“คุณชายครับ ควรกลับประเทศแล้วครับ เราอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้วครับ” พ่อบ้านเอ่ย
ครั้งนี้เพราะเรื่องของซังอี๋ เสียเวลาไปเยอะแล้ว ถ้าพวกเขายังไม่กลับไปอีก คนในตระกูลอาจจะหาเรื่องอะไรอีก
แววตารีสมีความรู้สึกบางอย่าง “ให้เวลาผมอีกสองวัน แล้วเราค่อยกลับ”
พอชู่จี้ไปแล้ว ซังอี๋ก็จัดการเรื่องในบริษัทแทนชู่จี้ ช่วงเวลาที่ผ่านมา ซังอี๋คุ้นเคยกับงานในบริษัทแล้ว เลยทำได้อย่างคล่องแคล่ว
มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามาค่ะ” ซังอี๋ยังยุ่งกับงานอยู่
หลิงเยว่บิดเอวเดินเข้ามา ในแววตามีแต่ความไม่แยแส ไม่เป็นมิตรอย่างชัดเจน
ซังอี๋วางสัญญาในมือ เห็นหลิงเยว่เดินเข้ามาอย่างไม่เป็นมิตร เธอจึงนั่งพิงเก้าอี้แล้วไม่แคร์ “ผู้ช่วยหลิงมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?” เสียงที่น่าฟังของเธอดังขึ้น
“จะกล้ามีปัญหาได้ยังไงคะ” หลิงเยว่กอดอก แล้วพูดอย่างเย่อหยิ่ง “คุณหนูซังอย่าเสียแรงเปล่าๆเลยค่ะ คุณลุงชู่ไม่มีทางอนุญาตให้คุณคบกับชู่จี้แน่นอน”
ซังอี๋ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เอาความมั่นใจมาจากไหน “ขอโทษนะคะ แค่ชู่จี้อยากคบกับฉันก็พอค่ะ แต่อย่างอื่น ฉันไม่อยากคิดอะไรมาก” เธอพูดอย่างเย็นชา
หลิงเยว่คิดว่าซังอี๋ร้อนตัว โมโห เลยได้ใจกว่าเดิม “ความจริง คุณก็ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกค่ะ คุณไปจากชู่จี้ตอนนี้ ฉันจะให้เงินก้อนคุณ แล้วจะให้คุณชายรวยๆให้คุณด้วย”
“ถ้าคุณหนูหลิงมาเพื่อจะพูดอะไรพวกนี้กับฉัน งั้นเชิญกลับค่ะ” ซังอี๋ไล่อย่างเย็นชา
หลิงเยว่ไม่ออกไป เธอยันมือบนโต๊ะ ริมฝีปากแดงสดเหมือนกลีบกุหลาบ “คุณหนูซังอย่าใจร้อนสิคะ คุณคิดว่าชู่จี้รักคุณเหรอ?”
“เขารักแค่ตัวเอง ไม่เคยรักคนอื่น แน่นอน รวมถึงคุณด้วย” หลิงเยว่สบตากับซังอี๋ เธอเชื่อว่า ซังอี๋ต้องลังเลแน่นอน
ซังอี๋มองต่ำ “คุณพูดกับฉันไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ ถ้าคุณอยากให้เราแตกหักกัน อย่าเสียแรงเลยค่ะ”
เธอยอมเชื่อชู่จี้ ยอมเชื่อใจเขา
หลิงเยว่เอาผลตรวจของซังอี๋มาจากคุณหมอ ตอนนี้ได้ใช้แล้วสินะ
“คุณฝันร้ายบ่อยๆใช่ไหมคะ? คุณไม่เคยคิดเหรอคะว่าเป็นเพราะอะไร?” หลิงเยว่จ้องซังอี๋ ไม่พลาดสีหน้าที่เธอแสดงออก
เห็นสีหน้าซังอี๋เปลี่ยนไป หลิงเยว่จึงมั่นใจกว่าเดิม “อีกอย่าง ช่วงนี้ชู่จี้ไม่แตะคุณเลยใช่ไหมคะ?”
