ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 415 อยากให้ความทรงจำของเธอกลับมาไหม

คุณผู้หญิงซังได้ยินลูกชายพูด ก็รู้สึกสับสนในใจ

เธออยากจะถาม แล้วลูกล่ะ

ต้องการให้เฉินเฉียวความทรงจำกลับมาหรือไม่?

คุณผู้หญิงซังจะไม่มีวันลืมว่าเมื่อเฉินเฉียวหายตัวไปความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหลินจวินก็ฝืดเคืองมาก

ตอนนี้การที่พวกเขาเดินไปด้วยกันอีกครั้งมันเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย

ถ้าเธอความจำกลับมา แล้วทิ้งลูกชายเธอไป งั้นจะทำยังไงดี

เธอคิดจนหัวหมุนไปหมดแล้ว

ซังหลินจวินฟังออกถึงความกังวลของแม่เขาและพูดอย่างใจเย็น: “แม่ บนโลกนี้สิ่งที่ควบคุมไม่ได้ก็คือความรู้สึกและความทรงจำ ผมเชื่อในตัวเฉียวเฉียว เพราะงั้นปล่อยตามธรรมชาติเถอะ”

คุณผู้หญิงซังถอนหายใจและพูดว่า “ตอนนี้ลูกเชื่อว่าจะปล่อยมัน ทำไมตอนแรกต้องไปตามหาเธอด้วยล่ะ เฮ้อ ช่างเถอะนี่เป็นเรื่องของพวกหนุ่มสาว แม่ไม่อยากเข้าไปยุ่ง แค่นี้นะ”

คุณผู้หญิงซังวางสายและเธอก็ทำตัวปกติไม่ให้ผิดสังเกต

ซังหลินจวินถือโทรศัพท์ที่วางสายแล้วพร้อมกับรอยยิ้มที่ขมขื่น

ปล่อยไปตามธรรมชาติ

นี่เป็นเพียงการพูดเพื่อปลอบใจแม่เขาเท่านั้น ความจริงเขากังวลจนไม่รู้จะกังวลยังไงแล้ว

เมื่อวางเก็บโทรศัพท์ไปความรู้สึกที่ซับซ้อนในใจของเขาดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปหมดเมื่อเขาเดินกลับไปที่ห้องทำงานเขาก็ยังคงเป็นคนที่เข้มแข็งคนนั้น

เมื่อตอนเย็นซังหลินจวินกลับมา เขายังคงแสร้งทำเป็นว่าเขาไม่รู้อะไรเลย

เฉินเฉียวอยากถามเขาเหมือนตอนที่เขาถามแม่ของเขาในตอนบ่าย แต่หลังจากมองไปที่ดวงตาที่อ่อนโยนของหลินจวิน เธอก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก

จนกระทั่งไฟถูกปิดเฉินเฉียวที่นอนคลุมโปงอยู่ก็กำลังคิด ช่างเถอะ พรุ่งนี้ค่อยถาม

หลังจากตื่นนอนในเช้าวันรุ่งขึ้นรู้สึกถึงความอบอุ่นข้างๆและเธอก็เอื้อมมือไปสัมผัสมันโดยไม่รู้ตัว แต่ก็ถูกจับไว้

เมื่อเธอลืมตาขึ้นด้วยความตกใจเธอก็เห็นว่าใบหน้าที่เกือบจะไร้ที่ติของหลินจวินไม่ได้อยู่ใกล้กับเธอ

จู่ๆใบหน้าก็ค่อยๆเข้ามาใกล้แม้ว่าจะดูดีมาก แต่ก็ยังไม่สามารถระงับความกลัวในใจไว้ได้

เฉินเฉียวต้องการหลบ แต่ซังหลินจวินรั้งร่างของเธอไว้และพูดว่า “เฉียวเฉียว นอนต่ออีกแปปเถอะ วันนี้ผมไม่ไปบริษัท ”

เฉินเฉียวที่ต้องการจะเอามือของเขาออกได้ยินหลินจวินพูดว่าไม่ไปบริษัท เธอจึงขมวดคิ้วและถามว่า “ทำไมคุณไม่ไปบริษัทล่ะหรือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับบริษัท?”

ผมยุ่งๆของซังหลินจวินถูคอของเฉินเฉียวเหมือนสิงโตและเสียงอันมีเสน่ห์ดังข้างๆหูเธอ

“เปล่า ผมอยากจะพักร้อนเอง”

เฉินเฉียวมองไปที่ใต้ตาของเขาและรู้สึกได้ทันทีว่า เขาพักผ่อนเพียงพอแล้ว เธอไม่ได้ถามอะไรเพียงแต่พยักหน้า

เนื่องจากเขาไปทำงานต่อเนื่องมาหลายวัน ก็เลยหยุดยาวอีกทั้งยังนัดเหยียนเฟิงมาอีก เฉินเฉียวก็ไม่ได้พูดอะไร เหยียนเฟิงที่รออยู่ข้างล่างหลายชั่วโมงอยากจะแหย่ให้เขาโกรธ

เมื่อคืนหลินจวินบอกว่าจะออกไปเที่ยว เหยียนเฟิงที่ได้รับข้อความนี้ เลยตื่นเต้นมารอที่จิ้งหย่วนตั้งนานแล้ว

