ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 458 อย่าใช้กำลัง

“แน่นอน”เด็ก ๆ ต้องการการเอาอกเอาใจมากโดยเฉพาะลูกสาวของเขา เขาเอานิ้วเกี่ยวจมูกเล็กๆของลูกสาวด้วยรอยยิ้มของผู้เป็นพ่อ

หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไป ซังหลินจวินก็กลับมาจัดการเรื่องของบริษัท ในขณะที่ปู้อี้เฉินพาฉยงฉยงออกไปเที่ยวเล่นเป็นครั้งคราว ชีวิตดูมีความหวังเจียงฉยงฉยงดูสดใสขึ้้นเรื่อยๆ

เฉินเฉียวดูมีความสุขมาก

เธอเองก็ปล่อยวางเรื่องเก่าๆไปเยอะ โดยเฉพาะหลังจากที่ปู้อี้เฉินถูกยิง

เขาคิดว่าการลักพาตัวจะทำให้เขาอยู่ในคุกแค่ไม่กี่ปีแต่ไม่คิดว่าหลักฐานที่เขาฆ่าโหยวจิ้งหลีจะไปถึงศาลก่อนแล้ว

เมื่อนึกถึงเรื่องที่น่าตกใจในวันนั้นเฉินเฉียวไม่รู้ว่าจะมีความสุขหรือ…

“กำลังคิดอะไรอยู่?”ซังหลินจวินดูเฉียวเฉียวนั่งอยู่คนเดียวบนระเบียงมองออกไปไกล ๆ เลยเดินขึ้นไปหาเธอแล้วก้มลงและฟังเสียงที่ท้องของเฉียวเฉียว

“ไม่มีเสียงอะไรเลย วันนี้เขาไม่ดื้อเหรอ?”ซังหลินจวินเงยหน้าขึ้นขมวดคิ้วราวกับว่ากำลังคิดถึงปัญหาที่ยากมาก

“คุณรีบเกินไปแล้ว ลูกเพิ่งจะอายุเท่าไหร่เอง”เฉินเฉียวกำลังจะหัวเราะท่าทางซื่อๆของซังหลินจวิน

เฉินเฉียวท้องอีกครั้ง ในใจเธอรู้สึกกดดันมากเธอไม่ใช่แม่วัยยี่สิบต้นๆอีกแล้ว เธอใกล้จะสามสิบแล้วสำหรับการตั้งท้องครั้งนี้รู้สึกกลัวมากๆ

เป็นเพราะการคิดมากทำให้น้ำหนักลดลงโดยไม่รู้ตัว

เป็นเพราะว่าบางครั้งเธอพบว่าหลินจวินแอบทำซุปให้เธอในครัว เธอลูบร่างกายที่ผอมเธอเลยรู้ตัว

“สามเดือนแล้ว”เขาพูดประโยคนี้แม้ว่าจะไม่มีความหมายอื่น

แต่เธออ่านนิยายมาเยอะเฉินเฉียวรู้ทันทีว่าเขากำลังบอกเธอเป็นนัยๆว่านอนห้องเดียวกันก็ไม่เป็นไร

เขาผลักเขาออกไปทันทีและพูดว่า: “สามเดือนอะไรกัน จำวันผิดแล้วเดี๋ยวก่อนนะฉันไม่แน่ใจว่าตกลงเป็นวันไหนกันแน่”

เฉินเฉียวอยากจะบอกปัดเรื่องนี้เธอเดินกุมท้องออกไป

ซังหลินจวินต้องการช่วยประคอง แต่เธอไม่สนใจ

โย่วอีกับเหมิงเหมิงที่แอบอยู่ตรงระเบียงจู่ๆ็โผล่หัวออกมา

“พี่ น้องในท้องของแม่เมื่อไหร่จะออกมา ตอนนี้แม่ไม่เล่นกับพวกเราแล้วหนูไม่อยากมีน้อง”

เหมิงเหมิงที่ไร้เดียงสาคิดว่าเด็กในท้องอยากจะให้หายก็หายไปได้

โย่วอีที่ได้ยินน้องสาวพูดแบบนี้เหงื่อก็ไหลออกที่หน้าผาก

เลยแกล้งๆบอกปัดไป: “เดี๋ยวถึงเวลาก็รู้เอง ไปๆได้เวลาไปโรงเรียนแล้วจะสายแล้ว”

เหมิงเหมิงที่จูงมือพี่ชายเธอไว้พยักหน้าและอย่างเชื่อฟัง

หลังจากที่ทั้งสองไปโรงเรียนและกลับบ้านในตอนบ่ายเพิ่งจะเดินออกจากโรงเรียน ก็พบว่าปู่ยังมาไม่ถึง โย่วอีคิดว่ารออีกหน่อยปรากฎว่าจู่ๆมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นพร้อมกับเสียงดังโวยวาย

“แกเป็นเดือนของโรงเรียนเหรอ หน้าตาก็งั้นๆนิ”คนหนึ่งย้อมผมสีแดงตัดผมทรงง่ายๆใส่ทองรอบคอใบหน้าของเขาดูธรรมดาๆมีเพียงดวงตาที่สะอาดสะอ้านไร้มลทินเท่านั้นที่สามารถบอกได้ว่าเขายังเป็นนักเรียนมัธยมต้นอยู่