หน้ากากเริ่มแตกร้าว ซังอี๋ก็รีบซ่อมแซม แต่กลับไม่พ้นสายตาของหลิงเยว่
“คุณดูสิ ความทรงจำของคุณที่หายไป คุณจำไม่ได้เลยว่าคุณโดนชู่จี้ส่งตัวไปให้ผู้ชายอีกคน เพื่อแลกกับผลประโยชน์ ระหว่างนั้น เขาไม่รัก แต่แค่เพราะคุณนำพาผลประโยชน์มาให้เขาได้ก็เท่านั้น”
“แล้วทำไมต้องเป็นฉัน?” ซังอี๋ถามกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
หลิงเยว่อึ้งไปครู่หนึ่ง “เพราะผู้ชายคนนั้นสนใจคุณ” เธอพูดโกหกต่อ
ซังอี๋เริ่มคิดพิจารณา เธอรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จงใจมาทำให้เธอกับชู่จี้แตกร้าวกัน แต่ในเมื่อเธอรู้รายละเอียดขนาดนี้ งั้นก็แสดงว่า เธอต้องรู้ความจริงบางอย่าง หรือว่า เธออาจจะเคยทำอะไรด้วย
“เหรอ? งั้นคุณบอกมาสิว่าเรื่องเป็นยังไง?” ซังอี๋ยังดูใจเย็นเหมือนราชินี
หลิงเยว่ไม่คิดเลยว่าศัตรูจะดูไม่ธรรมดาเหมือนที่เห็น ความคิดรอบคอบ ใจเย็น เป็นศัตรูที่แกร่งมาก
เธอไม่รู้จะตอบคำถามซังอี๋ยังไง “ถ้าคุณอยากฟัง ฉันก็เล่าทุกอย่างให้คุณฟังได้”
เธอไม่รู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากเกิดเรื่องติดต่อหารีส แต่เธอใส่สีตีไข่ลงไป ผลลัพธ์ก็คงใกล้เคียงกัน
“วันนั้น รีสพาคุณไปที่ห้อง คุณดื่มจนเมา เขาเลยทำอะไรบางอย่างกับร่างกายคุณ” เธอจงใจเน้นคำ แอบสะใจในใจ “แล้วคุณก็สมยอมด้วย เพราะคิดว่าเขาเป็นชู่จี้”
สีหน้าซังอี๋ซีด ทันใดนั้น ในหัวเธอมีความทรงจำไหลเข้ามามากมาย เธอปวดหัวมาก แล้วเหงื่อก็เอาแต่ไหล ความทรงจำเลยชัดเจนขึ้น เธออยู่ข้างล่างตัวของผู้ชายคนหนึ่ง ปล่อยให้ผู้ชายคนนั้นจูบร่างกายเธอ แถมเธอยัง……
ตัวเธอสกปรก สกปรกมาก
ไม่น่าล่ะ ชู่จี้ถึงไม่อยากแตะต้องเธอ แล้วยอมไปอาบน้ำเย็นแทน
ความทรงจำทุกอย่างไหลเข้ามา ซังอี๋กัดริมฝีปากแน่น อยากจะร้องไห้ระบายอารมณ์ออกมา
ตัวเองบรรลุเป้าหมายแล้ว หลิงเยว่สะใจมาก แล้วเชิดหน้าขึ้น “คุณเชื่อแล้วใช่ไหม ชู่จี้รักสะอาด ไม่มีทางแตะต้องผู้หญิงที่ผู้ชายคนอื่นเคยแตะ แล้วคุณในตอนนี้ สำหรับเขา เป็นแค่เครื่องมือชิ้นหนึ่งเท่านั้น”
อยู่ๆซังอี๋ก็ลุกขึ้น แล้วตบหน้าผู้หญิงคนนั้น เสียงตบหน้าดังสนั่นไปทั่วห้อง
หลิงเยว่โดนตบจนอึ้ง ตั้งแต่เด็กจนโต ไม่มีใครกล้าทำกับเธอแบบนี้ เธอเป็นคุณหนูสูงส่ง ไม่มีใครแตะต้องเธอ
เธอกำลังจะตบกลับ แต่ซังอี๋จับแขนเธอไว้ก่อน “ฉันบอกคุณไว้เลย ฉันรักชู่จี้ ถึงเขาจะหลอกใช้ฉัน ฉันก็เต็มใจยอม”
หลิงเยว่ตกใจกับท่าทางซังอี๋ เธอไม่ยอมรับไม่ได้เลยว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่อ่อนแอ แต่กลับมีความกล้า ความมั่นใจที่คนอื่นๆไม่มี
ซังอี๋สะบัดมือเธอออก “คุณแค่จำไว้ว่า อีกหน่อยอย่าคิดจะเล่นอะไรแบบนี้อีกก็พอ”
เธอเป็นลูกสาวของซังหลินจวิน จะไม่มีความกล้าแบบซังหลินจวินได้ยังไง? เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะยอมให้คนอื่นมารังแก
เธอจำได้หมดแล้ว แล้วจำได้ขึ้นใจ
ถึงเธอจะแนบชิดกับรีส แต่ก็ไม่ได้ทำถึงขั้นนั้น ตอนนั้นรีสให้เธอกินยา แล้วยานั่นก็ทำให้เกิดภาพหลอน เธอเลยคิดว่ารีสเป็นชู่จี้ แล้วคิดว่าชู่จี้เป็นคนอื่น
ไม่น่าล่ะทำไมชู่จี้ถึงทำตัวแปลกกับเธอ
ตอนนี้ความจริงกระจ่างแล้ว
เธออยากบอกชู่จี้ แต่ก็กลัวว่าชู่จี้ไม่เชื่อตัวเอง หรือว่า……
เอไม่กล้าจินตนาการเลย
ซังอี๋นั่งลงบนเก้าอี้ น้ำชาข้างๆก็เย็นหมดแล้ว แต่เธอยังยกขึ้นดื่ม จนสุดท้ายรู้สึกปวดท้องมาก