เฉินเฉียวไม่ได้ยินเสียงชายคนนี้เลย
รู้สึกเหมือนคลื่นความร้อนบางอย่างพลุ่งพล่านอยู่ตลอดเวลาในร่างกายของเธอและคลื่นที่ไม่สามารถควบคุมได้ก็ล้นออกมาจากริมฝีปาก
ท่าทางของเฉินเฉียวตอนนี้ทำให้ซังหลินจวินไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป
หายใจเข้าลึก ๆ สอดนิ้วยาวเข้าไปในผมยาวที่เปียกชื้นโอบใบหน้าจูบริมฝีปากของเธอ
ฝ่ามือใหญ่ฉีกเสื้อผ้าของเธอแกะกระดุมอย่างบรรจงถอดมันออกแล้วโยนออกจากอ่างอาบน้ำ
นิ้วยาวไล้ไปตามลำตัวของเธอจนสุด
เฉินเฉียวสวมกางเกงยีนส์สกินนี่
เขาปลดกระดุมกางเกงยีนส์ของเธอดึงซิปลงยกสะโพกขึ้นและถกกางเกงลงครึ่งหนึ่งถึงหัวเข่าของเธอ
ร่างกายของเธอเปล่งประกายระยิบระยับภายใต้แสงไฟนั้นเซ็กซี่จนเกือบเป็นอันตรายถึงชีวิต
รู้มั้ย เรากำลังทำอะไรกันซังหลินจวินดูดริมฝีปากที่สั่นระริกของเธอ
ความคิดของเฉินเฉียวได้ล่องลอยไปแล้วและเธอไม่สามารถตอบได้เลย
เธอแค่รู้สึกว่าสิ่งนี้ทำให้เธอสบายใจ …
เธอเป็นนักเรียนที่ดีมากทำตามแบบอย่างของเขามือที่อ่อนนุ่มของเธอกวาดไปทั่วหน้าอกของเขาและล้วงเข้าไปในกางเกง
“นายท่านครับ หมอผู้หญิงอยู่ที่นี่แล้ว!”
ด้านนอกประตูเสียงของอวี้เฟยดังขึ้น
ซังหลินจวินหายใจแรงและประสานมือของเธอ
เขาค่อยๆถอนริมฝีปากออกจากเธอพูดว่า “ให้หมอรอที่ห้องโถง”
ครับผมอวี้เฟยตอบและพาหมอไปรอที่ห้องโถง
ซังหลินจวินไม่ใช่ไม่อยากได้เฉินเฉียวแต่เขาไม่ต้องการฉวยโอกาส
เขาไม่สามารถลืมครั้งแรกที่เธอเมาร้องไห้บนร่างเขาได้
เมื่อเธอขึ้นจากน้ำเธอก็สำลักใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
เขาดึงผ้าขนหนูและคลุมเธอ เขาดูดที่ริมฝีปากของเธออย่างแรงอีกครั้ง“ รอคุณตื่นก่อน ถึงจะทำแบบนี้กับผมได้ ถึงเวลานั้นคุณต้องการอย่างไรต้องการกี่ครั้งผมจะตามใจคุณทั้งหมด ”
ซังหลินจวินคว้าชุดคลุมของที่โรงแรมใส่ให้เธอและพาไปพบหมอ
หลังการตรวจหมอให้ยากล่อมประสาทและบอกให้เธอดื่มน้ำมากๆ
ซังหลินจวินมองไปที่เธอที่หลับไปบนเตียงและใบหน้าของเธอยังคงแดงจนถึงตอนนี้
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามว่า: “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ ดื่มน้ำมาก ๆ และขับยาออกให้เร็วที่สุด ถ้าอาการไม่ดีขึ้นพรุ่งนี้ไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกที
“ครับ ขอโทษที่รบกวนนะครับ”ซังหลินจวินขอให้อวี้เฟยไปส่งหมอ
เธอนอนเงียบ ๆ ในห้องนอน
ซังหลินจวินอาบน้ำและออกมาจากห้องน้ำรู้สึกดีขึ้น
เอาโทรศัพท์มือถือโทรหาอวี้เฟยแล้วพูดว่า “ไปสืบมาทีว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องกับซังอวี้หรือไม่”
————
วันรุ่งขึ้น
ในบ้านคุณนายที่สองของตระกูลซัง
ซังอวี้ตื่นขึ้นมาจากเตียงร่างกายของเขาปวดไปทั้งตัว
เมื่อคืนที่ผ่านมาเขาวิ่งเข้าไปปะทะสามีของเฉินเฉียว จับเฉินเฉียวไม่ได้ แต่ถูกต่อยแทน
ซังอวี้รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
ด้วยความรำคาญเขายกผ้าห่มขึ้นและกำลังจะลุกขึ้นเมื่อได้ยินเสียงของแม่ที่อยู่ข้างนอก“ หลินจวินทำไมมาที่นี่ แต่เช้า?” มาหาลูกซังของฉันหรอ ตอนนี้ลูกซังกำลังหลับอยู่ ฉันจะขึ้นไปปลุกให้ ”
ซังอวี้ได้ยินก็มีลางสังหรณ์ที่เป็นลางไม่ดีอยู่ในใจ
