เธอกำลังจะโทรหาเด็กน้อยแต่มีสายเข้ามาเสียก่อน
เฉินเฉียวเหลือบมองไปที่หมายเลขและรับโทรศัพท์
เสียงของเจียงฉยงฉยงดังมาจากโทรศัพท์“ นี่แม่คุณ ทำฉันตกอกตกใจหมด หายไปทั้งคืนจนฉันคิดว่าโดนปู้อี้เฉินลักพาตัวไปแล้ว ”
“ฉันสบายดีโทรศัพท์แบตหมด”
เธออยู่ที่ไหน
โรงบาล
โรงบาลหรอเมื่อเจียงฉยงฉยงได้ยินสองคำนี้เสียงของเธอก็ดังขึ้นสองสามระดับ “เกิดอะไรขึ้นหรอ เป็นอะไรไหม ”
เฉินเฉียวพูดเรื่องอุบัติเหตุรถชนที่เธอกับปู้อี้เฉินประสบเจียงฉยงฉยงได้ฟังแล้วตกใจ “เธอไม่เป็นอะไรจริงๆใช่ไหม? เอ็กซเรย์ละเอียดแล้วใช่ไหม? ให้ฉันไปหาตอนนี้ไหม ”
“ พอเลยๆไม่ต้องมา ตอนนี้ยังพูดกับเธอได้ ไม่ดีหรอ ”
เจียงฉยงฉยงถอนหายใจ “ฉันค่อนข้างประหลาดใจ เธอว่าปู้อี้เฉินคิดอะไรอยู่ แต่ก่อนไม่ใช่ว่าเอาแต่ถากถางเธอหรอ? ตอนนี้เธอจะหย่ากับเขาแล้วเธอกับเขาก็เกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก เฉียวเฉียวเธอว่าคนเลวๆแบบนี้ ตอนที่จะเสียของรักไปถึงจะรู้จักทะนุถนอมใช่ไหม ”
“ ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง แต่ฉันรู้ดีว่าฉันต้องหย่ากับเขา”
“ พูดถูก! หย่าแล้วก็รีบๆหาคนมาดามหัวใจฉันว่าคุณซังก็ไม่เลวนะ อ๊า— “เจียงฉยงฉยงเพิ่งนึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ฉันเกือบลืมไปแล้ว เฉียวเฉียวซังหลินจวินพาลูกชายของเขามาที่บ้านของเราในคืนนี้ ”
“พวกเขามาแล้วหรอ”
ใช่ ตากฝนมาเลยล่ะ ทั้งคู่เปียกปอนและดูน่าสงสาร เมื่อได้ยินว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นั่นทั้งสองคนก็กลับไปอย่างผิดหวัง โดยเฉพาะเด็กน้อยคนนั้นดูแล้วปวดใจ ฉันให้พวกเขาเข้ามานั่งรอ แต่พวกเขาปฏิเสธ ”
เฉินเฉียวได้ฟังรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย ในหัวของเธอเต็มไปด้วยใบหน้าของเด็กที่ผิดหวังหดหู่
“ ฉยงฉยง แค่นี้ก่อนนะ ฉันจะโทรหาเขาหน่อย”
ได้ๆ
เจียงฉยงฉยงวางสาย
เฉินเฉียวกดหมายเลขของเด็กน้อยกดเปิดลำโพงและเก็บข้าวของเพื่อออกจากโรงพยาบาลอย่างเงียบ ๆ ตอนนี้รีบไปซื้อเค้กก้อนเล็ก ๆ ให้เขาแล้วให้ของขวัญที่เธอซื้อมา
ซวยแล้ว
สร้อยข้อมือที่เธอซื้ออยู่ที่ไหน?
