ข่มขู่ มันคือการข่มขู่ชัดๆ
ซังอี๋รอต่อไป ดูว่าเธออยากใช้กลวิธีอะไรอีก
“เธอแค่ต้องการเงิน ถ้าเธอออกไปจากชู่จี้จริงๆ เธอต้องการเงินเท่าไร ฉันให้เธอได้” หลิงเยว่มองการตอบสนองซังอี๋ เธอให้เงิน ก็เพื่อทำให้ซังอี๋อับอาย อีกอย่างคือให้ชู่จี้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของผู้หญิงคนนี้
ซังอี๋ไม่ไหวติง “ถ้าเธอมีความสามารถ ก็ไปจัดการชู่จี้เองดีกว่า นี่มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันตัดสินใจได้”
เสแสร้ง เกือบถูกฉีกขาด
“ครั้งนี้ แค่ให้บทเรียนกับเธอเล็กๆ น้อยๆ” หลิงเยว่ทำท่าทางชัยชนะอยู่ในกำมือ มั่นใจเต็มเปี่ยม “ถ้าเธอไม่สนใจ งั้นก็ลองดู”
เห็นซังอี๋ดูไม่สะทกสะท้าน หลิงเยว่ก็โกรธเล็กน้อย “ไม่ว่าเธอจะวางแผนยังไง ฉันหวังว่าเธอจะจัดการมันเองอย่างรอบคอบ ทำตัวเป็นผู้หญิงที่ฉลาด วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์”
ต้องการเอกสารคืนจากมือเธอ นอกจากตัวเองตกลงคำขอของเธอ ซังอี๋ไม่อยากให้ชู่จี้เข้าใจตัวเองผิด ถึงแม้เอกสารจะสำคัญกับตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัย
“ถ้าเธอไม่อยากอยู่ห่างจากเขา ก็ไม่เป็นไร เธอทำตามที่ฉันขอเรื่องหนึ่งก็พอ” หลิงเยว่เปลี่ยนเงื่อนไขอีกครั้ง
ซังอี๋รินน้ำชาให้ตัวเองหนึ่งแก้ว สายตาเฉียบคมกวาดตามองหลิงเยว่บนลงล่าง ราวกับเธอเป็นผู้กุมอำนาจ แต่หลิงเยว่เป็นปลาที่เชือดได้
ถูกมองสำรวจจนรู้สึกอึดอัด หลิงเยว่ทำเสียงไม่พอใจ “เธอแค่ต้องนัดบอดกับผู้ชายคนหนึ่งแทนฉันแค่นั้น”
“นัดบอดเหรอ?” เป็นความคิดที่แปลกจริงๆ แต่คิดว่าตัวเองนัดบอดแทนหลิงเยว่ น่าจะไม่ผิดพลาดอะไร เธอลังเลครู่หนึ่งก็พยักหน้า “ได้”
หลิงเยว่ส่งนามบัตรหนึ่งให้ซังอี๋ “ก็คือชายคนนี้ในนามบัตร” ความช่วยร้ายในดวงตาถูกซ่อนเอาไว้ลึกมาก
ซังอี๋รับนามบัตรมา “มีอะไรอีกไหม?”
ทัศนคติที่ไม่แยแสทำให้หลิงเยว่ยิ่งไม่พอใจ “อย่าทำเรื่องวุ่นวาย เงื่อนไขรายละเอียด ฉันจะส่งเข้าไปในโทรศัพท์เธอ”
ซังอี๋เพิ่งไป ชายคนหนึ่งก็เดินเข้าไปในห้องส่วนตัว “จัดการเรียบร้อยแล้วเหรอ?” หลิงเยว่เล่นเล็บมือตัวเองขณะถามขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ
“ครับ คุณผู้หญิง ผมเชื่อว่าคุณจะต้องพอใจแน่ๆ” ชายหนุ่มยิ้มร้ายกาจ “เงินนั้น……”
“หลังจากเสร็จงาน มันจะเข้าบัญชีนายแน่นอน”
“น้องอี๋ ทำไมเธอสีหน้าแย่จัง?” หลี่เจียซินสงสารมาก รีบเอาล่าเถียวในมือตัวเองส่งให้เธอ “รีบชิมสิ ช่วยคลายความเครียด”
เปลือกตาขวากระตุก ซังอี๋รู้สึกว่าตัวเองตอบตกลงประมาทไปหน่อย แผนการของหลิงเยว่คนนี้ เรื่องราวมันคงไม่ง่ายขนาดนั้นแน่นอน
แต่สิ่งที่อยู่ในมือเธอ ต้องการได้ข้อมูลคืนมา ต้องเข้าไปในถ้ำเสือ
หลี่เจียซินเบ้ปาก “ล่าเถียวที่รัก น้องอี๋ไม่อยากกินเธอ ให้ฉันกินเธอก็แล้วกัน”
คนที่อายุเท่าไรแล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็ก
สาเหตุที่ซังอี๋เป็นเพื่อนกับหลี่เจียซินได้ ถูกนิสัยมองโลกในแง่ดีและไร้เดียงสาของคนคนนี้ทำให้พ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง มีชีวิตชีวาทุกวัน ทำให้รังแกไม่ลง
“เป็นอะไรกันแน่? อารมณ์ไม่ดีแบบนี้” หลี่เจียซินเขย่าแขนเสื้อซังอี๋ “ฉันช่วยอะไรได้ไหม?”
