เขาขมวดคิ้วเข้มมองไปทางเยี่ยนเฟิง “สมองแกมีแต่อะไรวะ นี่ก็สนุกเกอร์คลับธรรมดา แกคิดว่าที่นี่เป็นที่อะไร”
ซังหลินจวินพูดไปด้วย เดินนำไปด้วย
เฉินเฉียวตามอยู่หลังเขา คำพูดที่หลินจวินพูดกับเยี่ยนเฟิงยังวนเวียนอยู่ข้างหูเธอ ในใจเลยแอบคิกคัก
เพราะคนที่ชอบพูดให้พวกเขาเข้าใจผิดอย่างเยี่ยนเฟิงมีน้อย แล้วอีกอย่าง เขาเหมือนแมลงสาบที่ตีไม่ตาย ยังดิ้นรนได้
เยี่ยนเฟิงที่ยังยืนงงเพราะคำพูดของซังหลินจวิน เขาเดินไปไกลแล้วค่อยได้สติ
มองเห็นแสงสีม่วงที่เอาแต่กะพริบ ถ้าไอ้ซังไม่บอก เขาจินตนาการไม่ได้เลยว่านี่เป็นสนุกเกอร์คลับ
พอไม่เห็นพวกเขาแล้ว เยี่ยนเฟิงค่อยหยิบโทรศัพท์ออกมากด พอแน่ใจแล้วว่าส่งออกแล้ว ค่อยโล่งอกแล้วเดินตามไป
ซังหลินจวินเป็นลูกค้าประจำของคลับนี้อยู่แล้ว พอผู้ชายที่ใส่ชุดวอร์มหน้าโต๊ะสามได้ยินเสียง พอหันไปเห็นว่าเป็นคนรู้จัก เลยรีบปล่อยมือที่คลุมเครือกับผู้หญิงอีกคนอย่างไม่ลังเล
เฉินเฉียวที่ยืนอยู่ข้างๆเห็นตอนที่ผู้ชายสะบัดมือผู้หญิงออกพอดี ในสายตาเธอดูโกรธเคืองด้วย
และบังเอิญ ความโกรธเคืองนี้มองมาที่เธอ
เฉินเฉียวงง อยู่ๆก็เป็นศัตรูคนอื่น แต่ไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องดีอะไรเลย
“คุณหนูเฉินสวัสดีครับ ผมอาเคนนะครับ”
เฉินเฉียวดึงสติกลับมา เลยเห็นว่ามีมือยื่นมาหา
เฉินเฉียวถอยหลังเล็กน้อย เมื่อกี้กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย เลยไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันถึงได้ยื่นมือมาจับแบบนี้
เห็นเฉินเฉียวไม่มีทีท่าจะจับมือเขา อาเคนเลยยิ้มอย่างขมขื่น “ดูเหมือนว่าผมไม่น่าต้อนรับเลย”
แต่เยี่ยนเฟิงที่เข้ามาช้ากว่าซังหลินจวิน พอได้ยินเสียงที่คุ้นเคย แล้วเจอคนที่เขาอยากเจอจริงๆด้วย เลยรีบเดินมาหาแล้วกอดเขาไว้ “อาเคน ไม่คิดเลยว่าจะเจอคุณที่นี่ ผมดีใจมาก”
อาเคนที่โดนผู้ชายคนอื่นกอดรู้สึกอึดอัด เลยยกมือขึ้นสร้างระยะห่างระหว่างเยี่ยนเฟิง
เฉินเฉียวรู้สึกงง ไม่เข้าใจว่าทำไมเยี่ยนเฟิงต้องกระตือรือร้นขนาดนี้ด้วย
รอเยี่ยนเฟิงสงบสติแล้ว ก็เริ่มแนะนำอาเคนเหมือนแนะนำไอดอล เฉินเฉียวค่อยรู้ว่าทำไมเขาถึงเป็นแบบนั้น
อาเคนเป็นคนชอบสนุกเกอร์มาก แต่ตอนที่เขาอายุแค่ยี่สิบ กลับได้รับรางวัลชนะเลิศจากอังกฤษ แล้วหลังจากนั้น เขาก็เริ่มกวาดรางวัลประเทศต่างๆ
เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงในวงการสนุกเกอร์
แต่เมื่อสามปีก่อน เขาลาออกจากวงการ แล้วหายหน้าหายตาไป ไม่มีใครเห็นเขาอีก
เยี่ยนเฟิงไม่คิดเลยว่าจะเจอไอดอลที่นี่
เยี่ยนเฟิงเล่นกากมาก ไม่ว่าตำแหน่งจะดีแค่ไหนก็ไม่มีทางลงหลุม
เพราะฉะนั้นกับคนที่เล่นเก่งๆ เขาเลยชื่นชมมาก ถ้าเป็นคนที่หลงตัวเอง ตอนนี้คงลอยขึ้นฟ้าไปแล้ว
