ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 447 ไม่ได้หลอกง่ายขนาดนั้น

ปู้อี้เฉินเกือบจะแสยะยิ้มสถานการณ์ตรงหน้าเขามันชัดเจนมาก เป็นเธอคนเดียวที่จุดไฟเผาบ้าน ทุกวันนี้แม่ของเขาไม่พอใจเธอไม่ใช่ว่าเขาไม่เห็นมัน

แต่สถานการณ์ที่บ้านกลับกลายเป็นแบบนี้ ร้อยละ 90 เกี่ยวข้องกับครอบครัวซังความสัมพันธ์ระหว่างโหยวจิ้งหลีกับครอบครัวซังมีความเกี่ยวข้องกัน ที่แม่เขาทำแบบนี้ก็เข้าใจได้

แต่เขาคิดไม่ถึงว่าแค่เรื่องเล็กๆน้อยแบบนี้ทำให้เธอตัดสินใจฆ่าพ่อแม่ของเขา

เขาโกรธมาก “เพียะ” คบหน้าเธออย่างแรงด้วยฝ่ามือของเขา

ตบแรงมากเกินไปใบหน้าของเธอกลายเป็นสีแดงและบวมมุมปากเลือดออกแดงก่ำ

“ฮ่าฮ่า ปู้อี้เฉินแกมันโง่ขนาดนี้เลยเหรอ แกไม่เข้าใจจริงๆเหรอว่า ทำไมฉันต้องทำแบบนี้? “ความเกลียดชังแวบเข้ามาในดวงตาของโหยวจิ้งหลีเธอเยาะเย้ยเธอได้เห็นสีหน้าของปู้อี้เฉินแล้ว เธอไม่รู้ว่าจะเยาะเย้ยความโง่เขลาของเขาหรือจะเกลียดที่เขาตาบอดมองไม่ออก

ทำไมตอนแรกถึงไปชอบผู้ชายที่หลงตัวเองแบบนี้นะ

ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ของเขาที่ไม่เคยดูแลลูกสาวของเธอ และถากถางเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ไม่ให้กำเนิดลูกผูู้ชาย เธอจะโกรธได้มากขนาดนี้เหรอ?

เธอมองความคิดพวกเขาไม่ออกเหรอ

ต่อหน้าไม่พูดแต่ไปพูดข้างนอก ว่าที่ให้เธอออกจากบ้านมันเป็นข่าวลือทั้งหมด

ตอนที่เธอรู้สึกหดหู่เขาอยู่ที่ไหน เขากำลังไปยุ่งกับเฉินเฉียวหรือว่ามัวแต่ไปอยู่บ้านหลังอื่น

เธอได้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงคนอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า คิดว่าเธอไม่ได้กลิ่นหรือไง

ถ้าไม่ใช่เพราะลูกเธอก็จะเลิกกับเขาตั้งนานแล้ว

แต่สุดท้ายแม้แต่ลูกก็ไม่เหลือแล้ว

หลังจากถูกผู้หญิงด่าว่าโง่ปู้อี้เฉินกำมือแน่นโกรธจัดและไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้โหยวจิ้งหลีหน้าแดงก่ำ

โหยวจิ้งหลีตบมือเขาอย่างแรง จิกเล็บที่หลังมือ แต่ความแข็งแกร่งของหญิงและชายแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงยิ่งไปกว่านั้นร่างกายของเธอไม่ดีเท่าเมื่อก่อนแต่หลังจากดิ้นรนอีกครู่หนึ่ง ไม่มีการเคลื่อนไหวอีกต่อไป

ปู้อี้เฉินตื่นตระหนกมากเมื่อสังเกตเห็นว่าคนที่อยู่ข้างหน้าเขาคอตกและมือของเธอห้อยอยู่ที่หลังมือของเขา

การที่เขาเพิ่งจะบีบคอเธอความคิดที่อยากจะฆ่าเธอนั้นเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบ

เขาไม่อยากติดคุกเพราะผู้หญิงที่เกลียดเขาชีวิตเขายังสดใสจะถูกทำลายเพราะเธอได้อย่างไร

เขากุมขมับ ต่อยต้นไม้ข้างๆ

เขาตระหนกเกินไปไม่ได้ตรวจดูว่าโหยวจิ้งหลีหายใจหรือไม่ ตายหรือไม่ตาย

เมื่อเขาได้สติก็คิดเพียงแค่ว่าต้องรีบจัดการศพของเธอ

เขาขับรถที่เขาขับมาจากที่จอดรถซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขา จากนั้นใช้ประโยชน์จากความมืดของยามค่ำคืน เขาจึงขนโหยวจิ้งหลีไปที่เบาะหลังของรถด้วยความว่องไว

ทางด้านหน้ามีโค้งนับไม่ถ้วนและเขาเองก็ไม่รู้ว่าเขาขับรถไปที่ไหน

เมื่อเขาเห็นเนินเขา เขาก็หยุดรถลากร่างของโหยวจิ้งหลีแล้วโยนเธอลงไป

เมื่อมองลงมาจากด้านบนเขาแน่ใจว่าเขามองไม่เห็นเงาของบุคคลนั้น ก่อนที่เขาจะถอนหายใจด้วยความโล่งอกในที่สุด

ตอนบริษัทล้มละลายครอบครัวได้เปิดศูนย์สุขภาพโดยพ่อของเขาใช้อุปกรณ์พวกนี้ในการบำบัดเอง