ปรากฎพอมาถึงจิ้งหย่วน ก็พบว่ายังไม่มีใครตื่น

เขานั่งที่โซฟา ดื่มชาสองสามถ้วย นั่งจนโซฟาอุ่นแล้วคนที่เขาอยากมาหาก็ยังไม่ลงมา ตอนที่เขากำลังคิดว่าหรือว่าจะกลับไปก่อนดี รอให้ซังหลินจวินโทรหาแล้วค่อยมาอีกรอบ

ในที่สุดก็มีการเคลื่อนไหวที่ชั้นบน

เหยียนเฟิงเงยหน้าขึ้นไปมองโดยไม่รู้ตัว ปรากฎว่าเห็นซังหลินจวินกำลังโอบเฉินเฉียวใบหน้ามีรอยยิ้มหวานชื้น

เหยียนเฟิงนิ่งเฉย รู้สึกว่าเขาเซ่อจริงๆที่มาแต่เช้าแบบนี้

แต่ถึงจะเซ่อยังไงก็ต้องถาม

“ ไอ้ซัง แกเรียกฉันมาจะออกไปเที่ยวกันไม่ใช่เหรอ? ฉันรอแกมาสามชั่วโมงแล้ว ถ้าแกขืนแกยังไม่ตื่นคงได้กินข้าวกลางวันแน่ ”

หลินจวินได้ยินเสียงเหยียนเฟิงจากชั้นล่างเลยมองลงไป เห็นเหยียนเฟิงใส่ชุดกีฬาแขนกุด สายตามองเขาหัวจรดเท้าแล้วถาม“ทำไมแกใส่ชุดอะไรแบบนี้”

เหยียนเฟินมองชุดที่เขาใส่มาในวันนี้อย่างไม่รู้ตัว พอเห็นก็รู้สึกได้ทันทีว่าเขาหล่อมาก ไม่มีที่ติอะไรเลยจริงๆ

เขาสะบัดผมและพูดด้วยน้ำเสียงที่หลงตัวเองมาก: “แกไม่ได้ชวนฉันออกไปเที่ยวเหรอไง?” ไหนๆก็ไปเที่ยวแล้ว ก็ต้องใส่ให้สบายๆหน่อย แกไม่คิดว่าฉันใส่ชุดนี้แล้วฮอร์โมนมันพุ่งพล่านเหรอ ”

ซางหลินจวินยิ้มเยาะเขารู้สึกเพียงว่าเดี๋ยวนี้เหยียนเฟิงเริ่มเลี่ยนขึ้นเรื่อยๆ เขาขี้เกียจห้ามแล้ว

มือโอบเอวเฉียวเฉียวค่อยๆประคองเดินลงมา และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า: “เฉียวเฉียวตอนเช้าคุณอยากกินอะไรไหม?”

เฉินเฉียวส่ายหัวและพูดว่า “ฉันไม่อยากกิน”

ซิงหลินจวินรู้สึกว่าเป็นแบบนี้ไม่ได้ มื้อเช้าจะไม่กินได้อย่างไร หลังจากลงมาชั้นล่าง เขาก็เดินไปทางป้ามั่วและพูดสองสามประโยค

เมื่อเขาเดินมาเฉินเฉียวก็พบว่าเขาถือนมและขนมปังสองชิ้นอยู่ในมือแล้ว

“กินรองท้องไปก่อนเถอะ นั่งรถต้องใช้เวลาประมาณหนึ่ง รอถึงที่หมายแล้วพวกเราค่อยไปหาอะไรกินกันอีกที”ซางหลินจวินยัดสิ่งของใส่มือของเฉินเฉียว ทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธได้

เฉินเฉียวยิ้ม รู้สึกว่านมยังอุ่นอยู่ และไม่ได้พูดปฏิเสธอะไร

เหยียนเฟิงเมื่อเห็นฉากนั้น เขาก็หันหลังเดินไป

เขาลูบท้องและพูดว่า”ไอ้ซัง ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยเช้านี้ เอามาเผื่อฉันบ้างซักที่หนึ่งสิ”

ซังหลินจวินหันกลับมามองเขา โดยไม่มีรอยยิ้ม”เดินไปข้างหน้าโน่น มีอยู่ในครัว ไปเอาเองดิ”

เหยียนเฟิงถอนหายใจ ทำได้แค่เดินไปหยิบเอง

รอจนกินอาหารเช้าเสร็จ

เหยียนเฟิงขับรถตามหลังและซังหลินจวินขับรถนำหน้า

หลังจากไม่กี่ชั่วโมงทั้งสามก็ลงจากรถ มองไปยังร้านที่มีแสงสีละลานตา เหยียนเฟิงตบไหล่ซังหลินจวินแล้วพูด: “คิดไม่ถึงจริงๆ ไอ้ซัง แกมาที่แบบนี้ด้วยเหรอ แถมยังถาเฉินเฉียวมาอีก แกไม่กลัวเหรอไง เธอเข้าไปแล้วจะว่าแกไหม? ”

ซางหลินจวินพูดไม่ออก เขาเดาไม่ออกจริงๆว่าในหัวของเหยียนเฟิงคิดอะไรอยู่

เห็นได้ชัดว่านี่มันก็เป็นสถานที่ที่ปกติ เฉียวเฉียวจะเข้าใจเขาผิดได้ยังไง

แอบมองเฉินเฉียวข้างๆแวบหนึ่ง พบว่านอกจากสายตาเฉินเฉียวจะเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นแล้วก็ไม่มีสิ่งอื่นใดอีก เห็นได้ชัดเลยว่าไม่ได้เป็นแบบที่เหยียนเฟิงคิดแบบนั้น

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset