ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 393 ข้อพิพาทสุดท้าย

เฉินเฉียวส่ายหัวและปฏิเสธ เฉินเฉียวรู้ดีว่าตอนนี้พวกเขายังไม่พ้นอันตราย ถ้าเป็นเพราะเธอคนเดียวที่ทำให้ทุกคนโดนจับได้ เธอคงจะเสียใจไปตลอด

เมื่อเห็นเฉียวเฉียวพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสนับสนุน ซังหลินจวินก็วางมือข้างหนึ่งโอบเอวของเธอและแบกรับน้ำหนักมากกว่าครึ่งของเธอมาไว้ที่ตัวเขาเอง

ซังอวิ๋นที่เดินอยู่ข้างหน้าก็ต้องการที่จะช่วยเช่นกัน แต่เขาไม่อยากเป็นก้างขวางคอสุดท้ายจึงล้มเลิกไป

ทั้งสี่คนเดินลงบันไดที่มืดและเงียบกว่ายี่สิบนาทีและในที่สุดก็เห็นแสงริบหรี่ในขณะเดียวกันเสียงปืนที่ดังอยู่ด้านนอกก็ใกล้เข้ามามากขึ้น

เซินหยูยืนอยู่ที่ระเบียงของโรงแรมในชุดนอน สายตาของเขามองไกลออกไป ที่ที่เขามองเป็นอาคารที่พวกซังหลินจวินอยู่

มองดูที่นั่นสองสามนาทีได้ยินเสียงปิดประตูจากด้านนอกเลยหันไปมอง

ร่างเพรียวเดินตรงมาหาเขา

“ช่างเป็นแขกที่เจอตัวได้ยากจริงๆ ซู้เหยี้ยน ผมไม่คิดว่าคุณจะมาเวลานี้”

ซู้เหยี้ยนเพิ่งแยกกับเฉินเฉียวมาพอดี

เขาสวมหมวกกีฬาสีขาวและถ้าไม่ใช่คนรู้จัก มองดีๆแล้วดูไม่ออกเลยว่าเป็นคนที่เคร่งขรึมคนนั้น

“ ผมไม่ได้อยากมา”น้ำเสียงของซู้เหยี้ยนยังคงเย็นชา ไม่ได้แตกต่างจากเขาในตอนปกติมากนัก

เซินหยูหัวเราะและพูดว่า “ไม่รู้ว่าชิงเอ๋อร์รู้เรื่องที่คุณมาอิตาลีหรือไม่”

ซู้เหยี้ยนขมวดคิ้วเมื่อเธอได้ยินชื่อของชิงเอ๋อร์

“เซินหยู คุณคงไม่อยากให้ชิงชิงกังวลใช่ไหม ไม่ว่าจะเป็นผมหรือคุณก็ตาม”

พวกเขารู้จักกันมานานและรู้จุดอ่อนของกันและกันอย่างดี

ทั้งสองเผชิญหน้ากัน

เซินหยูเป็นคนแรกที่ยอมแพ้ เขาส่ายหัวและหัวเราะ

“ซู้เหยี้ยน ถ้าตอนที่พวกเรารู้จักกัน เป็นแบบเมื่อตอนนี้ บางทีผมคงต้านพวกคุณไม่ไหว”

อาจเป็นความรู้สึกแรกที่ตรึงติดในใจของซู้เหยี้ยน ทำให้หลังจากรู้ว่าเขากับน้องสาวที่เขาชอบที่สุด คบกัน ทำอย่างไรเขาก็รับไม่ได้

“โลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้”ซู้เหยี้ยนไม่เคยคิดเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ในอดีต

ถ้าโลกนี้มีความเป็นไปได้ งั้นเขาก็คงจะไม่เกิดบนโลกใบนี้ เขาและชิงชิงก็คงไม่รู้จักกัน

หรือถ้าชิงชิงไม่ได้พบกับเขาที่ตกต่ำในตอนแรกบางทีเขาอาจจะไม่หลงรัก ชิงชิงอย่างง่ายดายสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงความเป็นไปได้ ทั้งหมดเป็นแค่จินตนาการที่เหลืออยู่

เขาไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้เหล่านี้เช่นเดียวกับที่เขาไม่เคยเสียใจที่ได้พบเจอเชินชิง

“คุณส่งคนที่หาซังหลินจวินเหรอ”เซินหยูเปลี่ยนคำถามและถามเกี่ยวกับซังหลินจวินเมื่อเขาพูดถึงเรื่องนี้แววตาและน้ำเสียงของเขาหนักแน่นมากเห็นได้ชัดว่ามีหลักฐาน

ซู้เหยี้ยนไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรต้องปิดบัง เขาพยักหน้าพลางพูด”ฉันต้องพาเขากลับมาอย่างปลอดภัย”

“ทำเพื่อเด็กตระกูลเหยียนคนนั้นเหรอ?”เซินหยูรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างซังหลินจวินกับเด็กตระกูลเหยียนคนนั้น และกำลังคิดถึงเรื่องนี้

ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อของเหยียนกับซู้เหยี้ยน ไม่ต้องคิดมากมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว

“ เพื่อพ่อของเหยียน”ซู้เหยี้ยนที่ปกติไม่ชอบอธิบาย

บอกเหตุผลที่แท้จริงของเขาดีกว่าอธิบายแบบนี้

เซินหยูรู้สึกว่าความแตกต่างระหว่างทั้งสองไม่มากนัก

“คุณว่าพวกเขาจะออกมาได้อย่างปลอดภัยไหม?”เซินหยูหันไปยังทิศทางของอาคารนั้นอีกครั้งและไม่ลืมที่จะถามซู้เหยี้ยนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาด้วย

