“อี๋เพื่อนรัก เธอกำลังหลอกอะไรฉันอยู่หรือเปล่า”หลี่เจียซินเท้าเอวแกล้งทำเป็นโกรธ
ซังอี๋รีบบอกปัดกับเจียซิน “จริงๆก็ไม่มีอะไรหรอก อาจารย์เรียกฉันไปพบฉันไปก่อนนะ” พอพูดจบ ซังอี๋ก็เดินออกไป
ศาสตราจารย์ซ้งเป็นที่ปรึกษาของซังอี๋ เธอเคารพที่ปรึกษาของเธอมากเธอเคาะประตูก่อนที่จะเข้าไป
ศาสตราจารย์ซ้งเงยหน้าขึ้น “ซังอี๋ ดูแล้วเธอไม่ค่อยสบายมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่า?”
ซังอี๋เป็นนักเรียนคนที่เขาพึงพอใจมากที่สุด กำลังคิดจะแนะนำให้เพื่อนครูต่างชาติเพื่อให้เธอไปเรียนต่อ
เธอส่ายหัว “มันไม่ใช่เรื่องสอบค่ะ”
ซังอี๋คิดถึงชายคนนั้นอีกครั้ง น้ำเสียงที่มีเสน่ห์และร่างกายที่เซ็กซี่แม้แต่การเต้นของหัวใจของเธอก็ยังแรงมากขึ้น
ศาสตราจารย์ผายโบกมือให้ซังอี๋นั่งลง “คราวนี้มีโครงการที่ฉันอยากจะหาคนร่วมมือด้วย มีเพียงผู้จัดการอู้จากบริษัทฮวาเจิ้งเอนเตอร์เทนเมนท์เท่านั้นที่ช่วยได้ นี่คือจดหมาย ฉันเชื่อว่าถ้าคุณหาเธอเจอเธอน่าจะยอมตกลง โครงการนี้สำคัญมากมันจะมีผมมากต่อคนทั้งทีมของคุณ คุณต้องทำให้ดีที่สุดเพื่อให้เธอตกลง มีแต่เธอเท่านั้นที่ฉันเชื่อใจ ”
หลังจากฟังคำพูดของศาสตราจารย์แล้ว ซังอี๋ก็ถอนหายใจ“ค่ะ อาจารย์ฉันจะพยายามทำให้ดีที่สุด”
พวกเขาสิบคนตั้งเป็นกลุ่มคณะเล็กๆ โครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ต้องการเงินทุนจำนวนมาก ทุนจากมหาวิทยาลัยไม่เพียงพอ พวกเขายังหวังว่าจะหาผู้สนับสนุนบางส่วนสำหรับความร่วมมือนี้
ซังอี๋ถือจดหมายไว้ในมือกำลังจะเดินเข้าบริษัทฮวาเจิ้งเอนเตอร์เทนเมนท์
ด้านในตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามมีรูปปั้นทองคำตั้งเด่นเป็นสง่า
โคมไฟคริสตัลขนาดใหญ่ห้อยลงมาจากเพดานและพื้นสว่างด้วยแสงจ้าส่องประกายเจิดจ้า
“สวัสดีค่ะ คุณคะ มาหาใครเหรอคะ”ผู้หญิงที่แผนกต้อนรับถามอย่างสุภาพ
“ผู้จัดการหวู่อยู่ไหมคะ”
“คุณนัดไว้หรือเปล่าคะ?”เห็นว่าผู้หญิงคนนี้ดูอ่อนโยน น้ำเสียงของเธอก็มีความเคารพอยู่มาก
ซังอี๋เม้มริมฝีปาก “ถ้าไม่ได้นัดไว้เข้าไปไม่ได้เหรอคะ?”