“มาหาฉันมีเรื่องอะไรเหรอ?”กระวนกระวายใจน้ำเสียงก็ไม่น่าฟัง

“โอ้ว เอาเรื่องเหมือนกันนะ”เด็กชายผมแดงถอนหายใจ แล้วหันไปพูดกับลูกสมุนรอบๆตัวเขา

พวกลูกสมุนพูดแทนลูกพี่ เจอกับคนร่างสูงขายาวแบบซังโย่วอีพูดไร้สาระว่า: “ลูกพี่ จัดการไอ้ขี้ขลาดนี้ไม่พอ เดี๋ยวจะทำให้ลูกพี่เห็นว่าเราจะเอาชนะมันได้ยังไง ลูกพี่คอยดูเลย”

เห็นได้ชัดว่าอายุยังน้อย แต่กลุ่มนักเรียนมัธยมต้นพวกนี้กลับเรียนแบบพฤติกรรมของพวกอันธพาลมาแล้ว

และเขาไม่รู้สึกละอายบ้างแค่รู้สึกว่าตัวเองเจ๋ง

“จะต่อยก็ต่อย”โย่วอีเห็นว่าวันนี้หลบไม่พ้นแล้วเลยโยนกระเป๋าให้น้องสาว และลูบคอขยับข้อมือ

เหมิงเหมิงที่ยืนข้างหลังเตือน: “พี่คะแม่บอกว่าเราต้องรีบกลับบ้านเร็ว”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นและเหมิงเหมิงก็ชินกับมันแล้ว

อย่างไรก็ตามนักเรียนมัธยมต้นคนหนึ่งนั้นตัวเตี้ยเล็กน้อยจู่ๆตัวก็บิดเบี้ยวตัวแข็งทื่อและชำเลืองมองเขาอย่างระมัดระวัง

“เจียงเฉิงจะต่อยหรือไม่ต่อย?”

คนที่ยืนอยู่ข้างเจียงเฉิงจู่ๆก็ผลักเขาท่าทางที่สั่นของเขารีบกลับมาเป็นปกติทันที

คนกลุ่มหนึ่งต่อยกันอย่างรวดเร็ว

โย่วอีออกกำลังกายมาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อเทียบกับเด็กรุ่นราวเดียวกันแล้วพูดได้ว่าฝีมือห่างกันเยอะ

แต่เขาคนน้อยกว่า เมื่อเทียบกับเด็กหนุ่มผมแดงที่มีคนช่วยสิบกว่าคนเห็นได้ชัดว่าเขาไม่มีแรงพอที่จะต้านทานไหว

เขาเช็ดมุมปากที่บาดเจ็บแล้วหันไปพูดกับเหมิงเหมิงว่า “วันนี้พี่จะจัดชุดใหญ่ น้องรีบกลับบ้านไปก่อนอย่ามาถ่วงพี่”

เหมิงเหมิงไม่ต้องการไปแต่เธอก็ไปอย่างเชื่อฟังทันทีเมื่อเห็นแววตาจากพี่ชายของเธอ

เด็กชายผมแดงกังวลว่าเธอจะโทรหาครูเขาจึงสั่งให้ใครซักคนไปตามดูเธอ

“นายตามฉันมาทำไม”สำหรับคนที่เพิ่งต่อพี่ชายเธอแล้ว เหมิงเหมิงไม่ได้รู้สึกดีต่อเจียงเฉิง

ใบหน้าของเจียงเฉิงซีดมากและน้ำเสียงของเขาก็คร่ำครวญ: “ลูกพี่ให้ผมมาตามดูเธอ

“โอเค ลูกพี่นายก็คือลูกพี่นาย”สำหรับสิ่งที่คนตรงหน้าพูด เหมิงเหมิงไม่แม้แต่จะฟังนั้นเธอจึงบอกปัดไป

รอจนน้องสาวเดินจากไป โย่วอีก็สลัดความกังวลออกไป

เขากวักมือเรียกเด็กชายผมแดง

“แกจะทำอะไร”โดนไอเด็กบ้านี่ยั่วยุ ทำไมให้เขาก้าวไปช้าๆสองสามก้าว

โย่วอียิ้มและพูดว่า: “ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่สงสัยว่าทำไมพวกนายมาหาเรื่องฉัน”

เด็กผมแดงตะกุกตะกักอยู่นานและตบบ่าลูกน้องข้างๆคนคนนั้นพูดทันที “แกแย่งผู้หญิงของลูกพี่พวกเรา ยังมีหน้ามาถาม”

ทันทีที่พูดจบ ก็โดนเด็กผมแดงตบหัว “ไร้สาระ แย่งผู้หญิงอะไรกัน ฉันเป็นเหมือนคนที่ถูกแย่งผู้หญิงหรือไง”

ต่อมาหลังจากพบว่าที่ตัวเองพูดไปเมื่อสักครู่นี้ผิด น้องชายคนเล็กก็พูดพร้อมกับยิ้มอย่างประจบสอพลอทันที: “ผมผิดไปแล้วลูกพี่ อย่าโกรธผมเลย”

เมื่อเห็นว่าน้องชายคนเล็กของเขาจะมีแต่ทำให้เขาอับอายเด็กชายผมแดงจึงไอออกมาเบา ๆ แล้วพูดว่า “ฉันจะไม่อ้อมค้อมแล้วนะ ฉันมีน้องสาวคนหนึ่งที่โตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก เธอบอกว่าชอบนายอยากจะมาสารภาพรัก ฉันเลยมาดูหน้าหน่อยว่ามันเป็นใคร”

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset