คืนนี้เธอฝัน เป็นฝันเกี่ยวกับเซ็ก
ในความฝันเธอจูบและนัวเนียกับผู้ชายคนหนึ่ง เธอเห็นได้อย่างชัดเจนว่าชายคนนั้นไม่ใช่ปู้อี้เฉินแต่เป็นซังหลินจวิน
เมื่อเห็นใบหน้าที่อบอุ่นและหล่อเหลาที่เต็มไปด้วยตัณหาเฉินเฉียวก็ตื่นขึ้นในทันที
ร้อนเหงื่อท่วมตัว
หว่างขาของเธอมีอาการสั่นเล็กน้อย
เธอรู้สึกเสียใจอย่างมาก
ทั้งหมดเกิดจากซังหลินจวิน ถ้าเมื่อคืนเขาไม่ยั่วเธอขนาดนั้น เธอคงไม่ต้องเป็นแบบนี้
เฉินเฉียวสะบัดหัว สลัดภาพในฝันออกไป ถอนหายใจแล้วลุกขึ้น
“ พี่เฉียวด้านนอกประตูมีเสียงของเด็กดังขึ้น จากนั้นมีเสียงเคาะประตู
เฉินเฉียวรู้สึกอายและละอายใจเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
“พี่เฉียวตื่นหรือยัง”ซังโย่วอีถามอีกครั้ง
เธอบังคับตัวเองให้ตั้งสติและตอบว่า:“ ตื่นแล้ว กำลังเก็บที่นอนจ้า แปปนึงนะ”
เฉินเฉียวเปิดประตูหลังจากเก็บที่นอน
ซังโย่วอีแต่งตัวเรียบร้อยแล้วยืนอยู่หน้าประตู ถือผ้าขนหนูและแปรงสีฟันอันใหม่ในมือ “นี่ของพี่เฉียว!”
ขอบใจนะเฉินเฉียวยิ้มและรับมัน
เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยไม่ได้แสดงท่าทีแปลกไป เธอก็รู้สึกโล่งใจ
“พี่รีบไปล้างหน้าเถอะ ป้ามั่วทำพุดดิ้งไว้รอให้เราแล้ว! ผมบอกป้ามั่วแล้วว่าเดี๋ยวพี่จะอบเค้กให้กิน “เด็กน้อยยังคิดถึงเรื่องอบเค้ก
ที่จริงเฉินเฉียวคิดว่าพอล้างหน้าเสร็จแล้วจะรีบไปเอาเสื้อผ้าจากซังหลินจวินแล้วก็ไปทันที
“ เป็นอะไรหรอพี่เฉียว?”เมื่อซังโย่วอีเห็นเธอนิ่งอีกครั้งเขาก็เงยหน้าขึ้นถามเธอ
เฉินเฉียวทนไม่ได้ที่จะปฏิเสธเด็กเพียงแต่ส่ายหัว “เปล่า หนูลงไปทานก่อนเถอะนะ เดี๋ยวฉันขอล้างหน้าก่อน”
“งั้นผมให้ป้ามั่วเตรียมของทำเค้กก่อนนะ”ซังหลินจวินมีความสุขเป็นพิเศษ
เฉินเฉียวนึกขึ้นได้ “พ่อหนูตื่นหรือยัง”
ซังโย่วอีพยักหน้าอีกครั้ง“ ตื่นแล้ว พ่อไปวิ่งออกกำลังกายทุกเช้าเขาเพิ่งกลับมา ”
อ๋อเฉินเฉียวพยักหน้า ก่อนจะลงไปชั้นล่าง เธอต้องไปเอาชุดชั้นในคืนจากซังหลินจวิน
คิดอะไรบางอย่างออกเธอบี้จมูกของเด็กน้อย“ ไหนบอกว่าพ่อไปธุระต่างจังหวัดแล้วจะไม่กลับไง ทำไมเมื่อคืนเขาอยู่บ้าน”
เด็กน้อยลูบจมูกเล็ก ๆ “ จริงด้วย ทำไมเมื่อคืนถึงกลับบ้าน ก็พูดบอกเองว่าจะไม่กลับ ”
ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะไม่รู้อะไรเลย
เฉินเฉียวไม่พูดอะไรโบกมือ“ หนูไปกินพุดดิ้งเถอะ”
ซังโย่วอีออกจากห้องไปเฉินเฉียวล้างหน้าเสร็จตรงไปที่ห้องนอนใหญ่
เธอทำใจอยู่นานก่อนที่จะเคาะประตูห้องซังหลินจวิน ก่อนหน้านั้นเธอไม่ลืมที่จะผูกสายรัดที่ชุดคลุมให้แน่นหนาแบบที่ว่าแกะยังไงก็ไม่ออก
หลังจากเคาะสามครั้ง ข้างในก็มีเสียงเคลื่อนไหว
เฉินเฉียวรอที่ประตูอย่างใจจดใจจ่อและหลังจากนั้นไม่นานประตูก็เปิดออก
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังอาบน้ำ ไม่ได้สวมอะไรนอกจากพันผ้าขนหนูไว้
ผู้ชายคนนี้หุ่นดี!