“ขออภัยค่ะ ตามกฎถ้าไม่ได้นัดไว้จะเข้าไปไม่ได้ค่ะ…”ผู้หญิงที่แผนกต้อนรับรู้สึกเสียใจ ผู้หญิงคนนี้สวยจริงๆแม้แต่ท่าทางเม้มปากยังดูน่าสงสาร ถ้าบริษัทให้เธอเซ็นสัญญาได้คิดว่าเธอต้องดังมากแน่ๆ
ซังอี๋ไม่สามารถเดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ตอนบ่ายเธอต้องกลับไปสอบเธอไม่สามารถทำตามความหวังของอาจารย์ได้
ตอนนี้ทำได้แค่รอ
“ขอโทษนะคะ คุณมีเบอร์โทรศัพท์ของผู้จัดการหวู่หรือไม่? ให้ฉันโทรหาเธอได้ไหมคะ”
ผู้หญิงที่แผนกต้อนรับลังเลเล็กน้อยและก่อนจะพยักหน้า
ผู้จัดการหวู่ยอมให้เธอขึ้นไปหาเพราะเธอค่อนข้างสนใจโครงการนี้มาก
“ผู้จัดการหวู่” ซังอี๋ผลักประตูเข้าไปเมื่อเธอได้ยินคำว่า “เข้ามา”
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเธอช่างน่าทึ่งจริงๆไม่มีใครเคยทำให้เธอรู้สึกว่าสมบูรณ์แบบได้ขนาดนี้แต่เธอนั้นแตกต่างจมูกโด่งสวยและปากที่เหมือนเชอร์รี่ นัยน์ตาสีพีชที่สวยงามของเธอช่างน่าดึงดูดและงดงาม
ผู้จัดการหวู่ใช้เวลานานกว่าจะมีปฏิกิริยาตอบกลับและละสายตาออกไป”คุณซังใช่ไหมคะ? นั่งก่อนสิ
เธออยากจะชวนซังอี๋ให้มาเข้าร่วมบริษัทฮวาเจิ้ง ผู้หญิงสวยธรรมชาติขนาดนี้นานๆทีจะเห็น โดยเฉพาะออร่าเฉพาะตัวนี้ที่โดดเด่นกว่า
“คืออย่างนี้ค่ะ ที่ปรึกษาของฉันอยากจะถามคุณ…”
ก่อนที่เธอจะพูดจบผู้จัดการหวู่ก็บอกให้เธอหยุด “ฉันรู้แล้วคุณกำลังพัฒนาชุดผลิตภัณฑ์ใช่ไหม”
“ค่ะ”ซังอี๋พยักหน้า
“อันที่จริงฉันยังมีความคิดที่จะให้ศิลปินภายใต้บริษัทลองใช้ผลิตภัณฑ์นี้และลองลงทุน แต่ฉันเป็นเพียงผู้จัดการตัวเล็กๆอำนาจที่แท้จริงไม่ได้อยู่ในมือฉัน”ผู้จัดการหวู่เริ่มลำบากใจ “ลองไปพบท่านรองประธานหรือไม่ก็ท่านประธานถึงจะช่วยได้”
“ท่านประธานยุ่งตลอด ท่านรองประธานน่าจะอยู่ที่ห้องทำงานฉันจะไปคุณไปถามเขาดู”ผู้จัดการหวู่กล่าวอีกครั้ง
เดิมทีหวู่ลี่ลี่จะไม่ดูแลใครแบบนี้ แต่ศาสตราจารย์ซ้งเป็นอาจารย์ของเธอเองและลูกศิษย์อาจารย์เองก็สวยซะขนาดนี้เธออดไม่ได้ที่จะดูแลอีกสักหน่อย
“ขอบคุณค่ะ”ซังอี๋ลุกขึ้นและโค้งคำนับใบหน้าสดใสและสวยงามของเธอซึ่งทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง
เฉียวฟู่ซานอยู่ในห้องทำงานกำลังคุยโทรศัพท์กับแฟนเมื่อประตูถูกเคาะ คิ้วของเขาก็ขมวดคิ้ว “ใคร?”
