“ผู้ชายแบบประธานซังหรอ”
ใช่ ผู้ชายแบบเขาทั้งหล่อทั้งอ่อนโยนแล้วยังมีสไตส์อีก แต่ผู้ชายแบบนี้หายากมากๆ ตอนนี้ฉันเจอแค่คนเดียว น่าเสียดายประธานซังเป็นของฉันแล้ว พี่อย่ามาแย่ง “เฉินอินเหมือนเด็กนิสัยไม่ดี อยากจะอวดของไปทั่วแล้วกลัวจะโดนคนอื่นแย่ง อารมณ์เธอแปลกๆจริงๆ
เฉินเฉียวมองไปที่เฉินอินท่าท่างเหมือนตกหลุมรัก ก็คิดถึงผู้ชายคนนั้น ในใจยากที่จะอธิบายความรู้สึก
สรุปแล้วยากที่จะโยงเธอกับเขาทั้งสองเข้าด้วยกัน
แต่จะว่าไป ไม่รู้ว่าซังโย่วอีตอนนี้อาการดีขึ้นหรอยัง
“เอาล่ะๆ เพ้อเจ้อของเธอไป อย่าไปโยนให้พี่เขามั่วๆ”ลู่ลี่ลี่ขัดจังหวะเฉินอิน
เฉินอันมองฉันเฉียวพลางถาม :“ที่บอกว่าจะหย่าหน่ะ อี้เฉินเขาว่ายังไงบ้าง?”
เฉินเฉียวกล่าวว่า: “หนูจะหาทางพูดกับเขาค่ะ”
ลู่ลี่ลี่เสริม“ คิดดีๆนะ อี้เฉินจริงๆแล้วธาตุแท้ไม่ใช่คนเลวอะไร แค่ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงพยศ ชอบมีปากเสียงกัน เธอก็มักจะแข็งข้อใส่เขาตลอด ยอมๆเขาไปเดี๋ยวเขาก็เชื่อง ผู้ชายมันก็เป็นแบบนี้แหละ”
หรอคะ?เฉินเฉียวเม้มปากแน่น“ แต่หนูหาสามีค่ะ ไม่ใช่หาลูกหรือว่าสัตว์เลี้ยง หนูไม่เคยคิดที่จะทำให้เขาเชื่อง ”
“ เธอมันก็รั้นแบบนี้ ต่อหน้าสามีจะขนาดไหน พวกผู้ชายเป็นเด็กไม่รู้จักโต ตอนนี้พ่อเธอก็ยังเหมือนเด็ก ”
เฉินอันกล่าวว่า “พูดถึงลูกสาวฉันอยู่ดีๆ ทำไมมาพูดถึงฉัน”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เขาเลยกล่าวว่า: “ถ้าเกลี่ยกล่อมให้เขาเซ็นได้ล่ะก็ ถ้าอยากหย่าพ่อก็ไม่ขัด”
อืม โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเธอทั้งสองต้องเห็นด้วย มิฉะนั้นเงิน 300 ล้านหยวนตระกูลเราไม่มีให้หรอก “ลู่ลี่ลี่เสริม
เฉินเฉียวพยักหน้าและไม่พูดอะไร
เฉินอินโทรศัพท์ดังขึ้น เธอวิ่งดีใจไปรับโทรศัพท์ที่มุมห้องสักพักหน้าเศร้ากลับมา
เฉินเฉียวถาม: “เป็นอะไรเหรอ? ทำหน้าอย่างกับตูด”
“ ตอนแรกแผนกฉันนัดกันจะไปเยี่ยมลูกประธานซังที่บ้านเขา ไม่รู้ใครพูดว่าลูกเขาเหมือนจะป่วยหนัก ”
ทันทีที่เฉินเฉียวได้ยินหัวใจของเธอก็แฟบลง พลางถาม: “แล้วมัวแต่งงอะไรอยู่ล่ะ รีบไปเยี่ยมสิ”