เป็นไปได้ไหมว่าพี่ชายของเขารู้แล้วว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น? เป็นไปไม่ได้ เฉินเฉียวผู้หญิงคนนั้นไปฟ้องหรอ
กำลังคิดกี่ยวกับเรื่องนั้นประตูก็ถูกผลักเปิดจากด้านนอก
เมื่อซังอวี้เงยหน้าขึ้นเขาก็เห็นซังหลินจวินยืนอยู่ที่ประตูโดยเอามือล้วงกระเป๋ากางเกง
เขาจ้องมองอย่างห่างเหินและแสดงท่าทีที่ไม่เคยเห็นมาก่อนซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกกลัวจนตัวสั่น
“……พี่ซังอวี้รู้สึกผิดและตัวสั่นทักทายเขาอย่างระมัดระวัง
แม่ของซังอวี้ หวังอี๋จวินยืนอยู่ข้างๆใจเต้นตึกๆ
“ แกออกมา”ซังหลินจวินพูดเพียงสามคำและท่าทางของเขาไม่มีใครกล้าหือ
หวังอี๋จวินเดินเข้ามา “ลูกซัง ไปทำอะไรให้พี่เขาโกรธหรือเปล่า รีบขอโทษหลินจวินสิ
“แม่ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแม่”ซังอวี้เดินไปหาซางหลินจุน “พี่ครับ ผม … ”
“แกจะทำระยำอะไรก็ควรมีขอบเขตบ้าง”ซังอวี้ยังพูดไม่จบแต่ถูกตบหน้าไปแล้ว
ทุกคำพูดของซังหลินจวินแสดงถึงอำนาจของผู้ถือหุ้นใหญ่ในตะกูลซัง
หวังอี๋จวินไม่กล้าพูดอะไรเมื่อลูกชายของเธอถูกตบ
หนุ่มคนนี้กุมอำนาจหยวนเซิ่งอยู่ในมือ ตอนปกตินิสัยใจคอและอุปนิสัยดีและปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างสุภาพ แต่คนในครอบครัวของพวกเขารู้ดีและสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงภาพที่ปรากฎ
ถ้าโกรธขึ้นมาจริงๆละก็ ไม่มีใครกล้าแข็งข้อกับเขา
ซังอวี้ถูกตบหน้าต่อคนรับใช้เขาจะยอมได้อย่างไร?
“ พี่ หมายความว่าไง”
“ แกวันๆทำแต่เรื่องเลวๆ ฉันขี้เกียจมาสั่งสอนแก! แต่ถ้ามาแตะต้องคนของฉันอีกล่ะก็ อย่าหาว่าฉันไม่ไว้หน้าแก ”
ซังอวี้พูดขึ้นอย่างดื้อดึง“ จะไม่ไว้หน้าผมหรอ แล้วพี่เคยไว้หน้าผมตอนไหน ถ้าพี่จะไว้หน้าผม พี่จะตบผมเพื่อผู้หญิงที่มีสามีแล้วได้หรอ ”
“เด็กบ้า กล้าขึ้นเสียงกับพี่ตัวเองหรอ!”หวังอี๋จวินกอดแขนเขาห้ามปราบเขา
“พี่ชายของฉันหรอ? พี่ชายบ้าอะไร? แม่ ยังฟังไม่ออกหรอไง เขาขู่ผมแบบนี้ เขาตั้งใจจะไล่ผมและแม่ออกจากหยวนเซิ่ง! ”
แกพูดบ้าอะไร
ซังอวี้มองซังหลินจวินอย่างเย็นชา:“ซังหลินจวิน พี่กล้าทำแบบนี้ไหมล่ะ พี่กล้าไล่ฉันกับแม่หรือเปล่า? ”
ซังหลินจวินจ้องตรงไปที่ซังอวี้ด้วยสายตาที่เย็นชาและดุดัน“ ถามตัวเองเหอะ กล้ายั่วโมโหฉันแบบนี้หรือเปล่า” แค่ไล่แก ง่ายนิดเดียว ”
เขาทิ้งคำพูดเหล่านี้และจากไป
ซังอวี้โกรธมากจนพังของในห้อง
หวังอี๋จวินพูดอย่างขมขื่น“ ลูก อย่าไปทะเลาะกับพี่ได้ไหม พวกเรามีชีวิตที่มั่นคงแบบนี้ไม่ดีหรือไง? ”
“อะไรดี? ผมก็เป็นคนของตระกูลซัง ตำแหน่งที่เขานั่งควรเป็นของผม! จนถึงตอนนี้ผมต้องยืมจมูกเขาหายใจ ตั้งแต่เด็กอาศัยอยู่ในเงาของเขา แม่ เขากลั่นแกล้งพวกเราแม่ม่ายและลูกที่กำพร้าพ่อ รังแกแม่ที่อ่อนแอ ”
หวังอี๋จวินร้องไห้“ เราไม่ใช่แค่แม่ม่ายและเด็กกำพร้า แม้แต่ที่พึ่งพิงเราก็ไม่มี เราจะไปสู้อะไรกับเขา
“ แม่ ค่อยดูเหอะ สักวันผมจะดึงเขาลงมาต่ำ ตำแหน่งของเขาควรเป็นของผม! ”
——————————————————————————————
ด้านนอกหน้าต่างมีแสงส่องเข้ามา
เฉินเฉียวตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ
ลืมตาขึ้นและมองไปที่ห้องแปลก ๆ เธอมึนงงเล็กน้อยไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน
ที่นี่ที่ไหน? ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่?