เธอเพิ่งกรอกข้อมูลการจดทะเบียนบริษัทเสร็จ และอาบน้ำกำลังจะนอนโทรศัพท์ของเธอก็สั่น
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วแนบหู
เสียงของเฉินอินดังมาจากโทรศัพท์ “พี่คะ มารับฉันหน่อยได้ไหม”
ที่นั่นมีเสียงดังรบกวนและเสียงของเธอก็ไม่ค่อยชัด ถ้าได้ยินไม่ผิด น่าจะอยู่ที่ผับ
เฉินเฉียวขมวดคิ้ว“ เธอเมาหรือเปล่า?”
“พี่มารับฉัน”เฉินอินสะอึก หลังจากนั้นก็มีเสียงของผู้ชายกลุ่มหนึ่ง “เฉินอิน มาดื่มต่อเถอะ! มัวแต่โทรหาใครอยู่ ”
เฉินเฉียวตกใจ “เธออยู่ที่ไหน? ขอที่อยู่หน่อย
เฉินอินพูดที่อยู่อย่างคลุมเครือและวางสายทันที
เฉินเฉียวไม่ง่วงอีกต่อไปแล้ววางชุดนอนลงและรีบออกมาอย่างกังวลใจ
เจียงฉยงฉยงกำลังรินน้ำในครัวเมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของเธอก็ถามว่า: “ดึกขนาดนี้แล้วยังจะออกไปข้างนอกอีกหรอ?”
“ฉันจะออกไปรับเฉินอินนะ เธอดื่มหนักเลยล่ะ ”
“ ทำไมให้เธอไปรับเนี่ย?” มีคนขับไม่ใช่หรอ? ”
“ สงสัยไม่อยากให้ครอบครัวเป็นห่วงมั้ง เดี๋ยวฉันมานะ”
เจียงฉยงฉยงพยักหน้า “ระวังตัวด้วยนะ”
เฉินเฉียวหยิบกุญแจรถและขับรถไปที่บาร์ 0 องศาที่เฉินอินบอก
เมื่อเธอมาถึงเฉินอินก็เมาเละแล้ว เธองัวเงียอยู่บนโซฟาท่ามกลางฝูงชนทั้งชายหญิงที่เสียงดัง เฉินเฉียวเดินไปแตะๆหน้าเธอ “เฉินอินตื่น!”
เฉินอินลืมตาขึ้นและเห็นเฉินเฉียวเธอกางมือและกอดเฉินเฉียวอย่างงัวเงีย “พี่คะ ฉันเมามากเลย”
“ ฉันจะพาเธอกลับเดี๋ยวนี้”เฉินเฉียวช่วยพยุงเฉินอินขึ้น
เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนเฉินเฉียวถูกใครบางคนหยุดไว้
กลุ่มเด็กผู้ชายผมสีทองทุกคนมีรอยสักที่แขน
“ คุณครับ เธอยังติดพวกเราอีกสองแก้ว ออกไปไม่ได้จนกว่าจะดื่มหมด”
เฉินเฉียวขมวดคิ้วและหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมา “หลีกไปเดี๋ยวนี้ไม่เช่นนั้นฉันจะโทรแจ้งตำรวจ”
แต่โทรศัพท์ยังไม่ทันจะได้โทรก็โดนแย่งไป
ตำรวจหรอ โทรเรียกให้ดูหน่อยสิ”
เด็กชายผมสีทองแกว่งโทรศัพท์มือถือของเธอและโยนโทรศัพท์มือถือของ เฉินเฉียวลงในแก้วเบียร์ภายใต้สายตาที่เย็นชาของเฉินเฉียว
โทรศัพท์พังทันที!
เฉินเฉียวหยิบโทรศัพท์มือถือของเฉินอิน แต่โทรศัพท์มือถือของเธอหายไป
ตอนนี้เธอมืดแปดด้าน
เธอปกป้องเฉินอินไว้ข้างหลังเธอ “พวกนายต้องการอะไร”
ง่ายจะตาย ดื่มแก้วนี้ให้หมด พวกเราก็จะไม่ละลานอีก”ชายผมทองเทเบียร์แก้วใหญ่
เฉินเฉียวรู้สึกรำคาญเล็กน้อยที่เฉินอินอยู่ดีๆไปยั่วคนแบบนี้และต้องการที่จะสั่งสอนเธอ แต่เมื่อเห็นเธอหดตัวอยู่ข้างและตื่นตระหนกเฉินเฉียวก็ไม่ได้พูดอะไรในตอนท้าย
เพียงถือแก้วเบียร์แล้วดื่ม
“ฉันไปได้หรือยัง?”
“ พี่สาวใจกล้าจริงๆ ไปก็ไปเถอะในที่สุดคนกลุ่มนั้นก็หลีกทางให้
เฉินเฉียวหยิบโทรศัพท์มือถือออกจากแก้วเบียร์และช่วยเฉินอินออกมา
ยิ่งเดินออกไปมากเท่าไหร่ก็ยิ่งพบว่ามีบางอย่างผิดปกติมากขึ้นเท่านั้น ทั้งตัวเบาหวิวราวกับเดินอยู่บนก้อนเมฆ ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายร้อนระอุราวกับไฟที่กำลังแผดเผาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ร้อนจริงๆ
ปากแห้ง.
เมื่อออกจากผับลมหนาวก็พัดมาที่ใบหน้าเธอก็ไม่รู้สึกดีขึ้นเลย
นี่มันแปลกมาก!
เป็นอะไรหรือเปล่าครับ?ตอนนี้ได้ยินเสียงหนึ่ง
เฉินเฉียวมึนและรู้สึกว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาดูคุ้นเคย สายตามองไปที่ต่างหูที่ชายหนุ่มใส่ทันใดนั้นเธอก็นึกออก ไม่ใช่น้องชายของซังหลินจวินที่ชื่อว่าซังอวี้หรือ?
น้อง….น้องของท่านประธานซัง”เฉินอินกล่าวทักทาย
“ ดื่มขนาดนี้!”ซังอวี้สั่งคนขับรถของเขา “ช่วยไปส่งผู้หญิงคนนี้ด้วย”
หมายถึงเฉินอิน
คนขับรถของซังอวี้พาเฉินอินไป เฉินเฉียวไม่ไว้ใจซังอวี้ จะเดินตามไป อย่างไรก็ตามขาของเธออ่อนลงและเธอเกือบจะล้มลงกับพื้น
เป็นอะไรไหมครับถูกมือกอดที่เอว
ลมหายใจของซังอวี้รดใส่ใบหูของเธอ
เธอรู้สึกร้อนผ่าว ความคิดบอกเธอว่าเธอต้องผลักผู้ชายที่อยู่ข้างๆเธอออกไป แต่มือของเธอควบคุมไม่ได้และไม่สามารถใช้งานได้เลย
ซังอวี้โอบเธอไว้ร่างกายของเธออ่อนปวกเปียกราวกับไม่มีกระดูก
เมื่อมองจากระยะใกล้เช่นนี้ภายใต้แสงไฟที่สาดส่องเข้ามาผิวของผู้หญิงคนนี้ก็ไร้ที่ติ
ถึงจะอายุ 20 ปลายๆ แต่ก็ดูละมุนละไมกว่าเด็กผู้หญิงที่เพิ่งอายุ 20
ใบหน้ามีเสน่ห์และสวยงามนั้นเด็กสาวอายุ 20 ปีเทียบไม่ติด
ผู้หญิงคนนี้ทำให้จิดใจผู้ชายเตลิดได้จริงๆ
ร่างกายของซังอวี้ก็ร้อนขึ้นเช่นกัน “ไม่แปลกใจเลยที่พี่ชายฉันชอบคุณ ที่แท้คุณก็เป็นนางฟ้าตัวน้อย”
ฉัน….ฉันไม่ไหวแล้ว……”เฉินเฉียวพึมพำริมฝีปากแดงของเธอสั่น
ซังอวี้มองไปที่ริมฝีปากแดงและอยากจะจูบ
“น่าเสียดายจริงๆต้องยกให้ไอแก่จ้าว”ซังอวี้ถอนหายใจ
จ้าวเวิงฮวาคณะกรรมการบริหารเป็นคนฝั่งซังหลินจวินแต่เขาเป็นเฒ่าหัวงู
ถ้าให้เขานอนกับเฉินเฉียวแล้วล่ะก็ ถึงแม้ว่าซังหลินจวินจะไม่แตกคอกับเขา แต่ว่าในใจของทั้งสองคนคงจะร้าวฉาน หลังจากนั้นจะยั่วยุพวกเขามันก็ง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ
นี้ก็คือแผนของซังอวี้
แต่เมื่อมองไปที่ท่าทางที่ยั่วยวนของเฉินเฉียวเขาก็หวั่นไหวเล็กน้อย
นอนกับเขาก่อนดีกว่าแล้วค่อยให้ไปนอนกับคนแก่
เฉินเฉียว….มันเป็นอีกหนึ่งเสียงที่คุ้นเคย ทันใดนั้นก็โกรธมาก “เฉินเฉียวเป็นคุณจริงๆ!
ปู้อี้เฉินกำลังพูด
เขาเพิ่งออกมาจากผับศูนย์องศา
ซังอวี้เหลือบมองเขาไม่สนใจและกอดเฉินเฉียวแล้วจับเธอเข้าไปในรถสปอร์ตของเขา
ปู้อี้เฉินโกรธมากจนหัวของเขาลุกเป็นไฟและเขาไม่สนใจว่าอาการบาดเจ็บที่เขาประสบจากอุบัติเหตุบนร่างกายของเขายังไม่หายสนิทเขาวิ่งสองสามก้าวจับซังอวี้และต่อยอย่างรุนแรง
เขาชี้ไปที่จมูกของซ่างหยู “แกเองหรอที่เป็นเด็กของเฉินเฉียว!”
“ มึงเป็นใครวะ กล้ามาต่อยกู”ซังอวี้เป็นคนอารมณ์รุนแรงและพุ่งเข้าหาปู้อี้เฉินต่อยด้วยหมัดของเขา
ปู้อี้เฉินตะโกน: “กูเป็นสามีของเธอ!”
ซังอวี้ตะลึง
ฉิบหาย!
ซังหลินจวินคั่วกับผู้หญิงที่แต่งงานแล้วจริงหรือ? รสนิยมแบบนี้คืออะไร?
เขาตะลึงอยู่แล้วเขาก็ถูกปู้อี้เฉินต่อยอีกครั้ง
ซังอวี้ก็ไม่ใช่เล่นๆ ยกขาขึ้นเตะ
ทั้งสองคนแลกหมัดกัน
ปู้อี้เฉินที่บาดเจ็บอยู่แล้ว ซังอวี้เลยได้เปรียบ แต่เขาก็ซัดกันไม่ปล่อย
เฉินเฉียวพิงอยู่ในรถของซังอวี้โดยไม่รู้ตัวพร้อมกับเหงื่อบาง ๆ บนใบหน้าสีแดงเข้มของเธอ
เธอหยิกขาของเธอพยายามที่จะปลุกตัวเอง เมื่อเห็นราง ๆ ว่ามีโทรศัพท์มือถืออยู่ข้างหน้าพวกมาลัยเธอจึงไปหยิบมันจะโทรหาตำรวจ
ในขณะนี้โทรศัพท์ดังขึ้นพอดี
เธอปัดหน้าจอด้วยมือสั่นๆและเผลอกดรับสาย
ได้ยินเสียงจากคนทางนั้นพูด “ซังอวี้ตอนนี้อยู่ที่บาร์ศูนย์องศาใช่ไหม?”