เหงื่อไหลออกมาจากฝ่ามือของเธอและซังอี๋กำลังกำผ้าปูที่นอนอย่างกังวลใจ และขนตาหนาๆยาวๆของเธอก็เผยให้เห็นเงาเล็กๆ บนผิวของเธอทำให้เธอดูตัวเล็กอ่อนแอและมีเสน่ห์มาก
“ชู่จี้…”เธอเริ่มพูด “ฉันยังกลัวอยู่นิดหน่อย”
เธอไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นความฝันหรือความจริง
รุ้ยซือจับริมฝีปากของเธอและจูบอย่างระมัดระวัง “ไม่ต้องกลัวผมจะทำเบาๆ”
เนื่องจากฤทธิ์ของยาร่างกายของซังอี๋จึงอ่อนแรง
เธอกอดรุ้ยซืออย่างเชื่อฟังมีเพียงขนตาที่สั่นเทาเท่านั้นที่เผยให้เห็นความตึงเครียดของเธอในขณะนั้น
จู่ๆประตูที่ปิดอยู่ก็เปิดออก
ชู่จี้เดินมาอย่างรวดเร็ว เขามองคนสองคนบนเตียงอย่างเย็นชา “ปล่อยเธอ”
น้ำเสียงเย็นชาดั่งน้ำแข็ง
แปปเดียวก็ไปขึ้นเตียงกับคนอื่นแล้วเหรอ? เขาประเมินผู้หญิงคนนี้ต่ำไปจริงๆ
“คุณมาที่นี่เพื่อผู้หญิงคนนี้ ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะมีความสำคัญกับคุณจริงๆ”ปืนพกชี้ไปที่หัวของเขาทำให้รุ้ยซือต้องหยุดการกระทำทั้งหมด เขาลุกขึ้น จากร่างของซังอี๋และสวมกางเกงอย่างเงียบๆโดยไม่สนใจว่าปืนพกจะฆ่าเขาได้ตลอดเวลา
ดวงตาของชู่จี้แดงก่ำ “ผู้หญิงอะไรไม่รู้จักอาย” เขาทนไม่ไหวเขาจะจัดการผู้หญิงคนนี้เอง
ความโกรธมหาศาลเข้ามาในหัวของชู่จี้กำปั้นของเขากำแน่นเขาพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะต้านทานไม่ทำอะไรกับเธอ
รุ้ยซือใช้ผ้าห่มคลุมซังอี๋ไว้ “อย่าให้ภรรยาตัวน้อยของฉันโป๊สิ”ประโยคนี้ไร้สาระอย่างยิ่งและมันกระตุ้นความโกรธของชู่จี้
“ฉัน….”ซังอี๋ไม่เข้าใจ”ชู่จี้”ในสายตาเธอ กำลังคุยเรื่องบางเรื่องกับชายแปลกหน้า ท่าทางโกรธของชายแปลกหน้านั้นน่ากลัวจริงๆราวกับว่าเขากินเธอ
เมื่อเห็นความกลัวในสายตาของซังอี๋ ชู่จี้เห็นว่าผู้หญิงคนนี้รู้สึกผิดเธอถูกจับได้ว่านอกใจเลยไม่รู้จะอธิบายยังไงดีใช่ไหม
เขาก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขนของซังอี๋อย่างไร้ความปราณีแต่รุ่ยซือมาขวาง “คุณชายชู่ ลงมือกับผู้หญิงผมแบบนี้ ถามผมหรือยัง?”
ชู่จี้ยิ้มอย่างเย็นชา “โอเค ดี” เขาเป็นเหมือนซาตานที่มาจากนรก เย็นชาและชั่วร้าย
“แต่ วันนี้ฉันต้องพาเธอกลับไป”
ดวงตาคู่นั้นของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
รุ่ยซือลูบคางแล้วถามซังอี๋ “เธอจะอยู่กับเขาหรืออยู่กับผม”
ซังอี๋คว้าแขน “ชู่จี้” “ฉันต้องการคุณเท่านั้น ไม่ใช่เขา”น้ำตาที่น่าสงสารไหลลงมา
“ได้ยินหรือยัง? คุณชายชู่ เสี่ยวอี๋ไม่เปลี่ยนใจจากผมแล้วนะ”
เมื่อเห็นผู้หญิงคนนั้นที่ไม่แยแสกับตัวเอง ชู่จี้ก็ไม่รู้สึกสงสารซังอี๋
“งั้นแกจะเลือกเธอ หรือจะเลือกชีวิตของแก?”ชู่จี้แทบอยากจะฆ่าเธอและเขาบนเตียง
รุ่ยซือสังเกตเห็นเจตาเขาที่ชัดเจนในสายตาของชู่จี้ และตระหนักว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องจบฉากนี้ “เสี่ยวอี๋ กลับไปกับเขาเถอะวันหลังผมจะไปรับ”
ซังอี๋ไม่เข้าใจ ชู่จี้กำลังจะทิ้งเธอเหรอ?
รุ่ยสือลูบหัว “เขาไม่ทำอะไรคุณหรอก วางใจได้”
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งและในที่สุดก็พยักหน้า “โอเค ฉันเชื่อคุณ”
ทันทีที่เสียงนั้นพูดจบชู่จี้ก็ถอดเสื้อคลุมออกแล้วสวมลงบนร่างของซังอี๋”ใส่ซะ แล้วตามมา”เขาพูดออกมาห้าคำอย่างเย็นชา
รุ่ยซือขยับข้อมือและพูดกับชู่จี้: “คุณระวังให้ดีนะ อย่าเสียเธอไปอีก”เขาจงใจเน้นคำว่า “เสีย” ลงไป
เส้นเลือดสีฟ้าบนหน้าผากของเขาผุดขึ้นมา ซังอี๋ยังไม่ทันจะแต่งตัวเสร็จชู่จี้ก็โอบผู้หญิงบนเตียงที่เอวของและพาเธอออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
“คุณชายนี่คือ…” ลูกน้องเดินออกมาจากด้านหลังประตูสงสัยว่าทำไมคุณชายเปลี่ยนใจและปล่อยเธอไป
“ไม่ต้องรีบ ละครดีต้องค่อยๆดูถึงจะสนุก”รุ่ยซือชอบที่จะทรมานผู้คนเพื่อความสนุก เขาสนุกกับขั้นตอนนี้ไปจนถึงตอนจบ
ในดวงตาของเขาล้ำลึกราวกับจิ้งจอก
ผู้หญิงในอ้อมแขนของเธอพยายามดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นจากพันธนาการของชายคนนั้น “ปล่อยฉัน ฉันไปเองได้!”
ชู่จี้หยุดการเคลื่อนไหวของเธอ “อยากตายก็พูดมาตรงๆ”
ไม่รู้ว่าทำไม ความรู้สึกบนร่างผู้ชายที่อุ้มเธอมันช่างคุ้นเคย ซังอี๋ทำได้เพียงปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นอุ้มเธอ ด้วยพละกำลังที่แข็งแรงเช่นนี้เธอถึงกับสงสัยว่าเธอจะถูกบดขยี้เมื่อใดก็ได้
เมื่อเห็นว่าในที่สุดผู้หญิงในอ้อมแขนของเขาก็กลายเป็นคนเชื่องชู่จี้ผ่อนแรงลงเล็กน้อย “คุณเก็บซ่อนมันไว้ได้ดีมาก แต่ไม่ต้องกังวลคุณเซ็นสัญญาแล้ว ส่วนที่เหลือค่อยๆชดใช้”
ซังอี๋ไม่เข้าใจสิ่งที่ชายคนนั้นพูด เธอทำหน้างุนงงจนชู่จี้ยิ่งโกรธ“ยังจะเสแสร้งอีก? ห๊ะ”
เขาบีบคางของเธอใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ “ซังอี๋ มาแสดงตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร? คุณเป็นคนแบบไหนกัน ป่านนี้ยังไม่สำนึก? ”
ซังอี๋ได้รับความโกรธและการวิพากษ์วิจารณ์ของชายแปลกหน้าอย่างไร้เหตุผล ทันใดนั้นเธอก็ละตัวออกจากอ้อมกอดของเขาและพูดอย่างเคร่งขรึม: “ขอโทษนะ ฉันไม่เข้าใจจริงๆคุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ฉันเป็นคนยังไงในใจฉันรู้ดี ไม่ต้องให้คุณมาบอกหรอก”พูดจบก็หันหลังจะเดินจากไป
เธอถูกจับโดยชู่จี้ แต่ทันใดนั้นซังอี๋ก็ล้มและเธอทรงตัวไม่ได้ หน้าผากของเธอกระแทกกับผนังเธอก็สลบไปและถูกมือของชู่จี้คว้าไว้อย่างรวดเร็ว
“หมอครับ เป็นยังไงบ้าง”ชู่จี้มองไปที่ซังอี๋ที่ยังไม่ฟื้นและความหงุดหงิดก็ผุดขึ้นมาในหัวใจของเขาโดยไม่มีเหตุผล
เขาดึงเนคไทของเขาและปลดกระดุมเสื้อออกเพื่อบรรเทาความร้อนระอุ
“อาจจะเป็นเพราะผู้หญิงคนนี้เคยเสพยามาก่อนซึ่งทำให้ส่งผลกระทบต่อสมอง เธอเลยหลับไปกว่าสิบชั่วโมง”หมออธิบาย
ชู่จี้ไม่ได้คิดอะไรมากเพียงพยักหน้าเงียบ ๆ หลังจากที่ทุกคนออกไปเขานั่งข้างซังอี๋มองดูใบหน้าซีดของหญิงสาว เขาจะสู้หน้าเธอได้ยังไง ?
เขาเคยชินกับการปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างเย็นชา ตอนที่เธอโผล่มาเขาก็ปฏิบัติกับเธอเป็นพิเศษ แต่ซังอี๋เธอเห็นเขาเป็นของเล่น เขาเห็นว่าเธอสมควรที่จะโดนลงโทษทำไมต้องเมตตาเธอด้วยล่ะ
ผู้หญิงบนเตียงที่หายใจอยู่มีใบหน้าเล็กๆคิ้วโก่งและปากกระจับเล็กๆมันเป็นภาพของเจ้าหญิงนิทราที่หลับใหลอยู่