อวี้เฟยตกใจกับรอยยิ้มของนายจนพูดไม่ออก
ถ้าดูไม่ผิดนายเขากำลังจีบกับคุณเฉินอยู่มั้ง?
ตอนแรกคิดว่าแค่เล่นๆคืนเดียวพอ ที่ไหนได้เขาก็เป็นผู้ชายปกติทั่วไป ไม่มีความต้องการทางด้านนี้สิแปลก อย่างไรก็ตามตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเป็นจังหวะของความรักคืนเดียวที่จะพัฒนาไปสู่ความรักหลายๆคืน
ยิ่งไปกว่านั้นเห็นได้ชัดว่าบอสเขาเป็นคนเริ่ม
ที่แท้เขาชอบแบบคุณเฉินนิเอง
ซังหลินจวินเดินออกไปตั้งนานแล้ว แต่หัวใจของเฉินเฉียวยังเต้นรัวเหมือนกลอง ไม่ยอมสงบ
ชายคนนั้นเป็นปีศาจ
เธอคิดว่าเธอควบคุมตัวเองได้แต่เมื่อคืนเกือบตนอยู่ในเงื้อมือเขาแล้ว
หลังจากนั้นอารมณ์ของเฉินเฉียวก็สงบลงในห้องครัวเธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะอบเค้กให้กับนายน้อยซังโย่วอี
เด็กน้อยมีความสุขมากๆราวกับว่ามันเป็นสิ่งแปลกใหม่ บางครั้งเขาก็โผล่หัวเข้ามา
ห้องครัวอันตรายเกินไปสำหรับเด็กน้อย เฉินเฉียวกลัวว่าเขาจะโดนไฟลวกแล้วยังกังวลว่าเขาจะโดนมีดบาดเพราะฉะนั้นพอเขาเข้ามาเธอจึงให้เขารีบออกไปทันที
หลังจากเดินกลับไปกลับมาหลายครั้งในที่สุดเด็กน้อยก็หมอบอยู่ในห้องโถงทำการบ้านระหว่างรอเธอ
เฉินเฉียวกำลังตีไข่ โดยมีป้ามั่วช่วยอยู่ เฉินเฉียวพูด:“ให้ฉันทำเถอะค่ะ ฉันสัญญากับเขาแล้วว่าจะทำเค้กให้เขา ฉันทำทุกเองจะดูจริงใจมากกว่านะคะ ”
ป้ามั่วถอนหายใจ: “คุณเฉินช่างดีกับนายน้อยจริงๆ นายน้อยชอบคุณขนาดนั้นก็ถูกแล้ว
เฉินเฉียวยิ้ม“ คนที่ทำดีกับเขามีตั้งเยอะแยะ นับประสาอะไรกับฉัน ”
มีผู้หญิงตั้งมากมายตามจีบซังหลินจวินทุกๆคนล้วนทำดีกับซังโย่วอี
แต่ทำไมฉันถึงคิดถึงคน ๆ นั้นโดยไม่มีเหตุผล?
เฉินเฉียวสะบัดหัวและโยนชายคนนั้นออกจากความคิดของเขา
ป้ามั่วยิ้มและกล่าวว่า“ คนที่ดีกับคุณหนูมีเยอะจริงๆค่ะ ได้ยินคุณหนูพูดว่าทุกๆวันที่โรงเรียนมีป้าๆน้าๆที่สวยๆให้ลูกอมให้ของเล่นเขา บางคนลงทุนทำอาหารไปให้ถึงโรงเรียนทุกวัน ”
เฉินเฉียวถึงกับพูดไม่ออก ซังหลินจวินไม่ได้โม้จริงๆ
ป้ามั่วกล่าวต่อว่า: “แต่ว่าผู้หญิงพวกนั้นทำไปเพื่อตามจับนายท่าน คุณหนูถึงแม้อายุจะน้อยแต่ก็ดูออก มีแต่คุณเฉินที่ดีกับคุณหนูจริงๆ ไม่ใช่หวังจับนายท่าน ”
เฉินเฉียวกล่าวว่า “ดูออกด้วยหรอคะ”
“ ใช่ค่ะ ผู้หญิงที่คิดกับนายท่านในเรื่องนั้น ฉันเห็นมาเยอะค่ะ พวกเธอไม่เหมือนคุณ “ป้ามั่วหัวเราะ“ ผู้หญิงที่ฉันเจอครั้งที่แล้ว ต่อหน้านายท่านเธอก็พูดจาอ่อนโยนนุ่มนวลดั่งสายน้ำ”
“ แล้วเขาไม่ชอยแบบนั้นหรอคะ”ผู้หญิงแบบนั้นไม่ใช่ว่าผู้ชายทั้งหมดชอบหรอกหรอ คนอย่างปู้อี้เฉินก็ชอบ
ป้ามั่วคิดอยู่พักหนึ่งว่า “พูดตามตรงถึงแม้ฉันจะดูแลนายท่านมานานแต่ยังไม่รู้ว่านายท่านเขาชอบผู้หญิงแบบไหน”
เมื่อป้ามั่วพูดเช่นนี้เธอก็มองไปที่เฉินเฉียวอีกครั้ง “แต่ที่ฉันรู้คือ คุณเฉินคือผู้หญิงคนแรกที่นายท่านพากลับมา”
เฉินเฉียวรู้ว่าป้ามั่วกำลังคิดอะไรอยู่เธอก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “อย่าเข้าใจผิดเลยค่ะ ฉันกับนายท่านของคุณไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้น”
ตอนท้ายเพิ่มอีกประโยค: “มันไม่สามารถเป็นความสัมพันธ์แบบนั้นได้ค่ะ ฉันแต่งงานแล้ว
ประโยคสุดท้ายยังคงสร้างความตะลึงให้ป้ามั่วอยู่ชั่วขณะ
ที่แท้คุณเฉินแต่งงานแล้ว น่าเสียดาย!