ขายาวๆกล้ามอกที่แข็งแรงเส้นกล้ามเนื้อชัดเจนล้วนปล่อยฮอร์โมนเพศชายที่แข็งแกร่งออกมา
แม้ว่าเฉินเฉียวจะรู้สึกรำคาญเขา แต่ก็ต้องยอมรับว่าภาพดังกล่าวดีพอที่จะทำให้เธอลืมหายใจ
ไม่แปลกใจเลยที่ผู้ชายคนนี้มีผู้หญิงมากมายวิ่งเข้าหาเขา
นอกจากจะมีฐานะทางสังคม ความฉลาด ความรวยก็ยังมีหน้าตาผิวพรรณที่ดีไร้ที่ติอีก
อรุณสวัสดิ์ซังหลินจวินเปิดประตูและไม่แปลกใจที่เห็นว่าเป็นเธอ เขาทักทายเธอก่อน และหันกลับไปหยิบนาฬิกาข้อมือข้างๆเตียงมาใส่
เฉินเฉียวไม่ได้เข้าไป แต่ยื่นมือออกไปทางเขา “ประธานซัง รบกวนคืนของของฉันด้วย”
อะไรซังหลินจวินถามอย่างเรียบๆ ขณะที่เขาถามเขาก็เดินไปที่ห้องเสื้อผ้า ราวกับว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเขาพูดกับเธอว่า: “เข้ามาคุยสิ”
เฉินเฉียวคิดในใจ เธอไม่เข้าไปหรอก
แต่ซังหลินจวินเดินเข้าไปที่ห้องเสื้อผ้า
เฉินเฉียวรออยู่ข้างนอกสักพักก็ไม่เห็นเขา เธอเลยต้องตามเข้าไป
ซังหลินจวินใส่กางเกงของเขาและกำลังดึงซิป
เธอหน้าแดงหันหน้าหนีและพูดอีกครั้ง: ”
ฉันมาเอาของ ”
ซังหลินจวินมองผ่านกระจกและมองไปที่ร่างจากด้านหลังโดยที่มุมริมฝีปากของเขายิ้มเล็กน้อย
“ให้ก็ได้ แต่ต้องบอกให้ชัดเจนว่าผมเอาอะไรไป”เขาใส่เสื้อช้าๆและติดกระดุมเสื้อ
“ คุณก็รู้อยู่แล้วจะถามทำไม”เฉินเฉียวหันกลับมาด้วยความโกรธเล็กน้อย“ ประธานซัง คุณไม่ได้มีงานอดิเรกเป็นการสะสมชุดชั้นในผู้หญิงใช่ไหม ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก่อน คราวหน้าจะซื้อให้โหลนึงเลย”
ซังหลินจวิตไม่โกรธกับคำพูดไม่เกรงใจของเธอ เพียงแค่มองเธอจากหัวจรดเท้าพร้อมกับรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ “ถ้าผมจะมีก็สนใจแต่ของคุณ” หรือว่าอยากจะยกของคุณให้ผม”
เฉินเฉียวรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ว่าจะพูดเรื่องร้ายแรงหรือเรื่องลามกก็พูดได้สีหน้าเรียบเฉยตลอด
ราวกับไม่รู้ว่ายางอายคืออะไร และก็ไม่รู้ว่าเขินจนหน้าแดงคืออะไร