“ไม่มีอะไรจริงๆ ฉันสบายดีมาก เธอดูสิ” เพื่อไม่ให้หลี่เจียซินเป็นห่วง ซังอี๋ทำได้แค่ปลอบเธอ “เธอไม่ต้องเป็นห่วง ถ้ามีปัญหาจริงๆ ฉันจะไปหาเธอ”
“หลิงเยว่ เธอเป็นคนทำมันใช่ไหม?” ชู่จี้ถามอย่างตรงไปตรงมา
หลิงเยว่ลุกขึ้นจากที่นั่งอย่างยั่วยวน ริมฝีปากแดงสดเปิดๆ ปิดๆ “คุณกำลังพูดอะไร? ฉันไม่เข้าใจ”
“แกล้งงงเหรอ? ฉันแค่ต้องการข้อมูลนั้นกับเธอ” ชู่จี้ขี้เกียจพูดไร้สาระกับเธอ “ก่อนที่เธอจะทำอุบายอะไร ใช้สมองคิดหน่อยนะ อีกอย่างคนของฉัน เธอห้ามยุ่ง”
“เฮอะ มันสายไปแล้ว เธอไปแล้ว ฉันเดาว่าตอนนี้คุณไป เกรงว่าจะไม่ทัน แต่ถ้าคุณยอมอยู่กับฉันหนึ่งคืน ฉันโทรหาคุณรีสได้ ให้เขาหยุดทุกอย่างในตอนนี้”
ทางนี้ ซังอี๋มาถึงสถานที่ตามที่หลิงเยว่ให้มา
มันคือชั้นสูงสุดของโรงแรมระดับหรู มีแค่ห้องดีลักซ์ห้องเดียวเท่านั้น ประตูห้องเปิดแง้มไว้เล็กน้อย มองไม่เห็นฉากด้านใน
ซังอี๋ผลักประตูเดินเข้าไปในห้องอย่างระมัดระวัง ถึงห้องจะหรูหรา แต่มันหนาวจับใจ เธอเผลอตัวสั่น สายตามองไปที่ชายที่นั่งตรงกลางไม่ไกล
“ใคร?” ดวงตาสีเข้มคู่หนึ่งของชายหนุ่ม เห็นผู้หญิงยืนประหลาดใจตรงประตูทางเข้าผ่านกระจก
หนาว เป็นความหนาวเย็นที่ผุดมาจากฝ่าเท้า ซังอี๋เดินไปหาชายคนนั้นด้วยความเร็วคงที่
ทันใดนั้น ลูกดอกหนึ่งก็ตกอยู่ห่างจากเท้าซังอี๋เพียงสามเซนติเมตร “หยุด!”
ชายหนุ่มเล่นลูกดอกในมือ ความเย็นยะเยือกในดวงตาทำให้แช่แข็งคนตาย
“ฉันหลิงเยว่” ซังอี๋ไม่เข้าใจสถานการณ์รายละเอียด ทำได้แค่บอกชื่อไป
ชายหนุ่มเหมือนจะนึกออกว่าหญิงสาวที่ชื่อหลิงเยว่คือใคร “หลิงเยว่? ออกไปซะ!” หลังจากเขาค้นหาไร้ผล ก็มีท่าทางเย็นชา
ซังอี๋ยิ่งไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หลิงเยว่ทำแบบนี้มีจุดประสงค์อะไร? ชายตรงหน้าไม่รู้จักหลิงเยว่อย่างเห็นได้ชัด แล้วไม่มีการนัดบอดอะไรนี่ด้วย งั้นจุดประสงค์ที่ให้ตนมา ก็แค่หลอกตนเหรอ?
ทางด้านซังอี๋เพิ่งเดินออกไป ทันใดนั้นก็มีคนเดินเข้ามาจากทางประตู “คุณชายรีส ผู้หญิงคนนี้ คุณกรีนแลนด์ส่งเป็นของขวัญให้คุณครับ”
กรีนแลนด์ สายตารีสมองสำรวจซังอี๋อีกครั้ง ขาเรียวเดินเข้ามา “What’ s your name? (เธอชื่ออะไร?) ”
ซังอี๋ลางสังหรณ์ไม่ดี ขณะที่อยากออกไป แต่ประตูทางเข้าจู่ๆ ก็มีบอดี้การ์ดสองแถวยืนอยู่ ไม่ปล่อยให้เธอออกไปเลย
ร่างสูงใหญ่ของรีสปกคลุมซังอี๋ เขามองสำรวจหญิงสาวจากบนลงล่าง ราวกับกำลังตัดสินมูลค่าสินค้าชิ้นนี้
“ก็ใช้ได้” รีสลูบคาง “ดูเหมือนหน้าอกจะเล็กไปหน่อย ไม่รู้ลูกค้าจะชอบไหม”
รีสชินกับการเลียแผลเป็นที่ปลายมีด ผู้หญิง สำหรับเขา เป็นแค่สินค้าธรรมดาที่สุด แค่เหลือบมอง ก็ราวกับได้เห็นร่างเปลือยเปล่าของผู้หญิงคนนี้
ผู้หญิงต่างชาติส่วนมากหน้าอกใหญ่ แต่ผู้หญิงอย่างซังอี๋ ในสายตารีส แค่เรียกได้ว่าหน้าตาดีเท่านั้น แต่หุ่นแย่ไปบ้าง
ซังอี๋บังคับให้ตัวเองใจเย็น ดูเหมือนตัวเองจะถูกหลิงเยว่ขายเสียแล้ว และชายคนนี้ แค่ดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนที่ยั่วโมโหได้ ถ้าวันนี้ตัวเองหนีไปไม่ได้ เกรงว่าจะมีแต่ผลร้าย
“เฝ้าดูเธอเอาไว้” รีสสั่งลูกน้อง ส่วนตัวเองก็นั่งสบายๆ บนเก้าอี้โยก หรี่ตาเพลิดเพลินกับไวน์แดง
“คุณชายรีส มีคนโทรมาหาคุณ” ลูกน้องขัดจังหวะการพักผ่อนของเขา เขาขมวดคิ้วไม่พอใจ “วางไปซะ”