ในที่สุดมันก็กลายเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตสำหรับพวกเขาในการเลี้ยงดูครอบครัว

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นสิ่งสุดท้ายในการช่วยชีวิต

อุปกรณ์พักฟื้นเหล่านั้นมีสายไฟจำนวนมากเมื่อเกิดเพลิงไหม้จะลุกไหม้เร็วขึ้น ไม่อย่างนั้นพ่อแม่เขาคงจะมีโอกาสหนีออกมาแล้ว

ปู้อี้เฉินอึดอัดแต่เขารู้ว่าไม่ใช่เวลาที่เขาจะพักผ่อนและเขาต้องเดินทางไปต่างประเทศโดยเร็วที่สุด

แต่โหยวจิ้งหลีที่ถูกโยนลงมาจากเนินเธอไม่ได้หายไปอย่างที่ปู้อี้เฉินคิด เธอถูกปู้อี้เฉินบีบคอจนหมดสติไปชั่วคราว หลังจากที่เธอตื่นขึ้นเธอก็พบว่าเธอกำลังนอนอยู่บนพื้นหญ้าที่ไม่รู้จัก

เสื้อผ้าบนร่างของเธอเปียกโชกเมื่อมองไปยังแม่น้ำสายเล็กๆ ตรงหน้าเธอ เธอแทบไม่ต้องคิดเลย ปู้อี้เฉินคิดว่าเธอตายไปแล้วและต้องการเอาศพของเธอไปทิ้งให้ไกลที่สุด

ลมหนาวพัดมาที่เธอและทำให้เธอตัวสั่น

เสื้อผ้าบนตัวของเธอขาดออกทั้งหมดเมื่อตกลงมา

ผิวหนังแดงก่ำ

บาดแผลเหล่านี้เป็นเพียงบาดแผลเล็กน้อยเท่านั้นตอนนี้เธอทนได้

เธออยากกลับไป ถ้ากลับไปได้เธอจะไปแก้แค้นเขา

เพราะพลังนี้

เธอพยุงตัวเองจากหญ้าและคลานขึ้นไปบนถนน

ไม่รู้ว่าเพราะที่นั้นไกลเกินไปหรือเปล่านานแล้วไม่มีรถผ่านข้างทางตอนที่เธอกำลังจะหมดหวัง ในที่สุดก็มีรถสีขาวผ่านมา

“เดี๋ยว เดี๋ยวก่อน”ก่อนที่เธอจะหายใจได้เธอร้องเสียงดังไปที่รถ

เวลานี้ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก เธอไม่มีเวลามาคิดมาก

เธอสกปรกมอมแมมและดูเป็นคนไม่ดี

รถขับออกไปทันทีโดยไม่ได้ยิน

โหยวจิ้งหลีเซลงกับพื้น

ข้างหลังเธอมีเสียงแตรดัง เธอหันไปมองดวงตาของเธอเบิกกว้างตกใจเล็กน้อยแต่เธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ในที่สุดก็มาแล้ว

พอขึ้นรถก็นั่งเซื่องซึมอาจเป็นไข้นอกจากนี้ร่างกายยังเปื้อนเลือดอยู่ คนขับรถบรรทุกไม่กล้าทิ้งเธอจึงรีบพาเธอไปส่งประตูหลังโรงพยาบาลแล้วรีบไป

โหยวจิ้งหลีนอนอยู่ตรงหัวมุมถนนมองผ่านแสงแดดที่พร่ามัวรู้สึกว่าแสงแดดที่โปร่งแสงค่อยๆ หายไป เช่นเดียวกับชีวิตของเธอก็หายไป

“นั่นคือ…”

ทันใดนั้นก็เห็นร่างที่คุ้นเคยเธอใช้แรงเฮือกสุดท้ายรีบเข้าไปกอดต้นขาของชายคนนั้นแล้วพูดอย่างอ่อนแรงว่า “ช่วยด้วย”

“ใครหน่ะ?”ซังอวิ๋นหันไปมองคนที่จับขาของเขาขมวดคิ้วพยายามจะสะบัดเขาออกไป

แต่ไม่คิดว่ายังไม่ทันได้ขยับมือที่จับต้นขาของเขาก็คลายออกอย่างกะทันหัน

ขณะที่เธอนอนอยู่บนพื้นซังอวิ๋นก้มลงและค่อยๆผลักเธอไปข้างหนึ่งแล้วพบว่าคนนี้กลายเป็นโหยวจิ้งหลี

เขาให้ความสนใจกับคนที่เกี่ยวข้องกับเฉินเฉียวมาโดยตลอด ดังนั้นเขาจึงรู้ด้วยว่าผู้หญิงคนนี้เคยแย่งสามีเก่าของเฉินเฉียวแน่นอนว่าเขามีความสุขกับมันอย่างไรก็ตามเขาก็เกลียดผู้ชายคนนั้นด้วย

ใบหน้าของโหยวจิ้งหลีเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลเหล่านี้เกิดจากการตกลงมาจากเนินเขา มีร่องรอยฝ่ามือชัดเจนบนใบหน้าและลำคอของเธอเห็นได้ว่าเธอถูกทุบตีมาก่อน

เห็นสภาพเธอแบบนี้เห็นได้ชัดว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เขาเขย่าเธอและพูดว่า “เฮ้ ตื่นเร็ว”

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset