เกี่ยวกับซังอี๋?
ชู่จี้ไม่เมินเฉยกับตัวหนังสือพวกนี้แน่นอน เขาต้องรู้ให้ได้
ร่างกายที่อ่อนนุ่มของผู้หญิงสะกิดท่อนล่างของชู่จี้ เขาลูบไล้หลังเธอไปมาเบาๆ “ความจริง ที่รู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของซังหลินจวิน ฉันก็แปลกใจเหมือนกัน วันนั้นที่คุยงานกับพ่อเธอ เห็นว่าหน้าตาท่าทางเธอคล้ายมาก เลยให้คนไปสืบ”
นี่จึงอธิบายได้ว่าทำไมก่อนหน้านั้นที่เขาไปสืบ แต่กลับโดนขัด ถึงตัวเองจะไม่มีอำนาจขนาดนั้น แต่คนที่ทัดเทียมกับตัวเองได้ ซังหลินจวินก็เป็นหนึ่งในนั้น
ซังอี๋เอ่ยว่า “ฉันไม่ได้อยากโกหกนาย ฉันก็อยากบอกนาย แต่หาจังหวะที่เหมาะสมไม่ได้”
มือของเขาสะกิดร่างกายของซังอี๋ เห็นผิวขาวๆของเธอเริ่มอมชมพู น่ากินเหมือนลูกพีช จึงก้มลงไปจุมพิตริมฝีปากเธอ “ที่สำคัญคือ ยังดีที่ฉันไม่เสียเธอไป”
ชู่จี้รู้สึกโชคดี ทีแรกเขาวางแผนกับหลิงเยว่ไว้แล้ว แต่ก็ทำใจไม่ได้สักที เลยยืดมาจนถึงตอนนี้ ไม่คิดเลยว่าหลิงเยว่จะลงมือก่อน แล้วทำให้ตัวเองโป๊ะแตก
ซังอี๋กอดชู่จี้ไว้ ตอบกลับสิ่งที่ชู่จี้ต้องการ ในห้องจึงมีความแพรวพราวเกิดขึ้น
ทันใดนั้น ทะเลที่เงียบสงบกลับมีคลื่น ฝนตกฟ้าผ่า เรือลำใหญ่ก็เคลื่อนไหวไปตามคลื่นยักษ์ จนเริ่มเสียกันทรงตัว แล้วน้ำก็ทะลักเข้ามาในเรือ
“แย่แล้ว แย่แล้ว! รีบใส่เสื้อชูชีพ” คนบนเรือตะโกนเสียงดัง พวกเขาที่กลัวความตายแย่งทุกอย่างมาเป็นของตัวเองอย่างบ้าระห่ำ
บนทะเลไม่มีสัญญาณอะไรเลย แม้แต่สัญญาณขอความช่วยเหลือก็ไม่มี แถมที่ที่ก็ไกลด้วย จับตำแหน่งที่ตั้งไม่ได้เลย
มีคนไม่น้อยที่ทำหน้าสิ้นหวัง ไม่คิดเลยว่ามาร่วมงานสัมมนาจะต้องเสี่ยงชีวิตแบบนี้
ชู่จี้จับมือซังอี๋ไว้แน่น แล้วพูดอย่างใจเย็น “อย่ากลัวนะ ฉันอยู่ข้างๆเธอ ถ้าเจออันตราย ต้องปกป้องตัวเองก่อน อย่าให้ฉันเป็นห่วง”
น้ำเสียงมีแอบแฝงไปด้วยความไม่ลังเล ปฏิเสธไม่ได้
ทั้งสองยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ มองเห็นคลื่นยักษ์ซัดมาหา เหมือนจะกลืนกินเรือทั้งลำอย่างนั้น
“นายคิดว่า ฉันจะรับปากเหรอ?” เธอเงยหน้าแล้วยิ้มอ่อน “ฉันเชื่อว่าเราคงไม่ทอดทิ้งกัน อีกอย่าง ฉันรู้สึกว่าพวกเราเป็นคนดวงแข็ง”
หลิงเยว่โผล่มาหาทั้งสอง แล้วตะโกนพูดว่า “เราโดนม่ายเอ๋อร์กับรีสหลอกแล้ว งานครั้งนี้เป็นแค่งานหลอกลวง ความจริงเรือแบ่งออกเป็นสองลำ อีกลำไปที่จุดหมายแล้ว เรือลำนี้ของเรา พวกมันจงใจวางแผนไว้”
คลื่นทะเลซัดมาหา เสียงของหลิงเยว่ก็หายไปกับลม
ซังอี๋เบิกตากว้าง มองไปที่ชู่จี้อย่างไม่เชื่อ
แววตาชู่จี้มีเลศนัย “ใช่ ฉันรู้” สิ่งที่เขาพูดทำให้ทั้งสองคนอึ้งอยู่กับที่ ร่างสูงที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าเรือ เหมือนพระราชาที่สูงส่ง มีความเกรงขามแฝงมาด้วย
เขารู้ตั้งนานแล้วว่าผิดปกติ พวกเขากี่คนไม่เคยร่วมงานสัมมนา เลยไม่รู้เรื่อง แต่ชู่จี้จะไม่รู้ได้ยังไง?
