เกินไป ทำให้คุณไม่พอใจ … ”
เฉินเฉียวยิ่งเสียใจ“ หยุดพูดได้แล้ว…ฉันจำไม่ได้
ซังหลินจวินมองเธอจากหัวจรดเท้าและล้อเธอว่า“ คุณเฉิน ครั้งนี้ให้ผมชดเชยคุณเถอะ ให้สมกับเงินที่คุณจ่ายคืนนั้นสองพันหยวน”
ไม่ต้องเฉินเฉียวกลัวและส่ายหัว “สองพันหยวนนั้นฉันให้คุณ”
“ถ้าไม่มีผลงานก็ไม่ควรรับเงิน ผมจะตั้งใจในคืนนี้ ”
ตั้งใจทำอะไร?
ใครอยากให้เขาตั้งใจ?
เฉินเฉียวโกรธมาก ทันใดนั้นเธอก็ถูกยกสะโพกและอุ้มขึ้น
เมื่อเธอกลับมามีสติก็ถูกอุ้มขึ้นบนโซฟา
ยังไม่ทันเข้าใจว่าเขาต้องการทำอะไรขาของเธอถูกเข่าของชายคนนั้นดันให้แยกออก ร่างสูงของเขาแทรกไปที่หว่างขาของเธอและในเวลาต่อมาชายคนนั้นก็ดึงเสื้อคลุมออกจากไหล่เธอ
หน้าอกสีชมพูราวกับกลีบดอกไม้อยู่ตรงหน้าเขา
เฉินเฉียวสั่นสะท้านไปทั่ว
เธอไม่ได้สวมอะไรเลยภายใต้เสื้อคลุมของเธอ
หน้าอกของเธอถูกเผยออกมาซึ่งทำให้เธอรู้สึกอาย ที่เลวร้ายกว่านั้นตรงระหว่างขาของเธอถูกชุดนอนของชายคนนั้นถูจุดที่อ่อนไหวและอ่อนนุ่มที่สุดของเธอ