ป้ามั่วไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้นอีก ยังไงซะก็มีสามีแล้ว ทั้งสองฝ่ายควรห่างกัน ยิ่งกว่านั้นนายท่านไม่น่าจะคบกับผู้หญิงที่มีสามีแล้ว
เฉินเฉียวสัมผัสได้ถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของป้ามั่ว เธอคงจะคาดไม่ถึง
เธอไม่พูดอะไร แต่ทำเค้กชิฟฟ่อนให้เด็กน้อยอย่างเงียบ ๆ
หลังจากทำเสร็จ เธอก็นำไปอบในเตาอบ สุดท้ายก็ว่างแล้วเธอจึงออกมาจากห้องครัวไปหาซังโย่วอีที่เขียนการบ้านอยู่
ซังโย่วอีทำการบ้านแบบไม่สบอารมณ์ เขียนได้แปปๆก็แอบไปดูที่ห้องครัว แต่ตอนนี้เฉินเฉียวมานั่งอยู่ด้วยเขาก็รู้สึกสบายใจขึ้น เขาเลยตั้งใจทำการบ้านได้ดี
“ พี่เฉียวคืนนี้นอนที่นี้เถอะ”เด็กน้อยเขียนไปพูดไป”บ้านผมมีห้องเยอะมาก พี่จะนอนสิบห้องก็ได้ ”
เฉินเฉียวขำ “ตอนเช้าที่โต๊ะอาหารลืมที่คุณพ่อพูดแล้วหรอ? ถ้าเขารู้ว่าหนูชวนผู้หญิงสุ่มสี่สุ่มห้ามาบ้าน เขาต้องดุหนูแน่ๆ ”
“ ผมไม่กลัว”ซังโย่วอีเบะปากเล็กน้อยและมองไปที่เธออย่างทุกข์ใจ“ พี่ไม่มีบ้านไม่ใช่หรอ มาบ้านผมเถอะ ผมให้ยืมบ้านครึ่งนึง มาช่วยผมทำการบ้าน ทำเค้กให้ผมกิน ผมจะไปคุยกับพ่อให้ว่าไม่ต้องจ่ายค่าเช่า”
เฉินเฉียวมองเด็กตรงหน้าเธอคิดว่าเขาน่ารักมากขึ้นเรื่อย ๆ
เด็กน้อยน่ารักขนาดนี้ ไม่มีแม่ได้ยังไงกัน
ถ้าชีวิตแต่งงานเธอกับปู้อี้เฉินเหมือนกับชีวิตคู่ของสามีภรรยาทั่วไป ตอนนี้ลูกคงจะโตประมาณนี้แล้ว
แต่ชีวิตไม่มีคำว่าถ้า
เธอกับปู้อี้เฉินไม่มีวันมีลูก
“พี่เฉียวคุณเหม่ออะไร”เห็นเธอไม่พูด ซังโย่วอีโบกมือตรงหน้าเธอ
ไม่ได้เป็นอะไรเฉินเฉียวสติกลับมา จับมือของเด็กน้อยไว้ “รีบทำการบ้านเถอะ”
“แล้วพี่จะมาบ้านผมอีกไหม”เด็กถามเสียงแข็ง
ถึงแม้เฉินเฉียวจะไม่อยากจากเด็กน้อยไป แต่เธอก็ส่ายหัว”ฉันจะไม่กลับมาอีกแล้ว”
เมื่อคืนก็ไม่สามารถอธิบายให้ซังหลินจวินฟังได้ เธอหาเหตุผลไม่ได้เลย
เมื่อเห็นใบหน้าของเด็กที่เต็มไปด้วยความผิดหวังเธอก็รีบปลอบใจ: “ถ้าวันไหนคิดถึงพี่ ก็โทรหาได้เลยนะ รอฉันหาบ้านได้แล้วถ้าพ่อหนูไปธุระก็ไปหาฉันได้ ห๊ะ
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวังของซังโย่วอี ตอนนี้กลับมาสดใส“จริงหรอครับ”
จริงสิ
“ถ้าอย่างนั้นเราเกี่ยวก้อยสัญญากัน”คนตัวเล็กยื่นนิ้วก้อยออก
เฉินเฉียวยิ้มและชูนิ้วก้อยออกไป
ในขณะนี้ที่ประตูด้านนอกเสียงคนรับใช้ดังขึ้นพร้อมกัน “นายท่าน”
ทุกคนมองไปที่ประตู
เฉินเฉียวกับซังโย่วอีเงยหน้าขึ้นมอง
คนที่เข้ามาจากด้านนอกคือชายชราท่าทางแข็งแรงร่าเริง น่าจะอายุประมาณห้าสิบกว่าๆ แต่ดูแลตัวเองดี แต่ดูๆแล้วไม่ใช่คนที่อัธยาศัยดีเท่าไหร่
ซังโย่วอีลุกขึ้นและพูดเบาๆ “ปู่ผมเอง”
อย่างนี้นิเอง
ซังหลินจวินหน้าตาดีเพราะยีนครึ่งหนึ่งของเขามาจากชายชราที่อยู่ตรงหน้าเธอ เมื่อเทียบกันแล้วชายชราผู้นี้เหมือนจะเข้ากับคนได้ยากกว่า
แน่นอนว่าซังหลินจวินชายคนนั้นก็ไม่ได้เข้ากับคนง่าย ความอ่อนโยนบนใบหน้าเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา!
ชายชราเดินตรงเข้ามา เฉินเฉียวลุกขึ้น โค้งเล็กน้อยและกล่าวทักทายอีกฝ่าย