“ฉันเองหวู่ลี่ลี่”
เฉียวฟู่ซานต้องวางสาย “เข้ามา” น้ำเสียงก็ดูไร้ความปราณีผู้หญิงคนนี้ไม่ดูตาม้าตาเรือเลยจริงๆ ทุกๆครั้งที่เขาโทรหาแฟนชอบมาขัดจังหวะ
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างเปลี่ยนไปเมื่อซังอี๋เปิดประตูและเข้ามา
หน้าโหดๆของเขาพอยิ้มเนื้อก็สั่น ดวงตาเล็กๆคู่นั้นเปล่งประกายด้วยแสงตัณหาในตอนนี้ ช่างเป็นผู้หญิงที่สวยจริงๆ แต่มันมีเสน่ห์มากกว่าผู้หญิงคนที่เขาเช่ามาเป็นล้านๆ เท่าตัวแม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเป็นดาราสาวที่โด่งดังในตอนนี้ก็ตาม
ทันทีที่ซังอี๋เข้ามาในห้อง เธอรู้สึกว่ามีสายตาที่น่าสยดสยองมองมาที่เธอ ซึ่งทำให้รู้สึกอึดอัดมาก เธอมองไปที่ชายหลังโต๊ะและเห็นว่าเขากำลังจ้องมองตัวเองด้วยรอยยิ้ม
“ผู้หญิงคนนี้คือ…” เฉียวฟู่ซานเข้าเรื่องตรงๆ
แม้ว่าหวู่ลี่ลี่จะมีตำแหน่งต่ำกว่าเฉียวฟู่ซานแต่เธอก็ไม่กลัวชายชราคนนี้ “นักศึกษาอยากจะร่วมทำโครงการ ประธานเฉียวพูดซักหน่อย คงจะไม่เสียเวลามากหรอกค่ะ”
เธอดูถูกเฉียวฟู่ซานแต่ตำแหน่งเจ้าหน้าที่อาวุโสนั้นไม่ได้ใหญ่โต ไม่ว่าเธอจะเกลียดเฉียวฟู่ซานมากแค่ไหนแต่เธอก็ไม่สามารถล้อเลียนกับอนาคตหน้าที่การงานของเธอได้
“ความร่วมมือ? เรื่องที่คุณพูดกับผมเมื่อวันก่อนหรือไม่? ”โอ้ เรื่องนี้มันก็ยากนะ ถ้าพวกเราลงทุนไปสองล้านแล้วคว้าน้ำเหลวล่ะ” เฉียวฟู่ซานแสร้งทำลำบากใจขณะมองดูปฏิกิริยาของซังอี๋
ผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้หน้าตาใช้ได้จริงๆ โดยเฉพาะท่าทางเหย่อหยิ่งแบบนั้นทำให้เขามีอารมณ์คัน
ซังอี๋ยิ้ม “สองล้านไม่ใช่ตัวเลขที่มากมายแต่ถ้าประธานเฉียวรู้สึกลำบากใจงั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ”
“ไม่ใช่อย่างนั้น แค่คุณต้องแสดงแผนการทดลองของคุณให้ผมเห็นเท่านั้น นอกจากนี้ คุณต้องพูดอธิบายให้ละเอียด เอาอย่างนี้ไหมคืนนี้เรามาหาเวลามาเจอกันหน่อยดีไหม?”เฉียวฟู่ซานคันมากขึ้นและเขาก็ถูมือของเขาอย่างลับๆ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คืนนี้เขาต้องจับผู้หญิงตัวเล็ก ๆคนนี้ไว้ในมือของเขาให้ได้
หวู่ลี่ลี่แอบบอกเธอให้ปฏิเสธ คิดว่าจะรีบปฏิเสธ เธอไม่พูดอะไรแต่กลับพยักหน้า”ก็ได้ค่ะ คุณบอกเวลาสถานีที่มานะ”
ยังเด็กเกินไป ความคิดก็ง่ายๆ
หวู่ลี่ลี่รู้สึกเสียใจ จู่ๆพาซังอี๋เข้ามาให้ถึงหน้าท่านประธานแบบนี้ ผู้หญิงสวยขนาดนี้ไม่โดนหมายปองสิแปลก