“ไปเยี่ยมอะไรล่ะ ประธานซังบอกว่าไม่ให้ใครไปทั้งนั้น ฉันได้ยินมาว่าประธานซังไม่ชอบให้คนมาบ้านและไม่ชอบให้มายุ่งกับเขา โอย เซ็งเลย! พี่คะ พี่ว่าฉันพอจะทำอะไรให้เขาได้บ้างไหม ”
เฉินเฉียวตอบไม่ได้
ลู่ลี่ลี่ขมวดคิ้ว“ ทำไมประธานซังของพวกเธอนิสัยแปลกประหลาดจัง? ฟังดูก็รู้ว่าไม่ค่อยเป็นมิตร เฉินอิน ฉันพูดเลยนะรีบๆเปลี่ยนใจเลย ฉันไม่ชอบลูกเขยที่มีลูกติดแถมยังไม่เป็นมิตรอีก ”
“ แต่หนูให้เขาไปหมดทั้งใจแล้ว แม่ไม่ชอบก็ต้องชอบ เพราะหนูชอบเขาเท่านั้น”
เฉินเฉียวมองไปที่เฉินอินมองออกว่าเด็กคนนี้หลงหัวปักหัวปำ
ยิ่งรักมากเท่าไหร่ ถ้าวันหนึ่งถูกปฏิเสธก็จะยิ่งเจ็บ
เฉินเฉียวมีลางสังหรณ์แปลกๆ
————
หลังจากออกจากบ้านเฉินเฉียวก็คิดถึงเรื่องของเด็กคนนั้น รู้สึกไม่สบายใจ
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ของเด็กน้อย แต่ว่าปิดเครื่อง
ซังหลินจวินยึดโทรศัพท์มือถือของเด็กตามที่คาดไว้ ผ่านไปหลายวันแล้วยังไม่คืนให้เขาอีก
เฉินเฉียววางโทรศัพท์และขับรถออกจากบ้าน โทรศัพท์ที่วางไว้ที่เบาะข้างๆคนขับดังขึ้น
“ เฉียวเฉียวมารับฉันหน่อยได้ไหม ฉันไม่ได้ขับรถมา”เสียงของเจียงฉยงฉยงดังมาจากโทรศัพท์
ทางนั้นเสียงดังเหมือนอยู่ในคลับ
เฉินเฉียวถาม: “เธออยู่ที่ไหน? อยู่กับใคร? ”
“ อยู่ที่คลับ วันนี้เป็นวันเกิดพี่ชายฉัน เธอสะดวกมารับฉันไหม ”
“ ฉันอยู่ใกล้ๆพอดี รอแปปนะเดี๋ยวฉันไปรับ”
“โอเค รักนะ อยู่ในห้องที่แพงที่สุดนะ”
เจียงฉยงฉยงวางสายหลังจากพูด
เฉินเฉียวขับรถไป ห้องที่แพงที่สุดคือห้องอิมพีเรียล
เธอยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง เผลอนึกถึงเรื่องครั้งหนึ่งที่เธออยู่ด้านนอกตรงนี้และขอให้ซังหลินจวินจูบ จริงๆแล้วผ่านไปไม่นาน แต่ว่าพอนึกถึงเหมือนกับว่าผ่านไปนานแล้ว
“ คุณเฉิน เชิญค่ะ คุณเจียงกำลังรอคุณอยู่ข้างใน “ประตูห้องถูกเปิดออกและพนักงานเสิร์ฟก็เชิญเธอเข้าไป
เฉินเฉียวเดินตามอีกฝ่ายเข้าไป
กลุ่มคนที่อยู่ข้างในส่งเสียงดังดื่มเหล้าร้องเพลงมันช่างคึกคักเสียเหลือเกิน
เฉินเฉียวรู้จักเจียงอี้ฝานกับเจียงฉยงฉยง นอกจากเจียงอี้ฝานแล้วยังมีชายหนุ่มอีกหลายคนซึ่งทั้งหมดน่าจะเป็นเพื่อนของเจียงอี้ฝาน
อีกด้านหนึ่งมีกลุ่มสาว ๆกำลังคลุกคลีอยู่กับเจียงฉยงฉยงและทุกคนกำลังถือไมค์ร้องเพลงอยู่
“เฉียวเฉียว ทางนี้”เจียงฉยงฉยงเรียกเธอผ่านไมโครโฟน
เฉินเฉียวกล่าวทักทายเจียงอี้ฝานและกล่าวอวยพรวันเกิดก่อนที่จะไปหาเจียงฉยงฉยง
จะกลับยังเธอถามเจียงฉยงฉยง
รอแปบนะ พี่ชายฉันยังไม่ได้เป่าเค้กวันเกิดเลย รอเขาอธิษฐานเสร็จก่อนนะ”เจียงฉยงฉยงกล่าว
เรื่องแบบนี้เข้าใจได้
เจียงฉยงฉยงร้องเพลงไปได้สักพักเสียงเธอก็แหบเธอลากเฉินเฉียวไปนั่งบนโซฟาและดื่มน้ำแล้วยื่นเครื่องดื่มให้เฉินเฉียว เฉินเฉียวจิบไปได้นิดหน่อย
“ค่อยๆดื่มสิ เดี๋ยวสำลักนะ”เจียงอี้ฝานกำชับเจียงฉยงฉยงแล้วตบหลังเธอ
เจียงฉยงฉยงเหน็บ “พี่อย่าทำเหมือนฉันเป็นเด็กสิ”
“ เธอไม่ใช่เด็กเหรอไง”เจียงอี้ฝานยิ้ม
“ ถ้าฉันให้พี่ดูแลแบบนี้ตลอดเหมือนกับคนที่ทำอะไรไม่เป็น เฉียวเฉียวชอบแขวะฉัน”
เฉินเฉียวถูกกล่าวถึงจึงรีบพูด “ชีวิตของเธอต้องจัดการเองนะ จะพึ่งฉันกับพี่ชายไปตลอดไม่ได้”
“ ขอบคุณที่ช่วยฉันดูแลน้องฉัน”เจียงอี้ฝานชนแก้วกับเฉินเฉียว
โดนรุมสองคน เจียงฉยงฉยงเซ็ง
“ พี่เจียงวันนี้พี่ซังไม่มาหรอ”เมื่อดื่มไปได้ครึ่งแก้วแล้วก็มีหนุ่มคนหนึ่งในนั้นถาม เฉินเฉียวรู้แล้วว่าเขาชื่อลู้หมี เขาเป็นลูกชายคนที่สองของตระกูลลู้ที่จวินต้าชวีย่วน
“ก่อนหน้านี้เขาบอกว่าโย่วอีป่วยหนัก น่าจะมาไม่ได้”เจียงอี้ฝานตอบว่า “ครึ่งชั่วโมงที่แล้วถ่ายรูปส่งไปให้แล้ว จะมาไม่มาแล้วแต่เขา”
“เป็นทั้งพ่อทั้งแม่ไม่ง่ายเลยนะเนี่ย ฉันนับถือเขาเลยจริงๆอายุยังน้อยอยู่แล้วต้องมารับผิดชอบเรื่องลูก ”
“ พี่ ลูกเขามาได้ยังไง? อุ้มบุญจริงๆหรอ “เจียงฉยงฉยงถามเจียงอี้ฝานอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ อุ้มบุญอะไรกัน อย่าไปฟังข่าวลือคนข้างนอก”
“ ลูกมีแม่หรอ?”
“ ถ้าลูกไม่มีแม่ แล้วจะให้เกิดจากกระบอกไม้ไผ่หรอ?”เขาพูดหยอกกับเจียงฉยงฉยง แล้วตอบว่า: “ฉันได้ยินคุณยายบอกว่าช่วงนี้ซังเหมือนจะกำลังตามหาแม่ของเด็ก ไม่แน่นะ อีกไม่นานจะมีข่าวดี “