“คุณมัน….ไอหื่น”เธอโกรธจนนอกจากสองคำนี้แล้วไม่รู้ว่าจะด่าเขาว่าอะไร
เขาใจเย็นและติดกระดุมเสื้อเชิ้ตทุกเม็ดก่อนที่เขาจะเหลือบมองเธอแล้วพูดว่า “มันอยู่บนเตียงของผม”
เฉินเฉียวรู้แล้วก็รีบออกจากห้องเสื้อทันที ตรงไปที่ห้องนอน
แน่นอนว่าเธอเห็นชุดชั้นในของเธอบนผ้านวมสีเทา นึกถึงของที่ตัวเองใส่อยู่ที่เขาทั้งคืนเฉินเฉียวก็รู้สึกอึดอัด
ทั้งเขินทั้งอาย
คว้าสิ่งของของตัวเองไม่แม้แต่จะทักทายเขาอีกแล้วเดินก้มหน้าออกไป
หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงของเขาดังมาจากห้องเสื้อ“ ครั้งหน้าระวังด้วย อย่าทำตกอีก”
“……”เฉินเฉียวพูดไม่ออก จะมีครั้งหน้าที่ไหนกันล่ะ ครั้งนี้ก็เพียงพอแล้ว
………………
เฉินเฉียวรู้สึกอายมากเดินกลับไปที่ห้องนอนแขกและสวมเสื้อผ้า
เธอไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ทำไมต่อหน้าผู้ชายที่ชื่อซังหลินจวิน ความสงบ ความสุขุม ความนิ่งเฉยสูญหายไปหมด
เธอตั้งสติและลงไปชั้นล่าง
“ อรุณสวัสดิ์ คุณเฉิน”ป้ามั่วทักทายเธอ
เธอยิ้ม “อรุณสวัสดิ์ค่ะ”
“อาหารเช้าพร้อมแล้วค่ะ”
ขอบใจนะเฉินเฉียวพยักหน้าและเดินไปที่ห้องทานอาหาร
“ พี่เฉียว มาเร็ว”ซังโย่วอีนั่งกวักมือเรียกเธออีกครั้งแล้วตบเก้าอี้ข้างๆเขา
บนที่นั่งหลักซังหลินจวินนั่งอยู่ที่นั่นแล้ว
เขาเงยหน้าขึ้นและยิ้มให้เธอ
เฉินเฉียวนั่งลงข้างซังโย่วอีอย่างไม่สบายใจ
ซังโย่วอีไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติของผู้ใหญ่ทั้งสอง หยิบพุดดิ้งส่งให้เฉินเฉียวทันที“ พี่เฉียว ลองชิมเร็ว” ป้ามั่วเพิ่งทำเสร็จ หวานมาก! ”
“โอเค ไหนลองชิมหน่อย”เฉินเฉียวปั้นหน้า: “อืมอร่อยจริงๆ!”
พอเข้าปากก็ละลายเลย
มันดีกว่าอันที่ซื้อข้างนอกมากๆ เธอชิมอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว
“ พ่อครับ ดูสิผมบอกแล้วว่าอร่อย! พี่เฉียวก็ชอบ “ซังโย่วอีหันหน้าไปและพูดกับคนข้างๆ
ซังหลินจุนมองเด็กน้อย แล้วก็มองไปทางเฉินเฉียวสายตาจ้องไปไกล พลางพูดเสียงเรียบๆ“ เด็กๆชอบขนมหวานพวกนี้จริงๆด้วย”