เมื่อมองไปที่เบอร์ที่กระพริบเฉินเฉียวก็รู้ว่าเป็นใคร
ครั้งแรกที่ซังโย่วอีโทรหาเธอก็ใช้เบอร์นี้ เบอร์นี้จำง่าย ดูแวบเดียวก็จำได้ ถึงแม้เธอจะไม่ได้เมมไว้ แต่ก็รู้ว่าเป็นเบอร์ของซังหลินจวิน
เขาโทรหาเธอตอนนี้ เฉินเฉียวเดาว่าน่าจะเป็นเรื่องเมื่อสักครู่นี้ เขาคงจะรู้เรื่องแล้ว
เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งรู้สึกว่าเธอต้องอธิบายให้เขาเข้าใจ เธอรับสายและเอาโทรศัพท์แนบหู “ฮัลโหล ประธานซัง”
“……”ซังหลินจวินเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะพูด “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
น้ำเสียงของชายคนนั้นเรียบๆ แต่ก็เต็มไปด้วยความอ่อนโยน เฉินเฉียวรู้สึกเพียงว่าหน้าอกของเธอมีอาการจุกมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่มีเหตุผลและพูดว่า: “ไม่เป็นไร”
ผมขอโทษนะน้ำเสียงของซังหลินจวินจริงใจมาก
เฉินเฉียวเม้มริมฝีบอก
เธอยอมรับว่า ซังหลินจวินเป็นผู้ชายที่ดี นอกจากชอบแกล้งหื่นใส่เธอแล้ว นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไร
แต่ว่าเพราะเป็นแบบนี้ทำให้เธอไม่ค่อยอยากเข้าใกล้เขา เพื่อที่จะให้ตัวเธอเองไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ คิดฟุ้งซ่านโดยไม่มีเหตุผล
ในตอนนั้นเธอตอบรับคำของชายชราคนนั้นจริงๆ
“ประธานซัง ถ้าคุณอยากจะขอโทษจริงๆ หลังจากนี้พวกเราพยายามติดต่อกันน้อยลงเถอะค่ะ”เธอต้องการที่จะรักษาระยะห่างจากเขาอย่างเห็นได้ชัด
ซังหลินจวินเงียบ
“ เมื่อคืนฉันไปโผล่ในบ้านคุณ สร้างปัญหาสร้างความเข้าใจผิดให้คุณฉันขอโทษ แต่ฉันรับปากค่ะประธานซัง จะไม่มีครั้งต่อไปอีก ”
“ ผมทำให้คุณลำบากใจหรือเปล่า”ในที่สุดเขาก็พูดขึ้น
“……ใช่ค่ะ
ในตอนท้ายหลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่งโทรศัพท์ก็ถูกวางสาย
เฉินเฉียวถือโทรศัพท์มือถือฟังเสียง‘ตู๊ด ตู๊ด’ที่เย็นชาและถอนหายใจลึก ๆ
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็วางสาย
…………
หลังจากนั้นซังหลินจวินนดูเหมือนจะหายไปจากโลกของเฉินเฉียว
ดูเหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าจะเป็นเพียงความฝัน
เฉินเฉียวมักจะนึกถึงซังโย่วอี เห็นเด็กอายุประมาณเขาบนถนนก็จะนึกถึงเขา บางครั้งเห็นข่าวโรคหอบหืด ก็จะนึกถึงเขา
มีหลายครั้งทนไม่ไหวอยากจะโทรหาเด็กคนนั้น แต่สุดท้ายก็ต้องอดกลั้นไว้
ใช้คำพูดของซังหลินจวินที่ว่าลูกของเขา ไม่ใช่ลูกของเธอแสดงออกมากเกินไปจะทำให้คนเข้าใจผิด
ช่วงเวลานี้โครงการใหม่ก็ไม่ได้อยู่ในมือเธอ มีเรื่องงานน้อยลงเธอจึงเริ่มหาบ้านเรื่อยๆ
หามานานก็ยังไม่เจอหลังที่ถูกใจ
เจียงฉยงฉยงมาถึงบริษัทมาช่วยเธอเก็บของ“ไม่ว่าจะยังไงเธอต้องย้ายไปอยู่กับฉัน แม่สาวใหญ่นอนบริษัททุกวัน น่าสงสาร ”
เฉินเฉียวปฏิเสธ “นี่เธอรู้ไหมเขตป้านซานอยู่ไกลกับบริษัทฉันตั้งเท่าไหร่”
เกี่ยวอะไรด้วยล่ะ ยังไงซะฉันต้องมาทำงานที่นี้ทุกวันอยู่แล้ว ฉันมาส่งก็ได้”เจียงฉยงฉยงมองไปที่เธอ “เฉียวเฉียว ฉันถามเธอหน่อยสิ เธออยู่บ้านตั้งใหญ่โตคนเดียวมาตั้งนานไม่เหงาบ้างหรอ”
ถ้าบอกว่าไม่เหงาก็เป็นเรื่องโกหก
ถ้าไม่ใช่เพราะเหงา ทำไมต้องถึงขนาดย้ายมานอนบริษัทล่ะ
เจียงฉยงฉยงชักชวนอีกรอบ“ ตอนนี้มาอยู่กับฉันไม่ดีหรอ พี่ฉันไม่ให้ฉันอยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว ฉันต้องย้ายไปอยู่กับเขาฉันไม่รู้ว่าจะปฏิเสธเขายังไง ถ้ามาอยู่กับฉันตอนนี้ ฉันก็จะมีอิสระต่อไปได้ ถ้าเธออยู่ด้วย พี่ฉันก็เบาใจ”
เจียงฉยงฉยงกอดแขนของเฉินเฉียวไว้ ขอร้องครั้งแล้วครั้งเล่า
ตอนแรกเฉินเฉียวมีอคติกับเขตป้านซาน แต่คิดว่าตัวเองมีอคติแบบนี้มันน่าขำ
เธอกับซางหลินจวินไม่ได้มีอะไร เธอไม่จำเป็นต้องกลัวอะไร ทำอย่างกับว่ามีอะไรจริงๆ
เมื่อคิดแบบนี้ เธอก็พยักหน้า“โอเค ฉันจะไปอยู่กับคุณ แต่บอกก่อนนะ อย่ามาเก็บค่าเช่าฉันนะ ”
“ ดูสิว่าเธอขี้งกขนาดไหน”
“ช่วยไม่ได้ ฉันต้องหาเงินไปหย่า ใครจะเหมือนเธอล่ะสบายขนาดนี้”สามร้อยล้าน เธอคิดแล้วปวดหัว
“ เธอยังไม่ได้หย่าหรอ”
เฉินเฉียวส่ายหัว
“ ช่างเถอะ ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว ช่วยฉันเก็บกระเป๋าเดินทางก่อนแล้วย้ายไปบ้านเธอกัน เรื่องหย่าฉันค่อยๆคิด “เธอกับปู้อี้เฉินตอนนี้ถึงแม้ว่ายังไม่ได้หย่าแต่ก็เป็นเพียงแค่ในนามเท่านั้น เขาไม่ได้เข้ามาก่อกวนอะไรเธออีก
ถึงแม้ว่าจะอยู่บริษัทเดียวกันแต่เขาออกไปธุระต่างจังหวัดบ่อยๆ ไม่ค่อยเจอเขาในบริษัท
เสียเวลากับเขามาหลายปีแล้ว อย่างมากก็แค่อีกไม่กี่ปี สักสิบปีเดี๋ยวก็หย่าได้เอง
ตอนที่เฉินเฉียวนั่งรถไปกับเจียงฉยงฉยงไปที่เขตป้านซาน ก็ดึกมากแล้ว
อีกไม่ไกลก็จะถึงบ้านเจียงฉยงฉยงแล้ว แต่จู่ๆรถดับ สตาร์ทยังไงก็ไม่ติด
“ เฉียวเฉียว……เจียงฉยงฉยงเรียกเธอ
“มีปัญหาอีกแล้วหรอ”เฉินเฉียวไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะโชคดีขนาดนี้ ครั้งก่อนรถเธอเสียที่นี้ แล้ววันถัดไปก็ให้คนมาลาก
“ครั้งนี้รถไม่ได้เสีย แต่น้ำมันหมดฉันลืมดู”
“……”เฉินเฉียวมองบน พี่เธอเจียงอี้ฝานปกป้องอุ้มชูเธอมาดีเกินไป ดังนั้นเธอมักจะตกม้าตายเพียงเพราะเรื่องเล็กๆน้อย ๆ ไม่แปลกใจที่เจียงอี้ฝานไม่ไว้ใจให้เธออยู่คนเดียว
“เธอซื้อประกันอะไรไว้ โทรหาบริษัทประกันให้มาส่งน้ำมันสิ”เฉินเฉียวเปิดประตูและลงจากรถพร้อมกับแนะนำเธอ
“ฉันถามพี่ชายก่อนนะ เรื่องประกันพี่ฉันทำให้หมดเลย”
เจียงฉยงฉยงพูดไปก็โทรหาเจียงอี้ฝาน ไม่นานเจียงฉยงฉยงก็วางสายลง”พี่ฉันบอกว่าอีกแปปนึงเดี๋ยวให้เพื่อนเอาน้ำมันมาให้ รอแปปนะ”
เฉินเฉียวพยักหน้า
นี่เป็นวิธีเดียวในตอนนี้
เธอไม่ได้นั่งในรถ แต่ยืนอยู่ริมถนนมองไปที่ประภาคารไม่ไกล ในท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิดมีเพียงแสงไฟส่องสว่างเพียงไม่กี่ดวงที่นั่น
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ถอยกลับและมองไปทางอื่น
นานแล้วที่ไม่ได้เจอเด็กน้อย เกรงว่าเขาจะลืมแล้วว่าเธอคือใคร
คิดอะไรอยู่หรอเจียงฉยงฉยงเข้ามาถาม หน้าตามีเล่ห์นัยมองไปที่เธอ แล้วก็มองไปทางที่เธอมอง”ให้ฉันเดา! ตรงทิศนั้น เป็นบ้านหยวนเซิ่งกรุ๊ปของประธานซัง ทำไม คิดถึงประธานซังหรอ”
“ อย่าพูดมั่วๆ”เฉินเฉียวกล่าวว่า: “ฉันกับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้น
“ ไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบนั้นหรอ?”เจียงฉยงฉยงเลิกคิ้ว จากนั้นเธอก็ยิ้มและพูดว่า “ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด! เข้าใจผิด ใช่หรอ…
เฉินเฉียวทำหน้าเอือมระอาใส่เจียงฉยงฉยง
ในขณะนี้ไฟสว่างจ้าส่องหัวจรดเท้าเข้ามา เฉินเฉียวมองจากระยะไกลและทันใดนั้นก็มีลางสังหรณ์
เจียงฉยงฉยงก็รู้สึกเช่นกัน “เฉียวเฉียว ที่พี่ชายฉันบอกว่าเพื่อนไม่น่าจะใช่ … ”
พูดยังไม่ทันจบรถหรูสีดำเบนท์ลีย์จอดข้างหน้าพวกเธอ
กระจกฝั่งที่นั่งคนขับลดลง คนขับยื่นหน้าออกมา ท่าทางเขาประหลาดใจสุดๆ“คุณเฉิน เป็นคุณจริงๆด้วย”