ถึงรีสจะใช้อำนาจตัวเองมาสร้างละครตบตาแบบนี้ แต่เขากลับมองออกตั้งแต่แรกแล้ว
เขาอยากจะให้ตัวเองตาย ทุ่มแรงเยอะจริงๆ
รีสแค่เปลี่ยนตำแหน่งเล็กน้อย ทุกอย่างก็จะเป็นไปตามที่เขาหวัง
แต่เขาคิดไม่ถึงคือ ถึงเขาจะฉลาด เด็ดขาดแค่ไหน แต่ชู่จี้ก็ไม่ใช่คนหัวอ่อน
ชู่จี้จงใจเล่นละครกับเขา จนยอมเอาชีวิตมาเสี่ยง เพราะแผนของเขายื่นไปหาตระกูลของรีสแล้ว ตอนนี้อยู่ในช่วงที่สำคัญด้วย
เพราะฉะนั้น การพนันครั้งนี้ ไม่ใช่เขาตาย ก็คือตัวเองต้องตาย
ระหว่างทั้งสอง ต้องมีสักฝ่ายที่เสียหายมหาศาล
ถ้าชู่จี้รอดไปได้ งั้นสิ่งที่รอคอยอยู่ก็คือสิ่งที่รีสต้องชดใช้
เพราะรีสก็พึ่งพาม่ายเอ๋อร์ถึงมีทุกวันนี้ได้ ตอนนี้ม่ายเอ๋อร์แยกทางกับเขา อำนาจของรีสก็ลดลงไม่น้อย
พอตั้งสติแล้ว ชู่จี้ค่อยเอ่ยว่า “ถ้าแผนของฉันไร้ที่ติ คงไม่มีอะไรผิดพลาด” ตัวเองเตรียมตัวมาอย่างดี ถ้าอะไรหลายๆอย่างก็ไม่แน่นอน
มีคนไม่น้อยที่กระโดดลงเรือฉุกเฉิน แต่ก็มีเรือไม่น้อยที่เพิ่งปล่อยลงไปก็โดนคลื่นซัดจนคว่ำ ไม่รู้ว่ายังรอดหรือเปล่า
ท้องเรือเต็มไปด้วยน้ำ เหมือนจะท่วมได้ทุกเมื่อ แต่ชู่จี้กลับเดินลงไปอย่างใจเย็น เหมือนที่เขาคิดไว้ ม่ายเอ๋อร์ยืนอยู่บนเรืออีกลำ แล้วมุมปากก็ยิ้มอย่างได้ใจ “พวกนายไม่คิดจะขอร้องให้ฉันช่วยเหรอ?”
บนเรือมีแต่คนของม่ายเอ๋อร์ พวกเขาแต่งตัวเป็นระเบียบแล้วยืนเรียงกัน แล้วมองมาบนเรือที่เหลือแค่พวเขาสามคนอย่างไม่เป็นมิตร
“อีกสามนาที พวกนายต้องคิดดีๆนะ” ม่ายเอ๋อร์มั่นใจมาก
“นับถอยหลัง!” ม่ายเอ๋อร์กอดอกไว้ แล้วมองผู้ชายที่เธอหลงใหล
ชู่จี้จับซังอี๋ไว้แล้ววิ่งไปด้วยกัน เขารู้ว่าม่ายเอ๋อร์หมายถึงอะไร อีกสามนาที เรือลำนี้จะระเบิด พวกเขาต้องรีบหาที่ที่ปลอดภัย
“หนึ่ง สอง สาม กระโดด!” ชู่จี้กับซังอี๋กระโดดลงไปพร้อมกัน แล้วหายไปกับคลื่นทะเล
วินาทีที่กระโดดลงทะเล เรือลำนั้นระเบิดเป็นเศษซาก เสียงดังสนั่นไปทั่วทะเล แล้วมีไฟที่ยังเผาไหม้อยู่กลางทะเล
ชู่จี้ว่ายน้ำเป็น แต่น้ำที่เย็นกับคลื่นทะเลทำให้เขาว่ายลำบาก ถึงซังอี๋ก็ว่ายน้ำเป็นเหมือนกัน แต่แรงของเธอเหลือน้อย
ทั้งสองว่ายอยู่ในทะเลอย่างลำบาก ชู่จี้กอดซังอี๋ไว้แน่น กลัวว่าถ้าปล่อยมือทั้งสองจะโดนคลื่นซัดจนหายไป
ม่ายเอ๋อร์อกจะแตกตาย “แม้แต่ชีวิตก็ไม่เอาแล้ว ลงไปงม ฉันไม่เชื่อว่าจะหาพวกมันไม่เจอ”
กว่าเธอจะได้โอกาสดีๆแบบนี้ ไม่คิดเลยว่าเขาจะหนีไปกับตาตัวเอง จะพลาดโอกาสนี้ไม่ได้ ครั้งนี้เธอยอมขัดพ่อตัวเองแล้วทำแบบนี้ ก็เพื่อชู่จี้……
แต่ชู่จี้กลับยอมกระโดดลงทะเลกับผู้หญิงคนนั้น ไม่ยอมก้มหัวให้ เธอโมโหมาก แต่เธอก็รู้ เธอรักชู่จี้ที่เป็นแบบนี้แหละ