แต่อาเคนกลับตบไหล่เยี่ยนเฟิงแล้วเอ่ยอย่างนิ่งเฉย “คุณชายเยี่ยน ผมลาออกจากวงการตั้งหลายปีแล้ว ถ้าคุณยังตื่นเต้นขนาดนี้ เดี๋ยวจะเล่นยังไงครับ”
ตาเยี่ยนเฟิงเป็นประกายแล้วเอ่ยอย่างดีใจ “ไม่เป็นไรครับ ผมเล่นไม่เป็นอยู่แล้ว ผมยืนดูข้างๆก็พอ”
อาเคนไม่คิดเลยว่าจะได้คำตอบนี้ เลยเหลือบมองซังหลินจวิน แต่เขากลับพยักหน้า อาเคนค่อยแน่ใจว่าเยี่ยนเฟิงไม่ได้พูดเล่น
แต่สำหรับอาเคน เขาไม่สนใจเรื่องที่เยี่ยนเฟิงเล่นเป็นหรือไม่เป็น เพราะเขาเคยสอนคนมานับครั้งไม่ถ้วน
ถึงจะกากมากแค่ไหนเขาก็สอนให้เล่นเป็นได้
ไม่นาน เขากับเยี่ยนเฟิงก็กอดไหล่กันไปที่ห้องสนุกเกอร์มือใหม่
ในห้องต่างคนต่างเล่นของตัวเอง เหลือแค่เฉินเฉียวกับซังหลินจวินสอบคน
เฉินเฉียวถูมือแล้วหาเรื่องคุย “หลินจวิน ทำไมนายไม่ไปเล่นกับพวกเขาล่ะ”
ซังหลินจวินเดินมาจับมือเธอไว้แล้วเอ่ย “ฉันจะสอนเธอไง”
“หา” สายตาเฉินเฉียวอึ้ง รู้สึกตกใจมาก
เธอคิดไม่ถึงจริงๆ มาที่นี่ เธอยังต้องเรียนเล่นสนุกเกอร์ เธอเลยโบกมือปฏิเสธ
“ไม่ต้อง ไม่ต้อง หลินจวินนายเล่นเองเถอะ ฉันยืนอยู่ข้างๆก็พอแล้ว”
ซังหลินจวินไม่ใช่คนที่พูดแล้วไม่ทำ เขาเดินไปหยิบไม้คิวมา แล้วเอนตัวลงที่โต๊ะ
ท่าทางมองแล้วดูชิลล์ดูสบายมาก
เขาโบกมือหาเฉินเฉียว “มานี่ เดี๋ยวฉันสอนเธอ”
เฉินเฉียวยังลังเลอยู่ แต่เหลือบเห็นสายตาของโต๊ะอื่นเอาแต่มองมา เธอเลยเดินไปอย่างเขินอาย
เฉินเฉียวเดินไปข้างโต๊ะ ซังหลินจวินจับมือเธอไว้ ยื่นไม้คิวมาที่มือเธอ ลำคอของเขาก็เอนลงมาที่คอของเธอ ลมหายใจอ่อนๆกำลังวนเวียนอยู่ข้างหูเฉินเฉียว
“อย่ากังวลเฉียวเฉียว นี้เล่นง่ายมาก เธอต้องฝึกจับไม้ก่อน” ซังหลินจวินพูดไปด้วย แล้วจัดท่าให้เฉินเฉียวไปด้วย
อาจจะเพราะเกร็งเกินไป ตัวเฉินเฉียวเลยแข็งทื่อ
ไหล่ของเธอเลยยกขึ้นเล็กน้อย
ซังหลินจวินจึงกดไหล่เธอลงไป
ทั้งสองคนแนบชิดกันมาก ไม่รอให้เขาจัดท่าเสร็จ ก็ได้ยินเสียงเร่ง
“หลินจวิน ได้หรือยัง?” เสียงเธอเบามาก เหมือนพยายามเอ่ยออกมา
ซังหลินจวินก้มมองเธอ จึงเห็นว่าเธอเกร็งจนเหงื่อออก เลยพูดแซวเธอ
“ได้แล้ว ฉันจะเริ่มสอนเธอละนะ”
ซังหลินจวินเอนตัวลงไปแนบกับเธอ
“อันดับแรก สายตาต้องจ้องลูกไว้ จากนั้นก็วางไม้ให้ห่างพอดีกับทั้งสองลูก บนโต๊ะไม่ได้มีแค่ลูกเดียว เธอจะเลือกทิศทางไหนก็ได้”
ซังหลินจวินอธิบายการเล่นง่ายๆกับเฉินเฉียว ไม้แรก เขาต้องเป็นคนสอนอยู่แล้ว
ตอนที่เผชิญกับลูกสนุกเกอร์ สายตาซังหลินจวินแหลมคมมาก เหมือนเสือที่กำลังจ้องเหยื่อ ต้องล่าให้ได้ในครั้งเดียว
ถึงเขาจะพาเฉินเฉียวเล่น แต่ในใจเธอก็ยังเกร็งอยู่ดี
ในใจเธอเอาแต่บอกตัวเองว่าสู้ๆ
เธอหลับตาตั้งสติ แต่พอมองไปอีกครั้ง