เฉินเฉียวพลิกหาสิ่งของบนหัวเตียงทันที
ในบรรดาเครื่องสำอางที่แตกหักสร้อยข้อมือยังคงอยู่ที่นั่น แต่มันก็เปื้อนไปด้วยเลือด
เฉินเฉียวเอาไปล้าง ไม่มีใครรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล สวัสดี”ตอนที่เธอคิดจะวางสาย ก็มีคนรับพอดี
เสียงผู้หญิงดังมาจากโทรศัพท์
เฉินเฉียวตกใจ
งงไปชั่วขณะ
“ฉันโทรผิดหรือเปล่าคะ”
“ นี่เป็นเบอร์โย่วอีค่ะ โทรหาเขาใช่ไหมคะ”
อืม คุณคือ? ”
“ นามสกุลของฉันคือเถียน”
นามสกุลเถียน
“ เถียนเถียน?”เฉินเฉียวคิดกับตัวเอง
คุณรู้จักฉันหรอ.
เสียงของเถียนเถียนเล็ดลอดเข้ามา เฉินเฉียวเพิ่งรู้สึกตัวว่าสิ่งที่เธอคิดได้พูดออกไปแล้ว
เป็นเธอจริงๆ …
ดูเหมือนว่าคืนนี้เจ้าตัวเล็กจะมีใครมาอยู่ด้วย
“คุณเถียนคะ ฉันโทรมาหาโย่วอีค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะสวัสดีค่ะ”
สวัสดีค่ะ
หลังจากที่อีกฝ่ายตอบเฉินเฉียวก็ตัดโทรศัพท์ทิ้ง
เธอนั่งบนโซฟาและนั่งตะลึงอยู่พักหนึ่งจิตใจของเธอสับสนเล็กน้อย
ในใจว่างเปล่าอย่างอธิบายไม่ได้
ไม่สามารถบอกได้ว่ามันเป็นอย่างไร
ดูหดหู่เล็กน้อย
หดหู่อะไร?
ที่จริงเธอน่าจะดีใจใช่ไหม?
โชคดีที่ไม่ได้ไป ไม่งั้นถ้าเธอไปแล้วมีคุณเถียนอยู่เธอจะไม่เป็นส่วนเกินหรอ?
ดูเหมือนว่าข่าวลือส่วนใหญ่จะผิดพลาด ที่บอกว่าซังหลินจวินไม่เข้าใกล้ผู้หญิงอะไรนั่น คุณเถียนคนนี้ความสัมพันธ์เขากับเธอไม่ใช่ธรรมดา
เฉินเฉียวเก็บข้าวของของเธอครึ่งหนึ่งแล้ววางลง
ตอนนี้ไม่ไปไหนแล้ว
——————
อีกด้าน
จิ้งหย่วน
เถียนเถียนวางโทรศัพท์ลงโดยยังคงมองไปที่คำว่า ‘พี่เฉียว’ ที่ปรากฏบนหน้าจอ
“ คุณเถียน ชาค่ะ”ป้ามั่วมาเสิร์ฟน้ำชา รู้สึกเสียใจที่เห็นคนรับใช้กำลังเก็บกวาดพื้นที่เละเทะ“วันนี้คุณหนูจัดงานปาร์ตี้ไม่สนุก เขวี้ยงเค้กลงพื้นขนาดนั้น ยังเก็บกวาดไม่เสร็จต้องให้คุณมาเห็นอะไรแบบนี้ ”
“ไหนๆก็จัดงานปาร์ตี้แล้วทำไมยังอาละวาดอีก”
“ทะเลาะกับเพื่อนนิดหน่อยค่ะ”
เถียนเถียนวางของขวัญที่ซื้อไว้บนโซฟาพลางนึกอะไรบางอย่างและถามว่า “เป็นเพราะคุณเฉินคนนั้นที่เขาชอบไม่มาใช่ไหม?”
“ คุณเถียนรู้จักด้วยหรอคะ?”
เถียนเถียนยิ้ม“ ฉันได้ยินคนพูดถึง แล้วหลินจวินไปไหนแล้ว ”
“น่าจะกลับมาเร็ว ๆ นี้ค่ะ”
ในขณะที่พวกเขากำลังคุยกันไฟรถที่ส่องสว่างก็ส่องเข้ามาจากด้านนอก ป้ามั่วหันไปดูข้างนอก“ พูดปุ๊บก็มาปั๊บ คุณเถียนคะ นายท่านกับคุณหนูกลับมาแล้ว ”
เถียนเถียนรีบวางชุดน้ำชาและลุกขึ้นเพื่อต้อนรับ
ซังหลินจวินลงจากรถซังโย่วอีหน้าบึ้งและเดินตามเขาไป
กลับมาแล้วหรอคะเถียนเถียนทักทายเขาด้วยรอยยิ้มที่ประตู
ซังหลินจวินเห็นเธอและยื่นร่มให้ป้ามั่ว“ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“สองวันที่ผ่านมา.”เถียนเถียนตอบ
ซังหลินจวินมองไปที่ลูกชายของเขา “ทักทายหรือยัง”
“ คุณน้าเถียนเถียน”
ว่านอนสอนง่ายจริงๆเถียนเถียนแตะเสื้อคลุมบนตัว“ เปียกหมดแล้วรีบถอดออกเร็วเดี๋ยวจะเป็นหวัดเอา ป้ามั่วขอผ้าขนหนูมาเช็ดผมหน่อย ”
ค่ะป้ามั่วตอบแล้วไปเอาผ้าขนหนู
ซังโย่วอีถอดเสื้อคลุมเอาผ้าเช็ดผมสั้นๆเหมือนลูกนกพลางพูด“ น้าเถียนเถียนผมขึ้นไปนอนก่อนนะ”
เถียนเถียนพยักหน้า“ อาบน้ำแล้วค่อยนอนนะ”
ครับ พ่อครับ ราตรีสวัสดิ์ “เด็กน้อยกล่าวราตรีสวัสดิ์และขึ้นไปชั้นบน
ซังหลินจวินมองไปที่เถียนเถียน“ ดึกแล้วเดี๋ยวให้คนขับรถไปส่งนะ”
ไล่กลับแบบตรงๆ
แต่เถียนเถียนไม่ได้ตั้งใจที่จะอยู่นานกว่านี้อยู่แล้วเธอพยักหน้า“ โอเค”
เธอรู้จักซังหลินจวินตั้งแต่เธอยังเด็กและเธอก็รู้จักผู้ชายคนนี้ดี ยิ่งเข้าไปยุ่งกับเขา เขาก็จะยิ่งแสดงออกชัดเจนมากขึ้น และจะโดนผลักออก
ในทางกลับกันแบบนี้ไม่ไกลไม่ใกล้จนเกินไปรักษาระยะห่างพอดีๆ เหมาะสมที่สุด
ที่ด้านบน
เด็กน้อยหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาและหาเบอร์พี่เฉียว
ด้วยความโกรธเขาคลิกคำว่า “ลบ” ไปเรียบร้อย
อย่างไรก็ตามหลังจากลบแล้วรู้สึกหดหู่ยิ่งขึ้น!
วันรุ่งขึ้น
เฉินเฉียวตื่นขึ้นมาก่อนที่จะไปทำการยื่นเรื่องออกจากโรงพยาบาล และไปหาแพทย์ผู้ดูแลปู้อี้เฉิน
ปู้อี้เฉินตื่นขึ้นมาเลือดในกะโหลกศีรษะหยุดไหลทุกอย่างปลอดภัย
เฉินเฉียวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
พูดตรงๆถ้าปู้อี้เฉินเป็นอะไรไปเพราะเธอ เรื่องหย่าเธอคงพูดไม่ออก ตอนนี้อย่างน้อยก็ไม่ต้องถูกผูกมัดด้วยความรู้สึกผิด
เมื่อเฉินเฉียวออกจากโรงพยาบาลและกำลังจะนั่งแท็กซี่กลับเฉินอินก็โทรมาบอกว่า “พี่คะ ถ้าออกจากโรงพยาบาลแล้วเอาที่ชาร์จมาให้ที่บริษัทด้วยนะคะ เดี๋ยวฉันจะต้องใช้ “