ได้สิซู้เหยี้ยนตอบโดยไม่ลังเล

เขาให้ลูกน้องคนโปรดไปช่วยซังหลินจวินเขาเชื่อว่าความสามารถของเขานั้นจะไม่มีวันทำให้เขาผิดหวัง

เรื่องพวกนี้ เซินหยูไม่รู้

“ในฐานะตำรวจ ไม่มีคำตอบที่แน่นอนสำหรับทุกๆเรื่อง หรือว่าคุณไม่รู้”ทันใดนั้นเซินหยูก็หันศีรษะและมองเขาด้วยรอยยิ้ม

เหตุผลที่เซินหยูเกลียดซู้เหยี้ยนมากเป็นเพราะโดนรู้ทันตลอด

ดังนั้นเขาจึงรับไม่ได้ที่ผู้ชายคนนี้จะกลายเป็นสามีของน้องสาวเขา

ใครก็ได้ แต่ไม่ใช่เขา

นี่คือสิ่งที่เขาเชื่อมาตลอด แต่น่าเสียดายที่น้องสาวเขาเพื่อผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า ผิดใจกับเขาครั้งแรก

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้เซินหยูก็รู้สึกเกลียด

ซู้เหยี้ยนไม่ได้โต้เถียงกับเขา คนอื่นไม่รู้จักนิสัยของคนตรงหน้า แต่เขารู้ดีที่สุด

เซินหยูเป็นคนที่แพ้ไม่เป็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรักหรือเรื่องการพนัน

ถ้าไม่ใช่เพราะเขาเคยขาดความรัก เขาคงไม่ช่วยปู้อี้เฉินจัดการซังหลินจวิน

ในโลกนี้ทุกสิ่งไม่ได้เป็นไปตามใจหวังตลอด

เช่นเดียวกับที่เขารู้ว่าเซินหยูชื่นชมซํงหลินจวินมากแค่ไหน

พวกเขาไม่อยากเห็นเขาตาย

นั่นเป็นเหตุผลที่ไม่ได้ห้ามเขา

ทั้งสองอาศัยอยู่ในห้องเดียวกันและรอคอยเป็นเวลานานตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก ตอนที่พวกเขายืนนิ่งมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทั่วห้อง

ซู้เหยี้ยนรับโทรศัพท์

“ฮัลโหล ไปที่โรงแรมที่ฉันอยู่ตอนเช้านั่น หมายเลขห้อง0510 ถึงแล้วเคาะประตูด้วย

หลังพูดสองสามคำ ซู้เหยี้ยนก็วางสาย

ทั้งสองที่ยืนนิ่งในที่สุดก็เริ่มขยับ

เซินหยูหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “เจ้าหน้าที่ซูยังไงก็เป็นเจ้าหน้าที่ซูสินะ คุณชนะอีกแล้ว นี่เป็นครั้งที่สองแล้วนะ”

ซู้เหยี้ยนไม่ได้ซ้ำเติม

เขารู้ดีกว่าใคร ๆ ว่านอกจากคู่ต่อสู้แล้วตัวคนที่สำคัญกว่าก็คือพี่เขยของเขา

ถ้าเขาทำอย่างเด็ดขาดเกินไปความสัมพันธ์ของเขากับเชินชิงจะสิ้นสุดลง

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากสำหรับคนที่ไม่เคยพูดอะไรดีๆ จะพูดสักประโยคหนึ่ง

“ขอบคุณที่ไม่ทำให้ฉันลำบาก”

เมื่อทั้งสองคนกำลังหันหน้าคุยกัน ก็มีเสียงเคาะประตู

“ คุณซู พวกเรามาถึงแล้ว”เสียงของเก๋อหลุนดังขึ้นด้านนอกประตู

หลังจากที่ซู้เหยี้ยนได้ยินเขาก็เดินตรงไปเปิดประตูและเห็นเฉินเฉียวที่ตอนแรกเดินออกจากร้านอาหารอย่างกระฉับกระเฉงแต่ในเวลานี้เธอหลับตาพิงอยู่ในอ้อมแขนของซังหลินจวิน

ซังหลินจวินที่เห็นเขาก็ไม่ได้มองอะไรมากเพียงพูดเพียงว่า: “คุณช่วยโทรหาหมอได้ไหม”

ซู้เหยี้ยนขมวดคิ้วและช่วยโทร

เกิดอะไรขึ้นเซินหยูไม่คาดคิดว่า เซินหยูจะมาเจอที่นี่ แต่ดูท่าทางหมดสติแล้วเหมือนกับว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น

แม้ว่าเก๋อหลุนจะไม่รู้จักคนตรงหน้า แต่เขาก็รู้ว่าทั้งสองคนที่อยู่ข้างๆเขาไม่มีกระจิตกระใจที่จะอธิบายให้พวกเขาฟัง เขาเลยอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง

“ตอนที่พวกเราออกมาจากห้องงานเลี้ยงของกลุ่มมาเฟีย ได้เจอกับคุณจอร์จ ตอนคุณเฉินตามมาหลบกับพวกเรา ไม่ทันระวังไปโดนศรีษะเธอ เธอเลยสลบ ”

“สลบเลยเหรอ….”เซินหยูรู้สึกเพียงว่าสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าผู้หญิงนี้บอบบางจริงๆ

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset